บทที่ 364 ปฏิเสธ เฟิ่งชิงเฉินแอบยิ้มได้แล้ว

นางสนมแพทย์อัจฉริยะ

บทที่ 363 สงบลง ซูหว่านต้องการแต่งงานกับตงหลิง

บทที่ 365 หึงหวง ความลับถูกเปิดโปง
ซู่หว่านแห่งหนานหลิงนับว่าไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ มีเพียงนางเท่านั้นที่สามารถพูดเรื่องเช่นนี้ออกมาได้ เสด็จอาเก้าเบ้หน้าอย่างดูแคลนและเสมองไปไกล…

ในหัวของเขากลับกำลังคิดว่าเฟิ่งชิงเฉินได้ยินข่าวนี้แล้วนางจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ตอนแรกที่นางได้ยินว่าซูหว่านตั้งใจจะแต่งงานกับเขา นางโกรธมากจนแทบอยากจะฆ่าใครสักคน ตอนนี้ไม่รู้ว่านางยังใส่ใจเรื่องของเขาอีกหรือไม่

จักรพรรดิมองซูหว่านพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า ดวงตาที่น่าเกรงขามในยามปกติของเขาแฝงแววอบอุ่นเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนบัณฑิตผู้มีภูมิท่าทางไม่ธรรมดา

ต้องบอกว่าจักรพรรดินับว่าหน้าดี แต่ยามปกติเขามักวางอำนาจ ดวงตาของเขาคมเกินไปทำให้ผู้คนไม่กล้าสบตาจนมองข้ามรูปร่างหน้าตาของเขาไป

เมื่อถูกชายวัยกลางคนจ้องมองเช่นนี้ ไม่ว่าซูหว่านจะหน้าหนาเพียงใดก็ไม่อาจทนไหว เมื่อนางหน้าแดงก็ก้มหน้าลง เพียงแต่ยามที่นางก้มศีรษะลงนั้นก็ยังมิวายแอบเหลือบมองเสด็จอาเก้าอีกครั้ง

เพิ่งจะทำเป็นเขินอายหรือ สายไปแล้ว!

แม้ว่าเสด็จอาเก้าจะไม่สนใจซูหว่านเลยแม้แต่น้อย แต่กิริยานี้ของซูหว่านก็ไม่ได้เล็ดลอดไปจากสายตาเขา มันชัดเจนเกินไปแล้ว

เสด็จอาเก้าไม่ได้ปิดบังความรังเกียจของเขาไว้เลย เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิและซูหว่านเข้าสู่สภาวะ “นิ่งเสียตำลึงทอง” เสด็จอาเก้าก็พูดอย่างไร้คุณธรรม “ฝ่าบาท เมื่อคืนกระหม่อมแทบไม่ได้นอนทั้งคืน หากไม่มีเรื่องอะไรแล้ว กระหม่อมขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

“น้องเก้า เมื่อคืนเจ้าไปทำอะไร ทำไมจึงไม่ได้นอนเล่า?” จักรพรรดิรู้อยู่แล้วว่าเสด็จอาเก้าอยู่กับเฟิ่งชิงเฉิน ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองต่อสองในยามค่ำคืนยังจะทำอะไรได้อีกหรือ

“ขี่ม้าชมวิวตอนกลางคืน” เสด็จอาเก้าก้มศีรษะคำนับ แต่กลับมีประกายเย็นวาบในดวงตาของเขา

เขาดูแคลนการแต่งงานกับซูหว่าน แต่ท่าทางของจักรพรรดิในครานี้นั้นมากเกินไป ไม่ชัดเจนอีกหรือว่าเขาใช้เฟิ่งชิงเฉินมาเป็นเกราะป้องกัน ถึงเวลาแล้วซูหว่านจะต้องเกลียดเฟิ่งชิงเฉินไปจนตายแน่

เอาเถอะ เสด็จอาเก้ายอมรับว่าหากเป็นแต่ก่อนเขาจะต้องทำตามความเหมาะสมเป็นแน่ แต่ตอนนี้น่ะหรือ? เขารู้ดีว่าเมื่อคืนนี้เขาไม่ควรออกไปนอกเมืองกับนางเลยแต่เขาก็ยังไป ในเมื่อไปแล้วก็จะพยายามปกป้องนางอย่างดีที่สุด

“ชมทิวทัศน์ยามราตรีกับสาวงามนับเป็นเรื่องน่ารื่นรมย์” จักรพรรดิยิ้มรับ เมื่อเผชิญหน้ากับการหยั่งเชิงขอซีหลิง หนานหลิงและเป่ยหลิงแล้ว จักรพรรดิรับมืออย่างเป็นกลาง ในมือของเขานอกจากจะมือหลี่เซี่ยงเป็นไพ่ไม้ตายแล้วก็ยังมีไพ่ไม้ตายอีกใบหนึ่ง นั่นก็คือของขวัญจากอวี่เหวินหยวนฮั่ว

เมื่อปราศจากระเบิดเทียนเหล่ยของหลี่เซี่ยง จักรพรรดิจะยอมถอยหนึ่งก้าว แต่เขาจะไม่ยอมให้ซีหลิงเทียนเหล่ย เป่ยหลิงเฟิงเฉียนและซูหว่านสมดังปรารถนาแน่ มีเรื่องบางเรื่องที่เป็นเรื่องของหลักการ จะถอยไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว อย่างเช่นการเชื่อมไมตรีระหว่างเสด็จอาเก้าและตระกูลซู

เสด็จอาเก้าเป็นเหมือนท่อนไม้ เขาไม่พูดอะไรสักคำ จักรพรรดิก็ไม่บังคับ ในขณะที่ซูหว่านยอมถอยเมื่อการหยั่งเชิงของนางไม่สำเร็จ จักรพรรดิก็หลุดปากออกมาอย่ากะทันหัน “น้องเก้า แม่นางซูหว่านเป็นยอดสตรี นางยอมทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อประโยชน์ของประชาชน สตรีเช่นนี้คู่ควรกับบุรุษที่เป็นเลิศที่สุดแห่งตงหลิง น้องเก้า เจิ้นพูดถูกหรือไม่?”

ดวงตาของซูหว่าน ซีหลิงเทียนเหล่ยและเป่ยหลิงเฟิงเฉียนเป็นประกาย ยามนี้ซูหว่านไม่สะดวกเอ่ยคำอีก ซีหลิงเทียนเหล่ยจึงยิ้มและกล่าวว่า “คำพูดของฝ่าบาทมีเหตุผล แม่นางซูหว่านสูงศักดิ์งดงามทั้งยังไม่ธรรมดา สตรีเช่นนี้หากครองคู่กับเสด็จอาเก้าแล้วนับว่าจะไม่ดูหมิ่นเสด็จอาเก้านัก”

“ฮ่าๆๆ” จักรพรรดิยิ้มอย่างร่าเริง “องค์รัชทายาทเหล่ยพูดถูก เจิ้นมักจะรู้สึกว่าแม่นางซูกับน้องเก้าของข้าเหมาะสมกันยิ่งนัก เจิ้นอยากจะออกราชโองการพระราชทานงานแต่งเสียเลย แต่อดีตจักรพรรดิได้ทิ้งพระราชโองการไว้ว่าให้น้องเก้าเลือกคู่ครองด้วยตนเอง น้องเก้า ตอนนี้ข้าถามเจ้าสักหน่อย เจ้ายินดีแต่งงานกับแม่นางซูหว่านหรือไม่?”

หัวใจของซูหว่านเต้นแรง นางไม่รู้ว่าทำไมจักรพรรดิถึงยอมให้นางแต่งงานกับเสด็จอาเก้า แต่ไม่ว่าอย่างไรนางกลับเต็มไปด้วยความคาดหวัง จักรพรรดิเอ่ยปากแล้ว เสด็จอาเก้าต้องไม่กล้าปฏิเสธแน่

น่าเสียดายที่ซูหว่านยังไม่รู้จักเสด็จอาเก้าและจักรพรรดิดีพอ หากเขาตั้งใจจะให้เสด็จอาเก้าแต่งงานกับซูหว่านจริงๆ เหตุใดจึงได้เอ่ยขึ้นมาในเวลานี้ อย่างไรก็ต้องเป็นทางการกว่านี้แน่

เสด็จอาเก้าหันหน้าไปด้านข้างมองซูหว่านขึ้นลงอย่างประเมิน ทำให้หัวใจของซูหว่านเต้นแรงและหน้าแดงก่ำ ก่อนที่เขาจะพูดคำสองคำออกมาอย่างเย็นชา “ไม่แต่ง!”

ล้อเล่นหรือเปล่า หากเขาไม่ปฏิเสธหรือเอาเฟิ่งชิงเฉินมาเป็นโล่กำบัง ยายนั่นต้องกัดเขาตายด้วยความโกรธแน่

รอยยิ้มบนใบหน้าของซูหว่านแข็งค้าง แต่ในไม่ช้านางก็กลับมามีท่าทีสง่างามอ่อนหวานเช่นเดิม “ฝ่าบาท ความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น จะพูดติดตลกเช่นนี้ได้อย่างไร อีกไม่กี่วันองค์ชายรองของเราจะมาเยือนตงหลิงด้วยตนเองเพื่อหารือกับฝ่าบาทเรื่องการแต่งงานกระชับไมตรี”

“งั้นหรือ? องค์ชายรองกำลังจะมาที่ตงหลิง ทำไมเจิ้นไม่ได้รับข่าวเลย” แววตาของจักรพรรดิฉายแสงเย็นวาบ

หนานหลิงคิดว่าเมื่อตงหลิงไม่มีระเบิดเทียนเหล่ยแล้วจะรังแกอย่างไรก็ได้หรือ บังอาจนัก

“ฎีกาควรจะส่งมาถึงฝ่าบาทในวันนี้ ซูหว่านเพียงแค่อาศัยความสะดวกทูลล่วงหน้าเท่านั้นเองเพคะ” ซูหว่านชี้ให้เห็นถึงความเข้มแข็งของตระกูลซูอย่างแนบเนียนเพื่อให้จักรพรรดิและเสด็จอาเก้าได้ชั่งใจว่าแต่งงานกับนางมีแต่ข้อดีและไม่มีข้อเสียเลย

แน่นอนว่าจักรพรรดิและเสด็จอาเก้าเข้าใจความสัมพันธ์อันซับซ้อนของตระกูลซูและการใช้มันอย่างดีย่อมช่วยได้มาก เพราะเหตุนี้เองที่จักรพรรดิจึงไม่ต้องการให้เสด็จอาเก้าแต่งงานกับซูหว่าน ไม่เพียงแค่นั้น เขายังต้องการให้เสด็จอาเก้าปฏิเสธและทำให้ตระกูลซูขุ่นเคืองใจด้วยตนเองอีกด้วย

เมื่อจักรพรรดิบรรลุจุดประสงค์แล้วบอกกับองค์ชายรองแห่งหนานหลิงกำลังเดินทางมา จักรพรรดิจึงไม่มีอารมณ์ชมสวนอีกต่อไป “ตระกูลซูเต็มไปด้วยผู้คนมากความสามารถ เจิ้นเหนื่อยแล้ว น้องเก้าไปส่งองค์รัชทายาทเหล่ย เป่ยหลิงเฟิงเฉียนและแม่นางซูหว่านแทนเจิ้นที”

“พ่ะย่ะค่ะ” เสด็จอาเก้ากล่าวโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ หลังจากที่จักรพรรดิจากไป เขาก็เชิญพวกซีหลิงเทียนเหล่ยออกจากวังโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำเลยตลอดทาง

เมื่อมาถึงที่ประตูวัง หลังจากที่เสด็จอาเก้าส่งซีหลิงเทียนเหล่ยและเป่ยหลิงเฟิงเฉียนกลับไปแล้ว เขาก็ไม่สนใจซูหว่านและจากไปโดยตรง ซูหว่านเรียกเขาอย่างร้อนรน “เสด็จอาเก้า ช้าก่อน”

“มีเรื่องอะไรหรือ?” เสด็จอาเก้ามีท่าทีรำคาญใจ แม้ว่าในใจซูหว่านจะไม่ยอมนัก แต่นางก็ทำได้แต่เพียงระบายยิ้มบนใบหน้า “เสด็จอาเก้า เหตุใดท่านจึงไม่ต้องการแต่งงานกับข้า หากท่านแต่งงานกับข้า ตระกูลซูก็จะรับใช้ท่าน ช่วยให้ท่านสมปรารถนา” นางกำลังบอกเป็นนัยว่าหากเขาต้องการ ตระกูลซูก็จะสนับสนุนอย่างเต็มที่

ตระกูลต้องการเป้าหมายที่จะลงทุนด้วยเพื่อที่จะทำให้ตระกูลซูมีอำนาจมากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงหมายตาเสด็จอาเก้าไว้

“ข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งผู้หญิง อีกอย่างตระกูลซูรู้หรือว่าข้าต้องการสิ่งใด?” เสด็จอาเก้าทิ้งท้ายไว้เช่นนี้และเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามอง ปล่อยให้ซูหว่านยืนตะลึงอยู่คนเดียว

สตรีที่สามารถยืนเคียงคู่เขาได้ เขาได้เลือกไว้นานแล้ว แม้จะทำให้ตระกูลซูขุ่นเคืองใจก็ไม่หวั่น แม้ว่าตระกูลซูจะแข็งแกร่ง แต่ซูหว่านไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ร่วมมือกันได้ แต่ถ้าเขาต้องแต่งงานกับซูหว่านก็ฝันไปเถอะ!

เสด็จอาเก้าขึ้นรถม้าเฉพาะของตน หลับตาลงนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นและยิ้มอย่างขมขื่น

เป็นเวลากี่ปีแล้วที่เขาไม่เคยใจร้อนเช่นนี้ วันนี้เขาตกหลุมพรางในแผนการของจักรพรรดิ องค์จักรพรรดิแน่ใจว่าเขาจะไม่แต่งงานกับซูหว่านจึงจงใจบอกให้ซูหว่านแต่งงานกับเขาเพื่อให้เขาก็ปฏิเสธตรงๆ และทำให้ซูหว่านพร้อมทั้งตระกูลซูขุ่นเคืองใจ

เพื่อปฏิเสธซูหว่านและตระกูลซู เขามีวิธีมากมาย แต่วันนี้เขาได้ใช้วิธีที่ตรงที่สุดและไม่อาจย้อนกลับได้อีก ด้วยวิธีนี้เขาทำให้ตระกูลซูขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก ต่อไปอย่าว่าแต่ยืมแรงตระกูลซูเลย หากตระกูลซูไม่เห็นเขาเป็นศัตรูคงจะน่าขันยิ่งนัก

อย่างไรก็ตามเสด็จอาเก้าไม่เสียใจเลย ข่าวเรื่องที่เขาปฏิเสธการแต่งงานกับซูหว่านมาถึงหูของเฟิ่งชิงเฉิน นางดูผิวเผินแล้วก็งั้นๆ แต่ในใจคงกำลังแอบยิ้มอยู่เป็นแน่

เขาใช้การกระทำบอกเฟิ่งชิงเฉินว่าแม้ว่าเขาจะแต่งงานกับนางตอนนี้ไม่ได้ แต่เขาก็จะไม่แต่งงานกับหญิงอื่นเช่นกัน…