“นี่คืออสูรเวิ้งว้างหรือ?!”

เซี่ยปิงหรี่ตาลง เขาพบว่ารอบๆที่ราบแห่งนี้มีกลุ่มของปีศาจที่ทั่วทั้งร่างเป็นคริสตัล โปร่งใสและเป็นประกาย มีออร่าของห้วงมิติที่เข้มข้นแผ่ออกมาจากร่างกายของพวกมัน พวกมันมีกรงเล็บและเขี้ยวที่แหลมคม มีเขา เกล็ดและส่วนอื่นๆ มีรูปร่างคล้ายกับสิงโต

พลังป้องกันของร่างกายพวกมันก็ทรงพลังอย่างถึงที่สุด เหมือนกับว่าพลังอำนาจปกติธรรมดาไม่สามารถที่จะเจาะทะลวงเกล็ดของพวกมันได้ เหมือนกับเกล็ดแต่ละชิ้นมีอักขระห้วงมิติที่ซับซ้อนจารึกอยู่ ล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้

บางทีผู้บ่มเพาะปกติทั่วไปที่แสดงพลังอำนาจทั้งหมดออกมา ก็ไม่อาจทำร้ายพวกมันได้แม้แต่น้อย ปกติแล้วการที่ประหมัดหมัดใส่พวกมัน ทว่ากลับไม่สามารถสร้างรอยแผลใดๆให้กับอสูรเวิ้งว้างเหล่านี้ได้ จากนั้นก็จะถูกอสูรเวิ้งว้างตะปบกรงเล็บออกไป ร่างกายถูกฉีกกลายเป็นชิ้นๆ

เดิมทีหม่ากู่โป๋และคนอื่นๆก็ตกที่นั่งลำบากจนต้องหลบหนีออกมา ไม่ใช่คู่มือของพวกมันแม้แต่น้อย

ทว่าต่อให้อสูรเวิ้งว้างเหล่านี้จะดุร้ายและแข็งแกร่งอย่างมาก ยานอวกาศเหล่านี้ก็ไม่ได้ธรรมดาเช่นกัน ปืนใหญ่เลเซอร์ที่ยิงออกไปแต่ละครั้ง มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวอย่างไร้ขอบเขต เจาะทะลวงร่างของอสูรเวิ้งว้างเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย หลงเหลือไว้เพียงซากศพของพวกมันเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นออร่าที่แผ่ออกมาจากยานอวกาศเหล่านี้ก็ทรงอำนาจอย่างมาก เหมือนกับว่าจะมีผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานและระดับกฎเทวรูปอยู่ภายในยานอวกาศเหล่านี้เป็นจำนวนมาก แม้แต่ออร่าของยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าก็มีเช่นกัน

หลังจากผ่านเวลาไปครู่หนึ่ง อสูรเวิ้งว้างจำนวนหลายหมื่นตัวในที่ราบแห่งนี้ก็ถูกสังหารไปทั้งหมด

“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

เซี่ยปิงถามหม่ากู่โป๋

“สหายเซี่ย บางทีนี่อาจจะเป็นบรรดาผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงที่เดินทางมาที่นี่ ในช่วงเวลาที่พวกเราถูกไล่ล่าโดยอสูรเวิ้งว้างนั้น ข้าก็ได้ถ่ายทอดข้อมูลของหินห้วงมิติจำนวนมหาศาลกลับไปทางนิกาย คาดการณ์ได้ว่าพวกเขาได้รับข้อมูลนี้ ดังนั้นจึงได้เดินทางมาที่นี่อย่างรวดเร็วและปิดกั้นพื้นที่แห่งนี้ไว้”

หม่ากู่โป๋คาดเดาออกมา

เพราะไม่ว่านิกายใดๆที่ได้รับข่าวเช่นนี้ ก็จะต้องรีบส่งผู้คนออกมาอย่างบ้าคลั่ง ต้องการที่จะยึดครองทุกอย่างไว้เพียงผู้เดียว ไม่มีใครที่จะปฏิเสธการที่ตนเองมีสมบัติมากเกินไป

อย่าพูดถึงเรื่องที่ว่าหินห้วงมิติเหล่านี้เป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ สิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์จำนวนมากก็ต้องใช้หินห้วงมิติ แม้แต่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์บางประเภทก็จำเป็นต้องพึ่งพาพลังงานของหินห้วงมิติเช่นกัน

“ไม่ มีบางอย่างผิดปกติ จากสัญลักษณ์ที่เกราะชั้นนอกของยานอวกาศเหล่านี้ เหมือนกับว่าจะไม่ได้มีเพียงนิกายหยวนหมิงเท่านั้น”

เซี่ยปิงหรี่ตามอง

“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าข่าวรั่วไหลออกไป กลุ่มอิทธิพลอื่นๆได้รับข้อมูลนี้ไป จากนั้นจึงต้องการที่จะเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์ บอกตามตรง ข้าไม่เคยคิดว่านิกายหยวนหมิงมีระบบความปลอดภัยที่ดี มีคนปากเปราะมากมาย ไม่สามารถเก็บความลับอะไรได้”

หม่ากู่โป๋ก็พูดยืนยันออกมา คุ้นเคยกับสถานการณ์ของนิกายหยวนหมิงเป็นอย่างดี

นิกายแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นรังของกองโจร มีผู้คนมากมายหลายตาที่ผสมรวมกัน มีอิสระอย่างมาก ทว่ามันก็บ่งบอกถึงการไม่มีระเบียบวินัย ไม่ได้เข้มงวดในเรื่องกฎ ดังนั้นกลุ่มอิทธิพลจำนวนมากจึงมักที่จะส่งคนของตนเองเข้ามาในนิกายหยวนหมิงเพื่อสืบหาข้อมูล

“เดี๋ยว สัญลักษณ์ของนิกายเหล่านี้ ข้าเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”

เซี่ยปิงก็จับจ้องไปที่สัญลักษณ์ของยานอวกาศที่อยู่ห่างออกไป จากนั้นก็จดจำได้อย่างกะทันหัน นิกายที่ตนเองคุ้นเคยก็มีนิกายสวรรค์เบื้องบนและนิกายสวรรค์ชั้นฟ้า ส่วนที่ไม่ได้คุ้นเคยก็มีนิกายหยวนหมิง นิกายประตูจันทราโบราณและนิกายบัญชาสวรรค์

นิกายเหล่านี้ล้วนเป็นนิกายระดับเซนต์ในทางเหนือของจักรวาล ร่วมมือซึ่งกันและกัน เป็นดั่งเพื่อนบ้านเรือนเคียง

“น่าสนใจจริงๆ”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง ดวงตาเผยให้เห็นแสงประกาย เขาตัดสินใจที่จะไม่แหวกหญ้าให้งูตื่นก่อน ทว่าจะแอบลักลอบเข้าไปในกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้และสืบหาข่าว หลังจากนั้นก็จะตัดสินใจในอีกครั้ง

เพราะถึงอย่างไร ตามที่หม่ากู่โป๋กล่าวไว้ ดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้ไม่ได้ธรรมดาเลย ข้างในมีอสูรดุร้ายมากมายที่อาศัยอยู่ การที่ต้องการจะครอบครองหินห้วงมิตินั้นจำเป็นที่จะต้องจัดการกับกลุ่มของอสูรดุร้ายเหล่านี้

บางทีเขาก็อาจจะมีโอกาสที่จะกำจัดกลุ่มของอสูรดุร้ายเหล่านี้ด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มอิทธิพลเหล่านี้ เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ในฐานะมือที่สาม

วิซ!

อันดับแรกเขาทำการเก็บยานดาราจักรก่อน จากนั้นก็ใช้หน้ากากไร้ตัวตนและเปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มควัน เข้าไปใกล้นิกายหยวนหมิงและกลุ่มอิทธิพลอื่นๆเหล่านี้อย่างรวดเร็ว

………..

ในช่วงเวลานี้ ภายในยานอวกาศของนิกายหยวนหมิง ผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงจำนวนมากกำลังรวมตัวกัน อย่างน้อยทุกคนก็มีพลังอำนาจในระดับกฎเทวรูป

เรียกได้ว่านอกจากบรรดาผู้ที่อยู่ดูแลความปลอดภัยของนิกาย กำลังเก็บตัวบ่มเพาะอยู่หรือออกไปทำภารกิจข้างนอกนั้น ผู้อาวุโสที่เหลือทั้งหมดต่างก็เดินทางมาที่นี่ เรียกได้ว่ายอดฝีมือเกือบทั้งหมดของนิกายหยวนหมิงต่างก็รวมตัวกันอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว

“เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ดินแดนลี้ลับแห่งนี้มีพลังงานห้วงมิติที่อุดมสมบูรณ์จริงๆ อีกทั้งการที่มีอสูรเวิ้งว้างอาศัยอยู่เป็นจำนวนมหาศาลเช่นนี้ ที่แห่งนี้จะต้องมีหินห้วงมิติเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าข่าวที่ผู้อาวุโสหม่ากู่โป๋ส่งกลับมาจะเป็นความจริง”

ผู้ที่เอ่ยขึ้นมานี้ก็คือหลิวเหวินผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหยวนหมิง เป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นกลาง เขาลูบเคราสีเทาของตนเอง มองดูซากศพของอสูรเวิ้งว้างที่พื้น ทันใดนั้นก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก

“อสูรเวิ้งว้างเหล่านี้ช่างโง่เขลาจริงๆ เป็นเพียงสัตว์ร้ายที่ไร้สมอง ไม่ได้คิดคำนวณแม้แต่น้อยว่าศัตรูทรงพลังแค่ไหน ไม่คาดคิดว่าจะกล้าก้าวเข้าหาความตาย ท้ายที่สุดก็ถูกพวกเราฆ่าล้างไปอย่างง่ายดาย”

“อสูรเวิ้งว้างเหล่านี้ต่างก็กินหินห้วงมิติเป็นอาหาร ตัวของพวกมันเองก็ยังเป็นสัตว์ประหลาดประเภทห้วงมิติ เรียกได้ว่าทุกส่วนของพวกมันล้ำค่าอย่างยิ่ง เหมาะสมสำหรับการใช้หล่อหลอมสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์เชิงห้วงมิติอย่างมาก”

“เก็บกวาด เก็บกวาดซากศพของอสูรเวิ้งว้างเหล่านี้มาให้หมด อย่าให้มีเหลือแม้แต่ตัวเดียว นี่คือทรัพย์สินเงินทองที่มีค่า”

ผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงจำนวนมากก็เผยสายตาที่ละโมบออกมา แต่ละคนต่างก็เป็นเหมือนกับโจรก็ว่าได้ ละโมบอย่างถึงที่สุด ปรารถนาที่จะครอบครองซากศพของอสูรเวิ้งว้างเหล่านี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว ไม่ว่าสมบัติใดๆที่ผ่านสายตาของตนเอง จะต้องถูกปล้นชิงไปทั้งหมด

“ฮ่าฮ่า ต้องขอบคุณผู้อาวุโสหม่ากู่โป๋จริงๆที่ส่งข่าวมาให้กับพวกเรา หากไม่มีเขา มีที่ไหนที่พวกเราจะตามหาดินแดนที่ลี้ลับเช่นนี้ได้ ครอบครองความมั่งคั่งที่ไม่คาดฝัน น่าเสียดายที่เขาถูกไล่ล่าโดยกลุ่มอสูรเวิ้งว้างจำนวนมาก ท้ายที่สุดก็โชคร้ายเผชิญเข้ากับพายุอวกาศ ตอนนี้แม้แต่กระดูกก็คงจะไม่มีเหลือ หากเขายังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ ข้าจะต้องเอ่ยปากขอบคุณเขาอย่างแน่นอน”

ผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงคนหนึ่งก็เงยหน้ามองท้องฟ้าและถอนหายใจออกมาอย่างยาวๆ

ผู้อาวุโสจำนวนมากที่ได้ยินถ้อยคำเช่นนี้ พวกเขาก็เปล่งเสียงออกมาในลำคอ พวกเขารู้สึกได้ว่านี่เป็นคำพูดเสแสร้ง เพราะว่าในระหว่างที่พูดอยู่นั้น ผู้อาวุโสคนนี้ไม่ได้มีอารมณ์โศกเศร้าแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังเหมือนกับว่าจะมีอารมณ์ที่มีความสุขกับความทุกข์ของผู้อื่น

ทว่าพวกเขาบรรดาผู้อาวุโสก็ได้ทำการแบ่งทรัพย์สินเงินทองที่ได้รับมา ไม่รู้ว่าแต่ละคนได้ครอบครองผลประโยชน์ไปมากแค่ไหน

“เอาล่ะ อย่าพูดถึงบุคคลที่ตายไปแล้วเลย ทว่าตอนนี้ข้าอยากรู้ว่าไอ้ลูกหมาที่ไหนกันที่ปล่อยให้ข่าวของดินแดนลี้ลับแห่งนี้รั่วไหลออกไป ไม่คาดคิดว่าจะทำให้นิกายประตูจันทราโบราณ นิกายบัญชาสวรรค์ นิกายสวรรค์เบื้องบนและนิกายสวรรค์ชั้นฟ้าเหล่านี้เข้ามาแย่งชิงผลประโยชน์ของพวกเรา ช่างไร้สาระสิ้นดี ไม่รู้ว่าผลประโยชน์ของพวกเราจะลดน้อยลงไปแค่ไหน”

หลิวเหวินผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหยวนหมิงก็กัดฟันอย่างแน่น มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างมาก มองบรรดาผู้อาวุโสของนิกายหยวนหมิงที่อยู่รอบๆด้วยสีหน้าที่มืดมน เขาเชื่อว่าข่าวเรื่องนี้จะต้องรั่วไหลออกไปจากปากของใครสักคนในกลุ่มผู้อาวุโสเหล่านี้อย่างแน่นอน

ทว่าเขาก็ไม่สามารถสืบหาได้ว่าเป็นใคร

หากไม่มีหนอนบ่อนไส้ที่ปล่อยข่าวนี้ออกไป นิกายหยวนหมิงของพวกเขาจะสามารถครอบครองทุกอย่างไว้แต่เพียงผู้เดียว มีที่ไหนที่จะต้องมาแบ่งปันผลประโยชน์กับกลุ่มอิทธิพลอื่นๆเช่นนี้

น่าเสียดายที่ไม่ว่าจะพูดอะไรในตอนนี้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว

“ท่านผู้อาวุโสสูงสุด พูดสิ่งเหล่านี้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา พวกเรารีบหาสายแร่ของหินห้วงมิติกันเถอะ ขุดหาในทุกหนแห่ง”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็เสนอความคิดเห็นออกมา “ไม่รู้ว่าช่องทางห้วงมิติของโลกแห่งนี้จะคงอยู่เป็นระยะเวลานานแค่ไหน หากช่องทางห้วงมิติหายไปและพวกเรายังไมได้กลับออกไปล่ะก็ คาดการณ์ได้ว่าอาจจะติดอยู่ในโลกแห่งนี้ไปตลอดกาล”

“พวกเราควรใช้โอกาสนี้ในการขุดหาหินห้วงมิติให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ การที่จะบ่นคร่ำครวญก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร อย่ามัวแต่เสียเวลาอยู่เลย”

เมื่อได้ยินคำเหล่านี้ หลิวเหวินก็ปล่อยวางเรื่องนี้ทันที จากนั้นเขาก็ถ่ายทอดคำสั่งออกไป บอกว่าผู้อาวุโสจำนวนมากตามหาสายแร่ของหินห้วงมิติภายในโลกแห่งนี้