บทที่ 1562+1563

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1562 เจ้าสงสัยอะไร?

เมื่อเห็นว่าตี้ฝูอีจัดการเสร็จไปขึ้นตอนหนึ่งแล้ว ในที่สุดหลานเหยากวงจึงถือโอกาสสอบถาม “พี่หวง เกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นใช่หรือไม่? นางไม่เป็นไรใช่หรือเปล่า? จะฟื้นขึ้นมายามไหน?”

หน้าผากของตี้ฝูอีมีเหงื่อซึม สีหน้าก็ค่อนข้างซีดเซียว เขากำลังมองกู้ซีจิ่วที่หลับใหลอยู่อย่างเหม่อลอย หลานเหยากวงเอ่ยถามไปสองรอบเขาถึงคล้ายว่าจะได้ยินแล้ว โบกมือเล็กน้อย กล่าวเพียงสองคำ “ออกไป!”

หนังหน้าหลานเหยากวงยังคงหนาอยู่บ้าง เขาไม่ยอมเลิกรา “พี่หวง ผู้น้องขอกล่าวตามตรง ครานี้ที่หญิงฟื้นขึ้นมานิสัยใจคอค่อนข้างผิดแผกไป ไม่เหมือนที่นางเคยเป็นเลยสักนิด แน่นอนว่านางยังมีความทรงจำของพี่หญิงอยู่ ทว่าเหตุใดผู้น้องจึงรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ อยู่ตลอดเล่า?”

เขาไม่เหมือนกับหลานจิ้งอี๋ ตอนที่หลานจิ้งเคอตายหลานจิ้งอี๋ยังเล็กนัก นางไม่มีทางทราบว่าพี่หญิงของนางมีบุคลิกเช่นไร แต่ยามนั้นหลานเหยากวงโตมากแล้ว มีความคิดความอ่าน ย่อมจดจำได้

ตี้ฝูอีกวาดตามองเขาแวบหนึ่ง “เจ้าสงสัยอะไร?”

หลานเหยากวงเกาศีรษะ “ผู้น้องเองก็ทราบว่าพี่หญิงหลับใหลไปนานถึงเพียงนี้ พี่หวงก็เคยบอกไว้แล้ว ดวงวิญญาณของพี่หญิงกระจัดกระจายไม่ครบถ้วน เป็นท่านใช้ดวงวิญญาณอื่นเข้าซ่อมเสริม โดยเฉพาะร่างของแม่นางกู้ที่เป็นดวงจิตของพี่หญิงกลับชาติมาเกิด ยามนี้ถึงแม้จะหวนคืนมาแล้ว แต่ก็ยังมีเงาของแม่นางกู้หลงเหลืออยู่ ดังนั้นถ้านิสัยนางจะดูเหมือนแม่นางกู้ไปบ้างก็ไม่แปลก แต่พี่หญิงเคยเป็นถึงประมุขเผ่าเงือกที่พลังวิญญาณบรรลุขั้นสิบแล้ว ผู้น้องรู้สึกว่าถึงแม้นางจะเกิดใหม่ อุปนิสัยหลักก็ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไป แต่นาง…”

“เจ้าผิดแล้ว! ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดเมื่อถือกำเนิดใหม่นิสัยล้วนเปลี่ยนแปลงไป ซ้ำยังมีความเกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมและนิสัยใจคอของบิดามารดาด้วย บางคนต่อให้ไม่เกิดใหม่ หากว่าพบพานความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นิสัยก็จะแปรเปลี่ยนไปมากเช่นกัน เมื่อน้องหญิงสิ้นชีพเดิมทีวิญญาณก็แตกสลายกระจัดกระจายไปแล้ว แต่เนื่องจากนางมีพลังวิญญาณสูง ดวงวิญญาณจึงคงสภาพไว้ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ดังนั้นดวงจิตหนึ่งของนางถึงไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ได้ และดวงจิตก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในสามดวงจิตหลัก รับผิดชอบควบคุมอารมณ์ของมนุษย์ กู้ซีจิ่วในชาตินี้ประสบความเปลี่ยนแปลงมากมาย บุคลิกแข็งแกร่ง มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์ของตนอยู่ก่อนแล้ว แต่ดวงวิญญาณส่วนที่เหลือของน้องหญิงฝืนยัดเยียดหลอมรวมเข้าไป ดังนั้นหลังจากนางฟื้นคืนชีพขึ้นมา อุปนิสัยของนางจะคล้ายคลึงกับกู้ซีจิ่วอย่างยิ่ง ถึงขั้นที่เป็นไปได้ว่านางจะมีความทรงจำของกู้ซีจิ่วอยู่ด้วย เรื่องเหล่านี้ล้วนมีความเป็นไปได้”

หลานเหยากวงนิ่งงัน “ท่านจะบอกว่าเมื่อนางฟื้นขึ้นมาจะมีบุคลิกของแม่นางกู้งั้นหรือ?”

“มีความเป็นได้แปดส่วนว่าจะเป็นเช่นนี้”

หลานจิ้งอี๋ที่แปะอยู่ข้างฝามาโดยตลอดทึ่มทื่อไปครู่หนึ่ง ขมวดคิ้วแน่น นางเกลียดชังกู้ซีจิ่ว! ทว่านึกไม่ถึงเลยว่ากู้ซีจิ่วเป็นดวงจิตพี่สาวแท้ๆ ของตนกลับชาติมาเกิด…

มิน่าเล่าตี้ฝูอีถึงรักกู้ซีจิ่ว ซ้ำยังคิดจะวิวาห์กับนาง เป็นเพราะกู้ซีจิ่วเดิมทีก็เป็นดวงจิตของพี่หญิงที่กลับชาติมาเกิด!

เมื่อก่อนตี้ฝูอีรักพี่หญิงของนาง ซ้ำยังเป็นคู่หมั้นของพี่หญิง เขาชอบนางก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมแล้ว

เช่นนั้นหลังจากพี่หญิงฟื้นคืนชีพ ตี้ฝูอีจะแต่งกับพี่หญิงก็เป็นเรื่องชอบธรรมตามเหตุผลแล้วมิใช่หรือ?

ในใจของหลานจิ้งอี๋มีความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายได้ทวีขึ้นมา

“พี่หวง ท่านวางแผนฟื้นคืนชีพให้พี่หญิงมาหลายพันปีแล้ว ความรักลึกซึ้งที่มีต่อพี่หญิงสามารถสั่นสะเทือนฟ้าดินได้เลย ผู้น้องเลื่อมใสยิ่งนัก รอจนพี่หญิงฟื้นขึ้นมา ผู้น้องจะจัดเตรียมงานวิวาห์ที่ยิ่งใหญ่อลังการให้แก่พวกท่าน ให้พวกท่านที่รักใคร่กันได้ร่วมหอลงโลงกันเสียที” หลานเหยากวงทั้งตื้นตันทั้งปีติยินดี ในใจเริ่มร่างแผนงานวิวาห์นั้นแล้ว

“เอาไว้ค่อยคุยเถิด” ตี้ฝูอีดูสงบนิ่งยิ่งนัก

หลานเหยากวงคาดไม่ถึงว่าเขาจะมีท่าทีเช่นนี้ ชะงักงันไปครู่หนึ่ง คล้ายจะนึกอะไรขึ้นได้ “พี่หวง ในเมื่อนางกู้เป็นดวงจิตสายหนึ่งของพี่หญิงที่กลับชาติมาเกิด ยามนี้ดวงจิตหวนคืนแล้ว พี่หญิงฟื้นคืนชีพ เช่นนั้นแม่นางกู้คงมิใช่ว่า…สิ้นชีพไปแล้วหรือ?”

————————————————————————————-

บทที่ 1563 กลับเป็นคนที่ทำร้ายนางอย่าลึกล้ำที่สุด!

ปลายนิ้วตี้ฝูอีพลันแข็งทื่อ ไม่พูดอะไร

ดวงตาหลานเหยากวงฉายแววลุแก่โทษ “เพื่อฟื้นคืนชีพให้พี่หญิง แม่นางกู้จึงต้องสังเวยชีพ…เฮ้อ แม่นางกู้ก็เป็นดวงใจของพี่หวงเช่นกัน สังเวยชีพนางพี่หวงย่อมต้องปวดใจ…”

“ยามนี้ผู้ใดก็ไม่สำคัญเท่านาง…” ตี้ฝูอีตัดบทเขา สายตาร่อนลงบนดวงหน้าของหญิงสาวในโลงแก้วผลึก

หลานเหยากวงลูบจมูก เอาเถอะ เพื่อพี่หญิงของเขาแล้วไม่ว่าผู้ใดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ล้วนสละได้ทั้งนั้น “พี่หวง ท่านก็อย่าได้โทษตัวเองจนเกินไป ถึงแม้แม่นางกู้ก็สิ้นชีพไป แต่พี่หญิงก็ฟื้นคืนชีพมา เหมือนอย่างที่ท่านว่าไง หลังจากนางฟื้นคืนชีพขึ้นมานิสัยจะคล้ายคลึงกับแม่นางกู้ยิ่งนัก ก็เท่ากับแม่นางได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาด้วยเช่นกัน ก็เหมือนท่านได้ชดเชยให้นางด้วย…”

“ออกไป!” ตี้ฝูอีกล่าว ปรายตามองหลานจิ้งอี๋ที่อยู่ต้องมุมห้องด้วยแวบหนึ่ง “พาน้องเจ้าไปด้วย”

หลานเหยากวงไม่กล้าพูดจาเป็นอื่นอีก พาหลานจิ้งอี๋ออกไปจริงๆ เขารู้ดี ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องการอยู่เงียบๆสักหน่อยเช่นกัน

….

หญิงสาวในโลงนอนอยู่ตรงนั้นอย่างสงบ สีหน้านางราบเรียบ หลับสนิทยิ่งนัก ราวกับลืมเลือนความทุกข์โศกทั้งปวงแล้ว

ตี้ฝูอีนั่งอยู่ข้างกายนาง จับจ้องนาง ไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน

แปดปีมานี้นางจะนอนหลับด้วยท่าทางเช่นนี้อยู่ข้างกายเขาเสมอ นอนหลับอย่างไร้การป้องกันยิ่งนัก ในใจเปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นในตัวเขา

เด็กสาวคนนี้ยามปกตินิสัยดูเยือกเย็น แต่เมื่อชมชอบใครสักคนอย่างแท้จริงก็จะมอบทั้งกายใจให้ รักร้อนแรงดั่งเพลิง

นางรักเขายิ่งชีพ สามารถสละชีวิตของนางเองเพื่อเขาได้จริงๆ เพียงเขามีเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ นางก็จะวิตกกังวลยิ่งนักแล้ว

เขาเชื่อว่าหากวันหนึ่งเขาประสบเหตุเหนือความคาดหมายเข้าจริงๆ นางจะต้องตายตามเขาแน่นอน…

ความรักไม่รู้ว่าเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ยามไหน ทว่ารักสลักใจชั่วนิรันดร์

เขาไม่เคยทราบเลยว่าการรักคนผู้หนึ่งจะทำให้คนไม่แยแสทุกสิ่งได้ถึงเพียงนี้ ทุ่มเทจนหลงลืมตนได้ถึงเพียงนี้…

เขายื่นมือไปจับมือข้างหนึ่งของนางไว้ ทำเหมือนแปดปีที่ผ่านมา ประสานนิ้วมือกับนาง

ปลายนิ้วสัมผัสชีพจรของนางเบาๆ ความปวดร้าวพาดผ่านนัยน์ตาแวบหนึ่ง…

เขารู้ดีว่าต่อไปจะมีโอกาสเช่นนี้ไม่มากแล้ว

เขามองใบหน้าเฉิดฉันของนางอย่างเหม่อลอย คล้ายอยากสลักภาพดวงหน้านี้ลงในหัวใจ

เหตุใดจึงล้มเหลวเล่า?

แปดปีก่อนเขาลงอาคมลืมเลือนไว้บนร่างเดิมนี้ของนางแล้วชัดๆ ขอเพียงนางฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ก็จะลืมเลือนทุกสิ่งที่เคยทำร่วมกับเขาไป อย่างมากก็จำได้แค่เรื่องราวเหล่านั้นระหว่างหลานจิ้งเคอกับหวงถู จะนึกว่าตนเองคือประมุขเผ่าเงือกหลานจิ้งเคอ…

ที่อยู่เหนือความคาดหมายของเขาก็คือ นางฟื้นขึ้นมาในร่างนี้แล้วไม่น่าเชื่อว่ายังคงจำเขาได้ ไม่ลืมเลือนเลยสักนิด!

นางยังจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ อีกทั้งเมื่อตื่นขึ้นมาเรื่องแรกที่ทำก็คือตามหาเขา

อาคมของเขาล้มเหลว!

เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทว่าเกิดขึ้นจริงๆ แล้ว!

เขามองนางอย่างเหม่อลอย นิ้วมือค่อยๆ ลูบไล้ดวงหน้าน้อยๆ ของนาง แววตาแปรปรวนยิ่งนัก

นางเป็นตัวแปรเสมอ!

เขาไม่อยากทำร้ายนาง แต่กลับเป็นคนที่ทำร้ายนางอย่าลึกล้ำที่สุด!

รอจนนางฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง หากว่ายังไม่ลืมเขาอีก ไม่ลืมเลือนทุกสิ่งเกี่ยวกับตี้ฝูอี เกรงว่าคงต้องทำให้นางเกลียดเขาจนเข้ากระดูกเสียแล้ว

เขานั่งอยู่ตรงนั้น มองนางอยู่ตลอด สายตาร่อนลงบนกำไลคู่บุพเพบนข้อมือนาง ไม่ละสายตาไปเนิ่นนาน

….

ในเมื่อเขาคนที่เขาต้องการคืนชีพให้มาโดยตลอดคือหลานจิ้งเคอ คนที่รักก็คือหลานจิ้งเคอ เช่นนั้นเหตุใดจึงต้องทุ่มเทเย้าแหย่ตัวเธอกู้ซีจิ่วเล่า? ซ้ำยังแต่งงานกับเธออีก

ความรักแปดปีล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้นหรือ?

คำถามนี้รัดรึงพัวพันอยู่ในหัวใจเธอ พัวพันจนกลายเป็นฝันร้าย ทำให้เธอไม่อาจสงบสุขได้แม้แต่ในความฝัน…

ระหว่างที่มึนงงอยู่เธอสามารถรับรู้ได้ว่าตี้ฝูอีพาเธอกลับไปที่เผ่าเงือกอีกครั้ง

————————————————————————————-