หลังจากที่มันกระโดดขึ้น พื้นก็พลันสั่นสะเทือน รอยเท้าลึกๆ ทั้งสองข้างของมันถูกฝังไว้บนพื้นซีเมนต์ ทว่าครั้งนี้มันกลับไม่รีบร้อนเหวี่ยงแขนทั้งสองออกมาโจมตี กลับเพียงแค่ร้องคำรามอย่างเดือดดาลอยู่กลางอากาศ กล้ามเนื้อทั่วร่างกายต่างกระตุกขยับทุกส่วน ถึงกระทั่งมีเสียง “กรอบแกรบ” ดังลั่นออกมา
ภาพที่เกิดขึ้นทำเอาหลิงม่อหนังศีรษะกระตุกวาบ…
‘ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป…ต้องถูกมันโจมตีได้แน่…’
ถึงแม้บริเวณที่ซอมบี้เจ้าเมืองอยู่จะห่างออกไปกว่าสิบเมตร แต่สัญชาตญาณของหลิงม่อกลับรู้สึกแบบนี้แล้ว ทว่าภายใต้สถานการณ์ที่มีแรงกดดันของความเป็นความตายเป็นเดิมพัน ใบหน้าลิงม่อกลับมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น…
“ฉันจะกินแก!” ซอมบี้เจ้าเมืองคำรามอย่างเดือดดาล
หลิงม่อตอบรับทันที “เข้ามาเซ่”
โครม!
เสียงสนั่นกึกก้องดังลอยมาในอากาศ ตามด้วยซอมบี้เจ้าเมืองที่ตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าหลิงม่อแล้ว
แต่ภายใต้การจู่โจมอย่างรุนแรงและฉับพลันจากอีกฝ่าย หลิงม่อกลับแค่กระตุกยิ้มเล็กน้อยที่มุมปาก
“ไม่วิ่งเหรอ? งั้นก็ตายซะเถอะ!” ซอมบี้เจ้าเมืองเหวี่ยงหมัดออกมาด้วยพลังรุนแรง
ยังไม่ทันที่หมัดนี้จะเหวี่ยงโดนหลิงม่อ หลิงม่อก็รู้สึกแสบบนใบหน้าแล้ว ถ้าถูกหมัดนี้ซัดโดนจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าคงจะไม่เหลือหัวบนบ่าแล้ว
‘แต่…ฉันมีชีวิตอยู่ได้มาจนถึงตอนนี้…ก็เป็นเพราะตัวฉันดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป…’
หลิงม่อพลันหายใจเข้าลึกๆ…
“ตึกตัก! ตึกตัก!”
ในชั่วพริบตาเดียว เสียงการเต้นของหัวใจก็มาแทนที่เสียงทั้งหมดที่อยู่รอบๆ ดังวนอยู่ในหูของหลิงม่อ แม้กระทั่งในสมองก็มีเสียงนี้ดังวนเวียน ขณะจ้องหมัดที่กำลังใกล้เข้ามา ในดวงตาของหลิงม่อพลันมีภาพอื่นปรากฏแวบ จุดแสงมหาศาลเข้าแทนที่กำปั้นที่เหวี่ยงมาด้วยความเร็วแสง ใบหน้าดุดันที่เต็มไปด้วยจิตสังหารของซอมบี้เจ้าเมืองก็ถูกจุดแสงปกคลุมจนมิด…ข้อมูลมากมายที่มาพร้อมกับจุดแสงไหลเข้าสู่สมองของหลิงม่อ อย่างเช่นว่าเขาสามารถขวางกั้นมันได้หรือไม่ พลังสังหารของหมัดนี้แข็งแกร่งขนาดไหน…แต่ไม่ว่าจะยังไง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังคงเป็น…เขาต้องมีชีวิตรอด!
ไม่เพียงแต่ต้องมีชีวิตรอด แต่ยังต้องชนะอีกด้วย!
เพื่อที่จะได้รับชัยชนะอย่างรวดเร็ว หมัดนี้ เขาจะไม่หลบ…
“ย้าก!” ซอมบี้เจ้าเมืองคำรามเสียงเดือดดาลอีกครั้ง
และสายตาของหลิงม่อก็หยุดชะงักลง…เสี้ยววินาทีที่สายตาทั้งสี่ดวงสบตากัน ซอมบี้เจ้าเมืองพลันรู้สึกสมองอื้ออึงไปชั่วขณะ
แต่ไม่กระทบต่อการโจมตีของมัน…ถึงแม้ว่าร่างกายจะโซเซไปเล็กน้อย แต่กำปั้นข้างนั้นก็ยังคงโฉบกระแทกไปยังทางหลิงม่อ
“แกได้ตายแน่!” ซอมบี้เจ้าเมืองตะโกนลั่นอย่างไม่แยแส
หลิงม่อไม่พูดแม้แต่คำเดียว…ในเสี้ยววินาทีที่แววตาเปลี่ยน เขาก็ยกแขนขึ้นมาแล้ว แต่การเคลื่อนไหวต่อไปของเขากลับไม่ใช่การกระดิกนิ้วอะไรพวกนั้น แต่เป็นการกำนิ้วมือทั้งห้าแน่น กลายเป็นกำปั้น…
“คิดจะใช้กำปั้นรึ? หึๆ…” ซอมบี้เจ้าเมืองอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเสียงทื่อ ท่าทางพวกนี้ของหลิงม่อไม่ได้อยู่ในสายมันเลยด้วยซ้ำ…จากที่มันเห็น ร่างกายของมนุษย์บอบบางอ่อนแอสิ้นดี…วินาทีที่อีกฝ่ายปะทะกับตัวมัน เกรงว่าร่างกายคงจะหายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
ดังนั้นมันยังคงเคลื่อนไหวท่าทางเดิม จ่อกำปั้นไปที่หลิงม่อ…
“ไอ้มนุษย์ไม่เจียมตัว! ตายซะเถอะ!”
โครม!
ศูนย์จุดหนึ่งวินาทีผ่านไป จิตสังหารบนใบหน้าของซอมบี้เจ้าเมืองเปลี่ยนเป็นความสงสัย…จนท้ายที่สุดก็กลายเป็นความตกตะลึง
เจ้ามนุษย์นี่…มันรับไว้ได้งั้นหรือ!
ไม่เพียงเท่านี้ ซอมบี้เจ้าเมืองยังโซเซไปมาแรงๆ อย่างควบคุมไม่ได้ แล้วจึงค่อยๆ ร่อนลงสู่พื้น…
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ดวงตาทั้งสองของซอมบี้เจ้าเมืองยังคงมองหลิงม่ออย่างตะลึง “แกเล่นแง่อะไรอีก…”
และหลิงม่อที่ห้อยตัวอยู่บนเพดานก็ค่อยๆ วางกำปั้นลง รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ไปตายซะ…” หลิงม่อตอบเรียบนิ่ง
“ตาย?” ซอมบี้เจ้าเมืองพลันอึ้งงันไปชั่วขณะ…
ถึงแม้เมื่อกี้แกจะขวางกั้นไว้ได้ แต่จริงๆ แล้วมันก็ยังเป็นแค่การเสมอกัน!
“ไอ้มนุษย์ แกอวดดีเกินไปแล้ว! ฉันจะถูกแกฆ่าตายได้ยังไง… ”
ทว่าในชั่ววินาทีที่ลงสู่พื้น ซอมบี้เจ้าเมืองก็หุบปาก…
โครม!
เสียงกึกก้องเมื่อเท้าทั้งสองตกถึงพื้นดังสะท้อน สีหน้าท่าทางบนใบหน้าซอมบี้เจ้าเมืองแข็งทื่อทันที
มันยังคงเงยคอมองไปทางด้านหลังเหมือนเดิม ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองหลิงม่ออย่างไม่ลดละ
“แก…แค่กๆ…”
ซอมบี้เจ้าเมืองเพิ่งจะอ้าปากพูด ก็มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากปาก ทว่าไม่รอให้มันพูดมากไปกว่านี้ หลิงม่อก็คลายกำปั้นออก จากนั้นตามมาด้วยเสียงดีดนิ้วดัง “เปาะ”
ฉึกๆๆ!
หนวดสัมผัสหลายสิบเส้นโจมตีออกมาจากทั่วทุกสารทิศอีกครั้ง ทิ่มแทงเข้าไปภายในร่างของซอมบี้เจ้าเมือง
และครั้งนี้ กล้ามเนื้อของมันไม่สามารถหดเกร็งได้อีกแล้ว…
“โดนแก…ลอบ…” ซอมบี้เจ้าเมืองดวงตาเบิกโต หลังพูดจบด้วยอาการสำลักเลือดติดๆ ขัดๆ ก็มีเสียง “พรวด” ดังขึ้นมาพร้อมกับที่มันล้มลงไปอยู่ที่พื้น…
มันยังคงลืมตา เลือดสดไหลออกมาจากทั่วร่าง ก่อเป็นกองเลือดใต้ตัวภายในชั่วพริบตาเดียว
และบาดแผลสองที่ที่ใหญ่ที่สุด…กลับอยู่ที่ใต้ฝ่าเท้าของมัน
หลุมใหญ่ทั้งสองที่เลือดเนื้อเละเทะ ราวกับเจาะทะลวงไปทั่วทั้งร่างกายของมัน…ก่อเป็นเส้นทางสายเลือดปลิดชีวิตสองเส้น…
“ในที่สุด…ก็จัดการได้ซะที…”
หลิงม่อก้มลงมองร่างศพที่หยุดนิ่งไม่ขยับ…ทันใดนั้น เขาก็หัวเราะ พูดขึ้นมาว่า “เพื่อนร่วมรบของแกก็ตายแล้ว แกยังคิดจะดูอยู่เฉยๆ อีกเหรอ?”
คำพูดเขาดังขึ้นอย่างฉุกละหุก และภายในโกดังที่มืดสนิท ก็ไม่มีเสียงตอบสนองใดดังมา…ทว่าหลังจากนั้นไม่กี่วินาที เสียงฝีเท้าแผ่วเบาก็ดังมาจากทิศทางทางด้านประตู และตามด้วยอีกเสียงหนึ่ง
“ฉันอยากถามอะไรแกหนึ่งอย่าง…แกรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่จริงๆ หรือว่าแค่อยากหลอกถามฉันเฉยๆ?” ผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นอย่างช้าๆ
ถึงแม้ใบหน้าของหลิงม่อมีรอยยิ้ม แต่สายตากลับสะท้อนความเคร่งขรึมออกมา…
“แกคิดว่าไงล่ะ?”
กึก…กึก…กึก…เสียงฝีเท้ายังคงใกล้เข้ามาช้าๆ “แกไม่อยากตอบ งั้นก็ช่างมันเถอะ แต่ฉันมีเรื่องที่สนใจอยากลองเดาอยู่เรื่องหนึ่ง…อย่างเช่น แกยังจะทนฝืนได้อีกนานแค่ไหน?”
‘แย่แล้ว!’
หลิงม่อหัวใจกระตุกวูบไปครู่หนึ่ง เขาคลายกำปั้นออก เผยให้เห็นเหงื่อที่ไหลซึมอยู่บนฝ่ามือ ทว่าไม่นานเขาก็กำหมัดแน่นขึ้นอีกครั้ง หัวเราะเยือกเย็นพร้อมพูดขึ้นว่า “แกก็ลองดูเองสิ”
“ฮิๆ…ใจเย็นก่อน ฉันก็แค่เดาเท่านั้นเอง ในเมื่อแกก็ไม่อยากตอบเรื่องนี้ งั้นฉันจะเปลี่ยนเรื่องทายใหม่แล้วกัน แกดูสิ เพื่อนร่วมรบของฉันตายตาไม่หลับนี่นา เขาน่าจะคิดว่าตัวเองตายอย่างไม่ชัดเจนล่ะมั้ง อีกอย่างก่อนที่จะหมดลมหายใจ เขายังไม่รู้เลยว่าแกทำอะไรกับเขากันแน่ นี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเศร้าสลดเหลือเกิน…ฉันไม่น่าต้องตายสิ…มันไม่น่าจะเป็นไปได้สิ…ในใจเขาคงคิดเรื่องพวกนี้อยู่แน่ แต่…เขาไม่รู้น่ะสิ ถึงแม้เขาจะแข็งแกร่งกว่าแก แต่มันก็เป็นแค่ข้อได้เปรียบด้านพละกำลัง อีกอย่างจะสำเร็จก็สำเร็จด้วยพละกำลัง จะตายก็ตายด้วยพละกำลัง…”
กึก…กึก…
ร่างเงาเล็กๆ ปรากฏขึ้นในขอบเขตที่หลิงม่อสามารถมองได้เห็น เธอกำลังก้มหัว หลิงม่อเห็นเพียงรอยยิ้มมุมปากของเธอ “แกใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ในการฆ่าเขา”
……………………………………….