ณ ร้านอาหารในคฤหาสน์ของประธานาธิบดี

ในเวลานี้ เซี่ยปิง เซี่ยชวนหลี่และฮวงหลันซินทั้งสามคนกำลังรับประทานอาหารกันอยู่ บนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยอาหารหลากลายสีสัน ดูน่าทานอย่างมาก อีกทั้งก็ไม่ได้มีผู้คุ้มกันใดๆอยู่ที่นี่ มีเพียงแค่พวกเขาสามคนเท่านั้น

“พ่อ พ่อกลายเป็นประธานาธิบดีเมื่อไหร่กัน?”

เซี่ยปิงถามออกไปอย่างสงสัย

“หลังจากที่เจ้าออกไปจากโลกแห่งเมฆาได้หกเดือน ในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาการเลือกตั้งประธานาธิบดีพอดี ดังนั้นจึงมีบางคนที่แนะนำให้ข้าเป็น ข้าจึงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดยที่ไม่ตั้งใจ นี่เป็นความปรารถนาของผู้คน”

เซี่ยชวนหลี่ก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก ในความเป็นจริง เดิมทีเขาก็ไม่ได้คิดที่จะเป็นประธานาธิบดี ทว่ามันก็ยากที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญที่อบอุ่นได้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจำนวนมากของเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างก็เชิญชวนเขาด้วยความอ่อนโยน เขาก็ไม่อาจสรรหาข้อแก้ตัวใดๆได้

ทว่าใครจะไปคิดกันว่าเขาเซี่ยชวนหลี่จะมีวันนี้ จดจำได้ว่าเมื่อก่อนนี้เขาเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่ราชการระดับล่างในเมืองเทียนซุยของดาวหยานดวงเท่านั้น และการที่สามารถเลื่อนตำแหน่งจากเจ้าหน้าที่ราชการกลายเป็นหัวหน้าสำนักงานการจัดการบริหารบ้านเมืองก็ถือว่าเป็นความคาดหวังทั้งหมดในชีวิตแล้ว

ทว่าตอนนี้กลับได้กลายเป็นประธานาธิบดี อยู่เหนือผู้คนนับไม่ถ้วน ไม่สามารถที่จะจินตนาการถึงเรื่องนี้ได้ คาดการณ์ได้ว่าหากในไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เขาบอกเรื่องนี้กับคนอื่นๆไป บางคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ คิดว่าเป็นเพียงความฝันลมๆแล้งๆเท่านั้น

ฮวงหลันซินก็ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เธอก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเธอจะได้กลายเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของประธานาธิบดี ตอนนี้บรรดาเพื่อนผู้หญิงของเธอที่เห็นเธอต่างก็เข้ามาประจบสอพลอ มีกิริยาท่าทางที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

“พ่อ พ่อสามารถที่จะทำหน้าที่ประธานาธิบดีได้จริงๆหรือ?”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเคลือบแคลงใจ

เขาก็ล่วงรู้ว่าทำไมเจ้าหน้าที่จำนวนมากของเผ่าพันธุ์มนุษย์ถึงได้แนะนำให้เซี่ยชวนหลี่กลายเป็นประธานาธิบดี เพราะว่าในตอนนั้น ราชันไร้เทียมทานเกือบทั้งหมดได้เลือกที่จะเดินทางออกจากโลกแห่งเมฆา เข้าไปเผชิญกับความเสี่ยงในจักรวาล

ทว่าผู้ที่มีพลังการต่อสู้ในระดับราชันไร้เทียมทานที่ยังอยู่ภายในโลกแห่งเมฆานั้น ก็มีเพียงแค่เซี่ยชวนหลี่เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรข้างกายของเขาก็ยังมีหุ่นยนต์นาโนจำนวนมากที่เซี่ยปิงได้ทิ้งไว้คุ้มครองเขา ซึ่งพลังอำนาจของพวกมันแต่ละตัวก็เทียบได้กับยอดฝีมือในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์

สำหรับการพัฒนาอนาคตของเผ่าพันธุ์มนุษย์และการที่จะปราบปรามเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลที่คิดจะก่อกบฏนั้น มีเพียงแค่เซี่ยชวนหลี่คนเดียวเท่านั้นที่เหมาะสมกับตำแหน่งประธานาธิบดี เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด

แน่นอนว่าบางคนก็ต้องการที่จะใช้โอกาสนี้ในการประจบสอพลอเซี่ยปิงเช่นกัน

ไม่ว่าจะมองอย่างไร การที่แต่งตั้งให้เซี่ยชวนหลี่กลายเป็นประธานาธิบดี สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของดาวหยานหวงนั้น นี่ก็เป็นผลดีที่ไม่มีผลเสียเลย

“สายตาที่เจ้ามองมาคืออะไรกัน เจ้ากำลังดูถูกเหยียดหยามพ่อของเจ้าหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชวนหลี่ก็ปฏิเสธที่จะยอมรับทันที “การเป็นประธานาธิบดีกับการเป็นหัวหน้าสำนักงานการจัดการบริหารบ้านเมืองนั้นไม่ได้มีความแตกต่างกันแม้แต่น้อย หากปฏิเสธที่จะยอมรับก็อัดไปโดยตรง หากขวางกั้นเส้นทางก็รื้อถอนออกมา ง่ายๆเพียงแค่สี่คำนี้ นั่นก็คือการใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน! สรุปก็คือระยะเวลาหลายปีมานี้ สาเหตุที่โลกแห่งเมฆาพัฒนามากขึ้นในทุกวันและเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็เป็นเพราะว่ามีข้าเซี่ยชวนหลี่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี!”

เซี่ยปิงก็ต้องยอมรับเช่นกัน การที่พ่อของตนเองดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมานานเช่นนี้ ทว่ากลับไม่ได้สร้างปัญหาอะไรขึ้นมา นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

ทว่าในอีกคำพูดหนึ่งก็คือ ใครๆก็สามารถกลายเป็นประธานาธิบดีได้ ถึงอย่างไรระบบปฏิบัติการณ์ของสหพันธ์มนุษย์ก็เติบโตเต็มที่แล้ว ต่อให้จะไม่มีประธานาธิบดีก็จะไม่มีปัญหาในสังคมของมนุษย์

“ใช่สิ ครั้งนี้เจ้ากลับมาทำไมรึ?”

เซี่ยชวนหลี่ก็ถามอย่างสงสัย เขาคิดว่าครั้งนี้ที่เซี่ยปิงกลับมาจะต้องมีเป้าหมายอย่างแน่นอน

“พ่อ ข้าต้องการที่จะย้ายตำแหน่งของโลกแห่งเมฆา นำมาไว้โลกห้วงมิติ” เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม บอกถึงจุดประสงค์หลักของการที่ตนเองกลับมา บ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่ตนเองจะท้าทายศัตรูทรงพลังจำนวนมากของจักรวาล

หากศัตรูทรงพลังเหล่านี้ค้นพบโลกแห่งเมฆา บางทีพวกเขาอาจจะจัดการกับตัวเขาไม่ได้ ทว่าก็หันมาเพ่งเล็งมนุษย์ของโลกแห่งเมฆาแทน ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของเผ่าพันธุ์มนุษย์

“เรื่องเช่นนี้ ดูเหมือนว่าความเสี่ยงภายในจักรวาลจะมากมายจริงๆ มักที่จะมีหายนะของการฆ่าล้างทั้งตระกูล เหมือนกำลังเหยียบอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ” เซี่ยชวนหลี่ก็ถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม เขาก็เข้าใจความคิดของเซี่ยปิง

อันที่จริงทั่วทั้งจักรวาลเป็นดั่งผืนป่า ใช้กฎของผืนป่า ก่อนหน้านี้ที่โลกแห่งเมฆาไม่ได้เผชิญกับการโจมตี เป็นเพราะว่าโชคดีเพียงเท่านั้น ยังไม่ได้ถูกค้นพบโดยมนุษย์ต่างดาวกลุ่มอื่นๆ

ทว่าเมื่อใดที่ถูกค้นพบ นั่นจะเป็นการทำลายล้างอย่างสมบูรณ์

“เอาล่ะ เป็นเรื่องยากกว่าที่ลูกชายจะกลับมาสักครั้ง เจ้าจะต้องพูดคุยธุระอะไรอยู่ที่นี่ อย่าทำให้อาหารไม่อร่อย” ฮวงหลันซินก็จ้องมองเซี่ยชวนหลี่ด้วยสีหน้าที่ดุร้าย

จากนั้นเธอก็หันไปมองเซี่ยปิงและพูดออกมา “ลูกชาย ออกไปในจักรวาลเป็นระยะเวลานาน เจ้าก็เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีความคิดที่จะแต่งงานบ้างหรือไม่? ลูกมีคนรู้จักหรือไม่ที่กำลังจะมีทายาท ลูกไม่สนใจบ้างหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยปิงก็กัดมุมปาก ไม่คาดคิดว่าแม่ของตนเองจะเริ่มบีบบังคับให้แต่งงาน “นี่มัน..แม่ ข้ายังอายุน้อย ยังไม่ต้องกังวลถึงเรื่องนี้”

“ไม่ต้องกังวลอะไรกัน เจ้าไม่กังวล แต่แม่ของเจ้ากังวล เจ้าต้องการรอหลังจากที่แม่ของเจ้าตายไปหรือ ต้องการที่จะนำหลานมาเยี่ยมแม่ที่หลุมศพหรือ?”

ฮวงหลันซินก็เปล่งเสียงขึ้นมา “ลูกชายของป้าเฉินข้างบ้านก็มีอายุเท่าๆกับเจ้า ส่วนลูกชายของป้าหลิวก็มีอายุน้อยกว่าเจ้าเสียอีก ทว่าพวกเธอก็ได้กลายเป็นย่าแล้ว ตอนนี้หลายชายหลานสาวของพวกเธอต่างก็กระโดดโลดเต้น วิ่งเล่นอย่างมีความสุข บางคนก็ใกล้ที่จะเข้าโรงเรียนประถมเต็มที โรงเรียมประถม เจ้ารู้หรือไม่?”

“ลองดูเจ้าสิ ตัวโตเช่นนี้ ใกล้ที่จะอายุ30เต็มที ทว่าก็ยังไร้น้ำค่า แม้แต่ภรรยาก็ยังไม่มี เป็นไปได้อย่างไรที่ในอนาคตข้าจะออกไปพบหน้าใครได้อีก? ข้าจะต้องอับอาย ละอายใจอย่างที่สุด”

“แน่นอนว่าหากเจ้าไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ข้าก็สามารถแนะนำหญิงสาวให้เจ้าได้ ไม่ว่าเผ่าพันธุ์ใดก็ดี พวกเธอต่างก็แทบรอไม่ไหวที่จะแต่งงานเข้ามาในตระกูลเซี่ยของพวกเรา”

เธอต้องการที่จะแนะนำหญิงสาวจำนวนหนึ่งให้เซี่ยปิงรู้จัก

“แต่งงานอะไรกัน ยังไม่ได้มีพื้นฐานของความรัก”

เซี่ยปิงกัดมุมปาก

“พื้นฐานของความรักอะไรกัน เจ้าไม่เคยได้ยินหรือ เมื่อวันเวลาผ่านไปนานๆก็จะเกิดความรู้สึกดีๆต่อกัน? ความรู้สึกต่างก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แน่นอนว่าเรื่องความรู้สึกไม่ใช่เรื่องสำคัญ รีบมอบหลานตัวอ้วนให้กับข้า ผลิดอกออกผลให้กับตระกูลเซี่ย”

เสียงของฮวงหลันซินดังขึ้นเรื่อยๆ

“อย่างน้อยต้องมีลูกชายหนึ่งคน เพราะถึงอย่างไรตระกูลเซี่ยของพวกเราก็มีบัลลังก์ที่ต้องสืบทอด”

เซี่ยชวนหลี่ก็แทรกความคิดเห็นของตนเองขึ้นมา

“แค่ก แค่ก”

เซี่ยปิงรู้สึกว่าไม่มีทางที่จะสื่อสารกันได้ ดังนั้นเขาจึงได้ไอและเปลี่ยนเรื่องทันที “ใช่สิ พ่อ แม่ ครั้งนี้ที่ข้ากลับมาก็เพื่อนำของขวัญมาให้พวกท่านเช่นกัน เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ พวกท่านลองกินดู”

เขาโบกมือออกไป ทันใดนั้นก็ได้นำขวดสีขาวสองขวดออกมาจากร่างกาย ข้างในแต่ละขวดมีเม็ดยาอายุวัฒนะอยู่สามเม็ดด้วยกัน

“นี่มันคือสิ่งใดกัน?”

เซี่ยชวนหลี่ก็เปิดขวดและมองดู ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นหอมที่โชยออกมาจากขวดทันที เป็นกลิ่นที่กระตุ้นความกระปรี้กระเปร่าในตัว ทำให้เขาตื่นเต้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ความเหน็ดเหนื่อยของร่างกายเหมือนกับจะหายไป

ฮวงหลันซินก็ถูกดึงดูดโดยเม็ดยาเหล่านี้อย่างกะทันหัน คิดว่าเม็ดยาเหล่านี้มีพลังดึงดูดที่ทรงพลังต่อสิ่งมีชีวิต เซลล์แต่ละเซลล์เหมือนจะต้องการดูดกลืนเม็ดยานี้เข้ามา

“กินเถอะ ทว่าทุกๆคนสามารถที่จะกินได้เพียงสามเม็ดเท่านั้น ต่อให้มีมากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยชวนหลี่และฮวงหลันซินก็หยิบเม็ดยาอายุวัฒนะทั้งสามออกมาและกลืนลงท้องไปอย่างกะทันหัน

หล่ง หล่ง หล่ง~

ทันใดนั้น พวกเขาก็รู้สึกว่าร่างกายสั่นสะเทือน กระแสอุ่นๆไหลเวียนไปทั่วทั้งร่างกาย แผ่กระจายไปสู่ทุกซอกทุกมุม

เหมือนกับในช่วงเวลานี้ พลังชีวิตของพวกเขากำลังเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับว่าได้เกิดใหม่ เมทาบอลิซึมพัฒนาขึ้นจนถึงจุดสูงสุด มีพลังชีวิตที่ทรหดอดทนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ตึบ!

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เซี่ยชวนหลี่และฮวงหลันซินก็ลืมตาขึ้นมา เผยแสงที่น่าสะพรึงกลัวออกมา พวกเขาคิดว่าทั่วทั้งโลกได้เปลี่ยนไป ประสาทสัมผัสเฉียบแหลมมากขึ้น เหมือนกับว่าระดับชีวิตของตนเองพัฒนาขึ้นมาหลายเท่า รวมถึงรู้สึกว่าเวลาเดินช้าลงด้วย