ตอนที่ 502 - บดขยี้เลเวล B

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.502 – บดขยี้เลเวล B 

 

 

 

 

 

การโจมตีของฉินเฟิงช่างรวดเร็ว เขาว่องไวปราดเปรียวน่าตื่นตา กวงเว่ยแม้ตอบสนองอย่างทันท่วงที– 

 

 

 

 

 

–แต่น่าเสียดาย ที่เขาไม่สามารถโจมตีถูกร่างของฉินเฟิงได้ 

 

 

 

 

 

อีกฝ่ายรวดเร็วเกินไป! 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงปรากฏกายขึ้นอีกที เขาก็มาถึงเบื้องหน้าของกวงเว่ยแล้ว! 

 

 

 

 

 

วู้มมม! หนึ่งหมัดเหวี่ยงซัด ตรงเข้าใส่ใบหน้าของกวงเว่ย  

 

 

 

 

 

แรงกระแทกอันรุนแรงจากกำลังภายในพลันระเบิดออก แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ตำแหน่งที่กวงเว่ยยืนอยู่ กลับกลายเป็นชั้นน้ำแข็งอย่างกะทันหัน 

 

 

 

 

 

สามารถกล่าวได้ว่า มันกลายเป็นภูเขาน้ำแข็งขนาดเล็ก 

 

 

 

 

 

เปรี้ยง! 

 

 

 

 

 

กำปั้นของฉินเฟิงหวดเข้าใส่ภูเขาน้ำแข็ง บดขยี้มันทันที 

 

 

 

 

 

น้ำแข็งแตกกระจาย แต่สักพักหยุดนิ่งกลางอากาศ แปรเปลี่ยนตนจากเศษน้ำแข็งเป็นหอกแหลม ทิ่มแทงเข้าใส่ฉินเฟิง 

 

 

 

 

 

กวงเว่ยหนีออกมาได้ทัน! 

 

 

 

 

 

“พวกนายมัวรออะไรกันอยู่? จะยืนเฉยปล่อยให้เขาฆ่าจริงๆรึไง สู้กลับสิวะ!” กวงเว่ยตะโกน 

 

 

 

 

 

กู่ฉางกับฉีหยานสบตากันวูบ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะได้คำตอบแล้ว กำลังภายในเริ่มพรั่งพรู ไหลวนไปทั่วร่างกาย หยุดอาการบาดเจ็บไว้ชั่วคราว ตัดสินใจสู้สุดกำลัง 

 

 

 

 

 

ทั้งสองกระโจนเข้าสู่สนามรบ ช่วงเวลานี้เลเวล B ทั้งสาม ปิดล้อมฉินเฟิงในรูปแบบสามเหลี่ยม 

 

 

 

 

 

ส่วนหลิวเยว่ เขาถอนตัวไกลกว่า 100 เมตร แสดงเจตนาชัดเจนว่าไม่คิดเข้าร่วมการต่อสู้ 

 

 

 

 

 

“แส่หาที่ตาย!” 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงเยาะหยัน วาดมือเรียกมังกรที่อยู่ห่างออกไปกลับเข้าหา มันว่ายวนรอบกายฉินเฟิง น้ำแข็งที่แต่เดิมอุณหภูมิติดลบ ราวกับต้องแสงตะวัน ละลายทันที 

 

 

 

 

 

“ต้องโจมตีพร้อมกัน!” กวงเว่ยตะโกน พลังสมาธิถูกระดมไม่หยุดยั้ง 

 

 

 

 

 

 

 

 

เบื้องบนท้องฟ้าเริ่มแปรผันเป็นสีขาว เกล็ดหิมะจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงตกลงมา เปลี่ยนหุบเหวอันมืดมิด ให้กลายเป็นทิวทัศน์ที่ดูประหลาดตา 

 

 

 

 

 

ผู้ใช้พลังที่อยู่ไกลออกไป สามารถเห็นฉากนี้ได้เช่นกัน 

 

 

 

 

 

นี่อาจกล่าวได้ว่าผู้ใช้อบิลิตี้กำลังทุ่มสุดตัว เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขากำลังพบเผชิญกับสัตว์ร้ายที่น่าหวาดกลัว 

 

 

 

 

 

สมควรไปช่วยดีหรือไม่? 

 

 

 

 

 

ผู้ใช้พลังบางคนลังเล แต่บางคนวิ่งออกไปทันที เพื่อต้องการดูสถานการณ์ 

 

 

 

 

 

ณ ใจกลางสนามรบ ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เทียบเปรียบกับผู้ใช้พลังเลเวล B แล้ว มันไม่ด้อยไม่กว่ากันเลย หรืออาจกล่าวได้ว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าซะด้วยซ้ำ 

 

 

 

 

 

กู่ฉางและฉีหยานทุ่มกำลังทั้งหมดที่มี ต่อสู้กับฉินเฟิงด้วยความสิ้นหวัง แต่มันเป็นแค่การดิ้นรนก่อนตาย ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเอาชนะฉินเฟิง 

 

 

 

 

 

“เทคนิคก้าวมังกร!” 

 

 

 

 

 

กำลังภายในของฉินเฟิงระเบิดออก ร่างกายดั่งให้กำเนิดพายุกระหน่ำ ราวมังกรยาวที่สามารถเรียกลมฝนได้ กำลังภายในเข้าสกัดกั้นพายุหิมะรอบตัวที่พยายามแช่แข็งตนจากภายนอก 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงพุ่งเข้าหากู่ฉางอย่างรวดเร็ว 

 

 

 

 

 

“ฉินเฟิง ไอ้คนตระบัดสัตย์ รับคมดาบนี่ไป!” ดาบยาวปรากฏในมือของกู่ฉาง อัดฉีดกำลังภายในลงไปจนเต็มเปี่ยม บังเกิดแสงจรัส สะท้อนเข้าสู่ดวงตาของฉินเฟิง แสงสว่างไสว ทำให้ดวงตาของผู้คนพร่ามัว 

 

 

 

 

 

ทว่าฉินเฟิงยังคงเยือกเย็น แม้ตามิอาจมองเห็น แต่พลังสมาธิของเขายังคงตรึงอยู่บนกายของกู่ฉาง 

 

 

 

 

 

“พลุไฟสงคราม!” ฉินเฟิงวาดคมมีดสวนกลับไปในทำนองเดียวกัน บังเกิดแสงสีแดงม่วงน่าหวาดกลัว ระเบิดออกมา 

 

 

 

 

 

“เทคนิคตะวันอาบผืนฟ้า!” 

 

 

 

 

 

ใบดาบของกู่ฉางระเบิดแสงพรั่งพราวเหลือคณา ประกายคมกล้าปกคลุมห่อหุ้มรอบกายของฉินเฟิง ราวกับต้องการสับหั่นฉินเฟิงเป็นชิ้นๆ 

 

 

 

 

 

แต่กระนั้น พวกมันทั้งหมดกลับถูกแสงสีแดงม่วงของฉินเฟิงทำลาย เป่าหายไปในคราวเดียว 

 

 

 

 

 

วินาทีถัดมา มีดกษัตริย์ครามพลันปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของกู่ฉาง 

 

 

 

 

 

ฟัฟฟฟฟ 

 

 

 

 

 

เป็นแค่เสียงเบาๆ แต่ดาบยาวในมือของกู่ฉางกลับตอบสนองต่อเสียงนี้ ทั้งคนทั้งร่างของกู่ฉางคล้ายถูกแช่แข็งอยู่ในจุดนั้น 

 

 

 

 

 

แสงเหลือคณาจากที่กระจัดกระจายอยู่รอบตัวเริ่มสลายไปทีละน้อย หัวของกู่ฉางโน้มเอียงลง สุดท้ายร่วงตกกับพื้น กลิ้งหลุนๆเหมือนลูกหนัง 

 

 

 

 

 

กู่ฉาง — ตาย! 

 

 

 

 

 

หนึ่งมือของฉินเฟิง คว้าจับมือของกู่ฉางทันที  

 

 

 

 

 

“ทักษะลับกลืนดารา!” 

 

 

 

 

 

กำลังภายในอันยิ่งใหญ่หลั่งไหลเข้าสู่ตันเถียนของฉินเฟิง  

 

 

 

 

 

ปัจจุบันตันเถียนของฉินเฟิงขยายใหญ่ขึ้นเป็นสิบเท่า ดังนั้นการดูดซับกำลังภายใน สามารถทำได้ง่ายกว่าที่แล้วๆมา  

 

 

 

 

 

ตัวกู่ฉางเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B2 ภายในร่างกายเขาครอบครองสองทะเลสาบกำลังภายใน ณ ขณะนี้ เมื่อถูกดูดซับโดยฉินเฟิง พอเข้าสู่ตันเถียน พวกมันก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็น 20 สระน้ำทันที 

 

 

 

 

 

แม้ฉินเฟิงจะยังมิได้กลั่นมัน แต่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก! 

 

 

 

 

 

การต่อสู้ดำเนินไปได้แค่ไม่กี่กระบวนท่า แต่ละฝ่ายต่างงัดออกด้วยวรยุทธที่แกร่งที่สุดของตน แต่ไม่คาดฝันเลย ว่าไม่กี่ลมหายใจ หนึ่งในสนามรบ กลับจบชีวิตลงเสียแล้ว 

 

 

 

 

 

ฉีหยานที่อยู่อีกด้านหนึ่ง เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง วินาทีต่อมา ตัดสินใจหันหลังวิ่งหนีทันที 

 

 

 

 

 

–เขายังไม่อยากตาย! 

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ก็อย่างที่บอกไป ว่าในวันนี้ ฉินเฟิงไม่คิดปล่อยศัตรู! 

 

 

 

 

 

“คิดหนีหรือ? ยังไงก็ไม่พ้นหรอก ทำแบบนี้แค่ช่วยยืดเวลาตายออกไปนิดเดียวเท่านั้น” ขณะกล่าว แสงสีดำพลันปะทุออกจากมือของฉินเฟิง 

 

 

 

 

 

เป็นลำแสงแห่งความมืด! 

 

 

 

 

 

เดิมฉีหยานเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว เวลานี้ เมื่อได้รับผลกระทบจากลำแสงแห่งความมืด ร่างกายของเขาก็อ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว 

 

 

 

 

 

“ทักษะลับกลืนดารา! ปลดปล่อยแรงดูด!” 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงดูดฉีหยานให้กลับมาหาเขา หนึ่งมือกดลงบนช่วงเอวของศัตรู ณ ตำแหน่งเบื้องหลังของตันเถียน ต่อมา กำลังภายในราวกับเขื่อนแตก พรั่งพรูออกมาอย่างบ้าคลั่งรุนแรง 

 

 

 

 

 

ฉีหยานไม่แข็งแกร่งเท่ากู่ฉาง เมื่อทะเลสาบกำลังภายในถูกสูบเข้ามาในตันเถียน ฉินเฟิงพบว่ามันเปลี่ยนเป็นสระน้ำแค่ 13 สระเท่านั้น 

 

 

 

 

 

ฉีหยานเบิกตากว้าง ตระหนักได้ว่าตนได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว 

 

 

 

 

 

“ได้ … โปรด … ” ฉีหยานคล้ายอยากจะพูดอะไรบางอย่าง บางทีอาจเป็นคำวิงวอนขอความเมตตา แต่ฉินเฟิงไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายเลย 

 

 

 

 

 

“คลื่นเปลวเพลิง” 

 

 

 

 

 

ปัง! 

 

 

 

 

 

ทั้งคนทั้งร่างของฉีหยานถูกเปลวเพลิงระเบิดใส่อย่างแรง ปลิวละลิ่วออกไป สักพักมิอาจทานทน ตามตัวปูดบวม ระเบิดออกเป็นห้าส่วน โดยเฉพาะลำตัวช่วงบนกับศีรษะ มันลอยไกลออกไปนับร้อยเมตร กลิ้งตกลงข้างๆหลิวเยว่ 

 

 

 

 

 

หลิวเยว่ต้องหลั่งเหงื่อเย็นอีกครั้ง 

 

 

 

 

 

แม้ว่ารอบกายเขา จะเต็มไปด้วยพายุน้ำแข็งก็ตาม 

 

 

 

 

 

คิดลอบจู่โจมฉินเฟิง … กวงเว่ยต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! 

 

 

 

 

 

กวงเว่ยเมื่อเหลือเพียงลำพัง ทุ่มใช้พลังทั้งหมดที่มีโจมตีฉินเฟิง แต่ทั้งหมดล้วนเปล่าประโยชน์ การโจมตีของกวงเว่ย ไม่อาจเจาะปราณกำลังภายในของฉินเฟิงได้ 

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงค่อยๆก้าวเข้าหาฝ่ายตรงข้าม 

 

 

 

 

 

ช่วงเวลานี้ กวงเว่ยฟุ้งไปด้วยความหวาดกลัว  

 

 

 

 

 

“อย่า … แกจะฆ่าฉันไม่ได้ ทำแบบนั้นไม่ได้!” 

 

 

 

 

 

กวงเว่ยร้องตะโกน เปลี่ยนร่างตนให้กลายเป็นพายุหิมะ 

 

 

 

 

 

ในสภาวะนี้ กวงเว่ยจะกลายเป็นคงกกระพัน มิอาจถูกจับต้อง 

 

 

 

 

 

ทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จากพายุหิมะ ปลีกตัวหลบหนีหายไปได้อย่างสมบูรณ์ 

 

 

 

 

 

“ในเมื่อหาแกไม่เจอ งั้นก็แค่ทำลายพายุหิมะนี้ให้หมดก็พอแล้ว!” 

 

 

 

 

 

พลังสมาธิของฉินเฟิงลุกโหม ผืนดินดำกลายเป็นสีแดงเถือกอย่างกะทันหัน 

 

 

 

 

 

“แมกมาชีพจรธรณี!” 

 

 

 

 

 

ปรากฏเพลิงหนืดอันน่าพรั่นพรึง หลอมเหลวแผ่ขยายไปหลายร้อยเมตร เปลี่ยนพื้นน้ำแข็งโดยรอบให้กลายเป็นสระลาวา หิมะร่วงหล่นกระทบมัน เพียงไม่กี่ลมหายใจ ก็ละลายหายไป 

 

 

 

 

 

ทว่าเมฆทะมึนยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า พัดกระพืออย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยหิมะร่วงตกลงมาเรื่อยๆ แต่มิกล้าร่วงหล่นลงสระลาวา เพราะเกรงจะถูกหลอมละลายจนตาย 

 

 

 

 

 

ท่ามกลางเกล็ดหิมะที่ลอยล่อง จะต้องมีกวงเว่ยแฝงตัวอยู่แน่นอน 

 

 

 

 

 

“งั้นมาลองกันสักตั้ง!” ฉินเฟิงเร่งเร้ารูนไฟ ในพริบตา ท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนสี 

 

 

 

 

 

จากแต่เดิมเป็นเมฆสีหม่น ปัจจุบันกลับถูกปกคลุมโดยเมฆแปลกๆสีแดง 

 

 

 

 

 

เมฆเหล่านี้ราวกับกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิง ต่อมา บนเมฆก็เริ่มโปรยปราย ปลดปล่อยฝนเพลิงลงมาอย่างไม่น่าเชื่อ! 

 

 

 

 

 

“เทคนิคเปลวเพลิง : ฝนดาวตก!” 

 

 

 

 

 

หากสิ่งที่กวงเว่ยปลดปล่อยออกมาคือลูกเห็บน้ำแข็ง เช่นนั้น สิ่งที่ฉินเฟิงปลดปล่อยออกมาคือลูกเห็บที่ลุกไหม้ 

 

 

 

 

 

“อา อาาาาาา อ๊ากกกกกก” 

 

 

 

 

 

ท่ามกลางพายุหิมะ ใคร คล้ายได้ยินเสียงกรีดร้องน่าสังเวชของใครบางคน จากนั้นร่างๆหนึ่งก็เปิดเผยออกมา 

 

 

 

 

 

–เป็นกวงเว่ย!  

 

 

 

 

 

เพียงพริบตาที่ปรากฏกาย กวงเว่ยก็ถูกดาวตกก้อนใหญ่พุ่งเข้าใส่ กระแทกลงตรงหน้าอกเขา 

 

 

 

 

 

พรวดดด! 

 

 

 

 

 

กวงเว่ยกระอักเลือด ร่างกายโงนเงนไร้การควบคุม สุดท้ายร่วงหล่น จมลงไปในสระลาวาบนพื้นดิน 

 

 

 

 

 

ร่างมนุษย์ลอยขึ้นมาบนผิวลาวาในช่วงแรก ณ จุดนั้นหมอกสีขาวลอยฟุ้ง ทว่าดิ้นรนได้เพียงครู่ ในที่สุดทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ