ทั้งบริเวณต่างตกอยู่ในอาการตะลึงและเงียบสนิท สายตาที่ฉายชัดถึงความไม่อยากจะเชื่อพุ่งเป้าไปที่มุมแถวของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเหมือนกันหมด มันเป็นเรื่องน่าช็อคสำหรับพวกเขาที่ได้เห็นชายตัวเล็กร่างบางจัดการชายร่างกำยำได้ภายในพริบตา

 

เพราะเหตุใดคนที่น่ากลัวเช่นนั้นถึงได้ไปยืนอยู่หลบมุมท้ายสุดแบบนั้น คนเก่งกาจระดับนั้นทำไมถึงได้ยอมไปยืนอยู่ท้ายแถว แถมยังโดนคนอื่นๆบังหน้าตาไปหมด?

 

นี่มันอะไรกัน?

 

หลูอี๋มองไปที่ชายร่างใหญ่ที่นอนขดตัวอยู่ที่พื้น สีหน้าของหลูอี๋บิดเบี้ยวและอยากจะฉีกชูฮันออกเป็นชิ้นๆอย่างทนไม่ไหว แต่เขาก็รีบปรับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว…มันเป็นแค่ยกแรกเท่านั้น ในเมื่ออีกฝ่ายก็เล่นหนักเหมือนกันแบบนี้ก็จะมาว่าเขาโกงไม่ได้ มากกว่านั้นสิทธิในการเลือกคนของทั้งสิบยกนั้นเป็นของเขาและเขาก็ไม่เชื่อว่าทั้ง 300 คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจะเก่งกาจกันทั้งหมด

 

เหล่าทหารของค่ายเจียนอี๋อึ้งกันหมด จากนั้นก็รีบกรูกันเข้าไปหาชายร่างกำยำที่รองโอดครวญอย่างเจ็บปวดอยู่ที่เดิม จากนั้นก็ตามมาด้วยสายตาของผู้คนในค่ายที่พุ่งมาราวกับมีด

 

เสียหน้า!

 

ทุกคนในกองทัพเขี้ยวหมาป่าต่างรู้สึกเป็นเกียรติ เหล่ยเซอเป็นคนที่เก่งกาจมาก เขาไม่เคยพ่ายแพ้ต่อซอมบี้ตัวไหน ทุกครั้งไม่ว่าจะโจมตีเป็นกลุ่มหรือทีม เหล่ยเซอมักจะพุ่งนำหน้าและจัดการศัตรูก่อนเสมอ

 

ครั้งนี้ การที่อีกฝ่ายเลือกเหล่ยเซอ ก็ไม่ต่างอะไรกับการขุดหลุมฝังตัวเอง

 

นักสู้คนต่อไปยังคงวุ่นวายอยู่กับชายร่างใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ ครั้งนี้เหล่าทหารของเจียนอี๋เริ่มดึงความคิดกลับมา พวกเขาต้องเปลี่ยนกลยุทธ์ชั่วคราวก่อนจะลงเล่นเกมส์ครั้งต่อไป ตั้งมั่นไว้ว่าจะไม่เลือกใครที่ยืนหลบมุมอีก และห้ามใครเลือกคนที่ตัวเล็กหรือดูบอบบางอีก

 

แนวคิดของค่ายเจียนอี๋นั้นง่ายมาก ดูเหมือนว่าพวกบอบบางน่าจะเป็นพวกมีพรสวรรค์ เหมือนกับเหล่ยเซอ แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่จะไม่มีคนธรรมดาในกองทัพของชูฮัน เพราะฉะนั้นครั้งนี้พวกเขาจะเลือกคนร่างกำยำ แทนที่พวกพรสวรรค์หรือวิวัฒนาการที่มีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นอีก

 

เพราะฉะนั้นยกที่สองพวกเขาจะเอาคืน!

 

นักสู้คนที่สองของค่ายเจียนอี๋ที่อยู่ในที่เกิดเหตุกำลังตื่นตัวอย่างมาก นักสู้คนก่อนหน้าเขานั้นเลือกคนผิดอย่างเห็นได้ชัด แต่ครั้งนี้เขาจะต้องไม่เลือกคนผิดอีกครั้ง

 

หัวหน้าบอกกับเขาว่ากองทัพของชูฮันจะต้องแปลกประหลาดเหมือนกับตัวชูฮัน แสดงว่าคนแกร่งๆจะต้องหลบอยู่ในมุม เพราะฉะนั้นคนไหนที่ยิ่งดูน่าสงสัยเท่าไหร่ แสดงว่าต้องยิ่งเก่งกาจมากเท่านั้น ดังนั้นครั้งนี้เขาจะมองหาผู้ชายที่ร่างกำยำและดูดุดัน ยิ่งภายนอกดูเหมือนเก่งกาจและแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่มีอะไรเท่านั้น

 

เพราะงั้นครั้งนี้ หลี่บี๋เฟิงจึงเป็นผู้ถูกเลือก

 

หลี่บี๋เฟิง…เมื่อครั้งที่เขาเข้าร่วมกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าครั้งแรกนั้นเขาเป็นวิวัฒนาการระยะ 4 และเขาก็ติดตามชูฮันมาตลอด และหลังจากสามเดือนผ่านไป เขาก็ขึ้นมาอยู่ที่ระยะ 5 ได้ด้วยการฝึกฝนของชูฮัน ทำให้ความภักดีของหลี่บี๋เฟิงที่มีต่อชูฮันเต็ม 100%

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังได้รับตำแหน่งรองกัปตันของทีมนักฆ่าขนนก เป็นรองของกัปตันทีมนักฆ่าขนนกอย่างซูเฟิง ซึ่งแน่นอนว่าพลังการฆ่าของหลี่บี๋เฟิงนั้นดุดันและน่ากลัวอย่างมาก แม้แต่การปรากฏตัวของเขาก็ยังทำให้ซอมบี้ระยะ 4 ถึงกับกลัวและวิ่งหนีไปได้ ซึ่งเหตุการณ์นั้นได้ทำให้เหล่าสมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าตกใจกันอย่างมาก

 

และเมื่อได้เห็นว่าหลี่บี๋เฟิงเป็นคนที่ถูกเลือก ชูฮันก็แทบจะพ่นน้ำออกมาด้วยความตกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปสบตากับหลูอี๋…ทหารของนายนี่ตาดีจริงๆ ตอนแรกก็เลือกเหล่ยเซอ จากนั้นก็เลือกหลี่บี๋เฟิง เขาอุตส่าห์ให้โอกาสให้หลูอี๋ได้ชนะ แต่คนพวกนี้กลับขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ!

 

หลูอี๋จ้องตากลับกับชูฮันอย่างไม่เข้าใจ…ไอ้นี่มันมองเขาแบบนี้หมายความว่ายังไง?

 

“นายคงไม่เคยเห็นหลี่บี๋เฟิงฆ่าซอมบี้สินะ” ชูฮันมองไปที่หลูอี๋อย่างสงสารอยู่ในใจ

 

“อะไรน่ะ?” หลูอี๋มึนงง

 

ครั้งนี้มันมีเสียงกระดูกหักและกำปั้นที่แทกดังเป็นชุดๆลั่นออกมา

 

“ปัก!”

 

“อั๊ก!”

 

“อ่อก!”

 

“อั๊ก!”

 

เสียงกระแทกดังต่อเนื่องเป็นชุด ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ หลี่บี๋เฟิงก็ปล่อยหมัดและลูกเตะรัวใส่จนนักสู้คนที่สองของค่ายเจียนอี๋กระอักเลือดออกมา จากนั้นหลี่บี๋เฟิงก็หิ้วร่างของนักสู้คนที่สองที่กึ่งตายขึ้นมาจากพื้นและเขวี้ยงออกไปจากลานประลอง

 

หลี่บี๋เฟิงสูดลมหายใจและดึงพลังผันผวนอันรุนแรงของเขาที่ทำให้ทุกคนรอบข้างหวาดกลัวกลับมา จากนั้นก็หันกลับไปโค้งตัวให้ชูฮันเงียบๆและเดินกลับเข้าไปอยู่ในแถวของกองทัพเขี้ยวหมาป่าเหมือนเดิมและยังคงแสดงสีหน้าดุดัน น่ากลัวเหมือนเดิมต่อไป

 

ผู้คนของค่ายเจียนอี๋ช็อคจนพูดอะไรกันไม่ออกไปชั่วขณะ ทุกคนมองไปที่นักสู้ที่ถูกหลี่บี๋เฟิงโยนออกไปอย่างตะลึงค้าง นักสู้คนนั้นนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่ที่พื้น

 

เพราะเลือกผิดคนอีกแล้ว!

 

เกิดเสียงอื้ออึงของผู้คนดังขึ้นเมื่อได้สติกลับมา พวกเขาแพ้ถึงสองครั้งติดกัน แถมนักสู้ของชูฮันยังเป็นการเลือกจากพวกเขาเองอีก พวกเขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว! “ท่านชูฮัน!” หลูอี๋สั่นไปทั้งตัวอย่างโกรธชัดพร้อมกับชี้นิ้วใส่ชูฮัน “นี่มันวิวัฒนาการระยะ 5 ไหนท่านบอกว่ามีแต่คนตำแหน่งไม่สูงในกองทัพของท่านไง!?”

 

ชูฮันพยักหน้า “ใช่ เขาเป็นแค่สิบเอก”

 

ยศของหลี่บี๋เฟิงนั้นเป็นเพียงแค่สิบเอก เนื่องจากอารมณ์ของหลี่บี๋เฟิงบางครั้งก็ดุร้าย บางครั้งเขาไล่ฆ่าซอมบี้โดยไม่สนใจคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ซึ่งนำไปสู่ความผิดพลาดเมื่อสองวันก่อน แน่นอนว่ามันเป็นความผิดเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับชูฮันที่จะลดตำแหน่งของหลี่บี๋เฟิงลงมาถึงสิบเอก

 

และหลี่บี๋เฟิงเองก็มักได้เจอกับหลิวยู่ติงอยู่บ่อยๆเพราะต้องไปรับโทษ

 

หลูอี๋พูดอะไรไม่ออก เขากระแทกตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตัวเองและไม่พูดอะไรอีก ไอ้ชูฮัน นี่มึงจงใจทำแบบนี้แน่ๆ! ในยกที่สาม เป็นอีกครั้งที่ทหารของค่ายเจียนอี๋ปรับกลยุทธ์อีกครั้งหลังจากเป็นอัมพาตค้างไปก่อนหน้านี้ คนผอมบางห้ามเลือก คนร่างกำยำห้ามเลือก ครั้งนี้พวกเขาจึงตัดสินใจเลือก…

 

นักสู้คนที่สามของค่ายเจียนอี๋ชี้นิ้วไปที่คนที่ยืนอยู่ตรงกลางของกองทัพเขี้ยวหมาป่า คนที่ถูกเลือกนั้นมีร่างกายขนาดกลาง ความสูงก็ขนาดกลาง ทุกอย่างดูเป็นกลางๆ ดูแล้วครั้งนี้ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด

 

“นาย! ออกมาสู้กับฉัน!” นักสู้คนที่สามของค่ายเจียนอี๋พูดขึ้น

 

คนที่ถูกเลือกค่อนข้างประหลาดใจและอดไม่ได้ที่ยกนิ้วขึ้นมาชี้ตัวเองและถามเพื่อความมั่นใจ “ฉัน?”

 

“ใช่! นายนั่นแหละ!” เหล่าคนของค่ายเจียนอี๋รู้สึกว่านี่เป็นคราวของพวกเขาอย่างแน่นอนทันทีที่เห็นภาพนั่น ทุกคนตื่นเต้นมากที่ในที่สุดพวกเขาก็เลือกถูกคน

 

“ฟู่ ~” ครั้งนี้ชูฮันถึงกับพ่นลมหายใจ เขารีบเตือนหลูอี๋ก่อน “ฉันว่า เปลี่ยนคนดีมั้ย?”