ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 336 เส้นหมี่ ลูกชายคุณจะโดนตีตายแล้ว
“ขอบคุณมากน้องชาย”
“ขอบคุณอะไรกัน? พวกเราเป็นพี่น้องกัน เป้าหมายที่เหมือนกันของพวกเราคือ ไม่ได้ผู้หญิงคนนั้นได้แต่งงานกับแด๊ดดี้ พวกเราต้องไล่เธอไป จากนั้นก็ให้หม่ามี๊กลับมา”
คิวคิวซบอยู่ในอ้อนกอดพี่ชายพร้อมกับชู้นิ้วสาบาน
ชินจังได้ยินก็หนักแน่นเสมือนน้องชาย
ที่แท้คิวคิวไม่ได้ทำฟันหักโดยบังเอิญ แต่เพื่อขัดขวางไม่ให้แด๊ดดี้เอาทะเบียนบ้านแล้วจดทะเบียนสมรสกับแครอท ดังนั้นเขาจึงจงใจหกล้ม
เด็กคนนี้ลงทุนจริงๆ
ทว่าครั้งนี้ต้องสูญเสียมหาศาลจึงจะขัดขวางสำเร็จ แล้วครั้งต่อไปล่ะ?
หากไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ มันก็อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
เด็กทั้งสองคนหน้าดำคร่ำเครียด
“สิ่งแรกที่พวกเราสองคนต้องทำคือ คิดหาหนทางไม่ให้พวกเขาจดทะเบียนสมรส”
“ความหมายของน้องคือ?”
“ทำลายทะเบียนบ้าน”
คิวคิวเป็นคนโหด เอ่ยปากพูดประโยคนี้ออกมา
ทว่าชินจังกลับเลิกคิ้ว
วิธีนี้ใช้ได้ ทว่าทะเบียนบ้านเสีย แต่ก็สามารถไปทำใหม่ได้ ยังคงไม่ได้วิธีตัดรากถอนโคน ดังนั้นจึงไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด
“พี่รู้สึกว่าทางที่ดีให้หม่ามี๊กลับมาจะดีกว่า” ชินจังครุ่นคิดดูแล้วก็เอ่ยความคิดของตัวเองออกมา
“หม่ามี๊เหรอ?”
คิวคิดยังมีหยาดน้ำตาตรงขนตา รีบเบิกตากว้าง มองพี่ชายด้วยความดีใจ
ใช่สิ หม่ามี๊กลับมาก็จะดีมากเลย
“แต่ตอนนี้หม่ามี๊ไม่ยอมกลับมานี่ ทำไงดี? ถึงแม้น้องสาวบอกว่าหม่ามี๊จะซื้อบ้านของคุณตา จึงอาจจะกลับมา แต่พี่คิดว่าคงมีสิทธิ์เป็นไปได้น้อย”
“อืม ดังนั้นพวกเราต้องหาวิธีเด็ด”
ช่วงเวลาสำคัญ ชินจังมักจะมีนิสัยและสติปัญญาเหมือนผู้เป็นพ่อ ใช้สมองอันโหดเหี้ยม แค่มองก็ขนหัวลุก
พี่ชายออกโรง คิวคิวที่พึ่งได้รับบาดเจ็บก็เชื่อฟังแต่โดยดี
——
วอลล์สตรีทในเมืองM
ปอร์เช่สืบข้อมูลภูวัตได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ติดต่อกับอีกฝ่าย และยินยอมขายในที่สุด
“ใช่เหรอ? เขายอมขายแล้วเหรอ? ดีจังเลย งั้นตอนนี้น้องบินกลับไปเลย จะได้ทำเรื่องซื้อบ้านเลย”
เส้นหมี่ได้ยินก็ให้น้องชายไปจัดการเรื่องนี้
ปอร์เช่อึ้ง
เขากลับไปเหรอ?
เขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับตรงนั้น หากเขาไปจะจัดการได้อย่างราบรื่นหรือ?
ปอร์เช่อยากโน้มน้าวให้พี่ชายกลับไปเอง
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ พี่สาวคนนี้เมื่อได้ยินว่าให้กลับประเทศ ก็ปฏิเสธอย่างหนักแน่น
เหตุก็ยังเป็นงานรัดตัวเช่นกัน
ตกลงคือปลีกตัวไม่ได้?
หรือไม่อยากกลับไปกันแน่?ไม่อยากเห็นในสิ่งที่ไม่พึ่งปรารถนาหรือ?
ปอร์เช่จำใจจองตั๋วบินกลับเอง
ทว่าสิ่งที่เหนือการคาดหมายคือ คืนวันนี้เส้นหมี่ก็ได้รับสายจากธนาตย์ ผู้เป็นลุง
“เส้นหมี่ทำอะไรอยู่กันแน่? เอาแต่หาเงินจนไม่สนใจอะไรแล้วใช่ไหม? ไม่เอาครอบครัว ไม่เอาลูก ไม่เอาอะไรทั้งนั้นใช่ไหม?”
ธนาตย์โทรมาเพื่อนตำหนิเส้นหมี่ชุดใหญ่
ตอนเส้นหมี่เห็นสายเรียกเข้าจากคุณลุงก็ดีใจยิ่ง เพราะเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายโทรหาด้วยตัวเอง
แต่โดนซัดเป็นชุดๆแบบนี้ เธอก็ต้องมึนสิค่ะ
“ลุงค่ะ หนูทำไมเหรอคะ? หนูก็สนใจอยู่นี่ไงค่ะ”
เธอกำลังหมายถึงตระกูลอัครนันท์และตระกูลวชิรนันท์ และยังหมายรวมถึงคุณพ่อที่ใกล้ออกจากคุกด้วย
ทว่าคุณลุงฟังแล้วก็ก่นด่าอีกครั้ง“สนใจ?สนใจตรงไหน?หนูรู้ไหมว่าตอนนี้ลูกชายเป็นยังไงบ้าง?ถ้ายังไม่สนใจอีก ต่อไปก็มาเผาศพได้เลย!”
ธนาตย์พูดไม่เป็นสิริมงคลสักเลย เด็กพึ่งจะไม่กี่ขวบก็เอ่ยถึงเรื่อง“เผาศพ”เสียแล้ว
เส้นหมี่หน้าซีดขาวในบัดดล
“คุณลุงหมายความว่ายังไงคะ? พวกเขาเป็นอะไรเหรอคะ?”
“เป็นอะไรเหรอ? ดูเองเลย” คุณลุงตัดสายทิ้งด้วยความเดือดดาล ไม่นานก็ส่งรูปถ่ายให้เส้นหมี่ดู
เส้นหมี่ได้รับก็รีบกดเข้าไปดู
สุดท้าย เธอก็เห็นในสิ่งที่คาดไม่ถึง เธอเปิดปุ๊บก็เห็นใบหน้าเล็กบวมเหมือนหมู
ทั้งยังมีสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ปากเล็กยังมีรูขาด เมื่อมองปราดแรกก็คล้ายกับโดนล้วง เธอเห็นแล้วก็ต้องหดตา
สองมือเส้นหมี่สั่นสะท้าน
“ใครเป็นคนทำคะ?ใคร?ใครทำหน้าลูกชายฉันเป็นแบบนี้?”
เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองทันที จับมือถือแล้วตวาดเสียงใส่ กลิ่นอายสังหารอันน่าสะพรึงกลัวปกคลุมทั่วเรือนร่างเธอ
ตอนนี้ปอร์เช่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ เมื่อเห็นเธอสติหลุด เขาจึงมองมือถือปราดหนึ่ง จากนั้นก็หน้าถอดสีทันที
“นี่คือ…คิวคิวเหรอ? คิวคิวเป็นอะไรไป?เขาโดนคนตีเหรอ? ทำไมน่ากลัวแบบนี้? ใครทำ? แสนรักไม่ดูเลยใช่ไหม?!!”
“……”
เส้นหมี่ที่ควบคุมอารมณ์โกรธตัวเองไม่ได้ ยังไม่ทันได้ทำอะไร ธนาตย์ก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง
“คิวคิวบอกว่าเป็นฝีมือแม่เลี้ยง ตอนนี้แม่เลี้ยงใจไม้ไส้ระกำเพียงนี้ แล้ววันหลังล่ะ?ถ้าวันหลังมีลูกเป็นของตัวเองแล้วจะโหดขนาดไหน?”
“!!!!”
เส้นหมี่สะดุ้งโหยง
ได้ยินว่าแม่เลี้ยงทำร้ายลูกชายเพียงนี้ เธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คล้ายกับมีสิ่งของหนักอึ้งทุบใส่