นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 556 ทำการป้องกัน100%
ซูฉิงตกใจแล้วดิ้น:”หยุนเฉิง!”
ฮ่อหยุนเฉิงอุ้มซูฉิงกลับเข้าไปในห้องด้วยสีหน้านิ่ง จากนั้นก็โยนลงไปบนเตียง
ข้อศอกสัมผัสกับผ้าห่มนุ่ม ซูฉิงก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีแล้ว เธอที่กำลังจะดีดตัวขึ้นก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงกดตัวลงมา
เข่าของเขากดทับขาทั้งสองข้างของซูฉิงไว้ มือก็ดึงเนกไทของตัวเองออก แล้วโน้มตัวลงมาหาซูฉิง
ซูฉิงที่เห็นแววตาของฮ่อหยุนเฉิงผุดมาราวกับน้ำไหล ก็รู้ว่าที่เธอพูดเมื่อกี้มันเกินไป
“หยุนเฉิง……”ซูฉิงกะพริบตา พยายามดันตัวข้น แต่ฮ่อหยุนเฉิงใช้เพียงมือข้างเดียวกดข้อมือของเธอไว้บนเหนือหัว
ฮ่อหยุนเฉิงได้โยนเนกไทลงไปข้างเตียง เสื้อตัวใหญ่แหวกออกเผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้ากับหน้าอกขาวแน่น เขาเข้ามาใกล้ซูฉิงแล้วพูดเสียงต่ำ
“งั้นเธอก็ต้องลองด้วยตัวเองแล้วละว่า หุ่นฉันดีมั้ย”
น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงดูอันตรายมาก ทำให้ซูฉิงรู้สึกใจสั่น
“คิดว่าแย่นัดนึง”ซูฉิงยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย สายตาที่มองฮ่อหยุนเมองอย่างพิจารณา
ซูฉิงเหลือบมองต่ำลง มืออีกข้างหนึ่งก็จับที่ปลายคางของฮ่อหยุนเฉิง”เดาดูงั้นหรอ”
“งั้นเธอจะต้องสวมด้วยมือของเธอเองแล้วละ….”แววตาของฮ่อหยุนเฉิงเต็มไปด้วยความพิศวาส หลังจากคำพูดคุยกันเสียงเบาของทั้งสองก็ยิ่งทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก
ทว่าตอนที่ทั้งสองจูบแลกลิ้นกันอยู่นั้น โทรศัพท์ในถุงกางเกงของฮ่อหยุนเฉิงก็ดังขึ้น
เขาคิ้วขมวดด้วยความรู้สึกเซ็ง แต่ไม่คิดจะกดรับสาย เพราะตอนนี้เขามีเรื่องที่สำคัญกว่าที่จะต้องทำ
แต่ว่าซูฉิงกับมีสติอยู่ เธอที่เบี่ยงหน้าหลบจูบของฮ่อหยุนเฉิง “ถ้ามีเรื่องด่วนละ”
ฮ่อหยุนเฉิงแม้จะไม่ยอม แต่ซูฉิงพูดมาอย่าางนี้ ก็ทำได้เพียงหยิบโทรศัพท์ออกมาแต่คิดไม่ถึงว่าเป็นคุณปู่ฮ่อที่โทรมา
ฮ่อยหุนเฉิงที่ปรับสีหน้าให้ดีแล้วถึงกดรับสาย:”คุณปู่ มีอะไรหรอครับ ”
“เจ้านี่ทำไมถึงพึ่งรับโทรศัพท์ปู่ล่ะหึม? “คุณปู่ฮ่อเอ่ยถาม
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองซูฉิงที่อยู่ข้างๆ แล้วเอ่ยถามหน้าเรียบ:”กำลังทำเรื่องจริงจังอยู่ครับ”
ซูฉิงหน้าแดงระเรื่อ แล้วตบเข้าที่มือของฮ่อหยุนเฉิง แต่กลับถูกเขาดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอด
“หนูฉิงก็อยู่กับนายด้วยหรอ พอดีเลย พรุ่งนี้พวกนายมั้งสองคนกลับมาที่บ้านตระกูลฮ่อด้วยนะ”
“พรุ่งนี้เลยหรอครับ”ฮ่อหยุนเฉิงนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่เหมือนว่าพรุ่งนี้มีธุระอะไรสำคัญ
“ใช่แล้ว พรุ่งนี้ไม่ใช่วันเกิดของปู่หรอ แกกล้าที่จะลืมปู่ คอยดูว่าปู่จะจัดการตีแกมั้ย!”
น้ำเสียงของคุณปู่ก็ดูโมโหขึ้นมา
แต่หน้าของฮ่อหยุนเฉิงยังคงนิ่ง:”วันเกิดของคุณปู่ไม่ใช่อีกสี่วันหรอครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงคิดว่าน่าจะจำไม่ผิด
“กลับมาก่อนล่วงหน้าเถอะ อีกอย่างปู่ก็คิดถึงหนูฉิงแล้ว”
ที่จริงแล้วฮ่อหยุนเฉิงไม่ชอบกลับไปที่บ้านตระกูลฮ่อ เพราะคนที่นั่นนอกจากคุณปู่ฮ่อแล้ว ก็ไม่มีใครที่เขาชอบเลย
………………..
ขณะเดียวกัน ในห้องโถงบ้านตระกูลฮ่อ ฮ่อเฉียนนั่งอยู่บนโซฟา เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วกันไปมองสวีหว่านเอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พี่หว่านเอ๋อร์ อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานวันเกิดของคุณปู่ พี่หยุนเฉิงจะต้องกลับมาแน่ “ฮ่อเฉียนยิ้มพูด
สวีหว่านเอ๋อร์ที่ฉายแววตาเย็นชาออกมาแล้วเอ่ยเสี่ยงขรึม:”ใช่ จะต้องกลับมาแน่ และจะต้องพายัยแพศยาซูฉิงกลับมาด้วยแน่
พอนึกถึงงานเลี้ยงงานหมั้นของฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิง สวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดทิ่มแทงที่หน้าอก
แม้แต่ใบหน้าที่ยิ้มระรื่นของซูฉิงก็ยังติดอยู่ในหัวของเธอ
พอคิดมาถึงตอนนี้ สวีหว่านเอ๋อร์กำมือแน่นแม้แต่เล็บที่ทิ่มแทงไปในเนื้อก็ยังไม่รู้สึก
แกนังซูฉิง นังแพศยา!
ทว่าฮ่อเฉียนเห็นท่าทางของสวีหว่านเอ๋อร์ก็รู้สึกตกใจ เลยเอ่ยปากเรียก:”พี่หว่านเอ๋อร์………”
เสียงของฮ่อเฉียนช่วยดึงสติของสวีหว่านเอ๋อร์กลับมาทันที แล้วก็ทำหน้าอ่อนโยนเหมือนเดิม
“พี่หว่านเอ๋อร์ ถึงยังไงฮ่อหยุนเฉิงกับซูฉิงก็แค่หมั้นกันเท่านั้น พี่ยังมีโอกาสนะ”
“เธอพูดถูก “สวีหว่านเอ๋อร์มองดูเล็บของตัวเองพร้อมกับแฉะยิ้มออกมา”ครั้งที่แล้วทำอะไรซูฉิงไม่ได้ งานเลี้ยงครั้งนี้ ฉันจะต้องทำให้ซูฉิงเสียชื่อเสียงป่นปี้ไม่มีที่ยืนแน่”
“มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้มั้ยคะ”
คนที่ไม่ชอบซูฉิง คนแรกก็คือฮ่อหเฉียน พอได้ยินสวีหว่านเอ๋อร์พูดมาอย่างนี้เธอเลยรีบถาม
สวีหว่านเอ๋อร์แววตาระริก แล้วหัวเราะเบาๆ “มีแน่นอน”
………….
งานวันเกิดคุณปู่ฮ่อใกล้มาถึงแล้ว ซูฉิงก็เริ่มที่จะหาเตรียมของขวัญวันเกิด แต่ก็ยังเลือกไม่ได้
เธอยังไม่พอใจ ก็รู้สึกกลุ้มใจขึ้นมา
จนแสดงสีหน้าไม่ดีออกมา และท่าทีอย่างนี้ก็ตกอยู่ในสายตาของเฉินจุนเหยียน
หลังจากงานประชุมตอนเช้าเสร็จแล้ว เฉินจุนเหยียนก็รีบเดินตามซูฉิงออกมา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า ทำไมวันนี้รู้สึกว่าสีหน้าของเธอไม่ค่อยจะดีนะ”เฉินจุนเหยียนถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
ซูฉิงอึ้ง จากนั้นก็ส่ายหน้า:”ไม่มีอะไร แค่ใกล้จะถึงงานวันเกิดของคุณปู่ฮ่อแล้ว แต่ยังเลือกของขวัญให้ไม่ได้เลย”
สำหรับเฉินจุนเหยียนแล้ว ซูฉิงก็ไม่มีเรื่องอะไรที่จะปิดบังเขา เพราะทุกครั้งที่จัดงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ฮ่อ ก็มักจะเชิญแขกมาไม่น้อย และเฉินจุนเหยียนก็เป็นหนึ่งในนั้น
พอได้ยินอย่างนี้ เฉินจุนเหยียนก็นึกขึ้นมาได้ เขาก็ยกยิ้มขึ้นมา “ให้ฉันช่วยเธอเลือกมั้ย”
“นายหรอ”ซูฉิงอึ้ง
“ทำไมหรอ ไม่เชื่อใจฉันหรอ”เฉินจุนเหยียนเลิกคิ้วหน้ายิ้มขึ้น
ซูฉิงหัวเราะออกมาแต่สุดท้ายก็ส่ายหน้า เรื่องเล็กน้อยอย่างนี้เธอสามารถจัดการเองได้
เฉินจุนเหยียนเผยแววตาผิดหวังออกมาแต่ก็ไม่พูดอะไร ทำได้เพียงเดินเคียงไหล่ไปพร้อมกับซูฉิง
และเวลานี้เองไหล่ของซูฉิงก็ถูกคนชน จนทำให้เธอกับเฉินจุนเหยียนแยกออกจากกัน
ซูฉิงหันกลับไปมองอย่างแปลกใจ และพบว่าเป็นโจเซฟที่ยืนอยู่ตรงหน้าตน แม้เขาจะยิ้มให้แต่สายตานิ่งกลับมองหน้าเฉินจุนเยียน
“นายเข้ามาได้ยังไง”ซูฉิงกะพริบตา เธอจำได้ว่าบอกพนักงานต้อนรับไว้แล้วนี่ว่าไม่ให้โจเซฟเข้ามา
แต่ตอนนี้เขามายืนอยู่ตรงหน้าตนแล้ว
“ความลับ”โจเซฟส่ายนิ้วไปมา แกล้งทำหน้าที่คาดเดาไม่ออก
ซูฉิงมองด้วยความรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย”นายคิดจะทำอะไรอีก”
“แน่นอนว่ามาชวนเธอไปกินข้าว “โจเซฟขยับเข้าไปยืนแทรกกลางระหว่างเฉินจุนเหยียนกับซูฉิง
เป้าหมายที่อยู่ในอันตรายแน่นอนว่าจะต้องทำการป้องกัน
“ไม่ใช่บอกว่า………..”
ซูฉิงนวดหน้าผากอย่างหมดความอดทน และโจเซฟไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน ยื่นมือสะกิดแขนเสื้อของซูฉิง
“ไปเถอะนะ ”
เฉินจุนเหยียนเห็นซูฉิงทำหน้าเซ็งก็รีบเอ่ยว่า:”ต้องขอโทษด้วย ซูฉิงรับปากฉันแล้ว นายกลับไปได้แล้ว”
โจเซฟมองเฉินจุนเหยียนอย่างไม่ชอบใจ
แอี๊ด!
ทันใดนั้นเสียงประตูเปิดออกมาเสียงดัง