หลังจากนั้นก็ผ่านไปหนึ่งวัน

ณ ห้องที่เงียบสงบแห่งหนึ่งภายในพื้นที่ไกอา

เซี่ยปิงกำลังนั่งขัดสมาธิ ไหลเวียนทักษะลับและรวบรวมพลังเวทมนตร์ บ่มเพาะร่างกายอย่างช้าๆ พัฒนาจิตศักดิ์สิทธิ์ ขัดเกลารากฐานวิทยายุทธของตนเองอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดก็มาถึงสภาวะที่สมบูรณ์

“ฟู้!”

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เซี่ยปิงลืมตาขึ้นมา พ่นลมหายใจออกหนึ่งครั้ง ลมหายใจสีขาวของเขาเป็นเหมือนกับก้อนเมฆสีขาวที่ลอยผ่านสายรุ้งบนท้องฟ้า จากนั้นก็กระจัดกระจายหายไป เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์อย่างมาก

หลังจากการบ่มเพาะครั้งนี้ เขาก็ได้รับผลประโยชน์มากมาย คาดการณ์ได้ว่าเมื่อทำการขัดเกลาอีกไม่นาน เขาจะสามารถเลื่อนขั้นได้

“ผลประโยชน์ที่ไตน้อยได้รับก็มหาศาลเช่นกัน”

เซี่ยปิงสามารถสัมผัสได้ถึงสถานการณ์ภายในร่างกายของไตน้อย เดิมทีพื้นที่ไกอาก็เต็มไปด้วยกฎมากมาย ทว่ากฎเหล่านั้นก็เป็นเพียงแค่กฎธรรมดาทั่วไป ยังไม่ใช่กฎที่ลึกซึ้งของจักรวาล

ทว่าเมื่อดูดกลืนโลกแห่งเมฆาและดูดกลืนพลังงาน จิตศักดิ์สิทธิ์และกฎภายในร่างกายของเดม่อนที่น่าเคารพตั้นเทียนนั้น แกนพลังฉีของไตน้อยก็พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด พื้นที่ไกอาก็เปลี่ยนแปลงไปราวกับฟ้ากับเหว

อย่างแรกกฎของสวรรค์และโลกภายในพื้นที่ไกอาได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เหมือนกับว่าจะผสมผสานเข้ากับกฎของสวรรค์และโลกของโลกแห่งเมฆา ทำให้พื้นที่แห่งนี้แข็งแกร่งทนทานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กลายเป็นเหมือนกับป้อมปราการที่ไม่สามารถตีแตก

ทั่วทั้งโลกแห่งนี้เหมือนกับว่ามีออร่าของเซนต์ที่ปรากฏอยู่ลางๆ ดูเหมือนกับเป็นอิสระอยู่ในจักรวาล

เมื่อรู้สึกได้ถึงออร่าของกฎเหล่านี้ เซี่ยปิงก็รู้สึกว่าตนเองมีความเข้าใจในวิทยายุทธอย่างลึกซึ้งมากขึ้น เหมือนกับว่ามีข้อมูลของสวรรค์และโลกมากมายที่ถูกปลูกฝังเข้ามาในความคิดของเขา

ดิ้ง ดิ้ง!!

ในตอนนี้เครื่องมือสื่อสารบนตัวของเซี่ยปิงส่งเสียงดังขึ้นมา เขาก็มองไปและค้นพบว่าเป็นพ่อเซี่ยชวนหลี่ที่ได้โทรเข้ามา จากนั้นเขาก็เชื่อมต่อสายทันทีโดยที่ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นภาพเสมือนจริงของเซี่ยชวนหลี่ก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเซี่ยปิง ทว่าในช่วงเวลานี้ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความตึงเครียด เริ่มพูดออกมา “ลูกชาย เกิดปัญหาใหญ่แล้ว ในฝั่งของดาวหยานหวงกำลังเกิดปัญหาใหญ่”

“หืมม? ปัญหาอะไรรึ?”

เซี่ยปิงขมวดคิ้วเป็นปม

“มีมนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกรุกเข้ามา เป็นสถานการณ์ที่ล่อแหลม ฝ่ายตรงข้ามอยู่ห่างจากดาวหยานหวงประมาณสิบปีแสง พวกเขาใกล้ที่จะมาถึงในไม่ช้า” เซี่ยชวนหลี่ก็พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

“มนุษย์ต่างดาวรึ?!”

เซี่ยปิงขมวดคิ้ว บอกตามตรง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าดาวหยานหวงตั้งอยู่ในสถานที่ใด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในทางตะวันออก ทางตะวันตก ทางเหนือหรือว่าทางใต้ของจักรวาล

ที่ผ่านมานี้เขาก็ไม่เคยลองสืบสวนเกี่ยวกับตำแหน่งที่ชัดเจนของดาวหยานหวง เพราะว่าถึงอย่างไรดาวหยานหวงก็มีความปลอดภัยมาโดยตลอด ไม่เคยมีมนุษย์ต่างดาวบุกรุกเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ไม่คาดคิดว่าในตอนนี้จะมีมนุษย์ต่างดาวที่กำลังจะบุกรุกเข้าไปที่นั่น

“ใช่ ฝ่ายตรงข้ามก็เหมือนว่าจะไม่ได้มีเจตนาที่ดีเช่นกัน เดิมทีพวกเราได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับไว้บนจานดาวเทียนเป็นจำนวนหนึ่ง ทว่าพวกมันกลับถูกทำลายไปโดยอาวุธของฝ่ายตรงข้าม ตัดขาดพวกเราจากการตรวจจับพวกเขา”

เซี่ยชวนหลี่พูดออกมา “ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมียานอวกาศเพียงลำเดียว ทว่าข้ากลับรู้สึกได้ถึงความอันตราย รู้สึกว่าพวกเขาอันตรายยิ่งกว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก่อนหน้านี้กว่าหลายสิบเท่า”

“เข้าใจแล้ว ข้าจะรีบเดินทางไปตรวจสอบดู”

เซี่ยปิงก็พูดออกมาทันที เขาก็ต้องการที่จะรู้ว่ากลุ่มของมนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นเป็นใคร บางทีก็อาจจะสามารถใช้โอกาสนี้ในการสอบถามหาตำแหน่งที่แน่นอนของดาวหยานหวงได้ สืบหาว่ามันว่าอยู่ในภูมิภาคไหนของจักรวาล

จากนั้นเขาก็เดินทางไปทันที มุ่งหน้าไปที่ดาวหยานหวง

…………..

ในช่วงเวลานี้ ห่างจากดาวหยานหวงประมาณสิบปีแสง ยานอวกาศสีดำลำหนึ่งกำลังบินอยู่

ยานอวกาศลำนี้เหมือนจะไม่ได้มีสภาพที่ดีนัก มีร่องรอยพุพังอยู่ทุกหนแห่ง มีรูมากมาย มีร่องรอยความเสียหายที่รุนแรงจำนวนหนึ่ง เหมือนกับผ่านการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก็ว่าได้

ทว่าต่อให้เป็นเช่นนั้น ยานอวกาศลำนี้ก็ยังคงบินอยู่ได้ ร่องรอยความเสียหายบนยานอวกาศนี้ก็แผ่ออร่าที่อ้างว้างและน่าสะพรึงกลัวออกมา ไม่สามารถปะเมินความสามารถของมันต่ำไปได้ บินข้ามผ่านอวกาศเหมือนกับเป็นอสูรดุร้ายขนาดใหญ่

ในความเป็นจริงมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ลูกเรือภายในยานอวกาศลำนี้ต่างก็เป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ มีจำนวนมากกว่าพันคน อย่างน้อยก็มีแกนพลังฉีในระดับแกนทอง ส่วนใหญ่เป็นผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉาน

กัปตันของยานอวกาศลำนี้ก็เป็นถึงยอดฝีมือในระดับกฎเทวรูป กองกำลังเช่นนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดของจักรวาล ก็ยังคงถือว่าเป็นกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัว ทรงพลังมากพอที่จะทำลายดาวเคราะห์จำนวนนับไม่ถ้วนได้

บนร่างของลูกเรือเหล่านี้ต่างก็สวมใส่ชุดคลุมสีขาว ข้างหลังสลักตัวอักษรสามตัว:นิกายหยวนหมิง แสดงให้เห็นว่าพวกเขามาจากกลุ่มอิทธิพลเดียวกัน ทุกๆคนต่างก็ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

“ท่านผู้อาวุโสหม่ากู่โป๋ พวกเราช่างโชคดีจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะสามารถข้ามผ่านพายุอวกาศมาได้ มาถึงพื้นที่เขตต้องห้ามภายในพายุ เอาชีวิตรอดออกมาได้ หากกลับไปที่นิกายหยวนหมิง พวกเราจะสามารถโอ้อวดคุยโวกับคนอื่นๆได้อย่างแน่นอน”

ลูกเรือคนหนึ่งที่พูดออกมาด้วยอารมณ์ที่เอ่อล้น

“พวกเรามีโชคดวงที่ท้าทายสวรรค์จริงๆ ข้ามผ่านพายุอวกาศมาได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่เกิดความเสียหายกับยานอวกาศเท่านั้น ช่างเป็นเรื่องราวที่มีแต่ในนิทานแฟนตาซีเท่านั้น เป็นความทรงจำที่ข้าจะจดจำไปตลอดทั้งชีวิต หลังจากนี้ คงจะไม่มีใครที่กล้าพูดว่าพวกเขาโชคดีกว่าพวกเรา”

ผู้ที่พูดออกมานี้ก็คือกัปตันหม่ากู่โป๋ เขาก็เปี่ยมไปด้วยความดีใจเช่นกัน ไม่คาดคิดว่าจะยังมีชีวิตอยู่ได้

“ท่านผู้อาวุโสหม่า สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะซ่อนเร้นพลังอำนาจของผนึกที่ลึกลับ ไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อกับเครือข่ายเสมือนจริงได้เลย ไม่สามารถที่จะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้” ลูกเรือบางคนที่พูดออกมาอย่างผิดหวัง หากสามารถเชื่อมต่อไปสู่โลกภายนอกได้ พวกเขาจะสามารถขอความช่วยเหลือจากนิกายหยวนหมิงได้ในทันที

“ไม่สามารถทำอะไรได้ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นเขตพื้นที่ต้องห้าม ล้อมรอบไปด้วยพายุอวกาศ ตอนนี้การที่พวกเราสามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ไม่สามารถที่จะเรียกร้องอะไรที่มันมากเกินไป”

หม่ากู่โป๋กวักมือ

“ท่านผู้อาวุโส ก่อนหน้านี้มีระบบตรวจจับบางอย่างที่ทำการสแกนยานอวกาศของพวกเรา ทว่าก็ถูกอาวุธของพวกเราจู่โจมทำลายไปอย่างกะทันหัน ทว่าระบบการตรวจจับนี้ดูเหมือนว่าจะล้าหลังมาก คาดการณ์ได้ว่าระดับของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของฝ่ายตรงข้ามไม่ได้สูงนัก”

ลูกเรือคนหนึ่งที่เริ่มพูดออกมา

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ? เยี่ยม เยี่ยมมาก การที่มีระบบตรวจจับก็แสดงว่าสถานที่แห่งนั้นจะต้องมีชาวพื้นเมืองดำรงอยู่ ที่นี่ไม่ใช่เป็นเพียงพื้นที่รกร้างเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นการที่ระดับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไม่ได้สูงนัก มันก็บ่งบอกว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังอำนาจที่อ่อนแอมาก เปราะบาง พวกเราสามารถที่จะเอาชนะกลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านั้นได้ ปล้นชิงทรัพยากรมาอย่างมหาศาลและซ่อมแซมยานอวกาศของพวกเรา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หม่ากู่โป๋ก็มีสายตาเป็นประกายทันที เผยแสงที่ละโมบออกมา

“ท่านผู้อาวุโส พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวไว้ เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นเขตพื้นที่ภายในพายุอวกาศ เป็นเขตพื้นที่ต้องห้าม ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นได้” ลูกเรือคนหนึ่งก็พูดออกมาอย่างระแวดระวัง

เขาคิดว่าการที่เดินทางมาในสถานที่ที่แปลกประหลาดเช่นนี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการระมัดระวัง ไม่ควรที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามเป็นอันขาด

“จะต้องกลัวสิ่งใดกัน?”

หม่ากู่โป๋กวักมือ “สถานที่เช่นนี้ จะมีอำนาจและอิทธิพลอะไรได้ เพียงแค่ข้าเคลื่อนไหวออกไป ก็สามารถที่จะตบทำลายดาวเคราะห์พื้นเมืองได้อย่างสบายๆ ยิ่งไปกว่านั้นทุกๆคนก็เหน็ดเหนื่อยและเมื่อยล้า ไม่ต้องการที่จะหาสถานที่ลงจอดเพื่อหาทรัพยากรและพักผ่อนหรือ?”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลูกเรือจำนวนมากก็พยักหน้า

ก่อนหน้านี้พวกเขาได้เผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เสบียงบนยานอวกาศก็ได้สูญหายไปหรือไม่ก็ป่นปี้จนไม่เหลือชิ้นดี หากไม่สามารถหาเสบียงทดแทนล่ะก็ บางทีพวกเขาก็อาจจะต้องหิวโซจนตายไปในผืนจักรวาลนี้

ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ต้องหาดาวเคราะห์มีชีวิตเพื่อจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นให้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องการที่จะออกไปจากพายุอวกาศนี้ พวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องหาสถานที่เพื่อซ่อมแซมยานอวกาศลำนี้เช่นกัน

“ถ่ายทอดคำสั่งของข้าไป มุ่งหน้าไปตามสัญญาณของดาวเคราะห์พื้นเมืองดวงนั้นทันที พวกเราจะเปิดสงครามและจับตัวเจ้าพวกชาวพื้นเมืองที่โง่เขลาเหล่านั้นมาเป็นทาสให้หมด”

หม่ากู่โป๋ถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที

“รับทราบ ท่านผู้อาวุโส”

ลูกเรือจำนวนมากก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด พวกเขาก็แทบอดทนรอไม่ไหวเช่นกัน

วิซ!

ยานอวกาศลำนี้ก็เร่งความเร็วในทันที มุ่งหน้าไปสู่ดาวหยานหวงด้วยความเร็วเต็มกำลัง รวดเร็วอย่างถึงที่สุด