ตอนที่ 503

The Divine Nine Dragon Cauldron

กบแก้วเพลิงเนตรขาวสะบัดตัวเบาๆ ลาวาทมิฬรอบๆก็สั่นเช่นกัน ลาวาทมิฬนั้นไหลขึ้นมาป้องกันแสงสีทองที่ผ่าเข้ามา

 

กำแพงลาวาแยกเป็นสอง แต่ความร้อนสูงจากเพลิงทมิฬทำให้แสงสีทองกระจายหายไปมากกว่าครึ่ง

 

เมื่อแสงสีทองผ่านกำแพงลาวาไปถึงร่างของกบแก้วเพลิงเนตรขาว พลังของมันก็ลดลงไปสามในสิบส่วน!

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวไม่แม้แต่จะหลบการโจมตีนั้น ผนังของมันถูกเพลิงลุกไหม้มานานแล้ว แสงสีทองอ่อนๆทำได้แค่สร้างประกายไฟบนตัวมันและหายไป

 

กระบวนท่าที่ทรงพลังของลู่จือยี่ที่ใช้ได้ในกระโจมเทพสวรรค์ถูกสลายไปอย่างง่ายดาย แต่แม้ว่านางจะล้มเหลวก็ยังมีการโจมตีวิญญาณของซือหยู!

 

ลู่จือยี่มองซือหยูที่ไปถึงตัวกบแก้วเพลิงเนตรขาวอย่างรวดเร็ว นางมองด้วยสายตาที่มีความคาดหวังอยู่เล็กน้อย นางจับไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ในมือแน่นยิ่งขึ้น

 

ตอนที่วิญญาณของกบเสียหาย นั่นจะเป็นตอนที่นางจู่โจมเพื่อสังหารมัน!

 

ร่างวิญญาณของซือหยูไม่ได้หวาดกลัวกำแพงลาวา เขาจู่โจมวิญญาณของกบแก้วเพลิงเนตรขาว! ความร้อนสูงในร่างกบนั้นทำอะไรไมไ่ด้เลยกับระดับวิญญาณ มันป้องกันซือหยูไม่ได้

 

และตอนนี้ ซือหยูกำลังจะจู่โจมได้สำเร็จ!

 

แต่ดวงตาของกบแก้วเพลิงที่ไม่เคยมองเห็นวิญญาณของซือหยูก็ยิ้มเยาะ มันเหลือบมองร่างวิญญาณของซือหยูอย่างเยือกเย็น มันมองเห็นเขา!

 

แม้ซือหยูกำลังจะโจมตี เขาก็ต้องสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างใกล้ชิด เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสีหน้ากบ เขาก็รู้ตัวแล้วว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี เขารีบถอยออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

แต่ก่อนที่เขาจะได้หนี กบแก้วเพลิงก็เย้ยหยัน

 

“สายไปแล้วถ้าเจ้าจะหนี!”

 

เพลิงสีเทาปะทุออกมาจากวิญญาณของกบแก้วเพลิง

 

ใช่แล้ว มันคือเพลิงระดับวิญญาณ!

 

มันคล้ายกับวิชาดวงใจอัสนีที่ซือหยูใช้ผสมสายฟ้ากับพลังวิญญาณ แต่สายฟ้าเพียงเล็กน้อยนั้นเทียบไม่ได้เลยกับเพลิงพิโรธตรงหน้า!

 

ดูจากพลังของเพลิง แม้แต่วิญญาณของขอบเขตภูติก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านได้…แต่ซือหยูมีพลังเพียงแค่ขอบเขตอำมฤต!

 

“กินเพลิงวิญญาณนี่ไป! กว่าจะบ่มเพาะสำเร็จก็กินเวลาไปเป็นร้อยปี!”

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวหัวเราะเบาๆ เพลิงสีเทาปะทุจากวิญญาณเข้าหาร่างวิญญาณของซือหยู

 

แม้ว่าเพลิงวิญญาณจะเพิ่งปะทุออกมา ซือหยูก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ทรงพลังและความเจ็บปวดรุนแรง

 

ลู่จือยี่ชักสีหน้า

 

“เร็วเข้า! หนีเร็ว!”

 

นางตะโกน

 

“วิญญาณเจ้าเข้มข้นไม่พอ…มันจะถูกเพลิงวิญญาณนั่นเผาแล้ว!”

 

หัวใจของนางจมดิ่งไปสู่ก้นบึง

 

“ตายซะ! เพลิงวิญญาณข้าเคยฆ่าพวกขอบเขตภูติมาก่อน ถึงเจ้าจะตาย ก็ไม่มีอะไรต้องโศกเศร้า!”

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวตะโกนอย่างดุร้ายและควบคุมเพลิงวิญญาณล้อมตัวซือหยูที่กำลังจะหนี

 

ในสายตาของมัน วิญญาณของซือหยูที่ออกจากร่างได้นั้นอันตรายยิ่งกว่าลู่จือยี่อย่างไม่ต้องสงสัย มันต้องฆ่าเขาก่อนโดยเร็ว

 

แม้ว่าซือหยูจะตอบสนองได้เร็วมาก กบแก้วเพลิงเนตรขาวก็เจ้าเล่ห์มากเช่นกัน มันทำเป็นไม่รับรู้และรอให้ซือหยูมาถึงระยะหวังผล ด้วยการโจมตีที่สังหารได้แน่นอนเช่นนี้ ซือหยูจะหนีได้อย่างไร?

 

เพลิงวิญญาณจำนวนมากโอบล้อมซือหยูทั้งร่าง ในพริบตา ร่างงวิญญาณของเขากลายเป็นเงาคนที่โดนเผา

 

ลู่จือยี่ใจหายยิ่งกว่าเดิม นางมิอาจยอมรับได้ว่าวิญญาณของซือหยูกำลังถูกเผาด้วยเพลิงวสิญญาณ! จิตใจของนางทุกข์ทรมาน

 

แม้ว่านางจะไม่ได้รู้จักซือหยูมานาน เขาก็ทำให้นางประทับใจอย่างลึกซึ้งในบางเวลา แม้จะใช้ชีวิตไปอีกหลายปี นางก็จะไม่มีทางลืมว่ามีชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้ในกระโจมเทพสวรรค์

 

นางมองกบแก้วเพลิงเนตรขาวที่ยิ้มเยาะให้กับนางอีกครั้ง ดวงตาอันงดงามของนางเต็มไปด้วยจิตสังหาร

 

แต่ในตอนนั้น สีหน้าของกบแก้วเพลิงเนตรขาวก็เปลี่ยนไป มันหายใจอย่างรวดเร็ว

 

“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?”

 

เพลิงสีเทาจำนวนมากออกจากวิญญาณของกบแก้วเพลิง พวกมันถูกดูดออกไปโดยที่มันมิได้ควบคุมและรวมตัวกันที่ร่างของซือหยู

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว แต่ไม่ว่ามันจะทำอย่างไร มันก็มิอาจหยุดเพลิงไม่ให้ไหลออกจากร่างกายไปได้

 

แค่ไม่กี่ชั่วอึดใจ เพลิงวิญญาณในร่างมันก็เหลืออยู่รวยริน แต่เพลิงที่ลุกไหม้อยู่กับร่างวิญญาณของซือหยูนั้นสูงถึงสามสิบศอก!

 

และเพลิงนั้นยังทำอะไรร่างวิญญาณไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ร่างวิญญาณของซือหยูจ้องมองกบแก้วเพลิงเนตรขาวด้วยความเย็นชา

 

ถ้าคนรอบๆมีเนตรวิญญาณ พวกเขาก็คงจะเห็นได้ว่าในวิญญาณของซือหยูนั้นมีหม้อเก้ามังกรที่ดูดกลืนเพลิงวิญญาณจากโลกภายนอกอย่างไม่หยุดหย่อน

 

ดังนั้นแล้ว เพลิงวิญญาณจึงทำอะไรซือหยูไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

 

ไม่นาน ก็มีเสียงในระดับวิญญาณดังเบาๆ เพลิงวิญญาณของกบแก้วเพลิงเนตรขาวที่บ่มเพาะมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีได้ถูกซือหยูยึดเอาไปจนหมดสิ้น!

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวเบิกตากว้างด้วยความแค้น มันมิอาจยอมรับความจริงข้อนี้ได้เลย! ค้องอยู่ในลาวาทมิฬเป็นระยะเวลายาวนานมากเท่านั้น วิญญาณจึงจะดูดซับเพลิงมาได้ทีละน้อย  จากนั้นจึงจะสามารถสร้างเพลิงที่ใช้โจมตีดวงวิญญาณโดยเฉพาะได้

 

แต่ในเวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ เพลิงวิญญาณทั้งหมดของมันถูกช่วงชิงไป! กบแก้วเพลิงเนตรขาวโกรธแค้นถึงขีดสุด ดวงตาของมันมีเพลิงทมิฬลุกออกมา

 

“ตายซะเถอะ!”

 

มันกรีดร้อง

 

กบแก้วเพลิงเนตรขาวอ้าปากตวัดลิ้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ลิ้นของมันเต็มไปด้วยเพลิงทมิฬที่ร้อนจนน่ากลัวกว่าลาวา!

 

เมื่อมันปรากฏ พลังวิญญาณในระยะพันศอกเริ่มลุกไหม้ พื้นที่โดยรอบกลายเป็นทะเลเพลิงในพริบตา

 

นี่คล้ายกับร่มวิเศษสุริยาม่วงอย่างมาก แต่พลังของเพลิงสุริยานั้นน้อยกว่าหนึ่งในสิบของเพลิงทมิฬนี้เสียอีก! แม้ว่าเพลิงทั้งสองจะเทียบได้กับต้นกำเนิด ความต่างของมันก็ไม่ใช่แค่ระดับเดียวแน่

 

ร่างวิญญาณของซือหยูกลับสู่ร่างหลัก ทันทีที่เขาลืมตาเขาก็สะบัดมือหนึ่งข้างพร้อมกับเกราะราชาศิลานิรันดร์ที่ปกคลุมกาย

 

จากนั้นในพริบตา ลิ้นยาวๆที่ปกคลุมไปด้วยเพลิงทมิฬก็มาถึง

 

เปรี๊ยะ—

 

ลำแสงห้าสีสั่นอย่างบ้าคลั่ง!

 

การโจมตีจากลิ้นยาวนี้อยู่ในระดับของขอบเขตภูติ ดังนั้นมันจึงทำลายลำแสงไม่ได้ ซือหยูถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

แต่ก็มีเพลิงส่วนน้อยจากลิ้นที่ลุกไหม้อยู่บนลำแสง!

 

ลำแสงนั้นถูกเผาไปในทันที! และลำแสงจากลูกแก้วอื่นก็เริ่มหม่นแสงลง มันถูกเผาไปตามๆกัน มันมิอาจทนทานพลังเพลิงนี้ได้ พวกมันถูกเผาจากเพลิงทมิฬ!

 

เกราะของลำดับห้าธาตุเมฆาแห้งเหือดถูกทำลาย!