ถึงอย่างไร เธอกับเปปเปอร์ก็ไม่ได้จูบกันจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบนี้เป็นครั้งแรก
ยังมีอีกครั้งหนึ่งในห้องครัวบ้านพักตากอากาศที่สนามม้าของประธานชัชวาล
ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องถือสาขนาดนั้น ถือเสียว่าถูกหมากัดครั้งหนึ่งแล้วกัน
เมื่อคิดแบบนี้แล้ว มายมิ้นท์ก็สูดลมหายใจลึก หันหน้าไปทางผู้ชายเฮงซวยที่อยู่ข้างกาย
ชายหนุ่มแปะไพ่โป๊กเกอร์รอเธอเรียบร้อยแล้ว
เธอกำมือ ในใจก็เฝ้าบอกตัวเองอยู่หลายรอบว่า ต่อไปอย่าได้พลาดอีก ถึงได้หันหน้าไป ใช้ริมฝีปากแนบลงบนไพ่
เปปเปอร์ที่รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งมาจากอีกด้านของไพ่ก็มีนัยน์ตาหม่นหมองลง
แต่ไม่รอให้เขาได้รู้สึกไปมากกว่าสองวินาที ความอบอุ่นนั้นก็จางหายไปพร้อมกับไพ่โป๊กเกอร์ใบนั้นแล้ว
เปปเปอร์หลุบตาลง ความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากจากการสูญเสียก็แผ่ไปทั่วก้นบึ้งหัวใจ
ในไม่ช้า ก็ถึงกำหนดเวลาแล้ว
ผู้จัดการประกาศครอบครัวที่ได้สามอันดับแรก หมายเลข 1 3 และ 5
มายมิ้นท์พวกเธอก็คือหมายเลข 5
ไมโลปรบมือด้วยความดีใจ “แม่ครับ พวกเราเข้ารอบต่อไปแล้ว”
“ใช่แล้วจ้ะ” มายมิ้นท์พยักหน้า บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
เธอนึกว่า พวกเขาพลาดไปครั้งหนึ่ง ทั้งยังเสียเวลาไปอีกครู่หนึ่ง จะต้องตกรอบแน่นอน
แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้เข้ารอบ
เห็นท่าทางเหลอหลาอึ้งๆของเธอแล้ว เปปเปอร์ก็รู้สึกว่าน่ารักอยู่บ้าง สายตามีประกายขบขันพาดผ่านไปอย่างอดไม่ได้ “นอกจากหมายเลข 1 กับหมายเลข 3 ครอบครัวหมายเลข 2 กับ 4 ก็ผิดพลาดเช่นกัน พวกเขาพลาดมากกว่าพวกเรา ดังนั้นพวกเราจึงเป็นอันดับที่ 3”
“คุณรู้ได้อย่างไร” มายมิ้นท์มองไปทางเขาด้วยความสงสัย
เปปเปอร์หลุบตาลงสบสายตาเธอ “ระหว่างเล่นเกมส์ ผมสังเกตความก้าวหน้าของครอบครัวอื่นๆ ดังนั้นจึงรู้”
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง
มายมิ้นท์อดไม่ได้ที่จะชูนิ้วโป้งให้เขา “นับถือ”
ภายในช่วงเวลาแห่งการเล่นเกมส์สั้นๆ เขาถึงกับสามารถแบ่งสมาธิไปสนใจคู่ต่อสู้อื่นๆได้ แค่จุดนี้ เธอก็ตามไม่ทันแล้ว
มิน่าล่ะ เขาถึงได้สามารถพัฒนาบริษัทตระกูลนวบดินทร์ให้กลายเป็นบริษัทชั้นนำของเมืองเดอะซีได้
“ไม่มีอะไร นี่เป็นความเคยชินของผม” เปปเปอร์ได้ยินคำว่านับถือของมายมิ้นท์แล้ว มุมปากก็โค้งขึ้น
มายมิ้นท์เห็นเขายิ้ม ก็นึกว่าเขาได้ใจ จึงเบ้ปาก หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง
เปปเปอร์เลิกคิ้ว
เธอเป็นอะไรไป
เขาทำอะไรผิดไปอีกแล้วหรือ
เปปเปอร์ขมวดคิ้วครุ่นคิด ตั้งแต่ต้นจนจบก็ยังคิดไม่ออกว่าตัวเองไปล่วงเกินมายมิ้นท์ตรงไหน
ในตอนที่จะอ้าปากถามให้ชัดเจน เสียงของผู้จัดการก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวสามอันดับแรกที่ได้เข้าสู่การแข่งขันรอบที่สองนะครับ การแข่งขันในรอบที่สองคือการวิดพื้น เชิญทั้งสามครอบครัวมาบริเวณพื้นที่โล่งด้านนี้เลยครับ”
“แม่ครับ พวกเรารีบไปกันเถอะ” ไมโลทิ้งไพ่โป๊กเกอร์ในมือ กระโดดลงจากโซฟา ดึงมายมิ้นท์วิ่งไปทางพื้นที่โล่ง
สำหรับเปปเปอร์นั้น
เขาไม่สนใจคุณอาชั่วร้ายคนนั้นหรอก
ถึงอย่างไรคุณอาชั่วร้ายก็เดินไปเองได้
มายมิ้นท์ก็ไม่ได้เรียกเปปเปอร์ จิตใจล้วนอยู่บนร่างของไมโล ให้ไมโลวิ่งช้าลงหน่อย
เปปเปอร์มองคนตัวโตและคนตัวเล็กที่ห่างออกไป โดยไม่เรียกตัวเองแล้ว ก็มีสีหน้าทะมึน
เด็กผีนี่จะต้องจงใจแน่ๆ
ยังถือโทษโกรธเคืองที่เขาบีบหน้าเมื่อครู่นี้อยู่
เปปเปอร์แค่นเสียงเย็น มือซุกกระเป๋าลุกขึ้นยืน เตรียมตัวเดินไป
จู่ๆเขาก็เห็นอะไรบางอย่าง จึงหยุดเท้านิ่ง
เห็นเพียงแค่ว่าตำแหน่งที่ไมโลนั่งเมื่อครู่มีไพ่โป๊กเกอร์เล็กๆใบหนึ่งวางเอาไว้
นั่นก็คือไพ่ที่พวกเขาใช้ตอนเล่นเกมส์เมื่อครู่ใบนั้น
เปปเปอร์หรี่ตาลง เอามือออกจากกระเป๋ากางเกง ยื่นไปหยิบไพ่ใบนั้นขึ้นมา
บนไพ่ยังมีรอยประทับริมฝีปากแดงของมายมิ้นท์อยู่ ชัดเจนมาก
เปปเปอร์ก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ ถึงได้เก็บไพ่ใบนั้นเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูท
เพิ่งจะเก็บเสร็จ ก็ได้ยินเสียงไมโลตะโกนเรียกว่า “พ่อครับ รีบมาเร็วเข้า เกมส์เริ่มแล้ว”
เปปเปอร์หันกลับไป แค่นเสียงพอใจในใจ
เด็กผีถือโกรธแล้วอย่างไร
ช่วงเวลาสำคัญ ก็ยังต้องเรียกเขาว่าคุณพ่อ ขอร้องให้เขาไปหาอยู่ดี
“มาแล้ว” เปปเปอร์อารมณ์ดีขึ้นอีกครั้ง ก้าวเท้ายาวเดินไปอย่างไม่รีบร้อน
เกมส์ในรอบนี้เรียกวิดพื้น ก็คือคุณพ่อต้องวิดพื้น 20 ครั้ง คุณแม่นั่งอยู่บนหลังคุณพ่อ เพิ่มน้ำหนักให้กับคุณพ่อ
ส่วนลูกก็นับจำนวนอยู่ข้างคุณพ่อ
แต่เกมส์ยังไม่ทันจะเริ่มอย่างเป็นทางการ เหล่าลูกค้าที่เป็นผู้ชมในร้านอาหารก็เดาผลลัพธ์สุดท้ายได้แล้ว สุดท้ายจะเป็นสองครอบครัวไหนที่เข้ารอบ และเป็นครอบครัวไหนที่ตกรอบ
เพราะคุณแม่ครอบครัวหมายเลข 3 อ้วนมาก แต่คุณพ่อผอมมาก ไม่สามารถแบกคุณแม่วิดพื้น 20 ครั้งได้แน่นอน
ดังนั้นผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แค่คิดดูก็รู้แล้ว
“ทำไมเกมส์นี้ถึงได้มากเล่ห์แบบนี้นะ” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว พลางเอ่ย
เธอนึกว่าคนทั้งครอบครัว สามคนทำการวิดพื้นด้วยกัน
แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเป็นคุณพ่อวิดพื้นคนเดียว
เกมส์ในรอบที่แล้ว เธอกับเปปเปอร์ประสบความดราม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง รอบนี้ยังต้องให้เธอนั่งบนหลังของเปปเปอร์อีก
เปปเปอร์รับปากก็แปลกแล้ว
ขณะที่กำลังคิดอยู่ เปปเปอร์ก็เอ่ยขึ้นกะทันหันว่า “มากเล่ห์อยู่มาก แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ โอเค ขึ้นมาเถอะ”
เขาเอ่ยจบแล้วก็ก้มตัวลงไป เตรียมพร้อมในท่าทางวิดพื้น
มายมิ้นท์นึกว่าตัวเองฟังผิดไป จึงมองไปทางเขาอย่างเหลือเชื่อ “คุณพูดว่าอะไรนะ ให้ฉันขึ้นไป?”
“อืม” เปปเปอร์ตอบรับ
มายมิ้นท์อ้าปาก
เขารับปากแล้วจริงๆ!
เมื่อเห็นมายมิ้นท์ยังนั่งอึ้งอยู่ที่เดิม เปปเปอร์ก็เอ่ยปากอีกครั้ง “เร็วหน่อย พวกเขาเตรียมพร้อมกันแล้ว ขาดแค่คุณแล้ว”
มายมิ้นท์มองซ้ายมองขวา ก็เห็นว่าคุณแม่ครอบครัวซ้ายขวานั่งอยู่บนหลังของคุณพ่อแล้วจริงๆ จึงไม่ได้ลังเลอีก เธอก้าวขึ้นไปนั่งลงบนแผ่นหลังของเปปเปอร์
และเป็นครั้งแรกที่เธอทำเหมือนเปปเปอร์ ผู้ชายที่หยิ่งผยองขนาดนี้เป็นม้าที่ขี่
รู้สึก…สบายจริงๆ!
แววตาของมายมิ้นท์มีประกายตื่นเต้นพาดผ่าน ทว่าบนใบหน้ากลับแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอมองชายหนุ่มที่อยู่ใต้ร่าง พลางถามว่า “หนักไหม ถ้าหากคุณรู้สึกว่า…”
“ไม่หนัก” เธอยังเอ่ยไม่ทันจบ เปปเปอร์ก็แย่งตอบคำถามแล้ว
ราวกับรู้สึกว่ายังไม่พอ เขาจึงเอ่ยเพิ่มอีกประโยคว่า “เบามาก”
เขาไม่ได้พูดไปอย่างนั้น
ส่วนเธอก็ตัวเบามากจริงๆ เธอเบากว่าส้มเปรี้ยวเสียอีก
แต่เธอกลับสูงกว่าส้มเปรี้ยวหนึ่งช่วงศีรษะ ดังนั้นเห็นได้ว่า น้ำหนักของเธอไม่ถึงมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญก็คือ เธอยังตั้งครรภ์
“คุณควรจะกินให้มากหน่อย เพิ่มน้ำหนัก” เปปเปอร์หันหน้ามามองมายมิ้นท์ น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง
มายมิ้นท์ได้ยินแล้วก็มีสีหน้าเย็นชา “นี่เป็นเรื่องของฉัน ไม่ลำบากให้ประธานเปปเปอร์ต้องเป็นห่วง ประธานเปปเปอร์เป็นห่วงคุณส้มเปรี้ยวเถอะค่ะ ฉันไม่ต้องการ ตั้งใจเล่นเกมส์เถอะ”
ฟังแล้วน่าขบขันเสียจริง แต่ก่อนเขาไม่เคยเอาใจใส่เธอ
ตอนนี้กลับมาเอาใจใส่ เธอรู้สึกเพียงแค่ว่ามันจอมปลอมมาก
เมื่อเห็นว่ามายมิ้นท์ไม่ยอมรับ เปปเปอร์ก็ขมวดคิ้ว และหันหน้ากลับไปโดยไม่ได้พูดอะไรมาก
การแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลังจากเปปเปอร์ให้มายมิ้นท์นั่งอย่างมั่นคงแล้ว ก็เริ่มต้นวิดพื้น
ไมโลนั่งนับอยู่ด้านข้าง
แม้ว่าธุรกิจของเปปเปอร์จะยุ่งวุ่นวาย แต่ทุกอาทิตย์ก็จะหาเวลาว่างไปออกกำลังกายว่ายน้ำ พื้นฐานร่างกายจึงไม่ต้องพูดถึง ดีกว่าคุณพ่อหมายเลข 1 และหมายเลข 3 อยู่มาก
คุณพ่อของครอบครัวหมายเลข 1 และหมายเลข 3 ก็คือชายหนุ่มตามมาตรฐานที่ไม่ออกกำลังกาย โดยเฉพาะคุณพ่อหมายเลข 1 สภาพอ้วนลงพุงนั้นคล้ายกับตั้งท้องเด็กหลายเดือนเลย
แม้ว่าคุณพ่อหมายเลข 3 จะดีกว่าเล็กน้อย แต่ต้องแบกภรรยาที่น้ำหนักเกือบร้อยกิโลกรัม
มายมิ้นท์เห็นใบหน้าเขาแดงก่ำเพราะกินแรง รวมไปถึงท่อนแขนที่สั่นระริกแล้วก็กลัวว่าแขนของเขาจะทนไม่ไหว หักไปเสียก่อน
ดังนั้นเมื่อเทียบกับคุณพ่อสองคนนั้น การวิดพื้นของเปปเปอร์จึงทำได้ดีราวกับปลาได้น้ำ การเคลื่อนไหวงดงามตามมาตรฐานมาก ทำให้คนจิตใจเบิกบาน
ลูกค้าผู้หญิงในร้านอาหารล้วนแทบจะทนไม่ไหวแปะลูกตาไว้บนร่างเขา
เปปเปอร์ไม่สนใจสายตาเหล่านี้ สมาธิของเขาอยู่บนร่างของมายมิ้นท์ตลอด
เมื่อเหลือบตาเห็นหญิงสาวบนหลังของตัวเองที่จ้องไปทางคุณพ่อของสองครอบครัวอื่นตลอด ใบหน้าหล่อเหลาก็ทะมึนทันที “ตั้งใจหน่อย”
“หือ?” มายมิ้นท์ตะลึงไปเล็กน้อย
ไม่เข้าใจว่าคนที่วิดพื้นนั้นเป็นเขา
เธอเพียงแค่นั่งนิ่งๆบนหลังเขาก็พอแล้ว ทำไมเธอจะต้องตั้งใจด้วยกัน?