ตอนที่ 526 ปิดบังสถานะ
“เมื่อครู่พระชายาเจียงกล่าวอันใดหรือขอรับ ? ”
อันหลิงเกอแกล้งทำมิได้ยินพร้อมมองอีกฝ่ายโดยไม่วิตกกังวล
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าตระกูลอวี๋ของเรามีความสามารถอันใด ? ”
อันหลิงเกอรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งกาย ดูท่าอีกฝ่ายคงรู้และมั่นใจในสถานะของตนแล้ว
เมื่ออวี๋หมิงหลันเห็นท่าทีของอันหลิงเกอก็ส่ายหน้าพร้อมยกยิ้มและมิได้เปิดเผยตัวตนแท้จริงของอันหลิงเกอแต่อย่างใด ทว่าส่งสัญญาณให้อันหลิงเกอตามมา
“ตระกูลอวี๋ของข้าเชี่ยวชาญด้านการแยกเสียง ดังนั้นเมื่อครู่ที่เจ้าพูด ข้ารู้ทันทีว่าเจ้าคือผู้ใด”
เมื่อได้ยินคำพูดของอวี๋หมิงหลันแล้ว อันหลิงเกอก็ตื่นตระหนกจนเหงื่อผุดออกมาทันที หากเวลานี้อวี๋หมิงหลันบอกกับจ้าวหลานหยู่ก็เกรงว่านำมาซึ่งความเข้าใจผิดใหญ่หลวงกว่าเดิม ในทางกลับกันบางทีจ้าวหลานหยู่ก็อาจระแวดระวังพวกนางมากกว่าเดิมก็ได้
“เหตุใดเจ้ามิบอกเขา ? ”
อันหลิงเกอรู้สึกแปลกใจเพราะก่อนหน้านั้นเห็นอีกฝ่ายกับจ้าวหลานหยู่รักใคร่กลมเกลียวกันจึงคิดว่าพวกเขาคงเป็นหนึ่งเดียวกันโดยแท้
“ข้ามิอยากปกป้องเจ้า เพียงแต่…” สายตาของนางจับจ้องไปยังมู่จวินฮาน มิรู้ว่าเพราะเหตุใดเวลานี้เมื่อเห็นแววตาที่หลงใหลมู่จวินฮานของนางกลับทำให้อันหลิงเกอรู้สึกมิพอใจขึ้นเสียอย่างนั้น
“ข้าเห็นพวกเจ้าเข้าใจซึ่งกันและกัน ข้าก็คงทำได้แค่นี้” ในขณะที่กล่าว อวี๋หมิงหลันได้หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาจากอกเสื้อและดูเหมือนมีอันใดบางอย่างเขียนอยู่บนนั้น
“นี่คือแผนที่ซึ่งข้าแอบขโมยมาจากบันทึกของเจียงอ๋อง เจ้าช่วยข้านำไปให้อ๋องมู่ทีเถิด”
อวี๋หมิงหลันเอ่ยแล้วทอดถอนใจ สิ่งที่นางทำได้ก็คงมีเพียงเท่านี้
เดิมทีนางคิดมอบสิ่งนี้ให้มู่จวินฮานด้วยตนเอง แต่พอเห็นอันหลิงเกอมาด้วยนางจึงล้มเลิกความคิดนี้ไป
“ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วย เรื่องราวมากมายก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความผิดของข้าผู้หลงผิด”
อวี๋หมิงหลันเพิ่งคิดได้ เนื่องจากตอนแรกนางมีท่าทีหยิ่งยโสเพราะคิดว่ามู่จวินฮานจะหลงใหลตนเหมือนอดีต แต่มิได้เป็นเยี่ยงนั้น เพราะคนที่มู่จวินฮานรักและแตะต้องเขาได้มีเพียงอันหลิงเกอผู้เดียว
“อันหลิงเกอ สำหรับเขาแล้ว เจ้าเป็นสตรีที่แตกต่างจากทุกคนโดยสิ้นเชิง และข้าเองก็รู้ว่ามีเพียงเจ้าที่สามารถอยู่เคียงข้างเขา ช่วยเขาสานต่อความทะเยอทะยานให้ประสบความสำเร็จได้ มีเพียงเจ้าเท่านั้นจริง ๆ ”
เมื่อได้ฟังอวี๋หมิงหลันเน้นย้ำประโยคสุดท้ายก็ทำให้อันหลิงเกอเกิดความหวั่นใจและเหมือนสัมผัสได้ถึงความผิดหวังของอวี๋หมิงหลัน จากเดิมที่นางเคยชิงชังอีกฝ่ายกลับกลายเป็นความรู้สึกเห็นอกเห็นใจไปเสียแล้ว
“ขอบใจมาก”
เมื่อกล่าวจบ อันหลิงเกอก็กำผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นไว้แน่นพร้อมมองอวี๋หมิงหลันด้วยแววตาจริงใจ พลันนึกย้อนถึงตอนที่พบกันครั้งแรก อวี๋หมิงหลันมาขอความช่วยเหลือและเห็นลำบากจริง ๆ นางจึงยอมให้มู่จวินฮานช่วยเอาไว้ ทว่าบัดนี้…นางมิยอมให้อีกฝ่ายเข้าใกล้มู่จวินฮานได้อีก
“เอาล่ะ เจ้ากลับไปเถิด ข้าต้องกลับกระโจมเช่นกัน เจ้าวางใจได้เพราะข้ามิบอกเจียงอ๋องย่อมหมายความว่าเขามิมีทางทำร้ายเจ้าหรือทำร้ายอ๋องมู่แน่นอน ”
น้ำเสียงของอวี๋หมิงหลันทุ้มต่ำและนางก็ตระหนักได้ในที่สุดว่าคนที่สามารถอยู่เคียงข้างมู่จวินฮานได้มีเพียงอันหลิงเกอเท่านั้น
มาถึงตอนนี้นางก็เข้าใจว่าตนบกพร่องในเรื่องใด
สิ่งที่นางบกพร่องก็คงเป็นความห้าวหาญในการเผชิญลมฝนไปพร้อมกับเขา ซึ่งเสน่ห์เหล่านี้อันหลิงเกอล้วนมีทั้งสิ้นจึงเป็นสตรีที่คู่ควรกับมู่จวินฮานที่สุด
“ช้าก่อน” อันหลิงเกอเห็นอวี๋หมิงหลันกำลังจากไป จู่ ๆ ก็เรียกไว้อย่างฉับพลัน
“ข้าขอมอบสิ่งนี้แก่เจ้า” อันหลิงเกอปลดป้ายห้อยเอวออกมา
“วันข้างหน้าหากเจ้าต้องการความช่วยเหลือก็ให้คนนำสิ่งนี้มาหาข้า อันหลิงเกอผู้นี้มิใช่คนมิรู้จักบุญคุณ”
เพราะมิอยากติดค้างอวี๋หมิงหลัน มิใช่เพราะสถานะของอวี๋หมิงหลันแต่เป็นสถานะของตน
นางเป็นพระชายาของมู่จวินฮาน ส่วนอวี๋หมิงหลันก็ชมชอบมู่จวินฮาน ความสัมพันธ์เยี่ยงนี้นางจะติดค้างมิได้เด็ดขาด
เดิมทีอันหลิงเกอเป็นคนใจกว้างและมิคิดทำร้ายอีกฝ่ายอยู่แล้ว ในเมื่อให้การช่วยเหลือเยี่ยงนี้นางก็คงปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมกับอีกฝ่ายมิลง
“ได้”
อวี๋หมิงหลันมิได้ปฏิเสธแม้เคยเป็นศัตรูกับอันหลิงเกอมาก่อน
ความสัมพันธ์ที่แข็งทื่อในอดีตจนถึงตอนนี้ค่อย ๆ ยอมรับสถานะพระชายาเจียงได้แล้ว นางมิมองอันหลิงเกอเป็นศัตรูอีก
“นี่คือสิ่งใดหรือ ? ” ในยามราตรี อันหลิงเกอนำผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นไปให้มู่จวินฮาน
“อวี๋หมิงหลันขอร้องให้ข้ามอบแก่ท่านเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ มู่จวินฮานมิได้มองผ้าเช็ดหน้าแต่อย่างใด ทว่ามองอันหลิงเกอด้วยความเป็นห่วง
“นางรู้ตัวตนของเจ้าแล้วหรือ ? ”
เขามิได้เตรียมการป้องกันอวี๋หมิงหลันเหมือนจ้าวหลานหยู่ เพราะคราวที่แล้วจ้าวหลานหยู่วางแผนทำร้ายอันหลิงเกอและลักพาตัวนางไปทิ้งในหอพิษกู่ ทำให้ครั้งนี้เขาระมัดระวังจ้าวหลานหยู่เป็นอย่างดีจนลืมนึกอวี๋หมิงหลันไป
“เจ้าค่ะ แต่นางคงไม่ทรยศข้าแล้ว” อันหลิงเกอกล่าวอย่างมั่นใจ มู่จวินฮานจึงมิได้ถามอันใดต่อ
“ช่างเถิด ว่าแต่มันคือสิ่งใดกัน ? ”
มู่จวินฮานเอ่ยถามพลางเปิดผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น แม้แผนที่ด้านในมองมิค่อยชัดเจนแต่ก็พอมองเห็นเป็นภูมิศาสตร์ได้บ้าง ทำให้ดวงตาของมู่จวินฮานลุกวาวทันที
“นี่คือแผนที่แนวป้องกันและภูมิศาสตร์ของเผ่าปิงชวนหรือ ? ”
“ใช่เจ้าค่ะ” อันหลิงเกอมิได้กล่าวอันใดต่อ นางเชื่อว่ามู่จวินฮานเข้าใจเจตนาของอวี๋หมิงหลัน
“เยี่ยงนี้ก็วางใจได้มากทีเดียว”
มู่จวินฮานทอดถอนใจออกมายาว ๆ แม้ก่อนหน้านั้นอันหลิงเกอมิเข้าใจเรื่องเผ่าปิงชวนก็ตาม แต่พอเห็นปฏิกิริยาของมู่จวินฮาน นางก็รู้สึกเบาใจได้บ้าง
เผ่าปิงชวนแห่งนี้ต้องเป็นพวกชอบสร้างปัญญาแน่นอน
“จวินฮาน ท่านรู้สึกหรือไม่…”
ตอนนี้อันหลิงเกอสัมผัสได้ถึงการสั่นไหวของพื้นดินอย่างฉับพลันจึงจับแขนของมู่จวินฮานอย่างรวดเร็ว
“คุกเข่าลง อย่าขยับ”
มู่จวินฮานกดไหล่ของนางลงเบา ๆ เวลานี้พื้นดินสั่นสะเทือนมิร้ายแรงนัก น่าจะไร้ผลรุนแรงอันใดตามมา
“บริเวณเผ่าปิงชวนมักเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาสั่นสะเทือนเสมอ มิเป็นไรหรอก ประเดี๋ยวก็ผ่านไป”
อันหลิงเกอพยักหน้ารับ นางเพิ่งเคยประสบภัยพิบัติเยี่ยงนี้เป็นครั้งแรก เป็นเหตุให้หัวใจเต้นแรง ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
ภายใต้แสงไฟ มู่จวินฮานมองเห็นท่าทีของอันหลิงเกออย่างชัดเจน เขาจึงรีบดับกองไฟให้มอดและดึงนางเข้ามากอดทันที
“มิต้องกลัว”
มู่จวินฮานสัมผัสได้ถึงอาการสั่นกลัวของนาง มนุษย์มักตื่นตระหนกกับภัยที่มาจากธรรมชาติเยี่ยงนี้เสมอ อันหลิงเกอก็ไร้ข้อยกเว้นเช่นกัน
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยมาที่เผ่าปิงชวนแล้วจึงรู้สถานการณ์เช่นนี้ดี พรุ่งนี้เราต้องปลอดภัย”
มู่จวินฮานเพิ่งเคยเห็นอันหลิงเกอในมุมที่อ่อนแอเป็นครั้งแรก เขาจึงอยากกอดนางไว้แน่น ๆ เพื่อมอบความวางใจและความอบอุ่นแก่นาง
“มู่จวินฮาน ข้า…”
อันหลิงเกอแค่รู้สึกว่าเริ่มวิงเวียนศีรษะ หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ การสั่นสะเทือนในขณะนี้มิรุนแรงมากนักแต่ทำให้นางอยากอาเจียนออกมา
“มิต้องกลัว ประเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
จากนั้นเขาก็อุ้มอันหลิงเกอขึ้นมาแล้วตรงไปยังกระโจมทันที ร่างกายของนางเย็นเฉียบเพราะอากาศภายนอกที่หนาวเย็นซึ่งเขามิอยากให้นางป่วย
“โอ๊ย…”
ทันใดนั้นมู่จวินฮานก็รู้สึกว่าแขนไปเกี่ยวเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ด้านข้าง แต่เขาก็ยังอุ้มอันหลิงเกอไว้ในอ้อมกอด ทั้งยังกอดรัดนางแน่นกว่าเดิมพร้อมรีบสาวเท้าพานางกลับเข้ากระโจมโดยมิสนใจบาดแผลของตน
ส่วนอันหลิงเกอก็ผล็อยหลับเพราะความเหนื่อยล้าและความกลัวที่มากเกินไป ยิ่งกว่านั้นคือนางมิเคยใช้ชีวิตอยู่ใต้สถานการณ์ที่สั่นสะเทือนเยี่ยงนี้มาก่อนจึงทำให้นางหวาดกลัวมาก
การขึ้นเหนือก่อนหน้านั้นมิได้ประสบพบเจอสถานการณ์เยี่ยงนี้จึงมิได้มีความหวาดกลัวแต่อย่างใด
บางทีการที่นางนอนหลับไปก็ดีเหมือนกัน นางจักได้พักผ่อนและมู่จวินฮานก็จัดเส้นผมของนาง เวลานี้ทุกอย่างรอบตัวล้วนนิ่งสงบมีแค่เสียงนกและสัตว์ป่าร้องอยู่นอกกระโจม