ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้ว่า ซูหลีเป็นกรณีตัวอย่างของคนที่รักสนุกทุกข์ถนัด
ทันทีที่กระโจนออกมา ไม่รู้ว่าที่ใต้ฝ่าเท้าของนางสวมอะไรปกคลุมไว้อยู่ จากนั้นนางเดินโซเซเตาะแตะและล้มลงบนพื้นหิมะ!
“เหวอ!” นี่เป็นคราแรกที่ไม่มีผู้มีฝีมืออะไรอยู่ข้างกายนาง นางจึงหกล้มอย่างรุนแรง ซูหลีกระโจนลงบนพื้นหิมะ ทั้งยังร้องโหยหวนออกมาไม่หยุด
ทว่าซูหลีกลับไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ นางเพียงสนใจเรื่อง…
“คราวนี้ข้าควรจะขอบคุณคุณหนูถึงจะถูก หากไม่ได้ความช่วยเหลือจากคุณหนูแล้ว ข้ากับสามีก็คง…”
“ฮูหยินจะเกรงใจมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่ยื่นมือไปช่วยเล็กน้อยเท่านั้น”
“คุณหนูคงจะไม่รู้อะไร ซูหลีผู้นั้นเป็นคนเสียสติไปแล้ว จับกุมใครแล้วก็กัดไม่ปล่อย ไม่ว่าจะเป็นพวกเราหรือว่าตัวคุณหนูเองล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ ใครจะไปรู้ว่าจะถูกเขาให้ร้ายถึงขนาดนี้”
“คุณหนูโปรดวางใจเถิด คราวนี้จักต้องให้คุณหนูไว้วางใจ ข้าและสามีจะต้องจัดการคนสารเลวนั่น…”
ซูลหลีวิ่งลื่นไถลเข้าไปในป่าดอกเหมย คาดไม่ถึงว่านางได้ยินบทสนทนานี้โดยบังเอิญ เพราะได้ยินในบทสนทนานี้เอ่ยถึงชื่อของนาง นางจึงก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว ทว่าไม่ได้สังเกตที่ใต้ฝ่าเท้า ทันใดนั้นพลันล้มลงไปในกองหิมะ
เพราะเกิดการเคลื่อนไหวเสียงค่อนข้างดัง ทำให้บทสนทนาที่ดำเนินอยู่นั้นเงียบลงอย่างฉับพลัน และไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก
“ใคร!” มีเสียงเยือกเย็นของสตรีตะโกนดังขึ้น ซูหลีอยากจะคลานขึ้นมาจากกองหิมะ แต่คาดไม่ถึงว่าการล้มครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรงจึงทำให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ ได้แต่ใช้มือดิ้นรนกับกองหิมะ มองดูแล้วดูน่าขันยิ่งนัก
“ฮูหยิน ที่นี่มีคนอยู่” มีคนเดินอ้อมออกมาและเห็นซูหลีที่กำลังดิ้นรนอยู่ในกองหิมะ
เป็นเพราะใบหน้าของซูหลีหันไปทางที่ล้มไปในกองหิมะ ยามที่คนผู้นั้นเดินออกมาจึงไม่เห็นใบหน้าของนาง จึงเอ่ยประโยคนี้ออกมาเท่านั้น
“คุณชาย คุณชาย!” ก่อนที่ซูหลีจะวิ่งมาทางนี้ กลุ่มคนที่นางนำมาติดตามอยู่ด้านหลัง ในเวลานี้พวกเขาเดินตามนางทันแล้ว จึงเห็นซูหลีที่ล้มลงและดิ้นรนอยู่ในกองหิมะ
“คุณชาย ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่” ไป๋ฉินกับเย่ว์ลั่วเห็นดังนั้นจึงตกใจ จากนั้นจึงรีบพยุงซูหลีที่คล้ายกับเต่าตัวหนึ่งขึ้นมา
“แหวะ!” ซูหลีพ่นหิมะออกมาจากปากและถือโอกาสลุกขึ้นนั่งบนพื้นหิมะ เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋ฉินจึงมองค้อนอย่างอดไม่ได้ และเอ่ยว่า
“เป็นสิ เป็นอย่างมาก!” ทันทีที่นางพูดจบก็หันศีรษะไปมองด้านข้าง พลันชำเลืองเห็นเงาของทั้งสองคนพอดี ซูหลีจึงหรี่ตาลงชี้ไปทางนั้นและเอ่ยว่า
“ขัดขวางพวกเขาเอาไว้!”
ฉินมู่ปิงและจี้ฉินทั้งสองคนก็เดินตามพวกเขามาเช่นกัน ทันทีที่เดินมาถึงก็ได้ยินซูหลีเอ่ยประโยคนี้ออกมา ทว่าคนที่มีท่าทีตอบสนองก่อนคือชุยตานที่เข้ามาพร้อมกับเย่ว์ลั่วกับไป๋ฉิน
เขาเพียงชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงพุ่งตัวเข้าไปขัดขวางสองคนที่กำลังวิ่งหนีอยู่
“ไม่ได้ยินที่คุณชายของพวกข้าบอกให้พวกเจ้าหยุดหรือ!?” ชุยตานเป็นบุรุษ ทว่าคนที่วิ่งหนีอยู่นั้นเป็นเพียงสตรีสองคน เขาใช้แรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถสกัดทั้งสองคนเอาไว้ได้ เพียงแต่หลังจากเห็นใบหน้าของหนึ่งในสองคนนั้น สีหน้าของชุยตานก็เปลี่ยนไปทันที
เป็นเพราะหนึ่งในคนผู้นั้นคือเจียงโม่อวี้ ซึ่งเคยพุ่งเข้ามาหาซูหลีที่หน้าประตูจวนในวันนั้น อีกทั้งยังเคยฟ้องร้องซูหลีต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้!
ทว่าตอนนี้เจียงโม่อวี้ควรจะไปอยู่ในเมืองที่เสิ่นฉางชิงประจำการอยู่ไม่ใช่หรือ ไยถึงปรากฏตัวที่ชานเมืองนี้ได้
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่!? นำสายตาสกปรกของเจ้าออกไป นี่เป็นถึงฮูหยินของจวนโหว!” ข้างกายของเจียงโม่อวี้มีแม่นมคนหนึ่งติดตามมาด้วย แม่นมคนนั้นใช้สายตาจับต้องที่ชุยตานด้วยความโมโห
← ตอนก่อน