นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 560 พึ่งดวง
“ฉัน?”ซูฉิงอึ้งตะลึง

ฮ่อหยุนเฉิงยื่นมือไปกอดเอวของซูฉิงแล้วกระซิบพูดเสียงเบา”ใช่แล้ว ฉันไม่รู้อะไรเดียวกับการพนันหินเลย”

พอได้ยินอย่างนั้นซูฉิงก็ทำหน้างอ เธอนึกว่าฮ่อหยุนเฉิงที่เป็นคนเอ่ยเรื่องเล่นพนันออกมาก่อน จะมีความลับที่จะเอาชนะอะไรอย่างนี้ซะอี แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะพนันจริงๆ

“หรือว่าคุณซูฉิงก็เป็นนักพนันหินมืออาชีพหรอ”เฟิงไป่โจวมองซูฉิงด้วยแววตาจับสังเกต

ซูฉิงก็หันไปมองเฟิงไป่โจวก็ตั้งใจเผยแววตาที่คาดเดาไม่ออกออกมา เธอยกมือขึ้นแตะคางตัวเองแล้วแฉะยิ้ม

ท่าทางอย่างนี้ไม่เพียงแค่ทำให้เฟิงไป่โจวรู้สึกสงสัย แม้แต่เฉินเจียวก็รู้สึกสงสัย

เฟิงไป่โจวรู้ดีว่าคนที่ได้อยู่ข้างๆ ฮ่อหยุนเฉิงจะต้องไม่ธรรมดา เพียงแต่อายุของเธอถ้าเทียบกับเฉินเจียวแล้วยังอ่อนกว่า จะเก่งเรื่องหินพนันได้ยังไง?

ทั้งสองมองหน้าสบตากันด้วยความพอใจมาก ซูฉิงที่ตกเบ็ดได้ปลาที่อยากได้ก็ยกแขนขึ้นมากอดอก:”เรื่องหินพนัน วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของฉันเลยนะ ในเมื่อเป็นการพนันงั้นก็ต้องพึ่งดวงแล้วละ”

ฮ่อหยุนเฉิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองซูฉิงด้วยสายตาอ่อนโยน

“คุณนายฮ่อดูจะมีความเชื่อมั่นในโชคของตัวเองจังเลยนะ?”เฟิงไป่โจวหัวเราะเยาะแต่สีหน้ายังคงเรียบนิ่งดังเดิม

“แน่นอนสิ”ซูฉิงพยักหน้า

เฉินเจียวที่อยู่ข้างๆ ก็คอยสังเกตฮ่อหยุนเฉิงตลอดพอได้ยินอย่างนั้นก็ก้าวเดินเข้ามาแขนยกขึ้นกอดอกมองซูฉิง

“งั้นก็ทำให้พวกเราเห็นหน่อยสิว่าคุณจะเก่งสักแค่ไหน”

ซูฉิงหันไปมองฮ่อหยุนเฉิงมีท่าทีลังเลแต่สุดท้ายก็เอ่ยออกมา:”ถ้าฉันแพ้จะทำยังไง”

“ฉันเชื่อมั่นในตัวเธอ”ฮ่อหยุนเฉิงใช้นิ้วลูบไล้จมูกของซูฉิงแล้วก็หัวเราะออกมา

เฉินเจียวเอียงหน้าแล้วหัวเราะออกมา:”คุณซูใช่มั้ยคะ”

ซูฉิงหันไปมองด้วยสีหน้าเรียบ แต่แววตานั้นเต็มไปด้วยเย็นชา

เธอไม่ชอบสายตาที่เ​ฉินเจียวมองฮ่อหยุนเฉิงเลย

“ทำไมหรอคะ คุณเฉินอยากจะยอมแพ้หรอคะ”ซูฉิงยักคิ้วเล็กน้อย

เล็บสีแดงสดชี้ไปที่ริมฝีปากของตน สายตาของเฉินเจียวมองผ่านซูฉิงไปและไปหยุดที่ฮ่อหยุนเฉิง

“งั้นพวกเราเพิ่มเงินพนันดีมั้ยคะ”

“คุณอยากเพิ่มอะไร”

เฉินเจียวกัดริมฝีปากยิ้ม”ถ้าหากคุณแพ้ ก็ยอมให้ฉันอยู่ข้างๆ คุณฮ่อหนึ่งเดือน เป็นไงคะ”

เมื่อก่อนเฉินเจียวเคยได้ยินชื่อเสียงของฮ่อหยุนเฉิง แต่พอวันนี้ได้มาเจอตัวจริงเฉินเจียวก็รู้สึกว่าคนที่เก่งกาจอย่างนี้ถึงจะเหมาะสมกับตน

แม้แต่ซูฉิง เฉินเจียวรู้สึกว่ายังเก่งกว่าเธอมาก

ระยะเวลาหนึ่งเดือน เธอรับรองเลยว่าจะต้องทำให้ฮ่อหยุนเฉิงหลงใหลในตัวเองได้แน่

พอพูดออกไปแววตาของซูฉิงก็นิ่งขรึม เธอเดินเข้าไปใกล้เฉินเจียว

ซูฉิงที่ตัวสูงกว่าเธอ ก้มหน้ามองพร้อมกับยกยิ้มมุมปาก”คุณคิดดีแล้วใช่มั้ย”

“คุณซูตกลงแล้วหรอ”เฉินเจียวทำหน้าดีใจ สำหรับฮ่อหยุนเฉิงแล้วเธอจะต้องได้เขามา

ขนตางอนยาวไว้ระริก สายตาของซูฉิงหันไปมองลำคอขาวของเฉินเจียว แต่วินาทีต่อมาซูฉิงก็จับเข้าที่คอของเฉินเจียว

บรรยากาศเริ่มคลุขึ้นมา เฉินเจียวยิ่งรู้สึกตกใจบีบเข้าที่ข้อมือของซูฉิงพร้อมตะโกนเสียงแหลม

“เธอจะทำอะไร”

“ไม่ต้องกลัว”

สายตาของซูฉิงกวาดไปมองบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังของเฟิงไป่โจว พร้อมสีหน้ายิ้มอ่อนโยนไปให้

เธอหันกลับมาที่เดิม มือที่บีบลำคอของเฉินเจียวอยู่ก็ขยับไปมาสุดท้ายบีบเข้าที่แก้มของเธอ

“ถ้าหากคุณเฉินแพ้แล้ว ก็เอาชีวิตนี้มอบให้กับฉัน เป็นไง”

เฉินเจียวได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับคอหดเกร็ง เธอคิดไม่ถึงเลยว่าซูฉิงจะยื่นข้อเสนออย่างนี้ออกมา

พร้อมกับมือที่เพิ่มแรงบีบจนทำให้ผิวของเธอเป็นรอย

“แก……….”เฉินเจียวที่โกรธแต่ก็ไม่กล้าระบายออกมา เหมือนเธอจะเริ่มรู้สึกกลัว

ถ้าเทียบกับเฉิยเจียวแล้ว ซูฉิงมีท่าทีผ่อนคลายมาก”ทำไม คุณเฉินกลัวแล้วหรอ คุณบอกเองไม่ใช่หรอว่าถ้าจะพนันก็ต้องพนันให้มากหน่อย”

เฉินเจียวกัดฟันสั่น ลังเลที่จะเอ่ยปากตอบซูฉิง แต่ซูฉิงกลับปล่อยเธอก่อน

ยกมือขึ้นปัดเครื่องสำอางที่ติดมือ ซูฉิงเบะปากพูด:”ฉันไม่พนันกับคุณ หยุนเฉิงไม่ใช่สิ่งของ ไม่มีสิทธิเอาเขามาเป็นของพนัน”

ฮ่อหยุนเฉิงได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองซูฉิงด้วยสายตาอ่อนโยน ซูฉิงที่ส้มผัสได้ถึงสายตาของฮ่อหยุนเฉิงก็หันไปขยิบให้กับเขา

เฉินเจียวที่มีความรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ก้าวถอยหลังไปหลายก้าว ถึงได้ถอนหายใจมองไปทางซูฉิงด้วยสีหน้าไม่สู้ดี”แก……”

แต่ซูฉิงคร้านจะสนใจเฉินเจียว มองโต๊ะหินพนันแล้วเดินไป ก่อนเดินไปทิ้คำพูดเอาไว้ว่า

“อ้อ คุณเฉิน ต่อไปจะเลือกใช้รองพื้นต้องเลือกที่มันบางกว่านี้หน่อยนะ ที่คอของคุณก็หนาเกิดไปแล้ว ยังมีรองพื้นอยู่ด้วย”

เฉินเจียวกัดริมฝีปาก ระงับความโกรธไว้ในใจ เธอนั้นโกรธแค้นซูฉิงแล้ว

“คุณซูมั่นใจขนาดนี้ พวกเราเริ่มกันเถอะ”

“ฉันจะเริ่มเลือกแล้ว หรือคุณเ​ฉินมีความคิดอะไรมั้ย ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วคงจะมีวัตถุดิบชั้นยอดวิ่งมาหาคุณหรอกนะ”

ซูฉิงที่ทั้งเลือกทั้งพูด สำหรับเฉินเจียวแล้วเธอไม่ไว้หน้าแน่ ควรจะโกรธก็โกรธไปเลย

เฉินเจียวที่กัดฟันกรอด เธอหัวเราะเบาๆ มองไปที่โต๊ะพนัน”หวังว่าหินพนันของคุณซูจะมีโชคเหมือนกับปากนะ”

ตระกูลเฉินที่ถือว่าเป็นตระกูลเล่นหินพนัน สั่งสมประสบการณ์มากมาย และบวกกับพรสวรรค์อย่างเฉินเจียว เธอมีความเชื่อมั่นว่าชนะได้

และเธอจะต้องทำให้วันนี้ซูฉิงขายหน้าไม่มีเหลือ!

แต่ความโกรธแค้นซูฉิงที่อยู่ในใจของเฉินเจียวนั้นไม่รู้ เธอเพียงแค่สำรวจหินพนัน

คนที่อยู่โดยรอบก็หันมาให้ความสนใจ เพราะเฉินเจียวนั้นมีชื่อเสียงมาก และบวกกับเฟิงไป่โจวไม่ได้ปิดข่าว ดังนั้นคู่แข่งของการพนันก็เปิดเผยออกไปด้วย เกือบจะทำให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่

เฉินเจียวเดินเข้ามาแล้วเลือกหิน และตอนที่จะเดินกลับไป ทันใดนั้นก็มีหินก้อนหนึ่งที่ดึงดูดสายตา

และซูฉิงยืนอยู่ข้างๆ และยื่นมือจะไปหยิบก้อนหินก้อนนั้น เฉินเจียวที่เห็นอย่างนั้นก็ยื่นมือออกไปเช่นกัน และเหมือนจะแย่งก้อนหินก้อนนั้นมาจากมือของซูฉิง

“ต้องขอโทษคุณซูฉิงด้วย อันนี้ฉันเห็นก่อน”เฉินเจียวยิ้มตาหยีพูด

ซูฉิงเห็นอย่างนั้นก็ทำท่าทีไม่ถือสา แล้วหันไปทางอื่น

เฉินเจียวก้มมองก้อนหินที่อยู่ในมืออย่างพิจารณา ภายนอกแม้จะมองไม่ออก แต่ในใจเธอคิดว่าข้างในจะต้องมีอะไรดีแน่

หลังจากที่เลือกก้อนหินเสร็จแล้วเฉินเจียวก็เดินไป และยังต้องในหยุดตรงหน้าของฮ่อหยุนเฉิง

“คุณฮ่อเชื่อมั่นในตัวซูฉิงจริงหรอ”

แต่ทว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับไม่หันมองเฉินเจียวแม้แต่น้อย สายตามองแต่ซูฉิง

และทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังมาจากกลุ่มคน เฉินเจียวหันไปมองก็รู้สึกตกใจอึ้ง