นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 557 เกิดปัญหาขึ้นในบริษัท
ซูฉิงมองทั้งสองคนตรงหน้าก็รู้สึกปวดหัว อดที่จะหันไปด้านข้าง
ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองมั้ย เธอมักจะรู้สึกว่ามีคนแอบมองเธออยู่
“พวกนายทั้งสองว่างมากนักรึไง”
ซูฉิงที่เอ่ยพูดอย่างหมดความอดทน และก็ไม่สนใจผู้ชายทั้งสองคนที่อยู่ข้างหลัง เดินไปเตรียมไปทำงานของเธอ
โจเซฟเห็นอย่างนั้นก็จ้องเฉินจุนเหยียนเขม็ง แล้วรีบเดินตามซูฉิงไป
และตอนที่ซูฉิงเดินมาตรงมุมห้อง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านเธอไป เขาก้มหน้าเหมือนกับรู้สึกตื่นตระหนก
ซูฉิงมองดูจะรู้สึกแปลกๆ เลยเรียกเขาไว้
“นายเดี๋ยวก่อน”
ผู้ชายคนนั้นทำตัวแข็งทื่อ แม้จะหยุดเดินแล้วแต่ก็ไม่คิดจะหันกลับมา
เขาดึงชายเสื่อเหมือนเตรียมตัวจะทำอะไร
“นายอยู่แผนกไหน ทำไมฉันรู้สึกว่าเหมือนไม่เคยเจอหน้านายมาก่อน”ไม่ใช่ว่าซูฉิงจะหาเรื่อง แต่เธอคิดว่าคนนี้ดูแปลกมาก
“ผม………ผม……..”ชายคนนั้นพูดติดอ่าง พูดไม่ออก
ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของซูฉิงก็ดังขึ้น และตอนที่เธอก้มหน้าลงนั้นผู้ชายคนนั้นก็รีบวิ่งออกไป
“นี่!”โจเซฟที่อยู่ข้างๆ ซูฉิงก็ตกใจ
และตอนนี้ทำท่าทีอย่างนี้ก็เป็นการยืนยันแล้วว่าคนคนนี้น่าจะมีปัญหา ซูฉิงหน้านิ่งขรึมแล้วติดต่อหาผู้ช่วย
“ให้ยามปิดประตูทางเข้าออก ตอนนี้บริษัทอนุญาตให้คนเข้าไม่อนุญาตให้คนออก!”
ซูฉิงหน้านิ่งขรึม นึกถึงกลองที่ชายคนนั้นกอดอยู่ เกราะว่าจะเป็นพวกนักข่าวที่เข้ามา
โจเซฟที่พอคิดได้ก็รีบเดินตามไป เขามองซูฉิงแล้วก็หายใจหอบออกมา
“ไม่เจอ คนนั้นวิ่งเร็วมาก เป็นใครกัน คงไม่ใช่มาหาเอกสารอะไรนะ”
ซูฉิหยิบโทรศัพท์มาโทรแจ้งยามให้เปิดประตูเหมือนเดิม
“เป็นพวกนักข่าวแอบเข้ามา”
ซูฉิงคิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นจะหนีได้เร็วขนาดนี้ เธอที่รอไปดูกล้องวงจรปิดก็ไม่เจอชายคนนั้นแม้แต่เงาแล้ว
“นักข่าวงั้นหรอหรือว่าจะเข้ามาถ่ายข่าวซุบซิบอะไร”
โจเซฟรู้สึกแปลกใจ เพราะเขารู้ว่าพวกนักข่าวไม่น่าจะออกมาเผยตัวอย่างนี้มั้ย และตอนนี้เข้ามาในบริษัทของคนอื่นคิดจะทำอะไร
พอนึกมาถึงตอนนี้ โจเซฟก็เคาะแก้มตัวเองแล้วตั้งใจพูด:”รีบแจ้งความเถอะ”
“ไม่มีประโยชน์ และตอนนี้บริษัทก็เปิดให้เข้าออกปกติแล้ว เข้ามาได้ก็เป็นเรื่องปกติ “ซูฉิงแววตาไหวระริกเล็กน้อย เธอคิดว่าคนนั้นคงแอบวิ่งเข้ามาเกรงว่าน่าจะไม่ใช่ง่ายๆ
ก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาแล้ว ดังนั้นซูฉิงก็เลยไม่สนใจ แต่ตอนนี้เรื่องนี้เหมือนเป็นการเตือนความจำของเธอ
“ไปตรวจดูหน่อยก็ดีนะว่ามีอะไรหายไปมั้ย”โจเซฟมองดูท่าทีของซูฉิงก็เอ่ยพูดเบาๆ
ถึงแม้ว่าซูฉิงคิดจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ แต่ทั้งบริษัทก็น่าจะรู้ว่าว่ามีคนเข้ามาในบริษัท
ซูฉิงก็ไม่ได้สนใจ แล้วให้คนไปเอากล้องวงจรปิดไปตรวจดู
หลิวเสี่ยวหนิงที่กลับเข้ามาบริษัทตอนบ่าย ได้ยินเรื่องนี้ก็รีบเข้าไปหาซูฉิง
“คุณฉิง ตอนบ่ายเกิดเรื่องอะไรขึ้น”หลิวเสี่ยวหนิงที่คิดยิ่งรู้สึกหวาดกลัว เพราะว่านักข่าวเข้ามาในบริษัทเข้ามาแอบถ่ายก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี
“ได้ให้คนไปตรวจสอบแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายๆ เกรงว่าน่าจะมีไม่กี่คน”ซูฉิงยิ้มพูด
จะมีนักข่าวจากสำนักพิมพ์ไหนบ้างที่ไม่อยากได้ข่าวที่สดใหม่ที่สุด แต่มีคนจำนวนไม่มากที่เต็มใจจะยั่วยุคนที่ไม่ควรยั่วยุเพราะเห็นแก่การเปิดเผย
หลิวเสี่ยวหนิงมีท่าทีเป็นกังวล เธอมองซูฉิงด้วยท่าทีลังเล
“เธออยากจะพูดอะไร”ซูฉิงเงยหน้ามองหลิวเสี่ยวหนิง
“พี่ไม่คิดหรอว่าพวกนั้นข่าวเข้ามาง่ายไปไหม”
หลิวเสี่ยวหนิงกะพริบตา ที่สตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์มีพนักงานรักษาความปลอดภัยที่ดีมาก เมื่อก่อนมีคนมากมายที่แอบเข้ามาแต่ก็ไม่สำเร็จ แล้วทำไมถึงได้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมาได้
เธอคิดว่านักข่าวคนนี้จะต้องมีเส้นสายแน่
“เธอหมายความว่า…….”แววตาของซูฉิงฉายแววเคร่งขรึม ความคิดของหลิวเสี่ยวหนิงเป็นเรื่องที่เธอลืมไปเลย
หลิวเสี่ยวหนิงเห็นอย่างนั้นก็เอ่ยปากพูด:”ฉันคิดว่าในบริษัทจะมีเกลือเป็นหนอน”
ซูฉิงไม่ได้พูดอะไร หลิวเสี่ยวหนิงก็ยิ้มพูด”ฉันก็แค่คาดเดาเท่านั้น น่าจะไม่มีปัญหาอย่างนี้หรอกมั้ง”
ซูฉิงหัวเราะเยาะ เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมา ขนตายาวสั่นเล็กน้อยเหมือนปีกผีเสื้อ: “อาจจะก็ได้นะ”
ซูฉิงหยุดแล้วหันไปมองหน้าหลิวเสี่ยวหนิงอีกครั้ง
“อ้อ ละครถ่ายทำไปถึงไหนแล้ว”
“อืม…….”หลิวเสี่ยวหนิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วยิ้มพูด”ก็ราบรื่นดี มีบริษัทของเราลงทุนด้วยก็ดีแล้ว อาหารล้วนดีกว่าเรื่องที่แล้วอีก”
พอได้ยินอย่างนั้น ซูฉิงก็หันไปมองหลิวเสี่ยวหนิง “คงจะไปอย่างนี้เพราะฉันรู้สึกว่าเธออ้วนแล้ว”
ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวหนิงเหมือนกับแมวถูกเหยียบหาง แล้วก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“เหลวไหล ! ฉันอ้วนที่ไหน”
“ลุกขึ้นมายิ่งเห็นได้ชัดเจน หลิวเสี่ยหนิงหน้าของเธอกลมแล้ว”
ซูฉิงยื่นมือขึ้นมาลูบไล้ตรงคาง มองด้วยสีหน้าจริงจังขึ้น
“เธอน่าจะไม่ได้ควบคุมน้ำหนักใช่มั้ย “ซูฉิงพูดออกไปตรงๆ
ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวหนิงก็เหมือนกับลูกโป่งรั่ว แล้วกระซิบพูด:”เรื่องนี้จะโทษฉันไม่ได้นะ”
“คุณผู้หญิงหลิวคะ ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของดารา แต่ตอนนี้เธอจะความสุขกับความรักเกินไปแล้วมั้ย”
ซูฉิงมองท่าทางของหลิวเสี่ยวหนิง ก็จะพูดหยอกล้อต่อ
“รู้แล้วรู้แล้ว! ฉันจะลดหุ่น”หลิวเสี่ยวหนิงพูดตัดบทไป และก็แอบก่นด่าจินจิ่นหรานอยู่ในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาที่หาวิธีมาทำให้เธอเจริญอาหาร แล้วเธอจะอ้วนอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ
“กลับไปฉันจะบอกผู้จัดการของเธอ”ซูฉิงกะซิบเสียงเบา “อ้อ หลังจากที่ถ่ายละครเสร็จแล้ว มีงานพรีเซนเตอร์แบรนด์หนึ่ง อีกไม่กี่วันให้เธอเข้ามาลองเทสหน้ากล้องดู
“เป็นแบรนด์เสื้อผ้าหรอคะ “หลิวเสี่ยวหนิงถามอย่างอยากรู้
ซูฉิงก้มหน้าตอบ:”เดือนหน้ามีแฟชั่นวิคประจำมีโอกาสอาจจะต้องให้เธอไปเดินแบบ ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลวนะ เรื่องรายละเอียดเธอก็ค่อยไปถามผู้จัดการของเธอก็แล้วกัน”
หลิวเสี่ยวหนิงพยักหน้า หลังจากที่ซูฉิงพูดเรื่องงานเสร็จแล้วก็ให้หลิวเสี่ยวหนิงกลับไป
ติ๊ดๆ เสียงโทรศัพท์ของซูฉิงที่วางอยู่ข้างๆ ก็ดังขึ้น และพอเปิดดูก็เห็นว่าฮ่อหยุนเฉิงโทรมา
“ยุ่งมั้ย เดี๋ยวฉันจะไปรับเธอนะ”
พอได้ยินอย่างนั้นซูฉิงก็รู้สึกใจเต้น”ทำยังไงดี ฉันยังไม่ได้เตรียมของขวัญวันเกิดให้คุณปู่เลย!”