เสียงของเกาเจิ้นโปนั้นดังมาก
มันดึงดูดความสนใจของนักศึกษาทุกคนในทันที
พวกเขาทั้งหมดมองไปในทิศทางที่เกาเจิ้นโปมองไป
และทุกคนก็พบว่า…คนที่เกาเจิ้นโปกำลังพูดถึงก็คือหลินฟาน!
ในทางกลับกัน เมื่อหลินฟานเห็นเกาเจิ้นโป สีหน้าประหลาดใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขา
ทั้งสองเพิ่งพบกันเมื่อวานนี้
ไม่ทันได้ตั้งตัว…วันนี้ก็เจอกันอีกแล้ว
โลกนี้มันแคบเกินไปรึเปล่า?
หลังจากพูดออกไปอย่างโกรธแค้นในตอนแรก เกาเจิ้นโปก็ค่อยๆยกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย
สวรรค์มีตาจริงๆ!
เมื่อวานนี้แกพึ่งให้คนไล่ฉันออกมา แต่วันนี้เป็นตาฉันที่จะได้แก้แค้นบ้าง!
เกาเจิ้นโปเหลือบมองไปที่ทุกคนและพูดว่า “ไอหลินคนนี้ เป็นเพื่อนร่วมห้องของคุณใช่หรือเปล่า?”
“ใช่ เขาเป็นเพื่อนร่วมห้องของเรา และชื่อของเขาก็คือหลินฟาน” ผานเฉินเป็นเหมือนกับหมาปั๊กที่ซื่อสัตว์ เขาก้มหน้าตอบอย่างภักดี
เกาเจิ้นโปพูดอย่างจริงใจ “ฉันรู้ว่าชีวิตนักศึกษาของพวกคุณนั้นค่อนข้างลำบาก ไหนจะเงินค่าขนมต่อเดือนที่น้อยนิด…วันนี้ การได้มาสังสรรค์กันที่โรงแรมซิงหลงรีสอร์ทคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ”
“ผานเฉิน พ่อของนายเป็นผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมซิงหลงรีสอร์ทของเรา ฉันยินดีที่จะไม่คิดค่าบริการทั้งหมดสำหรับการเข้าใช้โรงแรมซิงหลงในครั้งนี้!”
ผานเฉินพูดอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณ นายน้อยเกา!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ไม่ลืมที่จะยิ้มออกมาอย่างมีชัยไปทางเพื่อนร่วมห้อง
เหมือนกับกำลังจะบอกมา: เป็นยังไงละ? เป็นเพราะฉันเลยนะ! วันนี้พวกเราเลยไม่ต้องเสียเงินเลยสักหยวน
นักศึกษาทุกคนเองก็แสดงรอยยิ้มออกมา
ทันใดนั้น เกาเจิ้นโปก็พูดต่อ “แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือต้องไล่หลินฟานออกไป! เพราะฉันไม่ชอบเขา!”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา ทั้งห้องก็เงียบลงไปในทันที
แต่อย่างไรก็ตาม ผานเฉินไม่ได้ลำบากใจกับข้อแม้นี้
ตรงกันข้าม เขารู้สึกมีความสุขมาก!
เพราะเมื่อเขาเห็นหน้าหลินฟานทีไร มันทำให้เขาอารมณ์เสียทุกที
ตอนนี้เขาได้โอกาสกำจัดเขาแล้ว เรื่องนี้มันจะไม่เพียงแค่ได้ระบายความโกรธของเขาเท่านั้น แต่เรื่องนี้ยังช่วยลดสถานะของหลินฟาน และเพิ่มสถานะของเขาในห้องเรียนได้อีกด้วย!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้…
ผานเฉินก็หันหลังกลับมาและเดินไปหาหลินฟาน เขาแสร้งพูดอย่างเกรงใจ “หลินฟาน นี่… รู้ไหม ค่าขนมของคนในห้องเรียนของเรามีจำกัด…”
“เพื่อประโยชน์ของห้อง นายจะทำเพื่อพวกเราได้ไหม?”
หลินฟานเหลือบมองไปที่ผานเฉินอย่างเฉยชา ขณะที่เขากำลังจะพูดออกไป ซงหยี่ก็ตะโกนออกมาซะก่อน
“นายใจร้ายเกินไปรึเปล่า? จะให้เราไล่พี่ฟานไปได้ยังไง!”
หลังจากนั้น เจิ้งจินเป่าก็ตะโกนตามออกมา “นี่เป็นปาร์ตี้ของห้องเรียนของเรา! จะปล่อยให้คนอื่นมาซื้อมันไปด้วยเงินได้ยังไง? หึ!”
“ใช่แล้ว!” หม่าจงเองก็พูดออกมาด้วย
ทันใดนั้น เพื่อนร่วมห้องหลายคนก็พูดขึ้นตาม
“เราไม่ได้มาจัดสังสรรค์กันแค่เพื่อความสนุกเท่านั้นนะ”
“ถึงฉันจะมีเงินไม่มากนักก็ตาม แต่กับไอแค่งานเลี้ยงแค่นี้ฉันก็ยังพอมีเงินออกได้หน่า!”
“ฟรีเหรอ? ฉันมีเงินพอจ่ายเองน่า!”
“ถ้าครั้งนี้เราต้องไล่หลินฟานไปเพราะเรื่องแบบนี้ ครั้งต่อๆไปเราก็ต้องไล่เพื่อนคนอื่นออกไปอีกงั้นหรอ? ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันเองก็ไม่ต้องการร่วมงานเลี้ยงแบบนี้เหมือนกัน!”
…………
สถานการณ์นี้เป็นไปอย่างปกติ
ท้ายที่สุด คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตาบอดเพราะความอิจฉาเหมือนกับผานเฉิน
พวกเขาใจแข็งพอ และพวกเขาก็รู้สึกชื่นชมหลินฟานจากใจจริงๆ
ถ้าพวกเขาต้องไล่คนที่พวกเขาชื่นชมออกไปจากงานปาร์ตี้จริงๆ พวกเขาคงจะไม่มีวันที่มีเพื่อนที่จริงใจเป็นแน่
ผานเฉินไม่คิดว่าจะมีคนพูดคัดค้านออกมามากมายขนาดนี้ เขาหันมองไปที่เกาเจิ้นโปที่ตอนนี้มีสีหน้าน่าเกลียดอยู่ ก่อนจะพูด”นายน้อยเกา ฉันจะลองเกลี้ยกล่อมเพื่อนๆอีกครั้ง”
จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาต่อ “เพื่อนร่วมห้องเงียบๆก่อน เงียบๆหน่อย … ”
“เงียบไปเลย! ผานเฉิน ถึงนายจะต้องการเอาใจใครซักคนก็ตาม แต่นั่นมันก็เรื่องของนาย! นายจะมาไล่พี่ฟานไปได้ยังไง?” ซงหยี่พูดอย่างไม่พอใจ
“วันนี้ฉันได้เห็นอีกด้านของผานเฉินแล้ว วันหลังก็ไม่ต้องแสร้งทำตัวเป็นคนดีอีกละ!”
“ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่านายน้อยเกาที่นายเคารพนักเคารพหนา เขารวยสักแค่ไหนกันถึงทำให้นายต้องก้มหัวรับใช้เขา?”
ทุกคนตางตะโกนและสาปแช่งออกมา
ทันใดนั้น การแสดงออกของเกาเจิ้นโปก็ดูน่าเกลียดมากยิ่งขึ้น เขาพูดอย่างโกรธๆ “โอเค ได้… ถ้าไม่ต้องการขับไล่หลินฟานออกไปละก็ พวกนายทุกคนก็ออกไปจากที่นี่ซะ!”
ขณะพูด เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเตรียมที่จะโทรออก
เนื่องจากเหล่านักศึกษาไม่ต้องการไล่หลินฟานกลับไป เขาเลยจะเปลี่ยนวิธีไปใช้วิธีที่รุนแรงมากขึ้น
ตอนนั้นเอง หลินฟานที่ไม่เคยพูดออกมาเลย ก็พูดออกมาในที่สุด “ไม่ต้องโทรหรอก”
“เกาเจิ้นโป นี่คือโรงแรมของนายก็จริง ”
“แต่นายรู้ผลที่ตามมาของการไล่ฉันออกไปหรือเปล่า?”
เกาเจิ้นโปหัวเราะเยาะก่อนจะพูด “ผลที่ตามมาคืออะไร? คิดว่าฉันกลัวรึไง? ฉันกลัวนายตายล่ะ!”
หลินฟานพยักหน้าพลางพูดว่า “จำสิ่งที่นายพูดในวันนี้ไว้ให้ดี!”
เมื่อพูดจบ หลินฟานก็หันหลังเดินออกไป
กลุ่มนักศึกษารวมทั้งเจิ้งจินเป่าและซงหยี่เองก็เดินตามหลังเขาออกมาอย่างใกล้ชิด
ซ่งเจียซิน ซึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลก็เดินออกไปและพูดอย่างเย็นชา “เกาเจิ้นโป ฉันสัญญาได้เลย นายจะต้องเสียใจกับสิ่งที่นายทำในวันนี้อย่างแน่นอน!”
หัวใจของเกาเจิ้นโปกระตุกเล็กน้อย
เขาไม่ได้สังเกตเห็นว่าซ่งเจียซินอยู่ที่นี้ด้วย และถ้าฟังจากน้ำเสียงของเธอ ดูเหมือนว่าเธอก็จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินฟานด้วย?
ต้องรู้ก่อนว่า……
พลังของตระกูลซ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะจินตนาการได้
เกาเจิ้นโปเปิดปากของเขาออกมาเพื่อต้องการจะอธิบายอะไรบางอย่าง
แต่อย่างไรก็ตาม ซ่งเจียซินไม่ให้โอกาสเขาได้พูดอะไร ก่อนจะหันหลังกลับจากไป
นี่…
เกาเจิ้นโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้
แต่เขาก็ยังคิดในใจอย่างเข้าข้างตัวเอง: ซ่งเจียซินหรอ แต่บริษัทของเราก็ไม่ได้พึ่งพาตระกูลซ่งอยู่แล้วหนิ แล้วเธอจะทำอะไรได้
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เกาเจิ้นโปก็กลับมาผ่อนคลายอีกครั้ง
…………
หลังจากที่หลินฟานเดินออกมาจากโรงแรมซิงหลงรีสอร์ท เขาก็เหลือบมองไปที่นักศึกษาที่อยู่ข้างหลังเขาก่อนจะพูดว่า “วันนี้เป็นเพราะฉันเองที่ทำให้งานปาร์ตี้ของทุกคนต้องถูกขัดจังหวะ … ”
“พี่ฟาน พี่กำลังพูดเรื่องอะไร”
“ใช่แล้ว”
“ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน เราก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ”
เพื่อนร่วมชั้นทุกคนพูดออกมาทีละคน
หลินฟานพูด “แต่ฉันไม่ต้องการให้งานเลี้ยงของเราต้องจบลงแบบนี้ ถ้าทุกคนเห็นด้วยล่ะก็ ให้ฉันเป็นคนหาที่จัดปาร์ตี้ต่อได้ไหม?…”
“ได้เลย!”
“แน่นอนอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง!”
“ฮ่าฮ่า! เห็นด้วยอยู่แล้ว!”
นักศึกษาทั้งหมดตอบมาทีละคน
หลินฟานพยักหน้าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมา และกดไปเบอร์ของหวางเซิงลี่ ผู้จัดการของบริษัทรักษาความปลอดภัยเฟยหลง
ในไม่ช้า อีกฝ่ายก็กดรับโทรศัพท์ และเสียงที่เต็มไปด้วยเคารพของหวางเซิงลี่ก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับคุณหลิน!”
หลินฟานพูด “ผู้จัดการหวาง คุณช่วยจัดรถบัสมาให้หน่อยได้ไหม?”
“แน่นอน ไม่มีปัญหา!” หวางเซิงลี่พูดอย่างไม่ลังเลเลย น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
ไม่แปลกใจ…
สุดท้ายแล้ว เป็นโอกาสหายากที่ได้ติดต่อกับหลินฟานที่เป็นเจ้าของบริษัทเฟยหลง
หลินฟานพูด “โอเค คุณให้รถบัสมาที่หน้าโรงแรมซิงหลงรีสอร์ทนะ”
“ได้ครับ ผมจะไปถึงใน 20 นาที!” หวางเซิงลี่พูด
ประมาณ 18 นาทีต่อมา รถบัสสุดหรูก็ขับมาจอดอยู่ต่อหน้าหลินฟาน
เพื่อนร่วมห้องทุกคนขึ้นไปนั่งบนรถบัสด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
หลินฟานพูดกับหวางเซิงหลี่ “ไปที่เอซีคลับ”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกพูดออกมา หัวใจของนักศึกษาหลายคนก็เต้นเร็วขึ้นอย่างอดไม่ได้
และใบหน้าของเจิ้งจินเป่ากับซงหยี่นั้นก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ส่วนหม่าจงก็บิดตูดของเขาอย่างเขินอาย