ตอนที่ 1547 เริ่มแผนการ (1)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1547  เริ่มแผนการ (1)

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แม้แต่กู่ซินเยียนก็ไม่คาดคิด

ด้วยเหตุที่ว่า  ไม่สำคัญว่าจวินอู๋เสียจะเลือกวิหารใด  สำนักธาราเมฆจะไม่เปลี่ยนวิธีปฏิบัติต่อศิษย์ด้วยเหตุผลนั้น  ยิ่งกว่านั้น  เผ่าจ้าววิญญาณของจวินอู๋เสียคือการค้นพบครั้งใหญ่สำหรับอาณาจักรกลางทั้งหมด

ประวัติความเป็นมาของสำนักธาราเมฆนั้นลึกซึ้งและมีชื่อเสียงอย่างมาก  พวกเขาดูไม่เหมือนสำนักที่ตื้นเขินซึ่งปฏิบัติต่อศิษย์แตกต่างกันไปตามตัวตนของพวกเขา

แต่ถึงอย่างนั้น  จวินอู๋เสียก็ยังไม่ได้รับการฝึกใดๆ  แม้แต่กู่ซินเยียนเองก็เห็นกับตาว่าจวินอู๋เสียต้องมาทิ้งขยะที่หอจันทร์แรม

กู่ซินเยียนยังถามพวกรุ่นพี่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ

ให้อธิบายเป็นคำพูดแล้ว  หอจันทร์แรมก็คือห้องเก็บเหล้าของสำนักธาราเมฆ  ปกติมีคนดูแลสถานที่อยู่เพียงคนเดียว  ไม่มีศิษย์คนไหนเคยได้รับการฝึกที่นั่น  หอจันทร์แรมเป็นสถานที่แปลกประหลาดโดดเด่นเมื่อเทียบกับห้องสมุดธรรมดาๆและหอเก็บสมบัติที่อยู่ใกล้เคียง

การจัดให้ศิษย์ใหม่ไปที่ห้องเก็บสุรา  คอยเก็บกวาดทำความสะอาด  ไม่ว่าจะมองยังไง  ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง  แม้ว่ากู่ซินเยียนจะพยายามทำความเข้าใจยังไง  นางก็ไม่สามารถหาข้อสรุปที่สมเหตุสมผลได้  ทำให้นางรู้สึกเหมือนว่าจวินอู๋ถูกสำนักธาราเมฆทอดทิ้ง

กู่ซินเยียนเริ่มสับสนและไม่เข้าใจว่าทำไมสำนักธาราเมฆถึงทำเช่นนั้นกับจวินอู๋

“เราจะสังเกตไปอีกระยะหนึ่ง”  กู่ซินเยียนพูดอย่างระมัดระวัง  นางสังเกตเห็นว่าแม้ว่าข่าวลือซุบซิบมากมาย  แต่จวินอู๋เสียก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย  นี่ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่นางจะเคลื่อนไหว  นางต้องรอจนกว่าจวินอู๋เสียจะเดือดร้อนซะก่อน  แล้วค่อยยื่นมือออกมาช่วยเหลือเพื่อแสดงความมีน้ำใจต่อเขา

เมื่อเห็นว่ากู่ซินเยียนยังไม่ละทิ้งความตั้งใจที่จะเอาชนะใจจวินอู๋  หลินเฮ่าอวี่ก็แอบเบะปากอย่างดูถูก  เขาเงียบไปครู่หนึ่ง  แล้วทันใดนั้นความคิดอย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมา

“ซินเยียน  เจ้าคิดจะรอจนกว่าเจ้าจวินอู๋นั่นได้รับความอยุติธรรมแล้วค่อยยื่นมือเข้าช่วยเขางั้นหรือ?”

“ไม่งั้นจะทำยังไงล่ะ?”  กู่ซินเยียนพูด  เมื่อได้มีปฏิสัมพันธ์กับจวินอู๋เป็นระยะเวลาหนึ่ง  จวินอู๋มักทำให้นางรู้สึกว่าพวกเขาเหินห่างกันอยู่เสมอ  ไม่ว่านางจะพยายามมากแค่ไหน  พวกเขาก็ยังอยู่ในสถานะที่เหมือนเป็นคนแปลกหน้า  สถานการณ์เช่นนี้ทำให้กู่ซินเยียนรู้สึกหงุดหงิดผิดหวัง  นางพยายามทำลายทางตันนั้น  แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

“ให้ข้าช่วยไหม?”  หลินเฮ่าอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

กู่ซินเยียนเลิกคิ้ว  “อย่าทำอะไรบุ่มบ่าม  ถ้าจวินอู๋รู้เข้าและคิดว่าวิหารมารโลหิตเราเป็นศัตรูกับเขา  เขาคงไม่อยากเป็นมิตรกับเราแน่นอน”

หลินเฮ่าอวี่ยังคงยิ้มขณะตอบว่า  “ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น  ข้าไม่ได้โง่นะ  บางครั้งการผลักคนให้จนตรอก  ก็ไม่จำเป็นต้องทำให้มือตัวเองสกปรก  ที่ต้องทำก็แค่ออกแรงผลักและกระทุ้งเล็กน้อย  แล้วคนอื่นๆก็จะทำให้เราเอง”

กู่ซินเยียนมองรอยยิ้มมั่นใจบนใบหน้าของหลินเฮ่าอวี่  นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า  “ข้าเข้าใจที่เจ้าพูด  แต่ทุกวิหารได้สั่งทุกคนก่อนมาที่นี่แล้วว่าไม่ให้หาเรื่องจวินอู๋  เจ้าจะมีปัญญาทำอะไรได้?”

หลินเฮ่าอวี่ตอบว่า  “คำสั่งก็ส่วนคำสั่ง  แต่เจ้าก็เห็นแล้วนี่  คนที่ไม่พอใจจวินอู๋ในสำนักธาราเมฆมีอยู่มากมาย  พวกเขาล้วนเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน  มันจะมีคนที่ทำอะไรไม่คิดอยู่เสมอ”

กู่ซินเยียนยังคงไม่เห็นด้วยเล็กน้อย  แต่คำพูดของหลินเฮ่าอวี่ก็จี้ใจนาง  ตอนนี้การฝึกของแต่ละสาขาได้เริ่มขึ้นแล้ว  นางไม่มีเวลาทำตามแผนของตัวเองมากนัก  การเข้ามาในสำนักธาราเมฆ  นอกจากจะฝึกคนเก่งๆให้กับวิหารมารโลหิตแล้ว  นางยังต้องพัฒนาพลังของตัวเองด้วย

“อย่าให้จวินอู๋รู้ล่ะ”  กู่ซินเยียนยอมจำนนในที่สุด