แดนนิรมิตเทพ บทที่ 571
ภายในทะเลทรายแห่งความตาย พายุสายลม ทรายดำลอยปกคลุมแสงแดด และปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของทะเลทรายเรื่อยๆ

ซากปรักหักพังของเมืองโบราณจิงเจวี๋ยที่เดิมทีถูกพายุทะเลทรายพัดออกมา แต่ตอนนี้ก็ได้ถูกทะเลทรายมากมายกลบกลับลงไปอีกครั้ง และหาไม่พบอีก

เบื้องลึกใต้ดิน เฉินโม่ก็ยังนั่งขัดสมาธิอยู่ในภูเขาศักลามาชิอยู่เหมือนเดิม รากทิพย์พรสวรรค์ที่เดิมทีมีความยาวหลายสิบฟุต ตอนนี้เหลือเพียงขนาดประมาณสิบฟุตเท่านั้น

บนใบหน้า แขน และเท้า รวมทั้งผิวหนังที่ปรากฏออกมานอกร่มผ้าของเฉินโม่ ล้วนเปลี่ยนเป็นสีเขียวจนหมด ภายใต้ผิวหนังถึงขั้นสามารถมองเห็นเลือดสีเขียวกำลังหมุนเวียนอยู่

ตั้งแต่สิบกว่าวันก่อน ร่างธาตุไม้ของเฉินโม่ก็ได้ทะลุถึงระดับสูงสุดแล้ว ตอนนี้ห่างจากชั้นเสร็จสิ้นเพียงไม่มากแล้ว!

ในเวลานี้เขตแดนตะวันตกเฉียงเหนือที่มีระยะห่างจากตำแหน่งที่เฉินโม่อยู่ประมาณสองร้อยกิโลเมตร ชายแดนทะเลทรายที่มีผู้คนน้อยมาก มีชายหนุ่มสามคนที่สวมใส่เสื้อทักซิโดสีดำ กำลังวิ่งเข้าสู่ทะเลทรายแห่งความตายอย่างรวดเร็ว

“หัวหน้าครับ พวกเราเข้ามาถึงเขตแดนของประเทศหัวเซี่ยแล้ว คนพวกนั้นน่าจะไม่กล้าไล่ตามมาแล้วมั้งครับ!” ชายผมสั้นที่มีรอยสักดอกกุหลาบสีแดงครึ่งหน้า พูดหอบออกมา

ชายวัยกลางคนผู้นำที่ระหว่างคิ้วมีรอยสักกระบี่สีเขียวเองก็ตอบกลับอย่างหอบหายใจว่า “อย่าได้ชะล่าใจ คนนั้นล้วนไม่ใช่คนธรรมดา อย่าได้คาดการณ์ตามสถานการณ์ปกติ!”

“รีบไปเร็ว ผ่านทะเลทรายนี้ไปแล้ว ก็จะเจอกับคนที่มารับพวกเราแล้ว!”

“ฮิๆๆ….”

ทันใดนั้น เสียงหัวเราะแปลกประหลาดแสบหูดังมาจากรอบด้าน

“พวกแกหนีไม่พ้นหรอก!”

เมื่อเสียงสิ้นสุดลง ชายหนุ่มหน้าตาดีใบหน้าซีดที่สวมเสื้อทักซิโดสีดำเช่นกันคนหนึ่ง ลอยขึ้นบนอากาศอย่างน่ากลัว

ยังมีอีกคนหนึ่งทั้งร่างถูกปกปิดอยู่ใต้เสื้อเพ้าดำ มีเพียงดวงตาที่เปิดเผยอยู่ภายนอกเสื้อผ้า ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของทั้งสามคน

“คิดไม่ถึงจริงๆว่าคนพวกนั้นจะลงทุนถึงขั้นสั่งให้องค์กรเทพมรณะมาฆ่าพวกเรา!”

ชายวัยกลางคนที่ระหว่างคิ้วมีรอยสักกระบี่สีเขียวพูดเสียงเย็นชา

“โอ้ พระเจ้า เขารู้ตัวตนของพวกเราด้วย!ขออภัยด้วย ฉันจำเป็นต้องฆ่านายทิ้ง!” ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นพูดภาษาหัวเซี่ยออกมาอย่างแปลกประหลาด

“ฆ่าฉัน อย่างนั้นก็ต้องดูว่านายมีความสามารถนั้นหรือเปล่า!”

ชายวัยกลางคนลงมืออย่างรวดเร็ว เสียงยังไม่ทันสิ้นสุดก็ลงมือออกไปแล้ว ทั้งตัวลอยขึ้นอากาศ เหวี่ยงฝ่ามือไปทางชายหนุ่มหน้าตาดี

ชายหนุ่มอีกสองคนก็ไม่อยู่เฉยๆ รีบโจมตีไปยังชายสวมเพ้าดำด้านหลัง

กระบวนท่าของทั้งสามคนรวดเร็วโหดเหี้ยมเหมือนกัน และยังดูรวบรัดอย่างมาก เห็นได้ชัดว่า ผ่านการฝึกฝนเป็นพิเศษมากก่อน น่าจะเป็นทหาร

เพียงแต่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนนั้นรวดเร็วมากกว่า เพียงชั่วพริบตา ก็มาปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของชายวัยกลางคนแล้ว

รวดเร็วไร้เสียง ถีบเข้าที่กลางหลังของชายวัยกลางคน

ชายวัยกลางคนเหมือนว่าคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงหันหลังแล้วปล่อยหมัดใส่

ปึง!

หมัดและเท้าของทั้งสองคนปะทะกัน ต่างก็ถูกสะเทือนเซถอยหลัง

“พระเจ้า พลังของนายสามารถเทียบเคียงกับฉันได้ ว้าว นักบู๊ของหัวเซี่ยน่าอัศจรรย์อย่างที่คิดจริงๆ!”

ใบหน้าของชายหนุ่มหน้าตาดีมีการแสดงออกสีหน้าที่อลังการปรากฏขึ้น

ชายวัยกลางคนกำหมัดแน่น พยายามเก็บกดเลือดคาวที่อยู่ในลำคอ แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “วิชาบู๊แห่งหัวเซี่ย กว้างขวางและลึกซึ้ง ไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายอย่างพวกนายจะจินตนาการได้!”

“หัวหน้า พวกผมยื้อพวกมันไว้เองครับ คุณรีบไปซะ!” หนึ่งในชายหนุ่มสองคนที่กำลังสู้กับชายเพ้าดำกระโดดออกมาจากวงการต่อสู้ แล้วมายังข้างกายของชายวัยกลางคน

“ไม่ได้ พวกนายไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน!” ชายวัยกลางคนพูดปฏิเสธ

ชายหนุ่มคนนั้นยิ้ม “หัวหน้าครับ ชีวิตของพวกผมสองคนเทียบกับหัวเซี่ยแล้ว อะไรสำคัญกว่ากัน คุณยังแบ่งแยกได้ใช่มั้ยครับ?”

ชายวัยกลางคนแววตาหดตัวลง สีหน้ามีความลังเล

“รีบไปเถอะครับ ไม่ต้องสนใจพวกผม จะต้องส่งข่าวกลับไปให้ได้นะครับ!” ชายหนุ่มคนนั้นยิ้มแย้ม ก้าวเข้าสู่ความตายอย่างฮึกเหิม

“ตกลง!”

ชายวัยกลางคนกัดฟันแน่นแล้วพยักหน้า