ตอนที่ 686 ร่างเซียนพันปี
เจี้ยนรั่วหยานพอได้รับฟัง นางจึงเผยความไม่ยินดีกล่าวคำออก “พี่หู่
กระทั่งว่ามันเอาชนะข้าได้ ข้าก็ไม่มีทางมองมันใหม่! ไม่ใช่ท่านกล่าว
เองหรอกหรือ? หากต้องการเป็นผู้แข็งแกร่ง เช่นนั้นก็ต้องเด็ดเดี่ยว
ใช้ชีวิตเพียงผู้เดียว!”
“ถูกต้องแล้ว เจ้ายังตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ดีถือว่ายอดเยี่ยมนัก!” เจี้ยน
หนันหู่กล่าวรับพร้อมหันขวับมองทางฉินหยุน เขาจ้องมองอีกฝ่าย
อย่างนึกรังเกียจต่อเรื่องนี้
ซุนไท่ข่ายแค่นเสียง “น้องหยาน บิดาเจ้ารับปากแล้ว นั่นไม่ใช่อะไร
ที่จะกล่าวโดยพล่อยแล้วไม่นึกถึงผลที่ตามมา! งานวิวาห์ถือเป็นเรื่อง
จริงจัง ลำพังเจ้าไม่อาจตัดสินใจ!”
ได้ยินเช่นนี้ เจี้ยนรั่วหยานจึงเผยเสียงหัวเราะดังออก “เหตุใดข้าจึง
ไม่อาจตัดสินใจ? ข้าครอบครองกำลังเหนือล้ำ ตราบเท่าที่เอาชนะเจ้า
ได้ นั่นจึงเป็นการตัดสินใจของข้า!”
“เจ้ากำลังบอกกล่าวว่า หากข้าเอาชนะเจ้าได้ จะตบแต่งกับข้างั้น
หรือ?” ซุนไท่ข่ายเผยความยินดี
“ข้านับถือท่านพ่อ ในเมื่อเขากล่าว ข้าก็คงไม่อาจขัดคำนั้นได้!” เจี้ยน
รั่วหยานเผยเสียงเย็น “ดังนั้นข้าจะไม่พ่ายแพ้ต่อเจ้า!”
ซุนไท่ข่ายกลายเป็นยินดี เพราะเขารู้สึกว่าตนเองสามารถเอาชนะ
นางได้อย่างแน่นอน
ผู้คนล้วนทราบว่าเจี้ยนรั่วหยานหาได้ครอบครองร่างเซียน อาศัย
เพียงเรื่องนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับร่างเซียน นางย่อมต้องพ่ายแพ้อย่าง
รวดเร็ว
แม้ซุนไท่ข่ายเป็นผู้มีพรสวรรค์ และสตรีห้อมล้อมนับไม่ถ้วน เขา
กลับละความสนใจต่อโฉมงามเหล่านั้นที่พร้อมเข้าสู่อ้อมแขนของ
เขา มีแต่เจี้ยนรั่วหยานจึงทำให้เขารู้สึกว่าการกำราบนางเป็นเรื่อง
ชวนให้ทดลองได้ทำ
เจี้ยนรั่วหยานย่อมพบเห็นเจตนาชั่วของซุนไท่ข่ายที่คิดกำราบนาง
ผ่านดวงตา นางค่อยเข้าใจว่าอีกฝ่ายนึกคิดอันใด เรื่องนี้ยิ่งทำให้นาง
เกลียดชังอีกฝ่ายมากมายนัก
นางมองที่ฉินหยุนซึ่งอยู่เบื้องล่างลานประลอง ฉับพลันนางค่อยรู้สึก
ว่าฉินหยุนจึงเป็นคนดีผู้หนึ่งอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะหลังผ่านเรื่องราวเมื่อคืน เขาใช้เวลาทั้งคืนมองที่เรือนร่าง
ของนางโดยไม่มีเจตนาร้ายใด
อย่างกะทันหัน นางกลับรู้สึกโศกภายในที่ฉินหยุนมีภรรยาแล้ว ทั้ง
ยังเป็นภรรยาที่ยอดเยี่ยมเลิศล้ำ
เจี้ยนรั่วหยานแทบไม่สนใจซุนไท่ข่ายอีก กลับกัน นางหลับตาเพื่อ
ปรับสภาวะอารมณ์เสียใหม่
ผ่านไปครู่ เจี้ยนรั่วหยานและซุนไท่ข่ายค่อยเผยสัญญาณว่าพร้อม
แล้ว
ผู้ตัดสินชราบนลานประลองจึงตะโกน “เริ่ม!”
เจี้ยนสือเทียนและคณะครึ่งเซียนของตำหนักเซียนดาบ รวมถึงราชัน
ยุทธ์และจักรพรรดิยุทธ์ของสำนัก ทั้งหมดต่างมารับชมศึกนี้อย่าง
จริงจัง
ศึกเริ่มขึ้น หมอกพลังงานสีขาวโคจรรอบร่างซุนไท่ข่าย จากนั้นมัน
จึงแปรเปลี่ยนเป็นดาบต้นกำเนิดสีทองเจือจาง เสียงคำรามระเบิดดัง
ออก เขาพุ่งทะยานจ้วงแทงดาบเข้าใส่หัวไหล่ของเจี้ยนรั่วหยาน
เรือนร่างงดงามเจี้ยนรั่วหยานพลิ้วไหว หลบเลี่ยงประดุจร่างเบาดั่ง
ขนนกต่อซุนไท่ข่ายที่โหมโจมตีเข้ามา
เรื่องราวน่าทึ่ง คือเจี้ยนรั่วหยานยังไม่ได้นำดาบต้นกำเนิดและดาบ
เจตจิตออกมา
ฉินหยุนเข้าใจชัดแจ้งแล้วว่าเจี้ยนรั่วหยานคิดอันใดอยู่
หากเจี้ยนรั่วหยานสามารถเอาชนะซุนไท่ข่ายได้โดยไร้ซึ่งดาบ อย่าง
นั้นเท่ากับนางเผยพลังอันเหนือล้ำออกมา ทั้งนี้ยังเป็นการเสริมสร้าง
ประสบการณ์นำเอาพลังจากโทเทมดาบออกมาด้วย
“เจี้ยนรั่วหยานได้ร่างดาบลึกล้ำ นี่คือร่างลึกล้ำชนิดที่เกิดความเข้า
กันได้ของโทเทมดาบและวิญญาณยุทธ์ดาบ ความแข็งแกร่งถือเป็น
ที่สุด! เจ้าครอบครองร่างราชสีห์สวรรค์ลึกล้ำ ดังนั้นสมควรเข้าใจถึง
เรื่องราวนี้ดีกว่าผู้ใด” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว
“เป็นเช่นนั้น! นางต้องการใช้งานประลองยุทธ์นี้เพื่อเรียกใช้พลังอัน
เหนือล้ำเหล่านั้นออกมา!” ฉินหยุนยิ้ม
“ไม่เพียงเท่านั้น นางยังสามารถก้าวสู่ขอบเขตที่สูงล้ำกว่านั้น นั่นคือ
ดาบและผู้ใช้ดาบผสานรวมกันเป็นหนึ่ง ส่วนว่าเป็นขอบเขตอันใด
ข้าไม่ทราบแน่ชัด!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “ข้าเพียงทราบ ว่าหากนาง
สามารถทำได้ เมื่อนางใช้งานดาบอีกครั้งหนึ่ง นางจะยิ่งแข็งแกร่ง
มากขึ้น!”
เจี้ยนรั่วหยานได้รับร่างดาบลึกล้ำ นางจึงควบคุมร่างกายได้ลื่นไหล
ประหนึ่งควบคุมดาบของนางเอง
ซุนไท่ข่ายเสียบแทงดาบออกไปหลายร้อยครั้งในพริบตา กระนั้น
พวกมันทั้งหมดกลับถูกหลบเลี่ยงได้
ลานประลองมีแต่ร่างเงาดาบต้นกำเนิดสีทองอ่อนของซุนไท่ข่าย
ปรากฏ ราวกับพวกมันได้ห้อมล้อมเจี้ยนรั่วหยานเอาไว้ ทว่าไม่อาจ
ทำร้ายนาง
“ท่านปู่ เกิดอะไรขึ้นกับน้องหยาน? เหตุใดข้ารู้สึกว่านางกลับกลาย
เป็นแข็งแกร่งขึ้นอย่างกะทันหันเพียงนี้!” เจี้ยนหนันหู่ที่ได้เห็น เขา
ต้องอุทานร้องอย่างตระหนก
“ไม่มั่นใจนัก เพียงทราบว่านี่ไม่ใช่เจี้ยนรั่วหยานที่เราคุ้นเคยด้วย!”
เจี้ยนสือเทียนขมวดคิ้วมุ่น “นางแข็งแกร่งขึ้นจริง และยังมีกำลังซุก
ซ่อนราวกับไร้ก้นบึ้ง!”
ซุนไท่ข่ายกลายเป็นมีโทสะ เพราะเจี้ยนรั่วหยานไม่ใช้งานดาบ เพียง
หลบเลี่ยงไปมา จากที่เห็น เคล็ดวิชาตัวเบาของเจี้ยนรั่วหยานเหนือ
ล้ำกว่าเขาไปมากมายแล้ว!
ตามหลัก ผู้ที่ครอบครองร่างเซียนจะมีเปรียบในการควบคุมร่างและ
การใช้กำลัง
กระนั้น มันก็จำเป็นต้องผ่านการฝึกฝนคร่ำเคร่ง เพื่อให้ก้าวถึงขั้นสุด
ยอดระดับนั้น มันต้องเป็นกระบวนการอันขื่นขม
และศิษย์ร่างเซียนส่วนใหญ่ กำลังที่พวกเขามีไว้ในครอบครองกล่าว
ได้ว่าเหนือล้ำกว่าผู้ที่อยู่ระดับเดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่หิวกระหาย
ต่อการฝึกฝน
แต่เป็นเจี้ยนรั่วหยานที่ปรารถนาขึ้นไปให้จนถึงจุดสูงสุด ตอนนี้นาง
ได้ฝึกฝนร่างดาบลึกล้ำ และมันยังเข้ากับนางได้โดยสมบูรณ์ ดังนั้น
นางจึงสามารถใช้งานร่างดาบลึกล้ำปลดปล่อยพลังออกมาได้
แม้นางยังไม่อาจก้าวถึงจุดสูงสุด กระนั้นก็แข็งแกร่งกว่าซุนไท่ข่าย
แล้ว
ซุนไท่ข่ายตะโกนดังกราดเกรี้ยว ดาบสีทองอ่อนของเขาพลันสว่าง
วูบเป็นแสงสีทอง
“วิชาดาบล้างสวรรค์! วิชายุทธ์สวรรค์!” เจี้ยนหนันหู่เผยสีหน้าเคร่ง
เครียดในพริบตา “น้องหยานอาจได้รับบาดเจ็บ!”
ดาบของซุนไท่ข่ายพุ่งตรง ปลดปล่อยแสงสว่างสีทอง พลังอันหนัก
อึ้งและแกร่งกล้าได้ปะทะปกคลุมร่างเจี้ยนรั่วหยาน เป็นผลให้การ
เคลื่อนไหวของนางเชื่องช้าลงมหาศาล
ได้เห็นดาบของซุนไท่ข่ายโจมตีเข้ามา บรรดาศิษย์ของตำหนักเซียน
ดาบต่างอุทานชื่นชมกันไม่ขาด
อย่างไรแล้ว นี่ก็เป็นวิชาดาบที่งดงาม!
โดยเฉพาะบรรดารุ่นอาวุโส พวกเขาต่างพยักหน้าชื่นชม พวกเขาเชื่อ
ว่าเจี้ยนรั่วหยานต้องพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย
เวลานี้ เจี้ยนรั่วหยานถูกปกคลุมด้วยแสงสีทอง ทำให้นางยากแก่การ
หลบเลี่ยงได้อีก!
ดาบไร้ปรานีเสียดแทงพุ่งตรง มือของเจี้ยนรั่วหยานตระเตรียมต้าน
รับ แขนสองข้างยืดออก สองนิ้วคว้าจับที่ปลายดาบของซุนไท่ข่าย
เอาไว้!
ครั้งซุนไท่ข่ายปลดปล่อยวิชายุทธ์สวรรค์ เขาต้องควบแน่นพลังอัน
เหนือล้ำปลดปล่อยไปพร้อมกับดาบโจมตี กระนั้น เจี้ยนรั่วหยาน
กลับใช้สองนิ้วงดงามของนางคว้าจับรับเอาไว้!
เรื่องนี้แทบทำเอาเขาต้องอ้าปากกรามค้าง!
โดยเฉพาะกับบรรดาศิษย์ของตำหนักเซียนดาบ และบรรดาผู้อาวุโส
พวกเขาต่างตระหนักได้ดีถึงกำลังของซุนไท่ข่าย และพลังอันเลิศล้ำ
ของวิชาดาบล้างสวรรค์
กระนั้นเวลานี้ ดาบที่โจมตีออกพร้อมพลังมหาศาลอัดแน่น กลับถูก
เจี้ยนรั่วหยานคว้าจับเอาไว้!
“ทลาย!” เจี้ยนรั่วหยานยิ้มภาคภูมิ เสียงโลหะแตกดังขึ้น ดาบต้น
กำเนิดของซุนไท่ข่ายแตกออกและร่วงหล่น
“น้องหยาน… นี่… เจ้า…” ดาบต้นกำเนิดซุนไท่ข่ายแตกออก สูญเสีย
อาวุธ หมายความถึงกำลังของเขาเลือนหายอย่างกะทันหัน
ทันใดนี้เอง เจี้ยนรั่วหยานจึงอัญเชิญดาบสองเล่มสีขาวและดำของ
นางออกมา!
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
การโจมตีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดาบของนางโจมตีออกได้รวดเร็วกว่า
ที่ซุนไท่ข่ายคิดโจมตีเมื่อครู่ด้วยซ้ำ
เพียงพริบตา ร่างของซุนไท่ข่ายจึงถูกจ้วงแทงนับสิบครั้ง นอกจาก
จุดตาย ทุกส่วนถูกเจี้ยนรั่วหยานแทงเข้าใส่ ชุดสีขาวงดงามพลันต้อง
ถูกย้อมแดงด้วยเลือด!
“หากเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ข้าก็ไม่ขอมากมารยาทอีก!” เจี้ยน
รั่วหยานเอ่ยคำเสียงเย็น
ซุนไท่ข่ายไม่ยินดียอมรับ เขาเร่งรีบปลดปล่อยพลังเต๋าอันแข็งแกร่ง
พร้อมพลังเซียนเจือจาง เข้าปกคลุมร่างของเจี้ยนรั่วหยานเอาไว้
“เจ้าบังคับให้ข้าลงมือ!” ดาบทั้งสองของเจี้ยนรั่วหยานสั่นไหว พวก
มันระเบิดเอาพลังออกมาพร้อมจ้วงแทงออกซึ่งหน้า
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!
แขนทั้งสองข้างของซุนไท่ข่ายถูกตัดออก หัวใจของเขายังต้องถูก
แทงเข้าใส่หลายครั้งครา
“ข้า… ข้ายอมแล้ว!” ซุนไท่ข่ายรับรู้จิตสังหารจากเจี้ยนรั่วหยาน เขา
เร่งร้อนตะโกนดังออกมา
ผู้คนต่างร่างกายแข็งค้างด้วยความหวาดกลัว!
เพราะเจี้ยนรั่วหยานไร้ซึ่งร่างเซียน กระนั้นนางกลับสามารถเอาชนะ
ร่างเซียนได้ง่ายดาย หลายผู้คนให้ความสนใจกับศึกของนางเมื่อวาน
ไม่น้อย แม้นางชนะ กระนั้นนั่นก็เป็นชัยชนะที่ยากลำบาก
แต่แล้ววันนี้ นางเผชิญหน้ากับซุนไท่ข่าย ผู้ซึ่งแข็งแกร่งยิ่งกว่าศิษย์
สำนักอสูรทั้งสองเมื่อวานนี้ แต่แล้วกลับสามารถเอาชนะได้อย่าง
เด็ดขาด!
เพียงค่ำคืน กำลังของเจี้ยนรั่วหยานถึงกับมากมายได้เพียงนี้
โดยไม่แม้มองที่ซุนไท่ข่าย เจี้ยนรั่วหยานหันกลับพร้อมออกจาก
ลานประลอง
“ชายผู้นี้ ซุนไท่ข่าย ถึงขั้นเป็นสวะได้เพียงนี้!” เจี้ยนหนันหู่เอ่ยคำ
อย่างเดียดฉันท์ “พอมาคิดว่าข้าเคยคิดอยากเอาชนะมัน แต่แล้ว
ตอนนี้เรื่องราวกลับกลายเป็นเช่นนี้!”
“รั่วหยาน ให้ข้าได้ดูอาการเจ้า!” เจี้ยนสือเทียนเร่งรีบเดินเข้ามา
“ไม่!” เจี้ยนรั่วหยานเร่งรีบตะโกนตอบ
เจี้ยนสือเทียนหัวเราะ “อย่างนั้นก็ได้! ข้าเองก็ยินดีนักที่เจ้าแข็งแกร่ง
ขึ้นได้เพียงนี้!”
“ท่านบรรพบุรุษ กระทั่งพี่หู่ก็หาได้ใช่คู่ต่อสู้ข้าไม่!” เจี้ยนรั่วหยาน
เผยยิ้มมาดมั่น “ตำหนักเซียนดาบของท่าน ไม่มีศิษย์ขอบเขตวรยุทธ์
วิญญาณผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้ข้าได้แน่!”
“เด็กน้อย เจ้าออกจะมาดมั่นเกินไปแล้ว!” เจี้ยนหนันหู่ไม่คิดเชื่อคำ
กล่าวนี้
“หากไม่เชื่อข้า เช่นนั้นมาสู้!” เจี้ยนรั่วหยานเพิ่งเอาชนะซุนไท่ข่าย
นางรับรู้ได้ถึงพลังจากร่างดาบลึกล้ำ เป็นนางรู้สึกราวกับเป็นผู้ไร้
เทียมทานในใต้หล้า
“สู้กันเมื่อมีโอกาสภายหน้า!” เจี้ยนสือเทียนกล่าว “ถึงคราวฉินหยุน
ขึ้นประลองแล้ว คู่ต่อสู้เป็นร่างเซียนของหุบเขาเซียนโอสถ!”
ความเกลียดชังระหว่างฉินหยุนและหุบเขาเซียนโอสถ ยังคงมากมาย
ลึกล้ำต่อกัน
ตอนนี้ หุบเขาเซียนโอสถค่อยมีโอกาสได้ล้างแค้นต่อฉินหยุน
ร่างเซียนของหุบเขาเซียนโอสถคือชายวัยกลางคน ด้วยเหตุนี้เขาจึง
ทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกว่าแข็งแกร่ง กระนั้นหลายคนก็สับสน เนื่อง
ด้วยร่างเซียนแม้อายุเยอะไปบ้าง กระนั้นกลับไม่เผยร่องรอยของ
ความชราใดออกมา
“แม้ว่าร่างเซียนอายุนับพันปีจากหุบเขาเซียนโอสถผู้นี้อายุหนึ่งพันปี
เขาก็ยังอยู่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ เพราะเขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชา
พิเศษที่แข็งแกร่งเลิศล้ำ!” เจี้ยนหนันหู่กล่าว
ศิษย์ร่างเซียนอายุนับพันปีผู้นี้นามว่าหานอี้หล่าย แม้เป็นชายวัย
กลางคน กระนั้นก็ยังหล่อเหลา เขาสวมใส่ชุดสีทองเป็นประกาย
ดวงตาภายใต้คิ้วหนานั้นเผยเจตนาฆ่าฟันเด่นชัด
ฉินหยุนที่สัมผัสถึงออร่าของคู่ต่อสู้ได้ เขาพลันต้องเกิดความหนักอึ้ง
“หยุนเอ๋อ ชายผู้นี้เป็นอะไรแล้ว? เหตุใดดูน่ากลัวเพียงนี้?” ฉินหยุน
ไม่ทราบว่าเพราะอะไร เขาคิดอยากเผ่นหนีเสียที่ตรงนี้
“ชายผู้นี้ฝึกฝนโลหิตเซียน… ไม่แปลกใจเลยที่ไม่อาจเลื่อนระดับได้
แม้อายุนับพันปี เป็นเขาทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อฝึกฝนโลหิตเซียน!”
“ร่างเซียนมีหลายขั้น ร่างเซียนส่วนใหญ่คือการฝึกฝนร่างกายให้
สามารถดูดกลืนพลังงานเซียน ทว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือโลหิตเซียน
และกระดูกเซียน มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถฝึกฝนได้จนกว่าคนผู้หนึ่งจะ
กลายเป็นจักรพรรดิยุทธ์หรือครึ่งเซียน!”
“ชายตรงหน้าเจ้าฝึกฝนโลหิตเซียน เช่นกัน เขาสมควรต้องเชี่ยวชาญ
เคล็ดวิชาบางอย่าง… เจ้าต้องระวัง ชายคนนี้แข็งแกร่งนัก!”
หลิงหยุนเอ๋อยังต้องทึ่ง นางไม่คาดคิดว่าจะมีบุคคลเช่นนี้คงอยู่
ฉินหยุนกลายเป็นต้องแบกรับแรงกดดันมหาศาล เขารู้สึกว่าด้วยกำลัง
ของชายตรงหน้า ก็สมควรขึ้นเป็นหนึ่งในห้าอันดับแรกของงาน
ประลองยุทธ์ได้
หานอี้หล่ายไม่กล่าวคำใด เขาเพียงมองที่ฉินหยุน
แม้ฉินหยุนหลับตา เขาก็ยังสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารจากอีกฝ่าย
เวลาเตรียมตัวผ่านไปอย่างรวดเร็ว!
“เริ่ม!”
หานอี้หล่ายไม่โจมตี แต่เขากำหมัดและยืนนิ่ง พลังงานสีทองปรากฏ
จากกายของเขา มันอัดแน่นทั่วทั้งลานประลองในพริบตา
ฉินหยุนรู้สึกราวร่างกายถูกทิ่มแทงเจ็บปวดนับไม่ถ้วน ราวกับ
ร่างกายของเขาถูกขนาบรอบทิศด้วยเข็มนับไม่ถ้วนทิ่มแทงเข้าใส่