ตอนที่ 412 เมื่อดาบเทวะหลุดออกจากฝัก

นายน้อยเจ้าสำราญ

ตอนที่ 412 เมื่อดาบเทวะหลุดออกจากฝัก

เมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่มาถึง

แสงสุริยาสาดส่องลงมายังหุบเขาเยว่หมิง

เมื่อกงเซินจ่างมองเห็นหุบเขาเยว่หมิงที่กว้างใหญ่ถูกล้อมรอบไปด้วยกองทัพทหารจากชายแดนทางเหนือ

เขาก็ยิ่งเข้าใจว่า…มันได้สิ้นสุดลงแล้ว

หลายวันมานี้เขารู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง ส่วนกองกำลังของเขา ห้าวันห้าคืนแล้วที่มิได้กินมิได้นอน แม้แต่ตัวเขาเองก็มิมีกะจิตกะใจจะทำอะไรต่อไปแล้ว เขาเพียงแค่อยากหาที่สะอาด ๆ เพื่อนอนหลับพักผ่อน

ดังนั้น จึงมิมีการต่อสู้เกิดขึ้นที่นี่ กองทัพชาวนาของกงเซินจ่างยอมจำนนและทิ้งอาวุธไปทั้งหมดแล้ว

เผิงเฉิงอู่สั่งให้พลทหารพาตัวเชลยศึกทั้งหมดไปที่กองทัพสวรรค์ แต่ตัวเขากลับไปที่กู๋โข่วภายใต้การอารักขาขององครักษ์นับร้อย

ทางด้านดาบเทวะก็รู้สึกเหนื่อยล้ามากแล้วเช่นกัน พวกเขากำลังนั่งพักกันอยู่ที่กู๋โข่ว กินอาหารและฟื้นฟูกำลังของตนเอง

แต่ถึงกระนั้น เผิงเฉิงอู่ก็ยังคงเห็นทหารหลายร้อยนายคอยเฝ้าสังเกตุการณ์อยู่ทั่วทุกทิศ นี่เป็นกองทัพแบบไหนกัน ?

ในมุมที่ไกลออกไป ไป๋ยู่เหลียนและฟู่เสี่ยวกวนกำลังกินเสบียงอาหารพร้อมกับสนทนากัน

“ผลงานดีถึงเพียงนี้ เขาจะต้องมาขอบคุณท่านเป็นแน่…” ฟู่เสี่ยวกวนกัดแป้งทอดแล้วเอ่ยว่า “ท่านต้องไปพบเขา เพราะว่าท่านจะต้องนำคำกล่าวของข้าไปบอกกับเขา”

“คำกล่าวอะไรกัน ? ”

“ตอนนี้กงเซินจ่างถูกจับไปแล้ว กองกำลังของเขาล้วนแต่เป็นชาวนา ท่านบอกเขาด้วยว่าให้ปล่อยพวกเขาทั้งหมดไป…” ฟู่เสี่ยวกวนหยิบจดหมายหนึ่งฉบับออกมาจากแขนเสื้อ “นี่…มอบมันให้กับเขา หลังจากที่เขาดูแล้ว เขาจะรู้เองว่าต้องทำเยี่ยงไรต่อไป”

ไป๋ยู่เหลียนรับจดหมาย “ท่านจะมิปรากฏตนเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

“บัดนี้ยังก่อน ! ”

ไป๋ยู่เหลียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟู่เสี่ยวกวน เขาจึงมิได้ไถ่ถามอะไรให้มากความอีก เขากัดแป้งทอดแล้วเดินไปหาเผิงเฉิงอู่ ในใจของเขาตอนนี้มีหลายอารมณ์

เผิงเฉิงอู่ แม่ทัพของกองทัพชายแดนเหนือ !

นี่คือสุดยอดนักรบที่ยังมีชีวิตอยู่ !

คิดย้อนกลับไปในตอนนั้น ข้าเองก็เป็นเพียงแค่ทหารม้าตัวเล็ก ๆ ในเขตชายแดนตะวันออกที่มีคนมิเกิน 1,000 คน อย่าเอ่ยถึงระดับท่านแม่ทัพเลย แม้จะแอบมองจากที่ไกล ๆ ยังเป็นเรื่องยาก

แต่ทว่าบัดนี้เขากลับยืนอยู่เบื้องหน้าท่านแม่ทัพและมีบทสนทนาที่เท่าเทียมกัน

นี่คือดาบเทวะ !

เขามิได้รู้สึกกังวลเลยที่ต้องมาอยู่ต่อหน้าท่านแม่ทัพ เพราะว่าเขาคือผู้ชนะ และเป็นเพราะดาบเทวะที่เขาฝึกฝนมานั้น ทำให้เขารู้สึกภาคภูมิใจกับกองทัพที่แข็งแกร่งนี้

ฟู่เสี่ยวกวน เจ้าคนร้ายกาจ !

เผิงเฉิงอู่มองไปยังนายพลหนุ่มหล่อคนนี้ที่กำลังเดินมาหาเขา ในใจเขามีหลากหลายอารมณ์ปะปนกันอยู่ เขาเป็นคนที่เข้ามาแทนที่คนเก่าสินะ เขาเพิ่งจะอายุเท่าใดกัน ? เพิ่งจะยี่สิบต้น ๆ เองมิใช่หรือ

แต่เขากลับมีกองทัพที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ได้ มีกองกำลังเพียง 4,000 คน และยังสามารถขับไล่กองกำลังกว่าหนึ่งแสนคนของกงเซินจ่างอยู่ตั้งห้าวันห้าคืน !

นี่มันเป็นกำลังรบแบบไหนกัน ?

เผิงเฉิงอู่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปมิได้

และนี่ถือว่าสังกัดอยู่ในหน่วยไหนกัน ?

เผิงเฉิงอู่อยากจะรู้เสียจริง ๆ

ไป๋ยู่เหลียนยืนกัดแป้งทอดอยู่เบื้องหน้าของเผิงเฉิงอู่ ร่างกายของเขามิได้กำยำเท่ากับเผิงเฉิงอู่ แม้แต่ความสูงก็ยังเตี้ยกว่าเผิงเฉิงอู่ถึงครึ่งหัว แต่พลังของเขาที่สื่อออกมากลับมิได้น้อยไปกว่าเผิงเฉิงอู่เลยสักนิด

ในปากของเขายังเคี้ยวมิหยุดและเอ่ยว่า “ข้าหิว ขอท่านแม่ทัพรอข้ากินแป้งทอดให้หมดเสียก่อน”

ทหารองครักษ์ของเผิงเฉิงอู่จ้องมองด้วยความประหลาดใจ แต่ก็มิได้ตำหนิไป๋ยู่เหลียนเรื่องความเชื่องช้า นี้คือกองทัพที่ทุกคนให้ความเคารพ และนายพลที่อยู่เบื้องหน้าเขาคือผู้นำของกองทัพนี้ ! ดังนั้นเขาจึงเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การเคารพของทุกคน !

ทหารชายแดนเหนือกว่าแสนนายมิสามารถบุกยึดภูเขาทางเหนือได้สำเร็จ แต่กลับถูกนายพลหนุ่มพร้อมกับทหาร 4,000 นายที่อยู่ตรงหน้าไล่ล่ากองกำลังของกงเซินจ่างไปยังหุบเขาเยว่หมิงอีกทั้งกองกำลังของกงเซินจ่างยังเหลือทหารเพียงแค่ 8,000 คนเท่านั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือกองกำลังของกงเซินจ่างพ่ายแพ้และสูญเสียทหารไปอย่างน้อย 100,000 คน !

นี่คือผลงานการต่อสู้ที่พวกเขามิสามารถรับได้ !

ในบันทึกประวัติศาสตร์ของราชวงศ์หยูนานกว่าสองร้อยปี ไม่สิ…บันทึกนับพันปี ผลงานการต่อสู้เช่นนี้มิเคยมีมาก่อน !

นั้นมิใช่หมูแสนกว่าตัว !

แต่พวกเขาทำสำเร็จ !

จากนั้นพวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นท่านแม่ทพยกมือขึ้นพร้อมกับแสดงความเคารพต่อไป๋ยู่เหลียน “เยาวชนผู้กล้าหาญ ! ข้าขอแสดงความนับถือ ! ”

ไป๋ยู่เหลียนตื่นตกใจทันพลันจนแทบจะสำลักแป้งทอด

ความเป็นทหารฝังเข้าไปในกระดูกของเขาแล้ว เขาทำงานในกองทัพชายแดนตะวันออกมาเป็นเวลาหลายปี เขารู้เรื่องตื้นลึกหนาบางของกองทัพเป็นอย่างดี นี่คือแม่ทัพหนึ่งในสี่ของกองทัพชายแดนแห่งราชวงศ์อู๋ !

ไป๋ยู่เหลียนสำรอกแป้งทอดออกมาทางปาก เขายืนตัวตรงพร้อมทำความเคารพ “ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษแห่งดาบเทวะ ไป๋ยู่เหลียน คารวะท่านแม่ทัพ ! ”

วิธีทำความเคารพของเขามิเหมือนกับคนอื่น ในสายตาของเผิงเฉิงอู่และองครักษ์ของเขา รู้สึกว่าการทำความเคารพเช่นนี้มีพลังและกล้าหาญมากยิ่งนัก !

เผิงเฉิงอู่มองไปที่ไป๋ยู่เหลียน และคิดว่านี่อาจจะเป็นทายาทเยาวชนแห่งราชวงศ์หยู !

สุริยาสีแดงกำลังส่องสว่างขึ้นมา

อนาคตก็เหมือนทะเลที่แสนยาวไกล !

“อาวุโสผู้นี้รู้สึกละอายใจมากยิ่งนัก ขอให้นายพลไป๋นำกองกำลังทหารไปค่ายใหญ่เพื่อจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยเถิด”

ไป๋ยู่เหลียนส่ายหัว “จุดประสงค์ของพวกเรามิใช่การสังหารกงเซินจ่าง แต่คือความสุขสงบในผืนปฐพี ในตอนนี้หย่งหนิงโจวแทบจะกลายเป็นเมืองร้างไปแล้ว พื้นนาแห้งแล้ง และยุ่งเหยิงไปหมด…”

เขาชะงักไปชั่วครู่ สูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกับเอ่ยว่า “ตอนนี้ฝ่าบาทกำลังดำเนินการตามแผนนโยบายเพื่อความก้าวหน้าทั้งด้านการค้าและการเกษตร ผิงหลิงและชวูอี้สองพื้นที่นี้เป็นพื้นที่นำร่องในหย่งหนิงโจว และชาวบ้านจากทั้งสองแห่งนี้นี่แหละที่ถูกกงเซินจ่างเกณฑ์ไปเป็นกองกำลัง”

“ท่านนายพล ระหว่างทางมาที่นี่พวกเราได้ผ่านหมู่บ้านขนาดใหญ่ แต่กลับเห็นเพียงชายชราคนเดียวเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน”

“ชายชราผู้นั้นถามข้าว่าชีวิตสำคัญหรือกฎหมายสำคัญเล่า… ตอนนี้ข้าได้เข้าใจแล้วว่าชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพึ่งพากงเซินจ่างเพื่อความอยู่รอด มันมิใช่ความผิดของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่เป็นที่นโยบายของทางราชสำนักต่างหากเล่า”

เผิงเฉิงอู่รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก “แม่ทัพไป๋โปรดเอ่ยอย่างระมัดระวังด้วยเถิด”

ไป๋ยู่เหลียนยกยิ้มขึ้นและเอ่ยต่อว่า “มิเห็นจะเป็นอะไรเลยนี่ นี่คือความจริงดังนั้นคำขอเดียวของข้า คือขอให้ท่านนายพลปลดปล่อยชาวนาเหล่านั้น พวกเขามิใช่ทหารแต่พวกเขาเป็นเพียงแค่ชาวนา… จัดการกงเซินจ่างและยังทำให้ทั้งสองฝั่งของแม่น้ำหวงเหอเต็มไปด้วยศพตั้งแต่ภูเขาทางเหนือจนถึงที่นี่ ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นความดีความชอบของดาบเทวะ ขอท่านโปรดเมตตาด้วย”

นี่คือสิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนเป็นกังวลมากที่สุด คือคุณธรรม !

เผิงเฉิงอู่มิได้เห็นถึงความดีความชอบเหล่านั้น เขาอยากนำคนพวกนั้นไปตัดหัวเสีย !

แน่นอนว่าหากเผิงเฉิงอู่จะตัดหัวคนเหล่านั้นก็ย่อมมิผิดกฎหมาย เพราะถือว่าพวกเขาเป็นกบฏ !

เผิงเฉิงอู่ขมวดคิ้วเล็กน้อยและลังเลอยู่ชั่วครู่ เขารู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก !

ใจก็อยากจะสังหารทิ้งไปเสีย !

ไป๋ยู่เหลียนยื่นจดหมายให้กับเขา “ถ้าหากท่านแม่ทัพยังมิสามารถตัดสินใจได้ ให้ลองอ่านจดหมายบับนี้ดูก่อน… นอกจากนี้ข้ายังหวังว่าท่านแม่ทัพจะสามารถส่งเสบียงอาหารของกงเซินจ่างที่ซ่อนเอาไว้ไปยังเมืองผิงหลิงและชวูอี้ให้กับเหล่าราษฎร

“พวกเขายังคงต้องการอาหารเพื่อให้อยู่รอดในฤดูหนาว มิเช่นนั้นข้าเกรงว่าโจรเหล่านี้มิมีวันกวาดล้างได้หมดสิ้นเป็นแน่”

ไป๋ยู่เหลียนแสดงความเคารพต่อเผิงเฉิงอู่อีกครา “ภารกิจพิเศษของกองกำลังพิเศษแห่งดาบเทวะได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ลาก่อน…ท่านแม่ทัพ ! ”

เผิงเฉิงอู่ชงักไปชั่วครู่ เขาจะกลับไปแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?

“นายพลไป๋ช้าก่อน ! กองกำลังพิเศษแห่งดาบเทวะอยู่ใต้บังคับบัญชาของหน่วยใดเยี่ยงนั้นหรือ ? ”

ไป๋ยู่เหลียนฉีกยิ้มกว้างจนมองเห็นฟันขาวที่เรียงสวยทั้งสองแถว

“หลินเจียง หน่วยปราบปรามซีซาน ! ”

“…… ? ”