ตอนที่ 1515

Monster Paradise

“ผู้กลับชาติมาเกิดใหม่…:”

บุคคลเหล่านี้ที่กลับชาติมาเกิดใหม่เป็นส่วนหนึ่งของบุคคลพิเศษที่ได้รับเลือกโดยบางสิ่งที่เรียกว่าระบบพระเจ้า พวกเขาเดินทางไปมาระหว่างระนาบเวลาและจักรวาลต่างๆเพื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบโดยเหล่าพระเจ้า รวมถึงแลกเปลี่ยนทรัพยากรต่างๆ

 

ในฐานะนักเดินทาง หลินฮวงย่อมตระหนักถึงแนวคิดของผู้กลับชาติมาเกิดใหม่

 

ตอนเขาอยู่ในวิทยาลัย มีช่วงหนึ่งตอนเขาอ่านวรรณกรรมออนไลน์ ยุคนั้นเป็นยุคทองของนิยายออนไลน์จริงๆ และเขาก็อ่านนิยายทุกประเภท เขาอ่านมากกว่าร้อยผลงานจากนิยายหนึ่งประเภท ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกกับกลไกของสิ่งมีชีวิตกลับชาติมาเกิดใหม่จากนิยายเหล่านี้

 

“มันเหมือนในนิยายไหม?”หลินฮวงอดถามไม่ได้ขณะมองหน้าตัวตนสโมสรที่เวอชุโอโซแสดง

 

“ไม่มากก็น้อย”เขาตอบอย่างคลุมเครือ ราวกับไม่อยากคุยหัวข้อนี้

 

“อืม…”หลินฮวงไม่พอใจกับคำตอบนี้”ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าเป็นสมาชิกสโมสร แต่กลับจงใจมาสร้างปัญหาแบบนี้?”

“ข้าแค่อยากทดสอบความสามารถเจ้า ถ้าความสามารถเจ้าไม่ดี งั้นก็ไม่จำเป็นต้องให้ข้าบอกตัวตน”เวอชุโอโซพูดตรงๆ เขาหยุดสักพักก่อนตอบ”ข้าได้แนะนำตัวเองไปแล้ว เจ้าจะไม่แนะนำตัวเองบ้างหรือ?”

 

“ขอโทษด้วย มันเป็นครั้งแรกที่ข้าได้พบกับผู้กลับชาติมาเกิดใหม่”หลินฮวงยิ้ม”สโมสร นักเดินทาง หลินฮวง”

 

เขาเลียนแบบอีกฝ่ายและฉายหน้าประจำตัวสโมสรของเขา

 

“อย่างที่ข้าคิด มันเป็นเจ้าจริงๆ”เวอชุโอโวดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย

 

“เจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร?”หลินฮวงสับสนเล็กน้อย

 

“ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับเจ้ามาก่อน”เวอชุโอโซพยักหน้า”จำนวนสมาชิกทั้งหมดในสโมสรค่อนข้างน้อยและก็ไม่ค่อยมีสมาชิกใหม่นัก เจ้าเป็นสมาชิกใหม่คนเดียวในรอบสามหมื่นปี ดังนั้น เจ้าจึงดึงดูดความสนใจของทุกคน”

 

“แค่คนเดียวในรอบสามหมื่นปี?”หลินฮวงจ้องด้วยตาเบิกกว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังอยากรู้เช่นกัน”แล้วเจ้าละ?”

 

เหตุผลที่เขาถามคำถามนี้เพราะตามข้อมูลที่เขาได้รับจากเคียวแห่งความตาย เวอชุโอโซไม่ได้แก่ขนาดนั้น แค่อายุน้อยกว่าปี

 

“ฮ่าๆๆ…ตัวตนนี้ก็แค่ร่างโคลนเกิดใหม่ของข้าในมหาพิภพนี้”เวอชุโอโซตอบด้วยรอยยิ้ม”ร่างจริงของข้าเข้าร่วมสโมสรมากว่าสองแสนปีแล้ว”

 

“ข้ากำลังคิดว่าในเมื่อข้าอยู่มหาพิภพเดียวกับเจ้า เราก็สามารถใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักกันได้ เมื่อเจ้าเข้าร่วมเคียวแห่งความตายในฐานะเซี่ยหลิน ข้าก็สงสัยอยู่แล้วว่ามันอาจเป็นเจ้า แต่ก่อนข้าจะได้ยืนยัน เจ้าก็หายไป”

 

“โชคดี เจ้าปรากฏตัวใหม่และเข้าร่วมเคียวแห่งความตายอีกครั้งในฐานะซิวมู่ นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเรามีชะตากรรมต้องกัน…”

 

ความคิดเห็นสุดท้ายนี้ทำให้หลินฮวงตัวสั่น

 

“เนื่องจากท่านเข้าร่วมสโมสรมากว่าสองแสนปีแล้ว ท่านก็ถือเป็นผู้อาวุโส”หลินฮวงประสานมือไว้ด้านหน้าและพูดอย่างสุภาพ”ผู้เยาว์ขออภัยกับการกระทำที่ไร้ความเคารพก่อนหน้านี้ด้วย”

 

มันยากสำหรับเขาที่จะจินตนาการว่าคนที่ครอบครองระบบพระเจ้า และมีชีวิตอยู่มานานกว่าสองแสนปีจะแข็งแกร่งขนาดไหน แม้อีกฝ่ายจะไม่พูด หลินฮวงก็เดาว่าร่างจริงอีกฝ่ายน่าจะเป็นยอดฝีมือระดับจ้าวเทวะหรือแข็งแกร่งกว่านั้น

 

“อย่าเรียกข้าว่า’ผู้อาวุโส’ ข้าคือข้า และร่างจริงก็คือร่างจริง จิตสำนึกของเราสองแยกกัน ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังข้าไม่ได้มากไปกว่าเจ้า”เวอชุโอโซยิ้มและส่ายหัว”ถ้าเจ้าอยากเรียกคนว่าผู้อาวุโส เจ้าสามารถเรียกแบบนั้นได้ตอนพบร่างจริงข้าในอนาคต เจ้าไม่ต้องทำแบบนั้นกับข้า”

 

“ทุกอย่างที่ข้าบอกเจ้าเป็นความลับ ใต้สวรรค์รวมถึงเบื้องบนเคียวแห่งความตายไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนข้าในฐานะผู้กลับชาติมาเกิด ทั้งหมดรู้แค่ว่าข้าทรงพลัง”

 

ตอนนี้ เวอชุโอโซพูดขึ้น”เราควรเปลี่ยนเรื่องคุยกันได้แล้ว กลับไปเข้าเรื่องจริงจังกันเถอะ”

“จริงๆแล้วข้ามีเหตุผลที่มาทดสอบพลังเจ้านอกจากการอยากรู้จักกับเจ้า”

 

หลินฮวงเลิกคิ้วเล็กน้อย พูดตามตรง เขางงงวยเล็กน้อยกับเรื่องนี้ ถ้าอีกฝ่ายแค่อยากรู้จักเขา ก็ไม่จำเป็นต้องโจมตี

 

“ข้าอยากเชิญเจ้าเข้าร่วมกลุ่มของข้าเพื่อเดินทางไปหุบเหว”หลังพูดแบบนั้น เวอชุโอโซก็กล่าวเสริม”หุบเหวของจริง”

 

หลินฮวงตกตะลึง

มันไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยพบสิ่งมีชีวิตหุบเหวมาก่อน และเขาก็ยังเข้าเขตลับมากมายที่เกี่ยวกับหุบเหว แต่เขาไม่เคยไปหุบเหวของจริง

เขายังตระหนักว่าหุบเหวของจริงน่ากลัวแค่ไหน ไม่เพียงจะมีมอนสเตอร์ระดับจ้าวเทวะนับไม่ถ้วนในส่วนลึกของมัน แต่ยังมีสิ่งมีชีวิตหลับใหลที่แข็งแกร่งกว่าจ้าวเทะ

 

เขาไม่คิดว่าเขาทรงพลังพอจะไปที่นั่น

 

“ข้าสามารถปฏิเสธข้อเสนอนี้ได้ไหม?”หลินฮวงปฏิเสธคำเชิญของอีกฝ่ายทันทีโดยไม่ลังเล

 

“เจ้าช่วยปล่อยให้คนพูดจบก่อนไม่ได้หรือไง?”ภายใต้หน้ากาก สีหน้าของเวอชุโอโซดูโกรธเคือง

 

“เอาล่ะ เชิญ”สีหน้าของหลินฮวงชัดเจนว่า’พูดต่อไปเรื่อยๆจนจบ เพราะสุดท้ายข้าก็จะปฏิเสธอยู่ดี’

 

“ข้าต้องการบางสิ่งบางอย่างจากหุบเหวเพื่อเลื่อนเป็นเทพสวรรค์ ของชิ้นนั้นอยู่ภายใต้ตัวเทพสวรรค์ขั้นสูง และข้าต้องไปรับมันด้วยตัวเอง ข้าเตรียมการมาหลายปีเพื่อจะได้ตั้งกลุ่ม ช่วยให้ข้าทำเรื่องนี้สำเร็จ”

 

“เจ้าแค่ขอความช่วยเหลือจากเทพสวรรค์บางคนก็ได้ไม่ใช่หรือ?”หลินฮวงถาม

 

ในความคิดเขา เพื่อแก้ปัญหาแบบนี้ พวกเขาต้องนำกลุ่มเทพสวรรค์ขั้นสูงไปช่วยว ไม่งั้นก็ต้องขอใต้สวรรค์ให้ไป เพราะย่อมไม่มีเทพสวรรค์หุบเหวคนใดที่พวกเขาสามารถรับมือได้

 

“เนื่องจากข้อจำกัดบางประการ ข้าทำได้แค่ขอความช่วยเหลือจากเทพแท้จริง”เวอชุโอโซส่ายหัว

 

“นี่นับเป็นภารกิจเปลี่ยนงานที่มอบให้เจ้าโดยพระเจ้าหรือ?”หลินฮวงอดยิ้มไม่ได้ขณะถาม

 

เวอชุโอโซจ้องเขานิ่งๆ จากนั้นก็พยักหน้า”เจ้าจะพูดแบบนัั้นก็ได้”

 

“เจ้าบอกว่าเจ้าต้องการตั้งกลุ่ม แล้วนอกจากข้า มีใครบ้าง?”หลินฮวงถาม

 

“หนึ่งในนั้นเป็นร่างโคลนของเพื่อนข้า ผู้บ่มเพาะกระบี่ขั้นเก้าที่เป็นสมาชิกของสโมสรเช่นกัน อีกสองเป็นศิษย์ที่ได้รับการฝึกด้วยร่างจริงของข้า หนึ่งเป็นผู้บ่มเพาะต่อสู้ขณะอีกคนเป็นจอมเวทย์ พวกเขาเป็นขั้นเก้าเช่นกัน รวมถึงเจ้ากับข้า จะมีห้าคน”เวอชุโอโซอธิบาย

 

“งั้นขอข้าพูดบ้าง ถ้าเราตกเป็นเป้าโดยจ้าวเทวะหรือสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่านั้น เจ้าจะมีทางพาเราออกมาไหม?”ถ้านี่เป็นคนอื่น หลินฮวงคงไม่ถามคำถามแบบนี้เพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่เทพแท้จริงจะมีความสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของจ้าวเทวะ แต่ทว่า ร่างจริงของเวอชุโอโซมีพลังสูงส่งและยังมีประสบการณ์สูงมาก เขาอาจครอบครองวิธีหลบหนีจากจ้าวเทวะ

เมื่อได้ยินคำถามนี้ เวอชุโอโซโก็เงียบไปแต่สุดท้ายก็พยักหน้า”เดิมที ข้าไม่วางแผนเปิดเผยความกล้าไพ่ตายเช่นนี้ แต่เนื่องจากเจ้าถาม ข้าคิดว่ามันดีกว่าที่ข้าจะพูดตามตรง ข้ามีกระสวยอวกาศข้ามมิติในการครอบครอง มันได้รับการปรับแต่งโดยร่างจริงข้าเอง และมันก็สามารถช่ยวให้เราหลบหนีจากอาณาจักรของจ้าวเทวะได้”

 

“เจ้าอาจไม่เข้าใจเรื่องราวในหุบเหวดี แม้พรมแดนจะไม่ชัดเจนนัก การกระจายตัวของมอนสเตอรืก็ต่างกันที่ระดับความลึกต่างกัน จ้าวเทวะกับเทพสวรรค์ไม่ได้อยู่ในความลึกเดียวกัน”

 

“แถม ในหุบเหว เมื่อพลังประเภทต่างๆปลดปล่อยจากตัว พวกมันจะลดลง เว้นแต่ยอดฝีมือระดับจ้าวเทวะหรือบางคนที่แข็งแกร่งกว่าจะโจมตี ความผันผวนพลังงานจะไม่ส่งไปไกลนัก แม้กระทั่งตอนเทพสวรรค์ขั้นสูงปะทะกัน ความผันผวนจากการต่อสู้มักรับรู้ได้ในระยะร้อยกิโลเมตรเท่านั้น ไกลกว่านั้น จะไม่มีใครรู้”

 

“แล้วข้าจะได้อะไรถ้าเข้าร่วม?”หลินฮวงไตร่ตรองสักพัก จากนั้นก้ถาม

 

แม้เขาจะเตรียมปฏิเสธข้อเสนอในตอนแรก แต่คำอธิบายของเวอชุโอโซก็ช่วยขจัดความกังวลของเขาได้มาก นอกจากนี้ เขายังคิดเกี่ยวกับความจริงหลังออกแดนลับนี้ เขายังต้องล่าเทพสวรรค์เพิ่มเพื่อเพิ่มระดับพลังเขา และเขตลับส่วนใหญ่ก็ไม่มีเทพสวรรค์ให้เขาล่ามากนัก

 

ตามคำอธิบายของอีกฝ่าย หุบเหวฟังดูเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการเก็บเกี่ยว

 

“การบ่มเพาะเจ้าคือเต๋าดาบและจิตเทวะ ข้าสามารถมอบชิ้นส่วนผนึกวิญยาณให้ได้ นอกจากนี้เจ้ายังถือว่ามันเป็นคำขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ หลังเราออกหุบเหว ข้าจะให้ชิ้นส่วนผนึกดาบกับเจ้าด้วย”เวอชุโอโซระบุเงื่อนไข

 

“ผนึกวิญญาณ?ผนึกดาบ?”หลินฮวงสับสน เขาไม่รู้ว่าทั้งสองสิ่งนั้นคืออะไร

 

เมื่อเห็นสีหน้าของหลินฮวง เวอชุโอโซก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่รู้ว่าพวกมันคืออะไรและอธิบาย”เจ้าอาจได้ยินมาว่าเทพสวรรค์ต้องวิวัฒนาการเป็นจ้าวเทวะ พวกเขาต้องรวมผนึกเต๋าก่อนสินะ?ผนึกวิญญาณที่ว่าก็คือผนึกเต๋าที่ควบแน่นและสร้างโดยจ้าวเทวะที่บ่มเพาะวิญญาณ ส่วนผนึกดาบก็คือผนึกเต๋าดาบที่ควบแน่นโดยจ้าวเทวะผู้ใช้ดาบ”

 

“ชิ้นส่วนผนึกเต๋าก็คือส่วนที่หลงเหลือหลังจ้าวเทวะตายและผนึกเต๋าพวกเขาก็ตกหล่น แม้เต๋าในชิ้นส่วนเหล่านี้จะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ยังตีความได้และมีพลังเต๋าจำนวนมากหลงเหลือภายใน”

 

“ชิ้นส่วนผนึกเต๋าทุกชิ้นเป็นสมบัติล้ำค่าต่อเทพสวรรค์และกึ่งจ้าวเทวะ เทพสวรรค์สามารถเพิ่มความเชี่ยวชาญห่วงโซ่ลำดับเทพได้ผ่านการตีความชิ้นส่วนผนึกเต๋าและอาจได้รับมรดกสมบูรณ์ ขณะที่ยอดฝีมือกึ่งจ้าวเทวะสามารถดูดซับพลังเต๋าจากภายในและเลื่อนเป็นจ้าวเทวะ”

 

เมื่อได้ยิน หลินฮวงก็รู้สึกทึ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

เต๋าดาบของเขาเป็นแค่ขั้นต้นของกฏสวรรค์เต๋าดาบ เขาจึงเดาว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเขาที่จะก้าวไปไกลกว่านี้ในอนาคตอันใกล้ ถ้าเขาได้รับชิ้นส่วนผนึกดาบ เขาอาจสามารถเร่งความก้าวหน้าของการบ่มเพาะดาบได้มาก

 

“เราสามารถเปลี่ยนมันเป็นชิ้นส่วนผนึกดาบสองชิ้นแทนได้ไหม?”หลินฮวงอดถามไม่ได้

 

“เจ้าคิดว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร-กะหล่ำปลีที่ขายข้างถนนให้เจ้าหยิบเลือกได้?ข้ามีชิ้นส่วนผนึกดาบแค่ชิ้นเดียว ถ้าข้ามีสอง ข้าย่อมมอบให้เจ้าแน่ ข้าไม่ใช่ผู้บ่มเพาะดาบ จึงไม่มีประโยชน์ให้เก็บไว้ แม้เจ้าจะไม่ได้รับผลประโยชน์จากชิ้นส่วนผนึกวิญญาณมากเท่าผนึกดาบ มันก็ยังเพิ่มพลังของจิตเทวะเจ้าได้และถ้าเจ้าโชคดี มันไม่ใช่เป้นไปไม่ได้ที่เจ้าจะได้รับมรดกประเภทพลังจิต”เวอชุโอโซรู้สึกโกรธเล็กน้อย

 

“เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว”น้ำเสียงของหลินฮวงเจือปนไปด้วยความผิดหวัง”เจ้าสามารถให้ชิ้นส่วนผนึกดาบเป็นของมัดจำได้ไหม?ค่อยให้ผนึกวิญญาณกับข้าหลังเราออกมา”

“ได้”เวอชุโอโซตอบรับและนำชิ้นส่วนผนึกดาบออกมา

 

หลินฮวงมองของที่อีกฝ่ายหยิบออกมาด้วยความอยากรู้ แต่วินาทีที่เขาเห็นมัน ดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง “อย่าบอกนะว่าของแบบนี้คือชิ้นส่วนผนึกดาบ?!”