ตอนที่ 562 พบเพื่อนเก่า

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

“นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้านั่งอยู่ตรงนี้เพื่ออะไรกัน” หลังจากฉินมู่ปิงกับจี้ฉินเดินตามซูหลีทัน เมื่อเห็นท่าทางของซูหลีในเวลานี้ คิ้วของจี้ฉินก็ย่นขึ้นและถามประโยคนี้ออกมา

 

 

ทว่าสายตาของฉินมู่ปิงกับตวัดมองไปทางนั้นปราดหนึ่ง

 

 

“ข้า…รู้สึกเย็นสบายจนทนไม่ไหวแล้ว” ซูหลีหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยประโยคนี้ออกมา นางหกล้มเช่นนี้เป็นการทำให้นางเสียชื่อ!

 

 

นี่เป็นการหกล้มในพื้นระนาบโดยแท้!

 

 

“…” จี้ฉินหมดคำจะพูด

 

 

“ปล่อยข้านะ! เจ้าไม่ได้ยินหรือ!?” ทางแม่นมที่เป็นคนข้างกายของเจียงโม่อวี้ยังพยายามผลักชุยตานที่ยืนขวางทางเอาไว้

 

 

ซูหลีที่นั่งอยู่บนพื้นเห็นดังนั้นจึงเลิกคิ้วขึ้น นางยื่นมือออกมาและเอ่ยว่า “ดึงข้าขึ้นที”

 

 

คำพูดนี้ซูหลีพูดกับสาวใช้ทั้งสองคนของนาง ใครจะรู้ว่าการเคลื่อนไหวของฉินมู่ปิงจะเร็วยิ่งกว่า เขายื่นมือของตนให้กับซูหลี ซูหลีไม่แม้แต่มอง นางคว้ามือของเขาและดันตัวลุกขึ้นมา คาดไม่ถึงว่าทันทีที่เหลือบตาขึ้นมองจะสบเข้ากับดวงตาที่เต็มไปด้วยความคลุมเครือยากจะเข้าใจคู่นั้นของฉินมู่ปิง

 

 

“…ขอบคุณซื่อจื่อ” ซูหลีอ้ำอึ้งไปครู่หนึ่งจากนั้นจึงดึงมือของตนเองกลับมาโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

 

 

ฉินมู่ปิงกวาดตามองที่มือของตนเองอยู่ปราดหนึ่งโดยไม่พูดไม่จา ทว่าซูหลีกลับเดินขากระแผลกไปทางชุยตาน

 

 

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โหว-ฮู-หยิน!” ซูหลียืนนิ่งและใช้สายตาเย็นชาตวัดมองไปที่เจียงโม่อวี้และพูดทีละคำ

 

 

โหวฮูหยินสามคำนั้น เมื่อถูกนางเอ่ยขึ้นกลับให้ความรู้สึกถากถางอย่างบอกไม่ถูก

 

 

เจียงโม่อวี้ชะงักไปในทันที ผ่านไปพักหนึ่งก็หมุนกายหันมา

 

 

สีหน้าของนางดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก ใครก็ไม่ทราบว่าจะบังเอิญขนาดนี้ ถึงได้เจอซูหลีในวันนี้

 

 

ทันทีที่ฉุกคิดถึงบทสนทนากับคนผู้นั้นภายในสวน นางไม่รู้ว่าซูหลีจะได้ยินไปมากน้อยเพียงใด วันนี้เพื่อมาเจอคนผู้นั้น นางจึงพาคนข้างกายอย่างแม่นมมาด้วยเท่านั้น ทางด้านซูหลีมีคนจำนวนมาก หากต้องการกระทำสิ่งใดขึ้นมา เกรงว่าคนอย่างนางจะต่อต้านไม่ไหว

 

 

เมื่อเจียงโม่อวี้หันมา แม้กระทั่งจี้ฉินก็ยังจำได้ว่านางคือใคร สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปครู่หนึ่ง

 

 

“ดูเหมือนว่าบุตรของฮูหยินจะคลอดอย่างปลอดภัย” ซูหลีมองเจียงโม่อวี้อย่างวิเคราะห์อยู่ปราดหนึ่ง เพราะนางหกล้มเมื่อครู่นี้ทำให้นางยืนได้อย่างไม่มั่นคงนัก เย่ว์ลั่วเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปประคองนางไว้

 

 

ไป๋ฉินรู้สึกรังเกียจเจียงโม่อวี้เป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเจียงโม่อวี้ผู้นี้ อากัปกริยาของนางยังตอบสนองไม่ทัน จึงไม่ได้เข้าไปหาซูหลีในทันที

 

 

“ไม่ได้ถูกฆ่าทำร้ายในเวลานั้น ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีเสียจริง” ใบหน้าของซูหลีฉายแววถากถาง คำพูดของนางก็ยังมีความนัยอย่างลึกซึ้งแฝงอยู่ สีหน้าของเจียงโม่อวี้ดูย่ำแย่เป็นอย่างมาก และนางก็มองไปที่ซูหลีด้วยโทสะ

 

 

ซูหลีกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าในบริเวณนี้นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีผู้ใดเลย

 

 

ทว่าก่อนหน้าที่นางจะมาถึงที่นี่นางกลับได้ยินเสียงของเจียงโม่อวี้คุยกับอีกคนอยู่ เสียงนั้นเป็นเสียงของสตรีที่เยาว์วัย ทว่าไม่ใช่เสียงแม่นมข้างกายของเจียงโม่อวี้

 

 

นางแค่นยิ้มเย็นออกมา คนอีกคนหนึ่งนั้นหนีไปอย่างรวดเร็วจริงๆ

 

 

เพียงแต่เสียงนั้นคุ้นหูยิ่งนัก แม้ซูหลีจะไม่เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย แต่ภายในใจก็เกิดความสงสัยขึ้นมา

 

 

ดูเหมือนว่าในเมืองหลวงจะมีคนรังเกียจนางจำนวนไม่น้อย

 

 

“ไม่ได้เจอกันนาน คุณชายซูยังเป็นคนชอบพูดล้อเล่นเหมือนเดิม ข้าน้อยยังมีเรื่องต้องไปสะสาง ไม่สามารถที่จะอยู่ต่อได้จึงขอตัวลา เชิญคุณชายซูชมดอกเหมยตามสบายเจ้าคะ!” หลังจากเจียงโม่อวี้หยุดชะงักไปพักใหญ่ จากนั้นก็หายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่งและเอ่ยประโยคนี้ออกมา

 

 

นางหมุนกายเตรียมจะตามแม่นมผู้นั้นเดินออกไป

 

 

“ช้าก่อน!” ซูหลีออกคำสั่ง ชุยตานจึงเข้าขวางทางพวกนางโดยทันที

 

 

“ใต้เท้าซูนี่หมายความว่าอย่างไร” สีหน้าของเจียงโม่อวี้เก็บอาการต่อไปไม่ไหว

 

 

“ไม่มีอะไร” ซูหลีแสยะยิ้มเย็นออกมา พลันเอ่ยขึ้นว่า “ข้าหกล้มอย่างรุนแรงขนาดนี้ เจ้าเอ่ยจะไปก็จะไปแล้ว ข้าคงจะขายหน้านัก”