“ใกล้ที่จะเลื่อนขั้นเต็มที?!”

เซี่ยปิงรู้สึกว่าพลังเวทมนตร์ของตนเองกำลังแปรปรวนอย่างมาก ต่อให้ตนเองจะมีจิตศักดิ์สิทธิ์อยู่เก้าดวงด้วยกัน จำเป็นต้องดูดกลืนพลังงานมาอย่างมหาศาล ทว่าพลังงานที่ถ่ายทอดมาจากไตน้อยก็ยังสามารถเติมเต็มมันจนสมบูรณ์ได้ อีกทั้งยังเรียกได้ว่าเกินมาด้วยซ้ำ

ทว่าเขาก็ยับยั้งแรงกระตุ้นที่จะเลื่อนขั้นไปในระดับแตกฉานขั้นสูงไว้ก่อน เพราะว่าการที่เลื่อนขั้นขึ้นไปในแต่ละครั้งนั้น จำเป็นที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าแกนพลังฉีอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และเสถียรมั่นคง หากเลื่อนขั้นไปในตอนนี้ มันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายกับรากฐานได้

ดังนั้นเขาจึงต้องยับยั้งมันไว้ชั่วคราว รอให้ระดับแตกฉานขั้นกลางของเขาเสถียรมั่นคงเสียก่อน

ทว่าพลังงานส่วนเกินก็ถูกจัดเก็บไว้ในส่วนลึกของจุดตันเถียน รอให้ถึงเวลาที่จะเลื่อนขั้น การที่จะใช้พลังงานเหล่านี้อีกครั้งก็ยังไม่สายเกินไป

“พี่ชาย”

ไตน้อยก็กระพริบตา มองเซี่ยปิงที่อยู่ใกล้ๆ

“ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไร?”

เซี่ยปิงถามออกไป

“รู้สึกหิวอย่างมาก ข้าต้องดูดกลืนดาวเคราะห์อีกเป็นจำนวนมาก พื้นที่ภายในร่างกายของข้าต้องการมวลสารเป็นปริมาณมหาศาล” ไตน้อยเพิ่งได้ดูดกลืนพลังงานของเซนต์เข้ามา ได้รับกฎภายในร่างกายของเซนต์ ทำให้พื้นที่ไกอาเปลี่ยนไปราวกับฟ้ากับเหว

ถึงแม้ว่าพื้นที่ไกอาจะแข็งแกร่งทนทานมากขึ้น ทรงอำนาจมากขึ้น ทว่ามันก็จำเป็นต้องดูดกลืนมวลสารปริมาณมหาศาลเข้ามาเพื่อบำรุงหล่อเลี้ยง

“ไม่มีปัญหา ที่นี่ไม่ได้มีอะไรมาก มีเพียงแค่ดาวเคราะห์เท่านั้นที่มีมาก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยปิงก็ยิ้มออกมาทันที ที่นี่เป็นอาณาเขตดวงดาวที่รกร้างห่างไกล มีดาวเคราะห์ที่รกร้างและดาวเคราะห์ทรัพยากรอยู่นับไม่ถ้วน

ในขณะเดียวระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ของเขาก็ถูกติดตั้งไว้ในสถานที่แห่งนี้เช่นกัน บังเอิญเหมาะสำหรับการที่ไตน้อยจะดูดกลืนดาวฤกษ์ของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์เข้าไปรวมถึงดาวเคราะห์จำนวนมากที่เชื่อมโยงอยู่กับมัน นำไปไว้ในพื้นที่ของไกอาทั้งหมด

เพราะว่าถึงอย่างไรเดิมทีระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็มีหน้าที่คุ้มครองโลกแห่งเมฆา ทว่าในเมื่อตอนนี้โลกแห่งเมฆาได้หายไปแล้วนั้น แน่นอนว่าจะปล่อยระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ไว้ข้างนอกไม่ได้ มันจะเป็นการสูญเปล่าเกินไป

“เข้าใจแล้ว พี่ชาย”

ไตน้อยก็พยักหน้า

………..

หนึ่งเดือนต่อมา

เซี่ยปิงก็นำไตน้อยไป ขับยานดาราจักรออกไปเพื่อดูดกลืนดาวเคราะห์ในทุกหนแห่ง ดาวเคราะห์ทรัพยากรกว่าหนึ่งแสนดวงได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในพื้นที่ของไกอา ถูกบดทำลายอย่างละเอียด จากนั้นก็ถูกจัดโครงสร้างใหม่และควบแน่นกลายเป็นทวีป

ดวงอาทิตย์ของโลกแห่งเมฆาก็ถูกดูดกลืนเข้าไปเช่นกัน ถูกเคลื่อนย้ายเข้ามาและใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการส่องแสงสว่างให้กับพื้นที่ของไกอา นำพาความสว่างไสวมาสู่แต่ละซอกมุมของพื้นที่ไกอา

เพราะว่าการที่ดูดกลืนดาวเคราะห์เข้าไปมากมาย ตอนนี้ข้างในพื้นที่ไกอาจึงปรากฏเป็นเก้าทวีปด้วยกันซึ่งรวมถึงทวีปไกอาดั้งเดิมและโลกแห่งเมฆา

ทวีปเหล่านี้ต่างก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ อย่างน้อยแต่ละทวีปก็มีพื้นที่ดินแดนมากกว่าสามปีแสง กว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขต แม้แต่ทวีปของโลกแห่งเมฆาก็เติบโตขึ้นมานับร้อยเท่า

ในขณะเดียวกันกฎธรรมชาติของโลกแห่งเมฆาที่ยับยั้งแกนพลังฉีก็ถูกถอดถอนออกไปเช่นกัน สามารถที่จะพัฒนาแกนพลังฉีได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็ถูกติดตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของไกอา

ทว่าจนถึงตอนนี้ มีเพียงแค่ทวีปไกอาและทวีปของโลกแห่งเมฆาเท่านั้นที่มีประชากรอาศัยอยู่ ทวีปอื่นๆยังไม่มีผู้อยู่อาศัย มีเพียงแค่พืชมหาศาลที่เติบโตอยู่เท่านั้น ดูเขียวชอุ่มอย่างมาก

ทว่าในเวลานี้ มนุษย์จำนวนมากของโลกแห่งเมฆาก็ค้นพบว่าโลกแห่งเมฆาได้เปลี่ยนแปลงไปราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับโลกแห่งเมฆาภายในค่ำคืนเดียว เหมือนกับว่าพื้นที่บนบกและพื้นที่ท้องทะเลจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ ขยายออกไปกว่าหนึ่งร้อยเท่า?”

บางคนที่ค้นพบว่าพื้นที่ของโลกแห่งเมฆาผิดปกติไปและกว้างใหญ่กว่าเดิมมาก

“ใช่ พลังฉีธรรมชาติของโลกแห่งเมฆาก็เข้มข้นมากกว่าเดิมถึงหนึ่งร้อยเท่า อีกทั้งก็ยังมีภูเขาและแม่น้ำมากมายที่ปรากฏขึ้นมา ดูกว้างใหญ่อย่างไร้ขอบเขต”

“ในตอนนั้นข้าจดจำได้ว่าเมื่อตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น ค้นพบว่าไม่รู้เมื่อไหร่ถึงได้มีภูเขาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นที่หน้ารั้วประตูบ้าน มันมีความสูงเฉียดฟ้า ในตอนนั้นข้าตกตะลึงอย่างมาก ทำอะไรไม่ถูก”

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่ต้องคำนึงถึง ในตอนนั้นข้าตื่นขึ้นมาและพบว่าเดิมทีที่ทำงานของข้าซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่ไกล ทว่ามันกลับมีแม่น้ำที่มีความยาวหลายกิโลเมตรปรากฏขึ้นมาคั้นกลางระหว่างบ้านของข้ากับที่ทำงาน ในตอนนั้นข้าต้องเดินทางไปทำงานโดยที่ใช้เรือ”

“ไม่รู้ว่าทุกๆคนค้นพบหรือไม่ ตอนนี้เหมือนกับว่าการบ่มเพาะจะง่ายดายขึ้นมาก อีกทั้งก็ยังมีพัฒนาการที่รวดเร็วมากขึ้น จุดติดขัดที่ก่อนหน้านี้ดูมืดมน ไม่มีทางที่จะข้ามผ่านไปได้ ทว่าตอนนี้กลับมองเห็นแสงสว่างได้อย่างกะทันหัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพร่างกายก็เหมือนจะพัฒนาขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้”

“นั่นเป็นเรื่องจริง เป็นไปได้หรือไม่ว่าคือนี่การที่โลกแห่งเมฆาจะประสบกับเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกับยุคแห่งความมืดเมื่อหนึ่งพันปีก่อน?”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ข้าได้สำรวจดูสัตว์และพืชของโลกแห่งเมฆา ถึงแม้ว่าจะเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าก็ไม่ได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนกับเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้ว อย่าพูดถึงว่าตอนนี้พวกเรามนุษย์ก็แตกต่างไปจากวันคืนเหล่านั้น”

“พูดถูก ต่อให้จะเกิดยุคแห่งความมืดอีกครั้ง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรพวกเรามนุษย์ได้”

ผู้คนต่างก็พูดคุยกันในอินเทอร์เน็ตด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม คาดเดาถึงความเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งเมฆาในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการรายงานจากรัฐบาลว่าในช่วงเวลานี้จะเกิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างกับโลกแห่งเมฆา ทำให้ทุกๆคนต้องตกใจ

ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้าว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นอย่างไร

ในตอนนี้รัฐบาลกลางก็รีบออกมาชี้แจ้งกับทุกๆคนทันที “ทุกๆคนโปรดมั่นใจได้ นี่ไม่ใช่ปรากฏการณ์ของยุคแห่งความมืดที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ทว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากราชันไร้เทียมทานเซี่ยปิงของเผ่าพันธุ์มนุษย์ของพวกเรา ทำการเคลื่อนย้ายโลกแห่งเมฆาไปสู่พื้นที่ห้วงมิติ”

“ในสถานที่แห่งนี้ ประสิทธิภาพในการบ่มเพาะจะเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า จะมีสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าเติบโตขึ้นมาเป็นจำนวนมหาศาล นี่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองแห่งการบ่มเพาะของพวกเรามนุษย์”

อะไรนะ?!

เมื่อได้ยินคำประกาศของรัฐบาล มนุษย์แต่ละคนรวมถึงเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ทะเลก็ตกใจอย่างมาก อยู่ในสภาวะที่ตกตะลึง

“ไม่มีทาง เรื่องนี้เป็นฝีมือของท่านเซี่ยหรือ?!”

“น่าเหลือเชื่อเกินไป อันที่จริงนี่มันคือพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่อะไรกัน ไม่คาดคิดว่าจะสามารถเคลื่อนย้ายโลกของพวกเราเข้าไปในพื้นที่ห้วงมิติอีกแห่งหนึ่งได้?!”

“ช่างไม่สามารถจินตนาการได้ เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นี่คือความสามารถของราชันไร้เทียมทานหรือ?”

“ม่ายยย แม้แต่ราชันไร้เทียมทานเองก็ไม่สามรรถบรรลุสิ่งนี้ได้ นี่เป็นพลังอำนาจของการคว้าเดือนเคลื่อนดาว แม้แต่เซนต์ก็ไม่สามารถบรรลุสิ่งนี้ ทว่าท่านเซี่ยกลับเคลื่อนย้ายดาวเคราะห์ได้ง่ายดายราวกับเป็นการดื่มน้ำ”

“คาดการณ์ได้ว่าแกนพลังฉีของท่านเซี่ยคงจะเหนือกว่าระดับของราชันไร้เทียมทานเสียอีก พัฒนาจนอยู่ในระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ดังนั้นจึงบรรลุในสิ่งที่เหนือจินตนาการเช่นนี้ได้”

“หากนี่เป็นความสามารถของท่านเซี่ยล่ะก็ จากนั้นก็ไม่ใช่ปัญหา นี่คือยุคทองแห่งการบ่มเพาะของพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์”

ผู้คนก็ตื่นเต้นกันอย่างมาก พวกเขาก็เข้าใจได้อย่างกะทันหัน ไม่ประหลาดใจว่าทำไมรัฐบาลกลางถึงได้มั่นใจนัก เดิมทีเรื่องนี้เป็นแผนการของผู้มีอิทธิพลระดับสูงนั่นเอง

ทว่าสำหรับเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องที่ควรยินดีนัก

“นี่มันตลกสิ้นดี เคลื่อนย้ายโลกแห่งเมฆาไปไว้ในพื้นที่ห้วงมติ? แม้แต่เซนต์ปีศาจก็ไม่ได้มีความสามารถเช่นนี้”

“ระยะเวลาหลายปีที่ไม่ได้เห็น ทำไมเจ้ามนุษย์เซี่ยปิงนี่ถึงได้ทรงอำนาจจนถึงขั้นนี้?”

“นี่เป็นเรื่องปกติมาก เจ้าควรจะล็อกอินเข้าไปในเครือข่ายเสมือนจริง จะได้รู้ว่าเจ้ามนุษย์เซี่ยได้กลายเป็นลูกศิษย์ของเซนต์ในนิกายฟ้าดิน มีพลังอำนาจและอิทธิพลที่ไร้ขีดจำกัด มีสมบัตินับไม่ถ้วน พลังเวทมนตร์ก็มหาศาล ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราจะสามารถเทียบด้วยได้”

“โอ้ ยิ่งรู้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่าสะพรึงกลัวมากเท่านั้น”

“บางทีสาเหตุที่เจ้ามนุษย์นี่ต้องการให้พวกเราใช้เครือข่ายเสมือนจริงของจักรวาลนั้น อาจจะมีเป้าหมายเพื่อให้พวกเราได้รู้ถึงความน่าเกรงขามของเขา”

“พวกเราไม่มีโอกาสที่จะคว่ำอำนาจของเผ่าพันธุ์มนุษย์อีกต่อไป ทุกๆคนผสมผสานกลมกลืนเข้ากับสังคมมนุษย์แต่โดยดีเถอะ ไม่อย่างนั้นหากเผ่าพันธุ์มนุษย์เดือดระอุขึ้นมา จะไม่มีที่ให้พวกเราเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเลได้ซุกหัวนอนภายในโลกแห่งเมฆา ตอนนี้ยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว”

ราชันปีศาจและราชันปีศาจใต้ท้องทะเลจำนวนมากต่างก็รู้สึกหดหู่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ พวกเขาไม่ได้มีความคิดเพ้อฝันอีกต่อไป เพราะว่าพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ในการเคลื่อนย้ายโลกแห่งเมฆาเช่นนี้ เป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง