ตอนที่ 1546 ครูที่รักเหล้ายิ่งชีพ (3)
จวินอู๋เสียใช้เวลาถึง 3 วันเต็มในการทำความสะอาดหอจันทร์แรม ในช่วงนั้น ภาพที่นางลากถุงขยะใบใหญ่และเล็กออกมาถูกศิษย์จำนวนมากพบเห็นเข้า เกิดเสียงโจษจันขึ้นมากมายท่ามกลางเหล่าศิษย์ใหม่ของสำนักธาราเมฆ
ตั้งแต่งานชุมนุมเทพยุทธ์ จวินอู๋เสียเจอกับเรื่องพลิกผันมากมาย ความหายากของเผ่าจ้าววิญญาณทำให้นางเป็นเป้าหมายแย่งชิงของสิบสองวิหารทั้งหมด สร้างความอิจฉาให้กับเหล่าผู้เยาว์มากมาย แต่ไม่มีใครคาดคิดว่านางจะเลือกวิหารหยกวิญญาณที่ตกต่ำลงไปแล้ว
และหลังจากเข้าสำนักธาราเมฆ ศิษย์คนอื่นๆต่างเริ่มฝึกกันหมดแล้ว มีเพียงจวินอู๋เสียที่ต้องมาทิ้งขยะ ทำให้พวกผู้เยาว์ที่อิจฉาจวินอู๋เสียพากันแอบหัวเราะเยาะ
“คนเหมือนกันแต่ชีวิตไม่เหมือนกัน ข้าคิดว่าเจ้านั่นจะเก่งกาจอะไรนักหนา แต่ก็แค่นั้นแหละ วิหารหยกวิญญาณจะเทียบกับสิบสองวิหารได้ยังไง? คนที่สำนักธาราเมฆไม่ได้โง่ ใครจะสอนคนจากวิหารหยกวิญญาณอย่างจริงจังกัน?” พวกผู้เยาว์รวมกลุ่มพูดคุยกันหลังการฝึกจบลง
“ข้าว่าก็ดีออก เอาขยะไปทิ้ง เหมาะกับเขาดีไม่ใช่หรือ? ฮ่าๆ”
แล้วพวกผู้เยาว์ก็พากันหัวเราะ
จวินอู๋เสียออกมาจากหอจันทร์แรมและกำลังเดินทางกลับหอพัก นางก็เจอเข้ากับกลุ่มผู้เยาว์ขี้นินทากลุ่มนั้น นางเดินผ่านไปอย่างสงบ แต่เห็นได้ชัดว่าผู้เยาว์พวกนั้นไม่คิดจะปล่อยนางไปง่ายๆแบบนั้น
“เฮ้ จวินอู๋! ห้องข้าไม่ได้ทำความสะอาดมาหลายวัน ทำไมเจ้าไม่ทำความสะอาดให้ข้าด้วยล่ะ?”
“ใช่ๆๆ! ของข้าด้วย! ไม่ต้องห่วง ข้าจะจ่ายให้ ไม่ให้เจ้าทำฟรีหรอก”
“บอกให้นะจวินอู๋ ทำไมเจ้าไม่ดูแลห้องให้พี่น้องเราที่นี่ล่ะ แล้วพวกเราจะช่วยชี้แนะให้เจ้าสักอย่างสองอย่างนอกเวลาฝึกของเราไง ข้อตกลงดีจะตาย ไม่ใช่ว่าตอนพวกเราจบจากที่นี่กลับไปแล้ว เจ้ายังต้องอยู่ทำงานขี้ข้าพวกนี้ในสำนักต่อล่ะ”
คำพูดดูถูกถากถางไล่ตามจิกกัดจวินอู๋เสียอย่างไร้ปราณีราวกับฝูงสุนัขบ้า จวินอู๋เสียเดินผ่านผู้เยาว์พวกนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา ไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ผู้เยาว์พวกนั้นเห็นจวินอู๋เสียเงียบก็ยิ่งคึกคะนอง การกระซิบกันเบาๆในตอนแรกก็กลายเป็นการดูถูกอย่างโจ่งแจ้งในวันนี้
กู่ซินเยียนยืนอยู่ในเงามืด มองจวินอู๋เสียเดินผ่านไปท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ยหยัน ใบหน้างามประดับด้วยรอยยิ้ม
หลินเฮ่าอวี่เดินตามหลังกู่ซินเยียนอย่างใกล้ชิด สายตาของเขามองด้านหลังจวินอู๋เสียที่ห่างออกไป ในใจเต็มไปด้วยความยินดี
กู่ซินเยียนมักจะทำดีกับจวินอู๋เสีย การใจดีแบบนี้ทำให้หลินเฮ่าอวี่อิจฉามาก เมื่อเห็นจวินอู๋เสียตกอยู่ในสภาพเลวร้ายเช่นนี้ ความยินดีในหัวใจก็ชัดเจนจนไม่จำเป็นต้องพูด นอกจากนี้กู่ซินเยียนก็แค่มองดูอยู่เงียบๆ ไม่มีทีท่าจะก้าวเข้าไปช่วยเลยสักนิด ทำให้หลินเฮ่าอวี่มีความสุขมาก
สุดท้ายแล้ว จวินอู๋ก็มีความสุขกับความรุ่งโรจน์ที่ได้มาจากความหายากของเผ่าจ้าววิญญาณเพียงแค่ชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น
ในสำนักธาราเมฆ ข้อได้เปรียบของการเป็นคนจากเผ่าพิเศษได้สิ้นสุดลงทันทีที่เขาเลือกวิหารหยกวิญญาณ พวกเขาเริ่มการฝึกที่แท้จริงกันแล้ว แต่สำนักธาราเมฆกลับให้จวินอู๋ทำงานคนใช้ ช่างปฏิบัติได้แตกต่างกันเหลือเกิน
“น่าสมเพช ดูเหมือนสำนักธาราเมฆจะไม่ให้ความสำคัญกับเผ่าจ้าววิญญาณเท่าไรนัก ตอนนี้จวินอู๋ไม่ได้รับการชี้แนะที่เหมาะสมและยังไม่สามารถฝึกฝนได้ แต่กลับกลายมาเป็นภารโรงของสำนักธาราเมฆแทน ข้าว่าเขาคงไม่มีโอกาสได้ออกไปจากที่นี่ชั่วชีวิตแล้ว” น้ำเสียงของหลินเฮ่าอวี่มีความเห็นอกเห็นใจอย่างมาก แต่สีหน้าไม่มีความเมตตาใดๆ กลับเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยแทน
กู่ซินเยียนชำเลืองมองหลินเฮ่าอวี่ สถานการณ์ตอนนี้ของจวินอู๋ย่ำแย่จริงๆ ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเลวร้ายอย่างมาก