ตอนที่ 145

Legend of the mythological genes

“ลานประลองที่ 2 เฟิงหลินปะทะเฟิงเจิน!”

 

เนื่องจากเฟิงหลินเอาชนะคู่ต่อสู้เร็วเกินไป มันใช้เวลาทั้งหมดสามสิบนาทีกว่าระบบจะจับคู่เขากับผู้เข้าร่วมคนอื่น

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อการแข่งขันดำเนินต่อไป ความแข็งแกร่งของผู้เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้นและการต่อสู้จะรุนแรงยิ่งขึ้นระยะเวลาของการต่อสู้จะยาวนานขึ้นเมื่ออัตราการใช้พลังงานของพวกเขาเพิ่มขึ้น

เฟิงหลินขยับขึ้นไปที่ลานประลองและก่อนที่การต่อสู้จะเริ่ม คู่ต่อสู้ของเฟิงหลินก็กินยาแห่งชีวิตอย่างบ้าคลั่ง       ใช้เวลานี้เพื่อเติมสารอาหารและพลังงานที่ใช้ไปก่อนหน้านี้

เฟิงหลินไม่รีบเร่ง เขาแค่รออยู่ข้างๆไม่พูดอะไร

แต่ละรอบ ใช้เวลานานเท่าไหร่?นี่ทำให้เขารู้สึกหมดความอดทน

สถานการณ์ระหว่างชีวิตกับความตายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการฝึกความกล้าหาญและความตั้งใจในการต่อสู้

อัจฉริยะในตระกูลล้วนได้รับการดูแลจากตระกูลและสิ่งต่างๆนั้นง่ายและสะดวกสบายเกินไปสำหรับพวกเขา พวกเขาจะมาเปรียบเทียบกับเฟิงหลินที่ต่อสู้ด้วยตัวเองผ่านความเป็นและความตายจริงๆได้ยังไง?

ดังนั้นสิ่งนี้จึงส่งผลกับวิธีการต่อสู้ปัจจุบันของเฟิงหลิน มันดีที่จะผ่อนคลายตอนที่ยังไม่ได้ลงมือ แต่ทันทีที่เขาลงมือ เขาจะต้องทำให้ฝ่ายตรงข้ามของเขาพ่ายแพ้

อัจฉริยะเหล่านี้จากตระกูลในมุมมองของเฟิงหลินคือของเล่นระหว่างการต่อสู้

พวกเขาจะแสดงความเมตตาระหว่างการต่อสู้และพยายามหลีกเลี่ยงการทำร้ายส่วนสำคัญของคู่ต่อสู้ นี่ทำให้เขาพูดไม่ออกเมื่อเห็น

 

“เฟิงหลิน นายเป็นคนดีต่อไป ฉันจะ … ” คราวนี้เฟินเจินเห็นว่าเฟิงหลินอดทนรออยู่ข้างๆ เขามีความประทับใจที่ดีและอยากจะยกย่องเขา

“หยุด!” เฟิงหลินยื่นมือออกเพื่อหยุด “อย่าพูดมาก รีบเข้ามาและเริ่มสักที หลังจากนาย ฉันยังต้องเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป”

“แก … ” ทุกคำพูดที่เขาอยากจะพูดตอนนี้ติดอยู่ในลำคอ เฟิงเจินโกรธมาก

หลังจากฉัน?เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งต่อไป?

การตัดสินของฉันผิดไป ไม่คิดเลยว่าจะอวดดีขนาดนี้

แกคิดว่าแกจะเอาชนะฉันได้?ฉันจะใช้ความประมาทของแกทำให้แกพ่ายแพ้

 

 

เมื่อเห็นว่าเฟิงหลินยังไม่เตรียมต่อสู้ เฟิงเจินก็หัวเราะเยาะและเริ่มการโจมตีด้วยพลังทั้งหมดของเขา

ดาวหางเพลิงอัสนี!

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง พลังยีนทั้งหมดที่เขาสามารถรวบรวมได้ระเบิดออกไป บิดเบือนพื้นที่ ทำให้เกิดสายฟ้าและไฟลงมาจากท้องฟ้า คลื่นพลังงานวุ่นวายและเป็นเหมือนน้ำที่พยายามจะทำให้เฟิงหลินจม

ปัง ปัง ปัง!

 

เฟิงหลินขยับตัวทันทีหมัดของเขาเหมือนสายฟ้า ทำให้เกิดเงาขึ้นบนท้องฟ้า

ฟ้าผ่าและเปลวไฟที่รุนแรงดังกล่าวหลอมรวมเป็นหนึ่งแล้วกระแทกลง แต่พวกมันก็เหือดหายไปด้วยหมัดธรรมดาของเฟิงหลิน

เสียงฟ้าร้องที่เหลืออยู่ดังอย่างไร้ประโยชน์ ประกายไฟยังกระจัดกระจายไปทั่วรอบๆเฟิงหลิน ไม่มีสักจุดบนร่างของเฟิงหลินที่ถูกเผา

เฟิงหลินง้างหมัดอย่างใจเย็น เขาก้มมองเสื้อผ้าที่ดำไหม้ของเขา

แม้ว่ายีนลิงหินนั้นจะแข็งแกร่งและสามารถต้านทานความแข็งแกร่งของคุณสมบัติพลังงานประเภทต่างๆได้ ความสามารถนี้ก็ไม่ได้ครอบคลุมถึงเสื้อผ้าเขา

 

“อะไรกัน?” เฟิงเจินตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นร่างกายที่แข็งแกร่งขนาดที่กันสายฟ้าและไฟได้

นี่ใช่ความเป็นอมตะใช่ไหม?

หวือ?

เฟิงหลินขี้เกียจพูดเรื่องไร้สาระ ร่างของเขาเปล่งประกายและเปลี่ยนเป็นชุดภาพติดตาหลังจากที่เขาพุ่งไปหาเฟิงเจิน

 

“เร็วมาก!” ดวงตาของเฟิงเจินหรี่แคบลงเมื่อเห็นเงาของเฟิงหลิน

อะไร?

การต่อสู้ระยะประชิดกับผู้บ่มเพาะที่มียีนร่างกายแข็งแกร่ง?

สายฟ้าคุ้มกาย!

ฉ่า ฉ่า ~

ประกายไฟกระจาย ร่างของเฟิงเจินปกคลุมไปด้วยสายฟ้าราวกับว่าเขาสวมชุดเกราะที่ทำจากไฟฟ้า

ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นเงาสายฟ้า พุ่งผ่าออกไปอย่างรวดเร็ว

หมัดของเฟิงหลินกระแทกลงพื้น เขาประหลาดใจ

แท้จริงแล้วไม่มีผู้อ่อนแอในการแข่งขันระดับนี้

เฟิงเจินใช้สายฟ้าเพื่อกระตุ้นเซลล์ ทำให้เขาสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

เฟิงหลินอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

ครื่น!

ดูเหมือนว่าเฟิงเจินจะเปลี่ยนเป็นฮีโร่สายฟ้า หมุนรอบเฟิงหลินด้วยความเร็ว ท่าทางมือของเขาเปลี่ยนไป เปลวไฟพุ่งออกมาจากฝ่ามืออย่างไม่หยุดยั้ง

เขาใช้สายฟ้าเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย เพิ่มความเร็วเพื่อให้ไม่สามารถติดตามและลดข้อบกพร่องในการต่อสู้ระยะประชิดอย่างสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกันเขาก็สามารถใช้เปลวไฟเพื่อเปิดการโจมตีทางไกล สร้างความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา

มันเป็นเทคนิคเรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมาก

 

ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปจะไม่สามารถทำอะไรเขาได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับเฟิงหลินสิ่งเหล่านี้ไร้ความหมาย

ตอนนี้ยีนลิงหินของเขาได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด การป้องกันไฟและน้ำก็เพิ่มขึ้นจนสูงสุด เปลวไฟธรรมดาทำอะไรเขาไม่ได้

ไม่ว่าเปลวไฟจะรุนแรงแค่ไหน มันก็จะไม่เป็นผลกับเขา เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อน เปลวไฟธรรมดาๆกลับทำให้เขารู้สึกสบาย

แต่ทว่า เขาไม่ต้องการให้เสื้อผ้าของเขาถูกไฟไหม้ คงจะไม่ดีถ้าเขาต้องยืนเปลือยกายต่อหน้าทุกคน

เขาปลดปล่อยการโจมตี ก่อให้เกิดเงาหมัดเติมเต็มท้องฟ้าดับเปลวไฟอย่างสมบูรณ์

สำหรับผู้บ่มเพาะดวงดาว การโจมตีใช้พลังงานทางพันธุกรรมมากที่สุด

เฟิงหลินไม่กังวลที่จะปิดระยะทาง เขากำลังรอให้คู่ต่อสู้ของเขาหมดแรงและชะลอความเร็วลง

เฟินเจินทำอะไรเฟิงหลินไม่ได้ เขาไม่กล้าเข้าไปใกล้และใช้ไฟอย่างต่อเนื่อง ผลาญพลังงานพันธุกรรมของตัวเองจนหมด ในท้ายที่สุดไฟฟ้ารอบตัวเขาก็อ่อนลง ความเร็วของเองก็ช้าลง

 

“เป็นโอกาสที่ดี!” เฟิงหลินกระทืบพื้น กล้ามเนื้อของเขาเกร็งและทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ย้ายพลังงานไปยังพื้นดิน

ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นไหว เฟิงหลินพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนปืนใหญ่

“อะไรกัน?” เฟิงเจินไม่คาดคิดว่าเฟิงหลินจะปะทุการเคลื่อนไหวที่ดุเดือดนี้ ไฟฟ้ารอบๆร่างกายของเขาเปล่งประกายสว่างจ้า เขาต้องการที่จะหลบหนีอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่สนใจจะเล่นกับเขา

“อยู่เฉยๆ” ฝ่ามือคู่หนึ่งยื่นออกมาเปล่งประกายแวววาวราวกับหยก จับเฟิงเจินเอาไว้

มือของเขาเหมือนห่วงเหล็ก จับจุดสำคัญบนร่างกายของเฟิงเจินไม่ว่าเฟิงเจินจะดิ้นรนยังไง เขาก็เหมือนกระต่ายที่จนมุม

“เฟิงหลิน ชนะ! เวลาที่ใช้: 12 นาที.” ปัญญาประดิษฐ์ประกาศผลทันที

 

ถึงแม้ว่าการต่อสู้กับเฟิงเจินจะเสียเวลาไปบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เฟิงหลินใช้เวลากว่า 10 นาทีในการเอาชนะ แต่ก็ไม่ได้ใช้พลังงานมากนัก

ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่ยีนลิงหินก็เพียงพอที่จะทำให้คู่ต่อสู้ของเขาพ่ายแพ้แล้ว

เฟิงหลินกวาดสายตาไปยังผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ และตระหนักว่าเขาอยู่ในรอบสุดท้าย เหลือแค่สิบคนเท่านั้น

บนเวทีนอกเหนือจากเฟิงหลินที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย อัจฉริยะระดับสูงคนอื่นๆของตระกูลดูเหมือนจะพบกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง

สำหรับเฟิงหลี่ วิชาดาบของเขานั้นเฉียบคม และแรงฟันแสดงให้เห็นถึงพลังดาบไร้รูปร่างที่เปล่งกลิ่นอายสง่างาม

อย่างไรก็ตาม คู่ต่อสู้ของเขาก็ทรงพลังเช่นกัน เขามีร่างกายที่เต็มไปด้วยเกล็ดแข็ง ซึ่งสามารถปิดกั้นปราณดาบของเฟิงหลี่ได้ การโจมตีด้วยกรงเล็บของเขานั้นโหดเหี้ยมมาก

ทั้งสองดูเหมือนจะสูสีกัน

 

ซวบ

สำหรับเฟิงจินเผิง เขากางแขนกว้างท่าทางเหมือนนกที่กางปีก ในขณะที่ควบคุมลมพายุ เขาเหมือนก้อนทองคำพุ่งทะยานอย่างภาคภูมิบนท้องฟ้า

คู่ต่อสู้ของเขานิ่งเฉยเหมือนภูเขายักษ์และมีการป้องกันของเต่าโบราณ ตั้งแต่ต้นจนจบเฟิงจินเผิงไม่สามารถหาโอกาสชนะได้

คนอื่นรู้สึกว่าการจัดอันดับของตระกูลนั้นรุนแรงมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับเฟิงหลินเขาพบว่ามันน่าเบื่ออย่างยิ่ง

ยีนลิงหินเป็นยีนขั้นผันแปรโดยกำเนิด มันสามารถยับยั้งยีนแรกเริ่มได้หลายขั้น

สำหรับคนอื่นๆเทคนิคการโจมตีของคนพวกนี้ดูทรงพลัง แต่เฟิงหลินเห็นว่าพวกเขาขาดพลังการโจมตีที่มากพอ

เนื่องจากอิทธิพลของยีนลิงหิน สไตล์ของเขาคือการเอาชนะคนอื่นด้วยความแข็งแกร่ง

นอกจากการโจมตีของคนเหล่านี้ขะมีความรุนแรงสูงพอที่จะทะลุการป้องกันของเขา ทุกอย่างจะไร้ประโยชน์ไม่ว่าพวกเขาจะใช้เทคนิคอะไรก็ตาม

เฟิงหลินไม่มีความอดทนที่จะรอต่อไป เขาอยากรีบและจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในตระกูลของเขาและใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อเข้าร่วมการสอบ

จักรวาลนั้นกว้างใหญ่มากและอนาคตของเขาก็ไร้ขีดจำกัด เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ในตระกูลเล็กๆบนโลกใบนี้

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ผู้เข้าร่วมสิบอันดับแรกก็ปรากฏตัวขึ้นเฟิงหลี่ เฟิงจินเผิงและอัจฉริยะที่ได้รับการยกย่องคนอื่นๆล้วนมีชื่อของพวกเขาอยู่ในรายชื่อสิบอันดับแรก เฟินหลินเป็นคนที่คาดไม่ถึง

แต่เมื่อฝูงชนเห็นว่าเฟิงหลินอยู่ยงคงกระพัน พวกเขาก็ไม่ตามืดบอดบอกว่าเขาไม่คู่ควร

สำหรับการแข่งขันระหว่างสิบอันดับแรก วิธีการเลือกคู่ต่อสู้จะทำโดยการจับฉลาก

และเมื่อถึงเวลาที่จะเริ่ม เฟิงหลินก็ใช้ความคิดริเริ่มที่จะเดินออกไปดึงความสนใจของตระกูลทั้งหมด

 

สายตาของเขากวาดผ่านคู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพทั้งเก้าและพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก เข้ามาพร้อมกันทั้งหมดนั่นแหละ”

เมื่อเสียงของเขาดังขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ก็เงียบลง เงียบจนอาจได้ยินเสียงเข็มหล่น