นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 551 ใครบอกว่าฉันไม่ชอบนาย
หลิวเสี่ยวหนิงที่ใจเต้นแรงระรัว หลังจากตั้งสติได้แล้วก็ยื่นมือผลักจินจิ่นหรานออก
“นาย…..”
เธอมือป้องปากของตัวเอง หูแดงระรื่อ
แต่ทว่าท่าทางของหลิวเสี่ยวหนิงกลับทำให้จินจิ่นหรานคิดว่าเธอยังปฏิเสธตนอยู่ คำพูดเมื่อกี้เกรงว่าจะเป็นเพียงการหลอกตัวเอง ทันใดนั้นแววตาของเขาก็เศร้าลง
“ฉันตกใจหมดเลย”
หลิวเสี่ยวหนิงก้มหน้ามองขอบเตียง จะเหน็บผ้าปูเตียงให้กับจินจิ่นหราน แต่กลับได้ยินเสียงดังขึ้นมา
“เธอไปเถอะ”
จินจิ่นหรานสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามให้เสียงของตัวเองปกติที่สุด
หลิวเสียวหนิงเคยคิดถึงปฏิกิริยาของจินจิ่นหราน แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดกับตนอย่างนี้
ตนที่ทำผิดมามาก จินจิ่นหรานจะไม่ยอมยกโทษให้ตนเลยหรอ
แล้วจูบเมื่อกี้ล่ะมันคืออะไร
หลิวเสี่ยวหนิงเม้มปาก และเวลานี้เองจินจิ่นหรานก็ได้หันหน้าไปทางอื่น ไม่สนใจว่าหลิวเสี่ยวหนิงจะมีสีหน้ายังไง
ทั้งสองที่ตกอยู่ในความเงียบและรู้สึกเสียใจ ยิ่งทำให้เรื่องนี้แย่กว่าเดิม
“ในเมื่อเธอไม่ชอบฉัน ก็ไม่จำเป็นที่จะ……..”
จินจิ่นหรานที่เงียบอยู่นานก็เอ่ยปากพูดช้าๆ แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ถูกหลิวเสี่ยวหนิงพูดแทรก
“จินจิ่นหราน ใครบอกว่าฉันไม่ชอบนาย หรือว่านายคิดว่าที่ฉันพูดเมื่อกี้หรอ คิดเองเออเองรึเปล่า”
หลิวเสี่ยวหนิงที่รู้สึกโกรธโมโห เธอที่ทั้งร้องไห้ทั้งพูดความในใจทั้งหมดออกมาจนหมดเปลือกแล้ว แต่จินจิ่นหรานกับไม่ฟังเข้าหูเลย
จินจิ่นหรานที่กะพริบตาด้วยความประหลาดใจ มองหลิวเสี่ยวหนิงที่ใช้มือพยุงหน้าแก้มตัวเองอยู่แล้วพูด”แล้วเมื่อกี้เธอผลักฉันออกทำไม”
ไม่ใช่เป็นการปฏิเสธหรอ
“นาย……..”
หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตาปริบๆ “นายยังมีแผลที่หัว จะจูบ……จูบตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้……”
ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโห สุดท้ายหลิวเสี่ยวหนิงก็พูดออกมาอยู่คนเดียว
แต่จินจิ่นหรานกับได้ยินอย่างชัดเจน และแววตาเผยความดีใจออกมา แต่เสียงก็ยังคงเศร้าอยู่
“แต่เมื่อกี้เหมือนเธอจะไม่ยินยอม เสี่ยวหนิง ฉันจะไม่บังคับเธอนะ”
หลิวเสี่ยวหนิงกัดริมฝีปากจ้องจินจิ่นหราน สุดท้ายก็กางมือออกค้ำเอวโมโหราวกับทำหม้อแตก”จะต้องให้ฉันพูดเรื่องน่าอายเมื่อกี้ใช่มั้ย นายถึงจะพอใจใช่มั้ย”
หลิวเสี่ยวหนิงที่พอพูดจบก็เห็นจินจิ่นหรายยิ้มกว้างกว่าเดิม ทันใดนั้นเธอถึงได้ตั้งสติได้จินจิ่นหรานเมื่อกี้ที่พูดโมโหโกรธ ตนถูกเขาล้อเล่นแล้ว
“โอเค “จินจิ่นหรานยกมือขึ้น แต่เพราะมือยังมีแผล เลยทำได้เพียงแตะมือของหลิวเสี่ยวหนิง
หลิวเสี่ยวหนิงเห็นอย่างนั้นก็รีบเดินเข้าไปหาแล้วโน้มตัวลง จนผมร่วงลงมาตรงหน้าอก
“จิ่นหราน……..”
เธอเรียกเสียงเบามาก เหมือนกันขนนกที่ร่วงลงมา
“เธอ……ยินยอมจริงๆ หรอ”จินจิ่นหราน ถามเสียงพร่าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
หลิวเสี่ยวนหนิงเอียงหน้าถาม”อะไรนะ”
‘เธอยอมที่จะคบกับฉันจริงๆ ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิด…….”
จินจิ่นหรานพูดอย่างรู้สึกตื่นเต้น แต่หลิวเสี่ยวหนิงยื่นมือมาแตะที่ปากของเขา
“จิ่นหราน ไม่เกี่ยวกับเรื่องอื่นเลย เพราะว่าฉันรักนาย อยากจะอยู่กับนายจริงๆ”
หลิวเสี่ยวหนิงที่มีสีหน้าจริงจังกว่าปกติ “เมื่อก่อนฉันโง่จริงๆ ที่หลบหนีความรู้สึกของนาน ตอนนี้และต่อไป ฉันจะพยายามทำดีต่อนายให้มากนะ”
หลิวเสี่ยวหนิงที่พูดพร้อมกับประทับจูบตรงหน้าผากที่มีผ้าพันแผลอยู่ อย่างระมัดระวัง
จินจิ่นหรานเห็นอย่างนั้นก็เอียงแก้มให้กับหลิวเสี่ยวหนิง
“อะไรหรอ”หลิวเสี่ยวหนิงคิดว่าจินจิ่นหรานเจ็บแผล เลยขยับเข้ามาใกล้ๆ
“เจ็บ”จินจิ่นหรานที่จะส่งเสียงหวาน ทำหน้าสงสารอ้อน
“ฉันจะรีบไปเรียกหมอมา ‘หลิวเสี่ยวหนิงที่กำลังจะเดินออกไปแต่ถูกจินจิ่นหนานฉุดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
หลิวเสี่ยวหนิงตกใจ แต่ก็ไม่กล้าขยับ
จินจิ่นหรานวางคางบนไหล่ของหลิวเสี่ยวหนิงแล้วเอ่ยขึ้น:
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอก แค่เธอจูบฉันก็หายเจ็บแล้ว”
“จินจิ่นหราน!”
หลิวเสี่ยหนิงจ้องจินจิ่นหรานเขม็ง แตะทว่าจินจิ่นหรานนั้นได้หลับตาเอียงแก้มมาเพื่อรอหลิวเสี่ยหนิงแล้ว
หลิวเสี่ยวหนิงที่มองไปรอบๆ และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วถึงได้ขยับเข้าไปใกล้และจูบที่แก้มของจินจิ่นหรานแล้ว
“โอเครึยัง”หลิวเสี่ยวหนิงที่รู้สึกเหมือนกับตนกำลังปลอบเด็กน้อยอยู่
“ทำไงดี อีกข้างก็เจ็บด้วย คอก็เจ็บ หน้าอกก็เจ็บ………..”
แต่ทว่าเด็กชายแซ่จินที่ได้คืบแล้วจะเอาศอก ทำให้สุดท้ายหลิวเสี่ยวหนิงขู่ว่าจะเรียกหมอมาเขาถึงได้เงียบปากลงอย่างว่าง่าย
…………
บริษัทให้หลิวเสี่ยวหนิงลาหยุด เธอใช้เวลาดูแลจินจิ่นหราน ความรู้สึกของทั้งสองพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จินจิ่นหนานก็หายดีแล้ว คุณหมอบอกว่าอีกไม่นานก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แต่ตอนที่หลิวเสี่ยวหนิงดีใจนั้นก็ไม่ลืมคำที่ซูฉิงกำชับ รีบกดล๊อกอินเข้าเวยป๋อแล้วแชร์คำชี้แจงออกไป
ชี้แจงว่าตนกับเฉินจุนเหยียนเป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันเท่านั้น และความสัมพันธ์กับจินจิ่นหรานก็ยังคงแน่นแฟ้น ไม่ได้มีการจับปลาสองมือแต่อย่างไร
พอแชร์ออกไปในเวยป๋อ สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์และยังมีเฉินจุนเหยียนก็ช่วยกันแชร์ออกไปแม้แต่สื่อข่าวก็ยังแชร์ด้วย
เดิมทีคนทั่วไปที่อ่านคำชี้แจงก็ยังมีความรู้สึกสงสัย และทางฝั่งของเฉินจุนเหยียนที่อับรูปแผ่นหลังของหลิวเสี่ยหนิงลง และใส่ข้อความว่าบุญคุณความรักเกือบตบหน้าผู้ชมแล้ว
คิดไม่ถึงว่าเธอจะไปดูแลแฟนของเขาแล้ว
วันที่หลิวเสี่ยวหนิงกลับมาทำงานนั้น จินจิ่นหรานยังไม่ได้ออกมาจากโรงพยาบาล ถึงจะรู้สึกเศร้าอยู่บ้าง แต่หลิวเสี่ยวหนิงรู้ดีว่าตนได้ทำให้เสียเวลามามากแล้ว เลยรีบกลับไปที่ทีมกองถ่าย
ดีที่ซูฉิงได้ถ่ายฉากของเฉินจุนเหยียนไปล่วงหน้าแล้ว เลยทำให้ความคืบหน้าของกองถ่ายไม่เสียเวลามาก
หลังจากที่พูดขอโทษคนในกองแล้ว หลิวเสี่ยหนิงก็เริ่มทำงานใหม่อีกครั้ง
“คัท!ผ่าน!”
ผู้กำกับตะโกนสั่ง หลิวเสี่ยวหนิงถึงได้ถอนหายใจโล่ง แล้วบิดไหล่ที่รู้สึกชา
วันนี้ถ่ายทำทั้งวัน และมีเวลาพักไม่มาก ทำให้หลิวเสี่ยวหนิงที่หยุดพักไปหลายวันรู้สึกเหนื่อย
“วันนี้พอแค่นี้ เลิกกอง”
จากนั้นผู้กำกับก็สั่งเลิกกอง พนักงานทุกคนที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันก็ได้พักแล้ว หลิวเสี่ยวหนิงก็ไม่อยากจะเสียเวลา เธอยังต้องรีบไปเยี่ยมจินจิ่นหราน
เธอที่ก้มหน้าคุยกับผู้จัดการทั้งพูดทั้งเดินไปห้องแต่งตัว แตะพอหลิวเสี่ยวหนิงกำลังเปิดประตู ก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากข้างใจ
“หลิวเสี่ยวหนิงคนนี้มีสิทธิอะไรที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนถึงได้เทิดทูนเธอนัก”
“เธอไม่เห็นหรอว่าแฟนของหล่อนเป็นใคร เป็นคุณชายตระกูลจินเลยนะ”
“ก็แค่ลูกเศรษฐีจะวิเศษสักแค่ไหนเชียว ไม่แน่นะในสตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์หล่อนอาจจะมีพี่ชายคอยดูแล”