นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 559 พนันกัน
และทันใดนั้นเองโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา หลิวเสี่ยวหนิงก็แอบสบถอยู่ในใจว่าท่าไม่ดีแล้ว ผู้จัดการจะมาช้าเร็วไม่มาแต่ดันมาตอนนี้

แต่ตอนนี้พูดอะไรก็ช้าไปแล้ว หลิวเสี่ยวหนิง เห็นทั้งสองคนนั้นหันมาตามเสียง

เธอกัดฟันแน่นไม่กล้าที่จะลังเลหันหลังวิ่งออกไป

“จับเธอไว้!”

ต่อมาก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังมาตามหลัง หลิวเสี่ยวหนิงหายใจหอบ วิ่งไปทางผู้จัดการ

เดิมทีหลิวเสี่ยวหนิงที่กำลังกลุ้มผู้จัดการยังไม่ทันเงยหน้า ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงรถถูกคนถ่ายรูปไว้ ทำให้เธอตกใจ

“รีบไปเร็ว!”

หลิวเสี่ยวหนิงโผล่หน้าที่หน้าต่าง แล้วเปิดประตูรถแล้ววิ่งเข้าไป

ผู้จัดการยังไม่ทันตั้งสติก็หันไปมองหลิวเสี่ยวหนิง”เธอเป็นอะไร”

“รีบขับเราออกไปเร็ว!”

เพราะเมื่อกี้วิ่งหอบมา หลิวเสี่ยวหนิงที่ตอนนี้หายใจหอบทำหน้าแตกตื่น

คนขับรถก็ขับเคลื่อนออกไป หลิวเสี่ยวหนิงมองไปด้านหลังผ่านหน้าต่างรถ ก็เห็นไม่มีรถตามจากด้านหลัง ถึงได้ถอนหายใจโล่ง

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมดูหน้าแตกตื่น “ผู้จัดการคิ้วขมวดถาม

หลิวเสี่ยวหนิงก้มหน้าลง และเล่าเรื่องที่เกิดเรื่องเมื่อกี้ให้ผู้จัดการฟัง

“ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเห็นฉันมั้ย …..”ทันใดนั้นเหมือนหลิวเสี่ยวหนิงจะนึกอะไรขึ้นมาได้หน้าก็ไม่สู้ดี

รถตู้ดาราของบริษัททุกคนต่างก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสองคนนั้นแม้จะไม่เห็นเธอ แต่ก็เห็นรถเกรงว่าจะสืบได้ว่าเป็นตน

ทันใดนั้นมือของหลิวเสี่ยวหนิงก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“งั้นเธอเห็นหน้าของพวกเขาทั้งสองคนมั้ย”ผู้จัดการถามร้อนใจ

“ไม่เห็น”หลิวเสี่ยวหนิงยิ้มแหยออกมา”แต่ถ้าหากว่าให้ฉันฟังเสียงของทั้งสองคนคุยกันอาจจะรู้ได้’

หลิวเสี่ยวหนิงยกมือขึ้นมานวดแก้มรู้สึกกลัดกลุ้มใจ

ผู้จัดการเห็นอย่างนั้นแม้สีหน้าจะจริงจังมาก แต่ก็ยังยื่นมือไปตบไหล่หลิวเสี่ยวหนิงเพื่อเป็นการปลอบ

“เรื่องนี้ฉันจะแจ้งประธานซูเอง ไม่ต้องเป็นกังวลนะ”

…………

อีกด้าน บาร์เฉิงปี้

ซูฉิงนั่งอยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิง สีหน้าเรียบเฉย แต่ก็สังเกตโต๊ะพนันหินที่ดึงดูดความสนใจของเธอตลอด

และฮ่อหยุนเฉิงก็เริ่มคุยกับเฟิงไป่โจว

“ประธานฮ่อ เมื่อก่อนพวกเราไม่ได้มีอะไรยุ่งเกี่ยวกัน และคุณก็ได้ทำสัญญาที่ดินใหม่แล้ว งั้นก็เอาของสิ่งนั้นมาให้ผมเถอะนะ”

เฟิงไป่โจวยิ้มออกมา แต่แววตากลับทำให้รู้สึกอันตราย

ฮ่อหยุนเฉิง กวาดสายตามองชายชุดดำที่อยู่ด้านหลังเฟิงไป่โจวด้วยสีหน้าเรียบนิ่งสองมือกอดอก

“พวกเราเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจก็ต้องมองผลประโยชน์ก่อนเป็นอันดับแรก เรื่องนี้ผมจะไม่พูดถึง ประธานเฟิงก็น่าจะรู้นะ”

ซูฉิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็นึกถึงเรื่องที่ฮ่อหยุนเฉิงเคยพูดกับเธอก่อนหน้านี้

ตั้งแต่เฟิงไป่โจวได้ขึ้นเป็นประมุขของตระกูลเฟิง ตระกูลเฟิงก็มีอำนาจมากขึ้น จนสามารถอยู่เหนือตระกูลอื่น

ตอนนี้ก็กำลังสู้กับตระกูลฮ่อ คนอื่นอาจจะเห็นว่าตอนนี้ตระกูลเฟิงมีอำนาจและต้องหลบหลีกให้ แต่กับฮ่อหยุงเฉิงไม่มีทาง

“ประธานฮ่อ ที่ดินที่อยู่ในมือของคนได้มายังไงผมก็รู้ดี ก็ถือว่าเห็นแก่มิตรภาพเถอะ”

เฟิงไป่โจวมองหน้าฮ่อยหยุนเฉิงที่อยู่ตรงหน้า เขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเขานั้นโหดใช่ย่อย คิดไม่ถึงว่าจะจัดการยากกว่าที่เขาคิดไว้อีก

“มิตรภาพก็ไม่ใช่จะเอามาพูดแบบนี้”ฮ่อหยุนเฉิงแล้วยิ้มแล้วพูดช้าๆ

“งั้นที่ดินผืนนั้นผมจะต้องได้มา เพียงแต่ว่าตอนนี้ราคายังถูกอยู่ก็เท่านั้นเอง”

“อีกทั้งผมก็แค่มาตามมารยาท ประธานเฟิง ในเมื่อคุณก็รู้ว่าพวกเราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกัน ก็ไม่ควรที่จะลำเส้นมากเกินไปนะ คุณก็เหมือนกัน หลานของคุณนั่นก็ใช่”

เฟิงไป่โจวที่ยิ้มอยู่ก็ชะงัก เขาแกว่งแก้วเหล้าที่อยู่ในมือสีหน้ายากจะคาดเดา

“ประธานฮ่อ ตอนนี้ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ”

แต่ทว่าฮ่อหยุนเฉิงไม่สนใจคำพูดของเฟิงไป่โจว แต่หันไปมองซูฉิง:”อยากลองดูมั้ย”

เขาที่สังเกตซูฉิงตลอด และในเมื่อตนพาเธอมาด้วย ก็อยากจะให้เธอได้ลองสักหน่อย

“แน่นอนสิ นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่บ่อนหินพนันเลยนะ “ซูฉิงแววตาล่อกแลก แสงในดวงตาของเขาสั่นไหว ฮ่อหยุนเฉิงเห็นมัน สีหน้าของเขาตกใจเล็กน้อย และวินาทีต่อมาเขาก็หัวเราะอย่างช่วยไม่ได้

ต่อมาเขาก็หันไปหาเฟิงไป่โจว แล้วเอ่ยพูด:”ประธานเฟิง งั้นพวกเรามาพนันกันหน่อยมั้ย”

“พนันอะไร”เฟิงไป่โจวเอ่ยถามอย่างสนใจ

“ในเมื่อคุณนัดผมมาในที่อย่างนี้ จะไม่เล่นได้ยังไง”ฮ่อหยุนเฉิงหยิบเส้นผมของซูฉิงขึ้นมาเกี่ยวกันเล่น

“หินสามก้อน ใครที่เปิดได้ราคาสูง ใครคนนั้นก็ชนะ คนชนะก็จะได้ในสิ่งที่อยากได้”

“คุณจะมาพนันหินกับผม? “เฟิงไป่โจวงอนิ้วเคาะโต๊ะ พูดอย่างน่าสนใจ

ฮ่อหยุนเฉิงเอาเท้าไขว่ห้าง ออร่าที่ทรงพลังทำให้คนอดที่จะละสายตาไม่ได้ :”ประธานเฟิงกล้ามั้ยละ”

ทันใดนั้นเฟิงไป่โจวก็ระเบิดหัวเราะออกมา”ดูท่าประธานฮ่อเชื่อมั่นมาก ในเมื่อประธานฮ่อพูดมาอย่างนี้แล้ว ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ”

แต่ทว่าเฟิงไป่โจวพูดจบ ก็ได้ยินเสียงสาวสวยดังขึ้นมา

“ในเมื่อจะพนันงั้นก็ควรเล่นใหญ่กันหน่อยสิ”

ผู้หญิงเหยียบรองเท้าส้นสูงดังใกล้เข้ามา ซูฉิงได้ยินก็เงยหน้าขึ้นมองก็เห็นผู้หญิงสาวสวยเดินเข้ามา เธอนั่งลงบนพนักพิงโซฟาข้างเฟิงไป่โจว ผมสีน้ำตาลถูกปัดอีกฝั่ง

สายตาเล่นหูเล่นตาของเธอมองไปที่หน้าของฮ่อหยุนเฉิง

“ครั้งเดียวตัดสินแพ้ชนะยิ่งสนุก “เฉินเจียวยกยิ้มปากสีแดง พร้อมกับยิ้มพูด

“ประธานฮ่อ การเล่นหินพนันผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ดังนั้นให้เธอเล่นแทนละกัน”เฟิงไป่โจวมองไปทางฮ่อหยุนเฉิง

“คิดไม่ถึงว่าประธานเฟิงจะรู้จักคุณเฉินด้วย “ฮ่อหยุนเฉิงเอ่ยเสียงเรียบ

ซูฉิงที่นั่งมองอยู่ข้างๆ แอบยิ้มหัวเราะอยู่ในใจ

เฟิงไป๋โจวนัดมาที่นี่จะต้องมีเหตุผล แม้ฮ่อหยุนเฉิงไม่เอ่ย เขาก็จะต้องพูดเรื่องพนัน

แต่สิ่งที่ทำให้ซูฉิงคิดไม่ถึงก็คือ เฟิงไป่โจวกับเฉินเจียวจะสนิทสนมกันขนาดนี้

คนข้างๆ อาจจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าหากว่ารู้จักวงการหินพนันก็จะต้องเคยได้ยินชื่อของตระกูลเฉิน และเฉินเจียวก็คือคนที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลเฉินในช่วงไม่กี่ปีมานี้

ตอนอายุสิบหกปีก็เปิดร้านหยกและถือเป็นการสั่นสะเทือนของวงการเลย

และต่อมาไม่กี่ขุดออกมาได้วัตถุดิบที่ดีออกมาไม่น้อย และสามารถเรียกได้ว่าเธอเป็นนักพนันหินที่อายุน้อยที่สุด

“คิดไม่ฉันว่าฉันจะดังขนาดนี้ แม้แต่ประธานฮ่อก็รู้จัดด้วย”

เฉินเจียวตาแววมองฮ่อหยุนเฉิงและขยิบตาให้กับเขา

ซูฉิงที่มองอยู่ แววตาก็นิ่งขรึมลง

“ประธานเฟิงที่ก็จะไม่ยุติธรรมหน่อยหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงเงยหน้าขึ้น

“ในเมื่อเป็นอย่าางนี้ ประธานฮ่อสามารถหาผู้ช่วยได้นะ”เฟิงไป่โจวพูด แม้ในใจจะคิดว่าชัยชนะอยู่ในมือแล้ว

พอได้ยินอย่างนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็ยกยิ้มแล้วกันไปพูดกับซูฉิงที่อยู่ข้างๆ”ลองดูมั้ย”