ณ ขณะนี้……
ที่ซิงหลงรีสอร์ทในห้องชั้นบนสุด มีไวน์ขวดใหญ่สองสามขวดวางอยู่บนโต๊ะ
เกาเจิ้นโปที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆลืมตาขึ้นมาและเอามือลูบหัวที่ยังคงมึนอยู่ช้าๆ
ในตอนนี้เกาเจิ้นโปอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก!
เพราะเมื่อวานเขาโดนไล่ออกมาจากโรงแรมอย่างง่ายดาย!
เขารู้สึกหงุดหงิดมาก!
ดังนั้น เกาเจิ้นโปจึงได้มุ่งตรงมาที่รีสอร์ทของเขาและดื่มไวน์ขวดใหญ่สองสามขวดก่อนจะผล็อยหลับไป
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาตื่นมาและนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ความโกรธของเขาก็กลับมาอีกครั้ง
เกาเจิ้นโปพูดอย่างชั่วร้าย “ไอหลิน รอก่อนเถอะ แกได้เจอดีแน่!”
จากนั้น เขาที่กำลังนอนอยู่ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการลุกขึ้น
เกาเจิ้นโปสัมผัสท้องของเขาและหยิบโทรศัพท์ที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาแล้วพูดว่า “เอาอะไรมาให้ฉันกินหน่อยสิ”
เมื่อพูดจบ เขาก็กดวางสายแล้วโยนโทรศัพท์ออกไปด้านข้างของตัวเอง
“กริ๊ง!”
ไม่นานหลังจากนั้น กริ่งของประตูก็ดังขึ้น
และผานหย่งหลี่ผู้จัดการทั่วไปที่ใส่ชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวก็เดินเข้ามาอย่างช้าๆพร้อมกับถืออาหารเลิศรสมาด้วยตนเอง
ผานหย่งหลี่พูดอย่างกระตือรือร้น “นายน้อยเกา นี่คือกุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลีย เม่นทะเลคุณภาพเยี่ยม คาเวียร์และสเต็กออสเตรเลียคุณภาพเยี่ยม…”
“แถมอาหารเหล่านี้ก็ถูกปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟฝีมือดีของเราในซิงหลงรีสอร์ท…”
“และฉันก็ขอแนะนำให้คุณดื่มซุปนี้เป็นอันดับแรก เพราะมันอร่อยและสามารถเพิ่มความอยากอาหารของคุณได้”
ขณะที่เขาพูด เขาก็ค่อยๆเทน้ำซุปที่หอมกรุ่นออกมา
จากนั้น เกาเจิ้นโปก็จิบน้ำซุปและพยักหน้าเล็กน้อย
ซึ่งเมื่อเห็นท่าทางพอใจของเกาเจิ้นโป…
ใบหน้าแห่งความสุขของผานหย่งหลี่ก็ปรากฏออกมา
และซุปชามนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มความอยากอาหารขึ้นมาจริงๆ มันทำให้เกาเจิ้นโปกัดกินล็อบสเตอร์ เม่นทะเล และสเต็ก…อย่างตะกละตะกลาม
ซึ่งหลังจากที่ผานหย่งหลี่เห็นฉากนี้ เขาก็มีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม
และหลังจากที่เกาเจิ้นโปกินจนอิ่ม เขาก็เรอออกมาและพูดว่า “วันนี้มีการแสดงอะไรในรีสอร์ทงั้นหรอ”
ผานหย่งหลี่พูด “วันนี้เรามีโชวจากปรมาจารย์แห่งวงการมายากลครับ”
เกาเจิ้นโปหาวและพูด “มายากลหรอ? มีอะไรที่น่าสนใจกว่านีไหม?”
ผานหย่งหลี่พูดอีกครั้ง “แล้วจากนั้นก็จะมีนางแบบมาเดินแคทวอล์คโชว์”
แคทวอล์ค?
นางแบบ?
เห็นได้ชัดว่าคำที่ผานหย่งหลี่พูดออกมานั้นมีความหมายแฝงถึงบางสิ่งบางอย่างอยู่
แต่เกาเจิ้นโปไม่สนใจและพูดว่า “ผู้หญิงน่ะ ฉันหาซื้อเองเมื่อไหร่ก็ได้”
สิ่งนี้ ทำให้ผานหย่งหลี่ถึงกับต้องปวดหัวจากการเรื่องมากของเกาเจิ้นโปในทันที
และทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้นมา
เขาทำท่าทีขอโทษเและพูด “นายน้อยเกา ฉันขอรับสายก่อนนะ”
“ตามสบาย” เกาเจิ้นโปพูด
จากนั้น ผานหย่งหลี่ก็ได้พบว่าคนที่โทรมานั้นคือลูกชายของเขา ผานเฉิน
“เสี่ยวเฉิน มีอะไรงั้นหรอ?” ผานหย่งหลี่ถามด้วยเสียงต่ำ
“ผมพาเพื่อนร่วมชั้นมาที่โรงแรมซิงหลงรีสอร์ท พ่ออยู่ในโรงแรมหรือเปล่า ถ้าว่างๆพ่อก็ลงมาหาด้วยนะ” ผานเฉินกล่าว
แม้ว่าตอนนี้เหล่าเพื่อนๆจะรู้ถึงความร่ำรวยของเขาแล้ว
แต่ผานเฉินรู้สึกว่ามันยังไม่เพียงพอ
เขาต้องการให้พ่อของเขามาแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งด้วย
สิ่งนี้…
เพื่อให้เขากลับไปอยู่บนจุดสูงสุดอีกครั้ง!
ซึ่งเมื่อผานหย่งหลี่ได้ยิน เขาก็ขมวดคิ้วทันที ถึงแม้ว่าการที่ลูกชายจะพาเพื่อนร่วมชั้นมาที่โรงแรมนั้นไม่ได้ผิดอะไร
แต่เขาก็ต้องจัดการด้วยตัวเองสิ!
ไม่ใช่มาเรียกหาพ่อไม่ใช่หรือไง?
ผานหย่งหลี่กำลังจะดุลูก
แต่เมื่อเขาเห็นว่าเกาเจิ้นโปนั้นนั่งอยู่ข้างๆ คำพูดกับน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไป
“ถ้าพ่อมีเวลาพ่อจะลงไปหานะ”
พูดเสร็จเขาก็กดวางสายทันที
จากนั้น ผานหย่งหลี่ก็พูดด้วยน้ำเสียงประจบสอพลอ “นายน้อยเกา วันนี้ลูกชายของฉันได้พาเพื่อนร่วมชั้นมาที่โรงแรมของเรา คุณอยากจะลงไปดูหน่อยมั้ย”
ซึ่งเมื่อเกาเจิ้นโปได้ยิน เขาก็รีบถามทันที “ลูกชายของนายยังเรียนอยู่เปล่า?”
“ยังเรียนอยู่ครับ เขากำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย” ผานหย่งหลี่ได้ตอบกลับ
“ว้าว” ดวงตาของเกาเจิ้นโปสว่างขึ้นทันที
เพราะเมื่อเทียบกับนางแบบเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่านักศึกษาที่อายุน้อยอย่างนี้มีเสน่ห์มากกว่า
และยิ่งเป็นมหาวิทยาลัยเจียงเป่ย…
มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในจังหวัดแล้ว มันจะต้องมีสาวงามอยู่แน่นอน
ดังนั้น เกาเจิ้นโปจึงพูดต่อ “นายมีความสามารถที่ดี ลูกชายของนายก็น่าจะยอดเยี่ยมเช่นกัน! และไหนไหนเขาก็มาที่นี่แล้ว ฉันคงต้องลงไปดูสักหน่อย!”
“เพราะบางที เขาอาจจะเป็นผู้บริหารในอุ๊ปกรุ๊ปของฉันในอนาคตก็ได้!”
ผานหย่งหลี่ดีใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขายิ้มพร้อมกับพูดว่า “เป็นเกียรติ์อย่างยิ่งเลยที่นายน้อยยอมลงไปพบกับลูกของผม!”