บทที่ 16 ผักและผลไม้วิเศษ

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 16 ผักและผลไม้วิเศษ

เมื่อกลับมาถึงอะพาร์ตเมนต์มู่หรงเสวี่ยก็เอาแต่นึกถึงแต่เหตุการณ์มากมายที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตที่แล้ว

ยิ่งมู่หรงเสวี่ยคิดถึงมันมากเท่าไร เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าฟางฉีฮัวไม่ธรรมดามากเท่านั้น มู่หรงเสวี่ยจำได้ว่าตัวเองเคยเห็นกระสุนมากมายซ่อนอยู่ในห้องใต้ดินในบ้านของฟางฉีฮัว และเธอก็มั่นใจมากว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ หรือว่าฟางฉีฮัวจะเป็นมาเฟียนะ?

นอกจากนี้ฟางฉีฮัวดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับองค์กรลับเสียด้วย เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จู่ๆมู่หรงเสวี่ยก็ตัวสั่นขึ้นมา

ชีวิตนี้ ถึงเวลาที่เขาและเธอจะต้องเป็นศัตรูกันแล้ว ศัตรูของเธอมีอำนาจมากทำให้เธอรู้สึกถูกคุกคามมากกว่าเดิม แล้วแบบนี้ จะให้เธอนอนรอความตายอยู่ได้ยังไงเล่า!

ในตอนที่เธอกำลังจัดการกับฮวงเหมาเมื่อกี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองยังอ่อนแออยู่มาก เธอไม่มีความสามารถที่จะปกป้องตัวเองได้เลย บางทีการต่อสู้แบบประชิดตัวก็อาจช่วยยื้อเวลาชีวิตไว้ได้ เธอคิดว่าตัวเองก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ถ้ามีทางให้หนี

ในโลกนี้มีคนที่มีความสามารถอยู่มากมาย อย่าง ชางกวนโม่ที่เพิ่งเจอกัน ถ้าเขาเป็นคนร้ายเธอคงถูกอีกฝ่ายจัดการได้ง่ายๆ โดยที่ตัวเองยังไม่ทันได้หนีเลยด้วยซ้ำ

ดูเหมือนว่าเธอจะต้องหาครูฝึกยอดฝีมือมาสอนทักษะการต่อสู้ให้เสียแล้ว นอกจากนี้ยังต้องหาบอดี้การ์ดสักคนด้วย แล้ว… ฉันจะต้องไปหาคนแบบนั้นที่ไหนกันล่ะ?

มู่หรงเสวี่ยจำได้ว่าโม่อ้ายลี่อยู่ในครอบครัวที่เป็นทหารและนักการเมือง เธอจะต้องรู้จักคนพวกนั้นแน่ๆ แต่ฉันจะเล่าปัญหาของตัวเองให้เธอฟังได้ยังไงล่ะ เธอไม่รู้ว่าฉันรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอสักหน่อยนี่…

ยิ่งคิดก็ยิ่งอึดอัด มู่หรงเสวี่ยจึงตัดสินใจเข้าไปในมิติลับ
ทันทีที่ได้เห็นสวนที่พร้อมต่อการเก็บเกี่ยวในมิติ มู่หรงเสวี่ยก็รู้สึกตกใจ ต้นผลไม้และผักต่างๆที่เธอสุ่มปลูกไปเมื่อสองวันก่อน ในตอนนี้สามารถเก็บได้แล้ว และผลไม้พวกนั้นก็มีสีสันสดใส ทำให้คนที่เห็นต้องรู้สึกอยากกินขึ้นมาในทันที

มู่หรงเสวี่ยเด็ดเชอร์รี่หนึ่งผลแล้วลิ้มลองมัน ผลเชอร์รี่มีรสชาติหวานแบบไม่มีอะไรมาเทียบได้เลย บวกกับน้ำผลไม้ที่อุ่นและนุ่มนวลแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังวิญญาณได้อย่างดี เยี่ยมไปเลย ต้นไม้ที่ปลูกในมิติ สามารถนำไปให้สมาชิกในครอบครัวทานได้

เนื่องจากว่าผลไม้พวกนี้ดูดซับพลังวิญญาณเข้าไป จึงมีผลที่ใหญ่กว่าขนาดปกติ แต่เนื่องจากว่าตอนนี้ เทคโนโลยีในโลกได้พัฒนาไปไกลมาก ถึงพวกมันจะดูเหมือนปกติมากแต่ก็ยังแตกต่างกันมากอยู่ดี

หลังจากที่ได้ทานผลไม้เข้าไป มู่หรงเสวี่ยก็รู้สึกสบายมากขึ้น ต้นไม้ถูกพลังวิญญาณในมิติหล่อเลี้ยงจึงพิเศษกว่าปกติมาก เธอต้องการนำพวกมันไปให้คุณพ่อคุณแม่และคุณปู่คุณย่าได้ลิ้มลอง มันจะได้ช่วยบำรุงสุขภาพของพวกท่าน
อย่างไรก็ตาม คุณปู่คุณย่าของเธอไม่ได้อยู่ที่บ้านมู่หรง แต่ซื้อคฤหาสน์ไว้แล้วอยู่อีกหลัง พวกท่านใช้ชีวิตเลี้ยงนกและปลูกดอกไม้ มันทำให้พวกท่านได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

มู่หรงเสวี่ยเก็บผักและผลไม้ที่อยู่ในมิติใส่กระเป๋าจนเต็ม ในตอนที่เธอเห็นขวดใส่น้ำสองขวด เธอจึงเติมน้ำจากมิติแล้วออกมาจากที่นั่นในทันที

มู่หรงเสวี่ยมองไปรอบๆตัว เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีใครมองหรือเห็นเธอ จากนั้นเธอก็เก็บของใส่กระเป๋าที่อยู่บนหลังแล้วนั่งรถกลับบ้านตัวเอง

ตรงทางเดินในบ้านมู่หรง
ป้าหวู่ที่เห็นมู่หรงเสวี่ย รีบเดินเข้ามาต้อนรับเธอในทันที “คุณหนูกลับมาแล้วเหรอคะ ย้ายไปอยู่ข้างนอกลำบากไหมคะ วันนี้ป้าจะทำอาหารอร่อยๆให้ทานนะคะ” เธอรับกระเป๋าจากมือมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยตอบด้วยท่าทางเป็นสุข “ป้าหวู่คะ วันนี้หนูซื้อผักมาด้วยค่ะ หนูอยากให้ป้าใช้มันทำอาหารวันนี้ค่ะ ส่วนที่เหลือก็แช่ตู้เย็นไว้นะคะ แล้วก็ หลังจากนี้ หนูจะเป็นคนซื้อผักมาให้เองค่ะ ป้าคอยดูแลเรื่องทำอาหารก็พอค่ะ” ป้าหวู่ใจดีกับเธอมาก ในชีวิตที่แล้วเธอทิ้งตระกูลมู่หรงแล้วไปอยู่กับฟางฉีฮัว และได้พบเธออีกครั้งเมื่อเห็นเธอเดินอยู่ข้างถนนจึงยกเงินเดือนอันน้อยนิดให้กับเธอ

ทันทีที่ป้าหวู่ได้ยินคำพูดของมู่หรงเสวี่ยว่าจะเป็นคนซื้อผักเอง จึงรีบปฏิเสธทันที เธอจะปล่อยให้คุณหนูทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน?

“คุณหนู ป้าจะออกไปซื้อผักเองได้ค่ะ แค่คุณหนูเรียนทุกวันนี้ก็น่าจะเหนื่อยมากแล้วนะคะ ปล่อยหน้าที่นี้ให้ป้าทำเถอะนะคะ แค่บอกป้ามาว่าคุณหนูอยากทานอะไรก็พอแล้วค่ะ”

“ป้าหวู่คะ คือว่า เพื่อนของหนูเป็นคนปลูกผักพวกนี้เองค่ะ ผักพวกนี้ดีต่อสุขภาพและไม่มีขายข้างนอก เอาเป็นว่า หนูจะนำผักกลับมาที่บ้านมาแช่ตู้เย็นเก็บไว้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ค่ะ”

ทันทีที่ได้ยินว่าผักพวกนี้ดีต่อสุขภาพ ป้าหวู่ก็ไม่เถียงอะไรเธออีก “ถ้าอย่างงั้น คืนนี้ ป้าจะลองเอามันมาทำอาหารให้นะคะ”
“แล้วคุณพ่อคุณแม่อยู่ที่ไหนเหรอคะ?” มู่หรงเสวี่ยเอ่ยถาม เนื่องจากว่าเธอไม่เห็นพ่อแม่ที่ห้องนั่งเล่น

“คุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงยังไม่กลับมาเลยค่ะ”

“ถ้างั้น หนูขอขึ้นไปพักผ่อนข้างบนก่อนนะคะ พอถึงเวลาอาหารรบกวนป้ามาเรียกหนูอีกทีนะคะ” พูดจบ มู่หรงเสวี่ยก็เดินขึ้นไปที่ห้องของตน

หลังจากนั้นไม่นาน มู่หรงเฟิงหัวและจางเข่อเหรินก็กลับมา เมื่อทั้งสองเห็นแอปเปิลสดๆในจานที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น พวกเขาจึงหยิบมันขึ้นมาลิ้มลอง ใครจะไปคิดว่าพวกเขาหยุดกินมันไม่ได้ เพราะแอปเปิลลูกนี้อร่อยและหวานมาก จนรู้สึกว่ากินแล้วก็สดชื่นขึ้นมาทันที

ถึงผลไม้ที่มู่หรงเสวี่ยปลูกจะหน้าตาเหมือนผลไม้ทั่วๆไป แต่เพราะพวกมันได้รับพลังวิญญาณที่มีพลังวิเศษในมิติเข้าไปอย่างต่อเนื่อง และผลไม้ก็ดูดซับพลังวิญญาณพวกนั้นเข้ามามากมาย สำหรับคนธรรมดา ผลไม้จะช่วยยืดอายุและช่วยพัฒนาร่างกาย เทียบได้เท่ากับผลไม้พลังวิญญาณในระดับต่ำที่สุดของโลกแห่งผู้ฝึกตนเลยก็ว่าได้

จางเข่อเหรินถึงกับต้องถามออกมาด้วยความสงสัย “ป้าหวู่ ไปเอาผลไม้พวกนี้มาจากไหนเหรอ? พรุ่งนี้ซื้อมาอีกนะ รสชาติมันอร่อยกว่าที่เคยซื้อมาเยอะเลย”

ป้าหวู่ถึงกับแปลกใจที่เห็นพวกเขากินผลไม้โดยไม่หยุดพัก คุณท่านและคุณนายแทบจะไม่กินอะไรแบบนี้เลย อาจจะเป็นอย่างที่คุณหนูบอก มันคงถูกปลูกมาไม่เหมือนกับผลไม้ทั่วไปสินะ

“คุณนายคะ คุณหนูเป็นคนซื้อมาค่ะ เธอบอกว่าเพื่อนของเธอเป็นคนปลูกผักและผลไม้ปลอดสารพิษพวกนี้ แล้วมันก็หาซื้อข้างนอกไม่ได้ด้วย คุณหนูบอกว่ามันดีต่อสุขภาพมากกว่าผลไม้ตามท้องตลาดค่ะ เธอบอกว่าให้คุณท่านกับคุณนายทานเยอะๆ นอกจากนี้ เธอจะนำมันมาให้ทุกอาทิตย์เลยค่ะ”

สองสามีภรรยาต่างประหลาดใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เสี่ยวเสวี่ยไปรู้จักกับคนปลูกผักปลอดสารพิษตั้งแต่เมื่อไรกัน? ครั้งหน้าคงต้องซักถามเสียหน่อย จากนั้นทั้งสองคนก็กลับไปกินผลไม้ต่อ
จู่ๆจางเข่อเหรินก็เรียกป้าหวู่อีกครั้ง “ป้าหวู่ ผลไม้นี่อร่อยมากเลย ป้าลองชิมสิคะ”

“คุณท่านกับคุณนายไม่ค่อยได้ทานผลไม้ เชิญทานเถอะค่ะ มันยังเหลือในตู้เย็นอีกเยอะเลยค่ะ เดี๋ยวป้าค่อยทานก็ได้ค่ะ” เธอได้ยินที่คุณหนูบอกว่ามันเป็นผักผลไม้ปลอดสารพิษ นอกจากนี้ มันก็มีจำนวนน้อย แถมไม่มีขายตามตลาดอีก แสดงว่ามันต้องราคาแพงมากแน่ๆ แล้วจะให้ลูกจ้างอย่างเธอขโมยมันมากินได้ยังไง? เธอควรเก็บไว้ให้คุณท่านกับคุณนายทานดีกว่า

จางเข่อเหรินไม่ยอมแพ้ป้าหวู่ “ป้าหวู่ เรานับถือป้าเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ป้าจะไม่ยอมทานของที่เรายกให้จริงๆเหรอคะ ป้าไม่รักพวกเราเหรอคะ?”

ป้าหวู่ถึงกับตกใจเมื่อได้ยินในสิ่งที่จางเข่อเหรินพูดออกมา “ไม่นะคะคุณนาย ป้าจะไม่รักพวกคุณได้ยังไงล่ะคะ? ป้าแค่คิดว่า… เฮ้อ ก็ได้ค่ะ ป้ายอมทานแล้วก็ได้ค่ะ” ยิ่งเห็นคุณท่านและคุณนายทำหน้าเศร้ามากเท่าไร เสียงป้าหวู่ก็เบาลงมากเท่านั้น สุดท้ายเธอจึงยอมหยิบแอปเปิลชิ้นเล็กๆขึ้นมาลิ้มลอง

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าในปากเต็มไปด้วยรสชาติต่างๆ ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ผลไม้ลูกนี้ช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ ความเหนื่อยล้าทั้งหมดจากการทำงานมาทั้งวันได้หายไปทั้งหมด

หลังจากที่ได้ทานผลไม้เข้าไป เธอคิดว่ามันสุดยอดมาก มันต้องเป็นผลไม้หายากมากแน่ๆ แต่ถึงมันจะอร่อยมากขนาดไหน เธอก็ไม่ได้หยิบชิ้นอื่นมากินอีก เพราะคุณท่านกับคุณนายจะได้กินมันเยอะๆ

มู่หรงเฟิงหัวและภรรยาคิดว่าคงหาผลไม้แบบนี้ในโลกไม่ได้ง่ายๆ คนที่พัฒนาผักและผลไม้พวกนี้ขึ้นมาต้องไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาควรให้ความสนใจกับเสี่ยวเสวี่ยมากกว่านี้ ถ้าพวกเธอได้เป็นเพื่อนกัน พวกเขาก็ไม่ควรขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งคู่

“คุณหนูคะ คุณหนูตื่นอยู่หรือเปล่าคะ? ได้เวลาอาหารค่ำแล้วค่ะ” เสียงของป้าหวู่ดังขึ้นมาตรงด้านนอกประตูห้องของ มู่หรงเสวี่ย
มู่หรงเสวี่ยค่อยๆลืมตาขึ้น “ค่ะ เดี๋ยวหนูลงไปนะคะ” เธอก็ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตาให้เรียบร้อย มู่หรงเสวี่ยที่ไม่ค่อยได้กลับบ้าน รู้สึกผ่อนคลายที่ได้นอนหลับอย่างสบายใจ