ตอนที่ 1002 ดื่มเลือดบ้าคลั่ง

Elixir Supplier

1002 ดื่มเลือดบ้าคลั่ง

แมลงได้เข้าไปกัดกินร่างกายของกั๋วเจิ้งเหอรวมไปถึงอวัยวะภายใน,กล้ามเนื้อ,และสมองเขารู้สึกเจ็บปวดในทุกส่วนของร่างกายความเจ็บปวดรุนแรงจนทําให้เขาแทบกลายเป็นบ้าเบี้ยว เหอหายได้หายตัวไปจากโรงพยาบาลทําให้หมอและตํารวจต่างพากันตื่นตระหนก“เขาหายไปไหน?หรือเขาจะหนีไปแล้ว?”

“แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้”หมอเจ้าของไข้พูด“เขาอยู่ในสภาพแบบนั้นแล้วจะหนีไปได้ยังไง?แม้แต่จะเดินเขาก็ยังหาไม่ได้เลย”
“แล้วเขาไปอยู่ที่ไหนล่ะ?”

ตํารวจต่างมึนงงสับสนพวกเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพบว่า มีกลุ่มคนที่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใครมาอุ้มเขาไป

“คนพวกนั้นเป็นใครกัน?แล้วพวกเขาพาเขาไปที่ไหน?”

ห่ายชิว ภายในห้องชั้นใต้ดินที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

“บอกฉันมา ว่าจะรักษาอาการนี้ได้ยังไง?”กั๋วเจิ้งเหอถามด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียมชิ้นเนื้อเน่าเปื่อยปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา และบนมือของเขาก็เช่นกันนิ้วมือของเขาบางนิ้วก็มีแผลเน่าเปื่อยจนเห็นกระดูกสีขาว หากมองดูดีดีก็จะเห็นแมลงตัวเล็กๆกําลังคลานยั้วเยี้ยดู
น่าสยดสยอง

ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือเมี่ยวซีเหอที่ตอกตะปูติดไว้กับแผงไม้ ไม่ว่าจะเป็นแขนขาหรือร่างกายของเขาต่างก็ถูกตอกด้วยเหล็กเส้นที่ยาวกว่าสามฟุตแต่ตามร่างกายของเขากลับมีเลือดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ฮาฮา” เมี่ยวซีเหอหัวเราะอย่างมีความสุขราวกับว่าเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย

เขาทุกทรมานด้วยวิธีการต่างๆนานาแต่เขากลับยังคงสงบอยู่ได้

เลือดของเมี่ยวซีเหอถูกหยดลงไปบนหลังมือที่เน่าเปื่อยของกั๋วเจิ้งเหอเขารู้สึกร้อนลวก

ราวกับกําลังอังมือกับเปลวไฟแล้วความเจ็บปวดบนหลังมือของเขาก็ค่อยๆลดลงเขา

“เลือดของแกสามารถจัดการกับแมลงได้สินะ?”กั๋วเจิ้งเหอมองดูหลังมือที่น่าขยะแขยงของ

“สูบเลือดของเขาออกมา ระวังอย่าให้ตายล่ะ!”

เลือดสีเหลืองทองถูกสูบออกมาและใส่ไว้ในถังน้ำถั่วเจิ้งเหอรีบยกถังน้ำขึ้นมาเทราดตัวเอง

มันได้ผลจริงๆภายในเวลาไม่นานจุดที่ถูกล้างด้วยเลือดก็รู้สึกเจ็บปวดน้อยลงเขาจึงยกถังขึ้นมาและดื่มเลือดเข้าไป

ทุกคนที่อยู่ภายในนั้นต่างพากันถอยร่นพวกเขารู้สึกหวาดกลัวกับสิ่งที่เขากําลังทําอยู่มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง

เสวี่ยซินหยวนเดินเข้าไปหากั๋วเจิ้งเหอและถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณชายรู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ?”

กั่วเจิ้งเหอหันหน้าไปและพูดว่า“เลือดฉันต้องการเลือกของมันแต่อย่าให้มันตาย!”เลือดที่เขาเพิ่งดื่มลงไปทําให้ท้องของเขาปั่นป่วน เขารู้สึกอยากอาเจียนออกมาแต่เขาก็พยายามกล้ำกลืนมันลงไป
มันเป็นค่าคืนที่บ้าคลั่ง

วันต่อมา กลับมาที่หมู่บ้านทางเหนือ…

“เชียนเชิง เมื่อวาน เมี่ยวซีเหอหายไปจากโรงพยาบาลครับ เขาโดนคนลักพาตัวออกไป”เจี๋ยจื้อจายรีบรายงานข่าวที่เขาได้รับมากับหวังเย้า

“ผมคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือของผู้ว่าเขตกั่ว”หวังเย้าพูด“เขาถูกกู่เล่นงานและพยายามที่จะเอาชีวิตรอดดังนั้นเขาสามารถทําได้ทุกอย่าง”

“แล้วเมี่ยวซีเหอจะกลับมาเล่นงานพวกเราไหมครับ?”

“ไม่หรอก” หวังเย้าพูด “ตอนที่ผมสู้กับเขา ผมพบว่าเขาไม่ได้สนใจว่าจะอยู่หรือตายอีกต่อไปแล้วเขาไม่กลัวอะไรเลยคุณคิดว่า คนที่ไม่กลัวตายแบบนั้นจะยอมปล่อยกั๋วเจิ้งเหอไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้นผู้ว่าเขตกั๋วก็คงจะไม่รอดสินะครับ”เจี๋ยจื้อจายพูด

“อาจจะไม่ใช่ก็ได้” หวังเย้าพูด“บางอย่างบอกผมว่าเขาไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆหรอก”ที่ห่ายชิว…

“เลือด ฉันต้องการเลือดอีก!”

ร่างกายของกั๋วเจิ้งเหอเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชั่วข้ามคืนส่วนที่เน่าเปื่อยเริ่มมีชิ้นเนื้อใหม่ๆเข้ามาแทนทีและบาดแผลก็ไม่เจ็บปวดอย่างที่เคยเลือดสีเหลืองทองแปลกประหลาดของเมี่ยวซีเหอที่เขาดื่มลงไปดูเหมือนจะได้ผลดีในเวลาเดียวกันมันก็ทําให้เขากระสับกระส่ายและ

เดือดดาล เขาเกิดความรู้สึกอยากทําร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าคน

“คุณชาย เราสูบเอาเลือดจากเขาไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับ”เสวี่ยซินหยวนพูดเสียงอ่อนกับถั่วเจิ้งเหอที่อยู่ในอาการใกล้คลั่ง“ถ้าเราสูบเลือดออกมามากกว่านี้เขาอาจจะตายได้”

ถั่วเจิ้งเหอสูดลมหายใจเข้าลึกอยู่หลายครั้งในดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดค่อยๆใสกระจ่างขึ้นมาเล็กน้อย

“ถ้าอย่างนั้นเราก็รอไปอีกสักพักแล้วกัน”เขาพูด

เขาเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าของตัวตึกพร้อมกับใบหน้าที่ใส่หน้ากากเอาไว้ใบหน้าของเขาดูราวกับคนที่ถูกสาดด้วยน้ำกรดมันไม่น่าดูเลยแม้แต่น้อย

“ลุงเสวี่ย หลายวันมานี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปมาก”กั๋วเจิ้งเหอพูด“ผมถูกกระตุ้นและโมโหได้ง่ายมากผมรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นคนอื่นไปแล้ว”

“หลายวันมานี้ คุณชายต้องผ่านอะไรมามาก”เสวี่ยซินหยวนพูด

“ตอนนี้ สิ่งที่คุณชายจําเป็นต้องทําคือพักผ่อนให้มากอยู่ในที่ที่สงบไร้สิ่งรบกวน”“ใช่ลุงพูดถูก”กั๊วเจิ้งเหอพูด“ผมต้องพักบ้างจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆไม่ได้”

ถั่วเจิ้งเหออาบเลือดของเมี่ยวซีเหอมาเจ็ดวันติดต่อกันเขายังดื่มเลือดของชายชราหลายแก้วต่อวันแล้วร่างกายของเขาก็ฟื้นตัวได้อย่างน่าอัศจรรย์เนื้อที่เน่าเปื่อยก็เริ่มมีเนื้อใหม่ขึ้นมาและ

ปกคลุมกระดูกที่โผล่พ้นออกมานอกจากนั้นเขายังรู้สึกเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกําลัง ราวกับมีพลังงานพวยพุ่งอยู่ภายในร่างกายของเขาไม่หยุดหย่อน

เขาเดินกลับลงไปที่ชั้นใต้ดินและพูดกับเมี่ยวซีเหอที่ใกล้ไปเยือนยมโลกว่า “ขอบใจนะ”
“แล้วแกจะต้องเสียใจ”

“เสียใจ? แต่ถึงยังไงแกคงไม่ทันได้อยู่เห็นมันหรอก”

“ฉันจะทําลายหุบเขาและทุกอย่างที่แกพยายามปกป้องให้หมด!”

เมี่ยวซีเหอหลับตาลงและไม่พูดอะไรอีกในคลินิกที่หมู่บ้าน….

เจิ้งเหว่ยจวินมีท่าทางตื่นเต้นและพึงพอใจ

“เชียนเชิง ยาขับพิษร้อนกับยาล้างพิษได้รับความนิยมมากเลยครับ” เขาพูด “ชื่อเสียงของเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากการพูดกันปากต่อปาก

“อืม ตราบใดที่วัตถุดิบดียาก็ต้องออกมาดีอยู่แล้ว”หวังเย้ายิ้มพูด

“พอคิดย้อนไปถึงตอนที่ผมต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว เพื่อขอความช่วยเหลือจากคนอื่น” เจิ้งเหว่ยจวินพูด “แล้วมาตอนนี้ที่ผมแค่นั่งไขว้ห้างรอให้ลูกค้ามาอ้อนวอนขอร้องผมแทน มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากเลยล่ะครับ!” ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจนั้นเขาได้เดินทางไปตามร้านค้าและบริษัทต่างๆเพื่อขอร้องและขอโอกาสให้ได้ขายยาของเขาออกไปเขาถูกประตูปิดใส่หน้านับครั้งไม่ถ้วน แต่ตอนนี้ทุกคนกลับพยายามเข้าหาเขาแทน

ในตอนที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่นั้น เจี๋ยจื้อจายก็เข้ามาในคลินิก เมื่อเห็นว่าเจิ้งเหว่ยจวินอยู่ที่นี่เขาจึงยังไม่ได้พูดอะไรมากและทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มเท่านั้น

“ผมคงไม่รบกวนพวกคุณสองคนแล้ว” เจิ้งเหว่ยจวินพูด “ผมขอตัวก่อนนะครับเชียนเชิง
“ดูแลตัวเองดีดีล่ะ” หวังเย้าพูด

“ผมมีเรื่องต้องบอกเรียนเชิงครับ”

“ร่างของเมี่ยวซีเหอถูกพบที่ชายหาดในหายชิวครับ” เจี๋ยจื้อจายพูด “เขามีบาดแผลทั่วร่างกาย

ดูเหมือนว่าเขาจะถูกทรมานอย่างหนักเลยล่ะครับ”

“อย่างนั้นเหรอ? น่าเศร้าจริงๆ” เมื่อได้ยินข่าว หวังเย้าก็ได้แต่ถอนหายใจ เมี่ยวซีเหอยังคงถือว่าเป็นตําานานบทหนึ่ง

“ที่ยิ่งไปกว่านั้น เลือดในร่างกายของเขายังถูกสูบออกไปจนแทบไม่เหลือด้วยครับ”เจี๋ยจื้อ
จ่ายพูด

“เลือด?” หวังเย้าชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น

“ดูเหมือนว่า ผู้ว่าเขตกั้วจะหาวิธีรักษากู่พบแล้วสินะ”

“ด้วยเลือดน่ะเหรอครับ?”

“ลองคิดดูสิ” หวังเย้าพูด“เมี่ยวซีเหอพกแมลงพิษไว้กับตัวเป็นจํานวนมากแต่เขากลับไม่ได้รับผลกระทบจากพวกมันเลยแสดงว่ามันจะต้องมีบางอย่างในตัวเขาที่สามารถใช้จัดการกับแมลง

พวกนั้นได้ แล้วเขายังกลั่นร่างกายตัวเองด้วยยามาก่อนยาได้ซึมเข้าสู่ร่างกายของเขารวมไปถึงอวัยวะภายในและจิตวิญญาณของเขาด้วยเขานับได้ว่าเป็นมนุษย์ยาไปแล้วดังนั้นเลือดใน

ร่างกายของเขาก็ต้องสามารถจัดการกับแมลงพิษพวกนั้นได้เหมือนกัน”

“กั่วเจิ้งเหอมีโชคมหาศาลจริงๆ” เจี๋ยจื้อจายพูด

“คอยจับตาดูเขาให้ดี”หวังเย้าพูด“ในหัวเขามีแต่แผนการร้ายเต็มไปหมด”

“ได้ครับ เชียนเชิง” เจี่ยจื้อจายตอบ

เวลาไหลผ่านไป ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว ฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนแล้ว

ในมหาวิทยาลัยเยินชิง…

ซูเสี่ยวซวีกําลังเตรียมตัวที่จะกลับบ้าน

“เสี่ยวซวี!” เสียงชายคนหนึ่งเอ่ยเรียกชื่อของเธอ

“เจิ้งเหอ?”ซูเสี่ยวซวีหันไปตามเสียงเรียกและเห็นกั๋วเจิ้งเหอที่อยู่ในชุดสูทราคาแพงเขากลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้วรอบตัวเขาเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อธิบายไม่ถูกในมือของเขายังมีดอกไม้ช่อหนึ่งด้วย

“ดอกไม้ช่อนี้สําหรับเธอ” เขาพูด

“ขอบคุณ แต่ฉันคงรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ”ซูเสี่ยวซวีไม่ยอมรับดอกไม้จากเขา

“ตอนนี้ ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้ว และฉันจําได้ว่า ฉันบอกคุณไปหลายครั้งแล้ว”ซูเสี่ยวซวีพูดด้วยน้าเสียงที่ไม่พอใจ

“เรื่องนั้นผมรู้ แต่พวกคุณสองคนยังไม่ได้แต่งงานกัน ก็แสดงว่าผมยังมีหวังอยู่”กั๋วเจิ้งเหอพูด“ฉันไม่ชอบคุณ”ซูเสี่ยวซวีพูดเสียงเย็น “ความจริงฉันไม่ชอบคุณมากๆ”

“คุณก็ยังเป็นเหมือนเดิมไม่มีผิด” ถั่วเจิ้งเหอพูด

“อย่ามาหาฉันอีก” ซูเสี่ยวซวีพูดเสียงเย็น ก่อนจะหันหลังและเดินจากไป

“ไม่สําคัญหรอก คนเราไม่มีอะไรแน่นอน แล้วถ้าผมบอกคุณว่า ผู้ชายคนที่คุณชอบตายไปแล้วล่ะ?” ถั่วเจิ้งเหอพูดพึมพํากับตัวเอง

เขาไม่ได้พูดเสียงดังแต่ซูเสี่ยวซวีก็ได้ยินคําพูดของเขาอย่างชัดเจนเธอหยุดชะงักและหันกลับไปมอง

“กั่วเจิ้งเหอ ถ้าเขาได้รับอันตรายไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ฉันจะทําให้คุณต้องชดใช้อย่างสาสมถั่วเจิ้งเพียงหัวเราะออกมา

“กั่วเจิ้งเหอมาที่บ้านของเรา”เมื่อกลับไปถึงที่บ้านซูเสี่ยวซวีก็ได้ยินจากแม่ของเธอว่ากั๋วเจิ้งเหอมาที่บ้าน

“เขามาทําอะไรที่นี่คะ?” เธอถาม

“เขาพูดข้ามไปข้ามมาจนแม่ฟังเขาไม่รู้เรื่องเลยสักอย่าง”ซงรุ่ยปิงพูด “เขาดูเปลี่ยนไปมาก “ใช่ค่ะแล้วเขายังมาหาหนูที่มหาลัยด้วย” ซูเสี่ยวซวีพูด“แล้วคําพูดสุดท้ายของเขาก็ยังน่ารังเกียจมากด้วยค่ะ”

“โอ้? เขาพูดว่าอะไรเหรอจ๊ะ?” ซงรุ่ยปิงถาม

ซูเสี่ยวซวีบอกสิ่งที่เขาเคยพูดกับเธอให้แม่ของเธอฟัง

ซงรุ่ยปิงกระแอมเล็กน้อยและพูดว่า “อึมลูกพยายามอยู่ห่างเขาให้มากดีกว่านะจ๊ะถ้าฟังจากที่เขาพูดแล้วดูเหมือนว่าสภาพจิตใจของเขาจะไม่ปกติเท่าไหร่”