บทที่ 145เป็นหมอเทวดาจริงๆ (1)
ซือเทียนฉีได้ยินเย่เฉินอธิบายดังนั้น ก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
ทั้งตัว หรือแต่กระทั่งเคราสีขาวของเขาก็สั่นระริก……..
เขาไม่อยากจะเชื่อ ตนเองนึกว่าจะเป็นปรมาจารย์คนหนึ่งที่เป็นคนทำยานี้ แต่ไม่นึกว่าจะเป็นวัยรุ่นที่ยืนตรงหน้านี้ ที่เป็นคนทำมันขึ้นมา
แล้วอีกอย่าง ที่เขาบอกว่า ยานี้เป็นยาที่เกือบจะสำเร็จ?
แค่เกือบสำเร็จยังมีสรรพคุณดีขนาดนี้ แล้วถ้าทำมันสำเร็จขึ้นมาเล่า สรรพคุณจะไม่ดีกว่าตอนนี้เป็นร้อยเท่าหรือ?
ชายวัยกลางคนตระกูลซ่งฟังแล้วก็อึ้งไป แล้วในหัวก็ดีใจขึ้นมา
แม้แต่เขาฝันก็ไม่คิดว่า ซ่งหวั่นถิงจะสามารถหาหมอเทวดาคนนี้มาได้!
ถ้าตระกูลซ่งได้มีที่พึ่งดีๆ เช่นนี้ ก็เหมือนได้กอดเงินกอดทองไว้เลยนะเนี่ย!
คนที่มีอำนาจและเงินทอง จะกลัวอะไรมากที่สุด? ก็กลัวตายไง!
เงินทองมากมายเพียงใด อำนาจยิ่งใหญ่เพียงใด ถ้าไม่มีชีวิตอยู่ก็สูญเปล่า
ถ้าได้รู้จักปรมาจารย์ที่ทำยาออกมาได้ทุกเมื่อ เรื่องที่จะมีชีวิตยืนยาวก็ไม่ใช่เรื่องลมๆ แร้งๆ อีกต่อไป
อย่างที่ท่านซ่งบอก ว่าถ้าท่านซ่งมีอายุยืนยาว500ปีจริงๆ สำหรับตระกูลซ่งแล้ว มันจะเป็นเรื่องที่ดีมาก!
เพราะว่าหน้าตาของท่านซ่ง รากฐานของท่านซ่ง พรรคพวกของท่านซ่ง ไม่มีลูกหลานตระกูลซ่งคนไหนเปรียบเทียบได้
คุณท่านมีชีวิตอยู่ คนมากมายก็ต้องไว้หน้า แต่ถ้าคุณท่านสิ้นไป คนมากมายก็จะไม่ไว้หน้าตระกูลซ่งแล้ว
ดังนั้น ตระกูลซ่งก็อยากจะหวังให้คุณท่านอยู่ไปนานๆ หน่อย
มีเขาเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานตระกูลซ่ง พวกลูกหลานทำงานอะไรก็จะได้ง่ายเป็นสองเท่า
ซ่งหรงวี่ที่ดูถูกเย่เฉินมาตลอด ตอนนี้ก็ได้ตื่นตกใจอยู่ในใจ
ในขณะเดียวกัน ในใจเขาก็เริ่มสับสนบ้าง
เมื่อครู่ ตนเองยังได้ประชดประชันเขาไปไม่น้อย แต่ไม่คิดว่า เขาจะเป็นยอดฝีมือที่ซ่อนเร้นอยู่
ซือเทียนฉีก็อดที่จะกำมือคำนับเคารพ แล้วพูดขอร้องว่า “อาจารย์เย่ ร่างกายของผมถูกอาการบาดเจ็บครั้งก่อนรุมล้อม ถ้าคุณจะสงสาร แล้วทำยาให้ผมอีกสักเม็ด ผมยอมมอบเงินสดจำนวน10ล้านให้เลย”
ชายวัยกลางคนตระกูลซ่งก็ทนไม่ได้ จนต้องเดินขึ้นหน้าไปทำความเคารพบ้าง พูดเสียงสั่นว่า “อาจารย์เย่ ถ้าสามารถทำยาเทวดานี้ออกมาได้อีกละก็ ก็ขอให้คุณขายให้กับตระกูลซ่งสักเม็ดเถอะ ตระกูลซ่งเองก็ยอมจ่ายเป็นเงินสด10ล้าน!”
เย่เฉินพูดนิ่งว่า “ผมไม่ขาดเงิน ยานั้นผมก็สามารถทำมันขึ้นมาใหม่ได้ ไม่ได้ยากอะไร ในเมื่อพวกคุณมีใจเช่นนี้ เดี๋ยววันหน้าผมจะทำมามากหน่อย ถึงตอนนั้นจะให้พวกคุณคนละเม็ดเลย”
“อาจารย์เย่ คุณเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลซ่งจริงๆ” ชายวัยกลางคนตระกูลซ่งตื่นเต้นจะพูดไม่เป็นคำ เห็นเย่เฉินยืนนิ่ง ก็เลยรีบไปยกเก้าอี้ตัวหนึ่งมาให้ แล้วใช้แขนเสื้อเช็ดให้ “อาจารย์เย่เชิญนั่งครับ”
ซ่งหรงวี่ก็รีบยกชาเข้ามา แล้วยกให้ต่อหน้าเย่เฉินอย่างเคารพ “อาจารย์เย่หิวน้ำไหมครับ? เชิญดื่มชาก่อน”
ซ่งหวั่นถิงก็มองอยู่นิ่งๆ ในใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างมาก
ไม่คิดว่าเย่เฉินคนนี้จะมีกำลังถึงเพียงนี้
อีกอย่าง ลูกเขยอย่างเขา เงินตั้ง20ล้าน ทำไมถึงไม่อยากได้ เพราะอะไรกัน?
หรือว่า กำลังของ จะยิ่งใหญ่กว่าที่ตนเองเห็นอยู่ในตอนนี้เสียอีก?
แต่ว่า คนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ทำไมถึงได้ไปยอมแต่งงานเป็นลูกเขยเข้าตระกูลฝ่ายหญิงได้?
ซือเทียนฉีผู้มีฉายาหมอเทวดา ในตอนนั้นก็ชื่นชมออกมาจากใจ “อาจารย์เย่ คุณเป็นดั่งเทพเซียนจริงๆ กำลังของคุณ ความโอบอ้อมอารีของคุณ ต่อให้ผมมีชีวิตอยู่อีกร้อยปี ก็คงไม่อาจจะตามทันฝีมือของคุณได้………..”