ตอนที่ 1516

Monster Paradise

ชิ้นส่วนผนึกดาบในมือเวอชุโอโซค่อนข้างคุ้นเคยสำหรับหลินฮวง

 

นี่คือแผ่นกระดาษสีทองเข้มขนาดเท่าฝ่ามือมนุษย์ และยังมีอักขระสีดำส่องแสงบนนั้น แต่ทว่า แผ่นกระดาษนี้กลับดูเหมือนไม่สมบูรณ์ ราวกับมีใครบางคนฉีกมันไป

 

ดวงตาของหลินฮวงเบิกกว้าง ของชิ้นนี้แทบเหมือนคัมภีร์ดาบใหญ่หน้าหนึ่งภายในตัวเขา ยกเว้นแค่ว่ารูปทรงที่ฉีกขาดต่างกัน

 

“ทำไม เจ้าเคยเห็นมาก่อน?”เวอชุโอโซแปลกใจกับท่าที ตามสิ่งที่หลินฮวงพูด เขาดูเหมือนจะเคยเห็นมาก่อน

 

“ข้าคิดว่าข้าเคยเห็น”หลินฮวงตอบอย่างคลุมเครือ เขาปกปิดความจริงที่เขามีชิ้นส่วนผนึกดาบอยู่แล้วในตัวไว้

 

เมื่อเห็นว่าหลินฮวงไม่อยากอธิบาย เวอชุโอโซก็ไม่เจาะลึกลงหัวข้อนี้

 

“ข้ามีคำถาม ถ้ามันเป็นผู้บ่มเพาะดาบเหมือนกันและการยกระดับไปสู่จ้าวเทวะคือผ่านเต๋าดาบ ผนึกดาบจะเกิดความแตกต่างในแง่พลังไหม?”หลินฮวงอยากรู้เกี่ยวกับผนึกเต๋าและอดถามไม่ได้

 

“แน่นอน”เวอชุโอโซยิ้มและพยักหน้า

 

“ยิ่งรากฐานของผู้บ่มเพาะแข็งแกร่ง ผนึกดาบก็จะยิ่งแข็งแกร่ง

 

“มันเป็นตรรกะที่ง่ายมาก ผนึกดาบที่ควบแน่นจากห่วงโซ่ลำดับเทพเก้าสายจะไม่มีวันแข็งแกร่งกว่าอันที่ควบแน่นจากห่วงโซ่ลำดับเทพร้อยสาย”

 

“เต๋าดาบคือพลังกฏเทพประเภทหนึ่ง ในความเป็นจริง ไม่มีความแตกต่างพื้นฐานใดระหว่างกฏสวรรค์เต๋าดาบกับห่วงโซ่ลำดับเทพ”

“แน่นอน ความแตกต่างอยู๋กับความจริงที่ว่ากฏสวรรค์เต๋าดาบของคนนั้นเป็นเอกลักษณ์เพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนสองคนที่จะฝึกทักษะดาบเหมือนกันหมด ต่อให้เจ้ากลับไปตั้งแต่ต้นและย้ำผู้บ่มเพาะสองคนให้ฝึกทักษะดาบเหมือนกัน พรสวรรค์แต่กำเนิดและความเข้าใจของพวกเขาก็ไม่ตรงกัน ยิ่งไปกว่านั้น ความเข้าใจของพวกเขาที่มีต่อทักษะดาบแต่ละชนิดจะไม่มีวันเหมือนกันด้วย”

“มันเป็นปัจจัยเหล่านี้ที่สร้างกฏสวรรค์เต๋าดาบให้พิเศษและกำหนดความแข็งแกร่งของกฏสวรรค์เต๋าดาบ รวมถึงพลังของผนึกดาบที่ตามมา”

 

“ในระยะสั้น ถ้าเจ้าไม่อยากโดนจ้าวเทวะคนอื่นบดขยี้หลังกลายเป็นจ้าวเทวะ ก็จงทำรากฐานให้มั่นคง”หลังเขาอธิบายจบ เขาก็เพิ่มข้อสรุป

 

“ข้ามีคำถามอื่น”หลินฮวงอดถามไม่ได้”หลังระดับจ้าวเทวะ..ยังมีระดับที่สูงกว่านั้นจริงหรือ?”

 

หลังไตร่ตรองสักพัก เวอชุโอโซก็ตอบ”ให้ข้าพูดแบบนี้ การเป็นจ้าวเทวะนั้นคือก้าวแรกสู่การเป็นผู้มีอำนาจ.”

 

“แน่นอน สำหรับคนส่วนใหญ่ จ้าวเทวะคือจุดสนท้าย รวมถึงจุดสูงสุดในชีวิต แต่สำหรับบางคน ทางเดินนั้นยังอีกยาวไกล…”เมื่อเวอชุโอโซพูดประโยคสุดท้าย เขาก็จงใจมองหลินฮวง

 

“ข้าขอถามระดับพลังของร่างจริงเจ้าได้ไหม?”หลินฮวงถามอีกครั้ง

 

“นี่เป็นความลับ”เวอชุโอโซส่ายหัวและปฏิเสธที่จะให้คำตอบ”เพราะไม่มีประโยชน์อะไรที่จะบอกเจ้า”

 

หลินฮวงยิ้มเขินอายและไม่ซักถามต่อ

 

หลังรับชิ้นส่วนผนึกดาบจากเวอชุโอโซและตกลงกันว่าจะเข้าหุบเหวตอนไหน หลินฮวงก็คุยกับอีกฝ่ายสักพัก โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็นฝ่ายถาม เวอชุโอโซเป็นฝ่ายตอบ เพียงเมื่อเวอชุโอโซบอกว่าผลการปกปิดภาพจะคลายตัวในไม่ช้า หลินฮวงถึงหยุดถาม

 

หลังทั้งสองแลกเปลี่ยนหมายเลขติดต่อกัน เวอชุโอโซก็จากไปเงียบๆ

 

หลังเวอชุโอโซจากไป มังกรหินดำก็ได้สติ

 

หลินฮวงรีบเข้าสู่โหมดล่าใหม่อย่างรวดเร็ว

 

ด้านนอกแดนลับ ตอนจอภาพกลับเป็นปกติ กลุ่มเทพสวรรค์กลับเห็นแค่หลินฮวงกำลังสู้กับมังกรหินดำ

 

“เวอชุโอโซไปไหน?”

“ทั้งคู่สู้กันไม่ใช่เหรอ?!”

 

“ข้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่…”

 

เหล่าเทพสวรรค์รีบเปิดกระดานทองเพื่อตรวจสอบ เห็นว่าชื่อของเวอชุโอโซยังอยู่ จากนั้นวกเขาก็ขับไล่ความคิดที่ว่า’เวอชุโอโซโดนซิวมู่ฆ่า’ออกไป

 

แม้ใต้สวรรค์จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อเห็นว่าหลินฮวงยังอยู่ในสภาพเดิมและเวอชุโอโซก็ยังปกติดี เขาจึงถอนหายใจโล่งอก

 

หนึ่งคือสิ่งมีชีวิตกลับชาติเกิดใหม่(ใต้สวรรค์คิดว่าเวอชุโอโซคือผู้กลับชาติเกิดใหม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นแค่ร่างโคลนของผู้กลับชาติมาเกิดใหม่) และอีกหนึ่งคืออัจฉริยะไร้เทียมทาน

 

ไม่ว่าใครเขาก็ไม่อยากเสียไปทั้งนั้น

 

ภายในแดนลับ หลินฮวงฆ่ามังกรหินดำอย่างรวดเร็ว หลังเก็บศพมันไป เขาก็รีบไปหาเป้าหมายต่อไป

 

แม้การพบกับเวอชุโอโซจะผ่านไปแค่สิบกว่านาที แต่ตอนนี้ หลินฮวงก็มีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกนี้ลึกซึ้งขึ้น

 

บางทีจ้าวเทวะอาจเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังสุดในมหาพิภพนี้ แต่ก็มีมหาพิภพนับไม่ถ้วนในจักรวาล ส่วนใหญ่แข็งแกร่งกว่ามหาพิภพที่เขาอยู่

 

ในจักรวาล จ้าวเทวะก็แค่งั้นๆ ยังมีตัวตนที่แข็งแกร่งกว่าจ้าวเทวะ

 

ในจักรวาล เหล่าผู้ปกครองเหล่านั้นอาจมีจ้าวเทวะนับร้อยหรือนับพันทำงานให้

 

เดิมเขาคิดว่าตัวเองทรงพลังแล้ว จนถึงขั้นฆ่าเทพสวรรค์ได้ แต่ทว่า หลังได้คุยกับเวอชุโอโว หลินฮวงก็รู้ว่าโลกนี้กว้างใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก!

 

เขาสะบัดไล่ความคิดดื้อด้านออกไป และยิ่งมุ่งมั่นที่จะแข็งแกร่งขึ้น

 

นี่เพราะยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาถึงมองเห็นโลกได้กว้างขึ้น!

 

ด้านนอกแดนลับ บุคคลหลายคนจากกลุ่มเทพสวรรค์พบการเปลี่ยนแปลงในตัวหลินฮวง

 

“เจ้าสังเกตเห็นไหมว่ารูปแบบการต่อสู้ของซิวมู่ดูเหมือนจะมั่นคงขึ้น?”

“ใช่ ข้าเองก็รู้สึกแบบนั้น ระหว่างการล่าก่อนหน้า เขาดูเหมือนจะบังคับให้อีกฝ่ายออกแรงเต็มที่ เพียงเมื่อคู่ต่อสู้ของเขาแสดงพลังเต็มที่ เขาถึงจัดการพวกมัน แต่ตอนนี้การต่อสู้กระชับและมีประสิทธิภาพขึ้น และมันดูเหมือนว่าเขาจะพยายามใช้มีดบินให้น้อยสุดเพื่อฆ่าศัตรู”

 

“ข้าเองก็สังเกตเห็นว่าเขาเลือกโจมตีจุดบอดทั้งหมดของศัตรูและจะทำทุกอย่างเพื่อสร้างความเสียหายสูงสุด!”

 

“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้น่าจะมีสาเหตุมาจากเวอชุโอโซ!”

 

ใต้สวรรค์เองก็สังเกตเห็นเช่นกัน ตอนแรก เขากังวลเล็กน้อย กังวลว่าเวอชุโอโวอาจทำอะไรบางอย่างกับหลินฮวง แต่ทว่า สุดท้ายเขาก็เริ่มรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงประเภทนี้ไม่ช่เรื่องแย่ มันอาจดีสำหรับหลินฮวงด้วยซ้ำไป

 

มีเพียงตัวหลินฮวงถึงรู้ว่าเหตุผลเบื้องหลังมันนั้นเป็นเพราะตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าการแข็งแกร่งขึ้นนั้นไม่ได้มีแค่การยกระดับพลัง

 

การทุ่มเทหัวใจและวิญญาณกับทุกการต่อสู้ คว้าทุกรายละเอียดในการต่อสู้ เรียนรู้จากคู่ต่อสู้ นั่นคืออีกหนึ่งหนทางเพื่อแข็งแกร่งขึ้น

 

ตราบเท่าที่เขาฝึกหนักพอ ต่อให้คู่ต่อสู้จะอ่อนแอกว่าเขา เขาก็สามารถได้รับบางสิ่งบางอย่างจากการต่อสู้

 

เขายังรู้สึกว่าเขาเกิดความรู้สึกกระตือรือร้นเหมือนตอนครั้งแรกที่เขาเริ่มเดินบนเส้นทางผู้บ่มเพาะ

 

เวลาในแดนลับผ่านไปอีกสองวันอย่างรวดเร็ว

 

ผ่านการล่าแต่ละครั้ง หลินฮวงปล้นกฏจากโลกภายในตัวของเทพสวรรค์ได้ และในไม่ช้าก็เพิ่มจำนวนกฏจาก 4 แสน เป็น 8.1 แสน เลื่อนเป็นขั้นสี่ได้สำเร็จ

 

แต่ทว่า เขาไม่วางแผนเปลี่ยนเป้าหมายการล่าของเขา และยังหมายตาไปยังเทพสวรรค์ขั้นสาม

 

เหนือสิ่งอื่นใด ระดับพลังของเขาที่แสดงต่อโลกภายนอกคือเทพแท้จริงขั้นเก้า โดยปกติแล้ว การสามารถล่าเทพสวรรค์ขั้นสามได้ถือเป็นการท้าทายสวรรค์แล้ว

 

แม้การล่าเทพสวรรค์ขั้นสี่จะช่วยให้เขาปล้นกฏได้มากกว่าเดิม แต่เพื่อเลี่ยงสายตา เขาจึงเลือกยอมแพ้กับความคิดนั้น