143 สุดยอดยาเทวดาแห่งยุค(1)

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

บทที่ 143 สุดยอดยาเทวดาแห่งยุค(1)

ในที่สุดเฉินเสี่ยวจาวก็เข้าใจ ที่เมื่อครู่เย่เฉินก็บอกว่า “พลาดไปนิด” นั้นหมายความว่าเช่นไร

เขายังไว้หน้าเธอ เธอไม่ได้ “พลาดไปนิด” แต่ “พลาดไปเยอะ” !

ซือเทียนฉีเองก็ตกตะลึงไม่น้อย

เขามองออกว่าเย่เฉินอดกลั้นพลังภายใน ตั้งใจให้เลือดลมภายในไหลย้อนกลับ เพื่อแกล้งเป็น “โรคหัวใจ” ดังนั้น หลานสาวก็เลยติดกับ

แต่ว่า ถ้าเลือดลมไหลย้อนกลับ จะทำให้คนเจ็บปวดอย่างมาก

แต่เย่เฉินไม่เพียงจะสามารถควบคุมเลือดลมให้ไหลย้อนกลับได้ แล้วยังปลดปล่อยออกมาได้ตามใจด้วย ทั้งที่ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย ไม่มีความเจ็บปวดเผยออกมา การฝึกฝนนี้น่าจะไม่ใช่แค่50ปีเท่านั้น อย่างน้อยต้องเป็นร้อยปี

ซือเทียนฉีรู้ดี ว่าตนเองนั้นได้พบกับยอดคนเข้าเสียแล้ว

หลานสาวของตนเองก็รนหาที่ตาย ไปท้าทายฝั่งตรงข้าม ยังดีที่เย่เฉินเป็นปัญญาชนสุภาพบุรุษ ถ้าไปทำให้เขาโกรธแล้วลงมือขึ้นมา เกรงว่าเขาออกเพียงกระบวนท่าเดียว หลานสาวของตนเองก็วิญญาณออกร่างไปเสียแล้ว แม้แต่แรงจะสู้กลับไปก็ไม่เหลือ

ดังนั้น เขาก็เลยจ้องเฉินเสี่ยวจาวเขม็ง แล้วพูดว่า “คุณเย่มีพลังฝึกฝนล้ำลึกเหนือใคร เธอมีตาหาไร้แวว มองผิดไป ยังไม่รีบขออภัยเขาอีกรึ”

พูดจบ ซือเทียนฉีก็รีบกำมือทำความเคารพต่อเย่เฉิน พร้อมพูดว่า “คนแก่อย่างผมสอนหลานไม่ดี ปรมาจารย์เย่อย่าได้ถือสา เดี๋ยวกลับไป จะสั่งสอนให้หนักเลย”

เฉินเสี่ยวจาวก็ตั้งสติขึ้นได้ รับรู้ได้ว่าวิชาการแพทย์ของฝั่งตรงข้ามสูงส่งกว่าตนเองหลายขั้น ไม่ยอมไม่ได้ ก็เลยก้มหน้าพูดว่า “ฉัน….ฉันยอมรับว่าวิชาการแพทย์ของนายสูงส่งกว่าฉัน”

เย่เฉินก็ยิ้มๆ โบกปัด พูดว่า “คนเป็นหมอต้องช่วยชีวิตคน ไม่มีใครเก่งหรือไม่เก่ง ถ้าผมพบเจอกับโรคประหลาดที่ไม่เคยเจอมาก่อน ก็คงต้องขอคำชี้แนะกับท่านซือด้วย”

คำพูดนั้น ทำเอาซือเทียนฉีได้ยินแล้วหน้าเสีย แต่ก็ชื่นชมมากกว่า

รู้ดีอยู่ว่าฝีมือของฝั่งตรงข้ามสูงส่งกว่าตน แต่ก็ยังพูดเพื่อให้เกียรติตน ความใจกว้างนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาจะมีได้!

อีกอย่าง วิชาการแพทย์ของเขา ถึงขั้นสุดยอดแล้ว เกรงว่าทั้งในหัวเซี่ย(ชื่อเรียกประเทศจีนสมัยก่อน)นี้ จะหาคนที่สองไม่ได้แล้ว

ซือเทียนฉียกมือเคารพเย่เฉิน แล้วพูดอย่างจริงใจว่า “คิดไม่ถึงว่าในชีวิตผม จะได้พบเจอกับปรมาจารย์อย่างอาจารย์เย่ วันข้างหน้าต้องขอคำชี้แนะจากคุณด้วย”

เย่เฉินยืนกุมมือ แล้วพยักหน้าเบาๆ

ซือเทียนฉีก็ดีใจ แล้วรีบพูดว่า “ขอบคุณอาจารย์เย่มาก”

ทั้งสองคนคุยกัน คนในห้องก็ตะลึงไปตากมัน

เขาเป็นถึงหมอเทวดาของภาคเจียงหนาน กลับมาถ่อมตัวขอคำชี้แนะเย่เฉินอย่างนั้นหรือ

คนในห้องทั้งหมด ล้วนตกตึงตะลึงไปตามๆ กัน

หมอเทวดาอันดับหนึ่งของเจียงหนานไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะได้รับการเคารพอย่างสูง โรงพยาบาลใหญ่ต่างๆ ก็เคารพท่านซือ เป็นแขกผู้มีเกียรติ แต่มาทำตัวเป็นนักเรียนต่อหน้าเย่เฉินเสียอย่างนั้น บอกว่า “ขอคำชี้แนะ” อย่างมีมารยาท คิดไม่ถึงจริงๆ

เฉินเสี่ยวจาวเห็นแล้วก็อึ้งอ้าปากค้าง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไร

เย่เฉินมองซือเทียนฉีแล้วพูดว่า “ท่านซือ ผมเห็นว่าคุณจะบาดเจ็บภายใน ก็เลยให้หลานสาวของคุณมาลงมือรักษาใช่ไหม?”

“คุณมองอาการบาดเจ็บของคุณปู่ฉันออกหรือ?”

ใบหน้าของเฉินเสี่ยวจาวตกใจจนหันขวับ

แต่ว่า ไม่นานเธอก็กลับมามีใบหน้านิ่งดังเดิม

ตามความสามารถของเย่เฉินแล้ว จะมองออกก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

เฉินเสี่ยวจาวพูดว่า “เดิมทีปู่ของฉันเก็บตัวรักษาอาการป่วย ปีนี้จะไม่รักษาให้ใคร ตอนที่ซ่งหรงวี่มาหา ปู่ของฉันก็ปฏิเสธไปแล้ว แต่สองวันก่อน เพื่อนคุณปู่ฉันขายยาวิเศษณ์มาให้เม็ดหนึ่ง บอกว่ายานี้ได้มาจากเมืองจินหลิง ปู่ฉันก็เลยมาดู ดังนั้นก็เลยถือโอกาสมาดูอาการให้กับท่านซ่งด้วย”