วิซ!

เซี่ยปิงนั่งอยู่ในยานดาราจักร โลดแล่นอยู่ในผืนอวกาศ จากนั้นก็มาถึงที่เส้นขอบของทางช้างเผือกอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่ารอบๆทางช้างเผือกมีพายุอวกาศที่ห้อมล้อมอยู่ เหมือนกับว่าเป็นอสูรโบราณขนาดยักษ์ที่พ่นลมหายใจออกมาก็ว่าได้ พัดไปมาอยู่ในจักรวาล ฟู้ ฟู้ ส่งเสียงดังขึ้นมา รอบๆเต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าที่อ้างว้างและสิ้นหวัง

ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ของพายุอวกาศนี้ก็ทอดยาวออกไปไกลหลายพันปีแสง เป็นพายุที่แปรปรวนและยุ่งเหยิง แอบแฝงไปด้วยพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ยานอวกาศปกติธรรมดาที่เข้าไป จะต้องถูกทำลายภายในพริบตา

“ไม่ประหลาดใจว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นเขตพื้นที่ต้องห้ามของพายุ ไม่มีร่องรอยของผู้อยู่อาศัย ผ่านมากี่ปีๆก็ไม่มีใครเข้ามา”

เซี่ยปิงก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก พายุอวกาศนี้ช่างน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่มีพายุอวกาศที่พัดไปมาเท่านั้น ทว่าก็ยังมีรอยเลื่อนของอวกาศที่อันตรายมากมาย

ไม่ว่าจะเป็นสายฟ้าที่ระเบิดออกมา กระแสลาวาที่ยิ่งใหญ่ น้ำแข็งหิมะที่พัดไปมา พิษที่ร้ายแรงครอบคลุมทั่วอวกาศและพลังงานอื่นๆ เหมือนกับว่าพลังงานที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ต่างก็รั่วไหลออกมาจากพื้นที่ห้วงมิติจำนวนนับไม่ถ้วน มีพลังอำนาจที่ไร้ขอบเขต

เมื่อใดที่ถูกกวาดเข้าไป บางทีอาจจะสูญหายไปในพื้นที่ห้วงมิติตลอดกาล ไม่สามารถที่จะกลับมาสู่ตำแหน่งเดิมของจักรวาลได้อีกครั้ง กลายเป็นบุคคลสูญหายจนกว่าจะเสียชีวิตไป

แม้แต่ยานดาราจักรก็ไม่สามารถต้านทานพลังงานระเบิดของพายุนี้ได้ หากถูกกวาดเข้าไป บางทีก็อาจจะไม่สามารถกลับออกมาอีก ตายไปโดยที่ไร้ซากศพ

หากหม่ากู่โป๋และคนอื่นๆไม่ได้มีโชคดวงที่ท้าทายสวรรค์ บางทีก็อาจจะไม่มีโอกาสข้ามผ่านพายุอวกาศนี้ได้ จะตายอยู่ภายใน ไม่หลงเหลือแม้แต่เศษซาก

ในความเป็นจริง หลายปีที่ผ่านมานี้ ดาวหยานหวงก็็ไม่เคยเผชิญกับแขกจากนอกโลกมาก่อน คาดการณ์ได้ว่าหากไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆขึ้น ดาวหยานหวงก็คงจะพัฒนาต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะค้นพบพายุอวกาศที่อยู่รอบๆตัวมัน

แน่นอนว่าการที่ดาวหยานหวงเชื่อมต่อเข้ากับโลกแห่งเมฆาด้วยความบังเอิญและให้กำเนิดช่องทางห้วงมิติขึ้นมานั้น นี่ก็เป็นปรากฏการณ์และปาฏิหาริย์ที่ไม่สามารถคาดฝันของจักรวาล

“หม่ากู่โป๋ เจ้ารู้หรือไม่ว่าจะออกไปจากพายุอวกาศนี้ได้อย่างไร?”

เซี่ยปิงก็ถ่ายทอดข้อความผ่านทางจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ ถามหม่ากู่โป๋ที่อยู่ภายในพื้นที่ของลูกปัดพิภพ

“ขออภัยด้วยสหายเซี่ย”

หม่ากู่โป๋พูดอย่างอับจนหนทาง “พวกเราข้ามผ่านพายุนี้มาได้เพียงเพราะโชคช่วยเท่านั้น การที่ต้องการจะทำซ้ำอีกครั้งนั้น นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต่อให้จะสอบถามข้า มันก็เปล่าประโยชน์”

เขายักไหล่ บ่งบอกว่าตนเองไม่มีวิธีการ

“ลืมมันไปเถอะ ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เข็มทิศแห่งความปรารถนาเท่านั้น”

เซี่ยปิงก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับหม่ากู่โป๋มากนัก ทว่าก็โชคดีที่บนตัวของเขายังมีสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ธรรมชาติ—เข็มทิศแห่งความปรารถนาอยู่

ปัง!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็ไม่ได้ลังเลอีก ทันใดนั้นก็เริ่มลงมือ หลั่งไหลจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของตนเองลงไปในเข็มทิศแห่งความปรารถนา ทันใดนั้นเข็มชี้ทิศทางของมันก็เริ่มที่จะหมุนอย่างรวดเร็ว

“ทิศทางนั้น”

เซี่ยปิงก็เดินทางไปตามการชี้นำของเข็มทิศแห่งความปรารถนาทันที ควบคุมยานดาราจักรออกไป บินไปตามตำแหน่งของมัน

วิซ!

ทันใดนั้นยานดาราจักรก็เข้ามาในเขตพายุ ทว่าสิ่งที่แปลกก็คือเมื่อบินไปตามทิศทางที่เข็มทิศแห่งความปรารถนาได้ชี้นำนั้น เส้นทางกลับปลอดภัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ไม่ได้เผชิญกับอันตรายใดๆเลย

เหมือนกับว่าพายุนับไม่ถ้วนที่พัดไปรอบๆ ภายใต้ความยุ่งเหยิงและความไม่เป็นระเบียบนั้น มันก็ยังเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ไม่คาดคิดว่าจะก่อตัวกลายเป็นช่องทางที่มั่นคงและปลอดภัย ซึ่งภายใต้การเชื่อมโยงของพายุอวกาศนับไม่ถ้วนนี้ มันก็มีจุดบอดที่ปรากฏขึ้นมา

คาดการณ์ได้ว่าหม่ากู่โป๋และลูกศิษย์ของนิกายหยวนหมิงคนอื่นๆก็ได้ผ่านเข้ามาทางช่องทางนี้ เรียกได้ว่ามีโชคดวงที่ยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ข้ามผ่านพายุอวกาศนี้ได้อย่างปลอดภัย

หากปราศจากการชี้นำของเข็มทิศแห่งความปรารถนา ต่อให้ผู้คนปกติธรรมดาจะใช้เวลาทั้งชีวิตในการเสาะหาเส้นทาง ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตามหาช่องทางที่ปลอดภัยนี้ได้

…………..

หนึ่งวันผ่านไป

ยานดาราจักรก็ได้บินผ่านช่องทางนี้ออกมาอย่างปลอดภัย ต่อให้รอบๆจะมีพายุอวกาศนับไม่ถ้วนที่พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ทว่าช่องทางนี้ก็ยังคงปลอดภัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เป็นเส้นทางที่ปลอดภัยเพียงแค่เส้นทางเดียว

ทันใดนั้นยานดาราจักรก็ออกมาถึงอาณาเขตดวงดาวข้างนอกที่สงบเงียบ เป็นผืนอวกาศที่มืดมิด

“อันที่จริงช่องทางนี้ก็เป็นปัญหาอยู่เหมือนกัน”

เซี่ยปิงหรี่ตาลง ถึงแม้ว่าการที่มีช่องทางนำไปสู่โลกภายนอกจะเป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาก็คือว่าหากช่องทางนี้ถูกค้นพบขึ้นมา บางทีในตอนนั้นมันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้

ต่อให้ช่องทางนี้จะค้นพบได้ยากอย่างยิ่ง ทว่าใครจะสามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีกรณีเหมือนอย่างหม่ากู่โป๋อีก เมื่อถึงเวลานั้นดาวหยานหวงก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ จะต้องคิดหาทางปกปิดช่องทางของพายุนี้ไว้

“ดูเหมือนว่าจะต้องหาทางแก้ไขชั่วคราว ทำได้เพียงแค่จัดตั้งค่ายกลขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้และปกปิดช่องทางนี้ไว้” เซี่ยปิงก็คิดได้อย่างกะทันกัน ค้นพบวิธีการในทันที นั่นก็คือการติดตั้งค่ายกลไว้ในสถานที่แห่งนี้

ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาติดตั้งค่ายกล เขาจะต้องตามหาดินแดนลี้ลับที่ซ่อนหินห้วงมิติเป็นจำนวนมหาศาล นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ สำหรับการปกปิดช่องทางนี้นั้น การที่จะดำเนินการหลังจากนี้ก็ยังไม่ถือว่าสายเกินไป

“ดินแดนที่ลี้ลับแห่งนั้นอยู่ที่ใด?”

เซี่ยปิงเอ่ยถามหม่ากู่โป๋

“สหายเซี่ย อยู่ข้างหน้านี่เอง ห่างออกไปประมาณ150ล้านกิโลเมตร”

หม่ากู่โป๋เอ่ยออกมา จากนั้นก็ชี้ไปที่ทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือ

เห็นเพียงแค่ระยะที่ห่างออกไปมีแสงที่ระยิบระยับเป็นครั้งคราว นั่นคือประตูแสงสีครามขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่าเป็นช่องทางห้วงมิติบางอย่าง เหมือนกับเป็นปากของอสูรยักษ์ก็ว่าได้ แผ่ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

“สหายเซี่ย ดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้เหมือนจะเคลื่อนที่ได้ ไม่ได้ตั้งประจำอยู่ที่จุดๆเดียว เมื่อถึงเวลามันจะเคลื่อนย้ายออกไปในตำแหน่งอื่นโดยอัตโนมัติ บางทีดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้ก็อาจจะตั้งอยู่ในสถานที่แห่งนี้เพียงแค่สิบกว่าวันเท่านั้น หากพลาดโอกาสนี้ไป การที่ต้องการจะตามหามันอีกครั้ง ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นแค่ไหน”

หม่ากู่โป๋พูดย้ำเตือนออกมา

วิซ!

เซี่ยปิงก็บังคับยานดาราจักรมุ่งหน้าไปตามจุดที่หม่ากู่โป๋ชี้ทันที บินไปอย่างเงียบสงบ หลอมรวมเข้ากับอวกาศ ภายในระยะเวลาอันสั้นก็มาถึงหน้าประตูแสงสีครามนี้ จากนั้นก็บินเข้าไปในทันที

ทันใดนั้นก็เกิดการผันผวนของห้วงอวกาศ เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็ปรากฏขึ้นมาในพื้นที่อีกแห่งหนึ่งแล้ว

เซี่ยปิงก็สัมผัสได้อย่างกะทันหันว่าดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้ไม่ได้ธรรมดาเลย เต็มไปด้วยพลังงานห้วงมิติที่อุดมสมบูรณ์ เกือบที่จะควบแน่นเป็นสสาร

ทว่าทั่วทั้งดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้กลับแข็งแกร่งและมั่นคงอย่างมาก เหมือนกับว่าเป็นการตกผลึกก็ว่าได้ รอบๆปรากฏเป็นภูเขาจำนวนมาก ดูเหมือนกับว่าภูเขาเหล่านี้ควบแน่นขึ้นมาจากคริสตัล

ในดินแดนเช่นนี้ ไม่มีพืชใดๆที่เติบโตอยู่ ทุกๆที่ต่างก็เป็นพื้นที่เปลือยเปล่า

ทว่าดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้ก็มีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างถึงที่สุด ไกลจนสุดลูกตาจะมองเห็น อย่างน้อยภายในระยะรัศมีของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยปิง มันก็ไม่สามารถสำรวจได้ถึงจุดสิ้นสุดของดินแดนแห่งนี้ได้

“หินห้วงมิติอยู่ที่ใด?”

เซี่ยปิงเอ่ยถามหม่ากู่โป๋

“ในดินแดนที่ลี้ลับแห่งนี้จะมีสายแร่อยู่ ในสถานที่แห่งนั้นจะอุดมไปด้วยหินห้วงมิติมากมาย ทว่าสายแร่ของหินห้วงมิติมักที่จะถูกคุ้มกันโดยพวกอสูรเวิ้งว้าง พวกมันกินหินห้วงมิติเป็นอาหาร หากต้องการขุดหินห้วงมิติออกมา จะต้องเกิดการปะทะกับพวกอสูรเวิ้งว้างอย่างแน่นอน ก่อนหน้านี้พวกเราก็ปะทะเข้ากับพวกอสูรเวิ้งว้าง ทว่าก็พ่ายแพ้จนต้องหลบหนีออกมา”

หม่ากู่โป๋พูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

“ในอีกคำพูดหนึ่งก็คือหากพวกเราหากลุ่มของอสูรเวิ้งว้างพบ พวกเราก็จะสามารถหาตำแหน่งของหินห้วงมิติได้”

เซี่ยปิงเอามือเท้าคาง เผยสายตาที่เป็นประกาย

“ใช่ จะกล่าวเช่นนั้นก็ได้”

หม่ากู่โป๋พยักหน้า

“เดี๋ยว ข้างหน้าเหมือนจะมีอะไรผิดปกติ”

ทันใดนั้นจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเซี่ยปิงก็แผ่กระจายออกไป สัมผัสได้ทันทีว่าพื้นที่ข้างหน้าหลายพันกิโลเมตรเหมือนจะมีคลื่นผันผวนที่รุนแรงบางอย่างถ่ายทอดออกมา

เขาก็รีบมุ่งหน้าเข้าไปดูอย่างรวดเร็วและค้นพบที่ราบแห่งหนึ่ง ในที่ราบแห่งนี้ไม่คาดคิดว่าจะมียานอวกาศจำนวนกว่าหนึ่งร้อยลำที่รวมตัวกันอยู่ ทว่ายานอวกาศเหล่านี้ก็กำลังต่อสู้กับกลุ่มของอสูรเวิ้งว้างจำนวนมหาศาล