ตอนที่ 564 บาดแผล

เล่ห์ร้ายโฉมสะคราญ

นางเพียงให้เย่ว์ลั่วประคองนางไปด้านนอกสวนดอกเหมย

 

 

ไป๋ฉินกับชุยตานรีบเดินตามซูหลีออกไป ในเวลานี้ทางด้านนี้ยังเหลือแม่นมผู้นั้น เจียงโม่อวี้ อีกทั้งยังมีฉินมู่ปิงกับจี้ฉินอยู่

 

 

จี้ฉินมองสองคนที่ล้มลงบนพื้นปราดหนึ่ง ดวงตาค่อนข้างจะซับซ้อน ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาถึงรู้สึกว่ายามที่ซูหลีปฏิบัติต่อเจียงโม่อวี้นั้น ดูเหมือนจะแตกต่างกับคนอื่น

 

 

ซูหลีผู้นี้ดูเหมือนเป็นคนที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทว่าหากพูดอย่างจริงจังแล้ว ถ้าคนอื่นไม่สร้างเรื่องวุ่นวายให้นาง โดยทั่วไปแล้วนางก็จะไม่กระทำเรื่องนอกกรอบอะไร

 

 

ทว่ายามที่นางปฏิบัติต่อเจียงโม่อวี้นั้น…

 

 

เขาชะงักค้างไปครู่หนึ่ง เกรงว่าการกระทำของเจียงโม่อวี้ก่อนหน้านี้จะกระตุ้นโทสะของซูหลี นางถึงได้กระทำเช่นนี้กระมัง

 

 

ทว่าที่จี้ฉินไม่รู้ก็คือ ไม่ว่าจะใครหากได้ยินว่าคนอื่นกำลังวางแผนทำร้ายตนเองอยู่ในเบื้องหลัง เกรงว่าคงจะไม่สบายใจเท่าไรนัก

 

 

เดิมซูหลีไม่ค่อยชอบเจียงโม่อวี้อยู่แล้ว นับประสาอะไรกับได้ยินบทสนทนานั้นของนางกัน

 

 

จี้ฉินกับฉินมู่ปิงก็อยู่ต่อไม่นาน หลังจากซูหลีออกไป พวกเขาก็เดินออกไปเช่นกัน อีกตั้งแต่ต้นจนจบพวกเขาไม่ได้เข้าไปช่วยดึงทั้งสองคนนั้นให้ลุกขึ้น ประหนึ่งมองไม่เห็นก็มิปาน ดูเย็นชาเป็นอย่างมาก

 

 

 

 

อีกด้านหนึ่ง ซูหลีเดินกลับขึ้นรถม้าเป็นอันดับแรก จากนั้นปิดหน้าต่างและประตูรถม้าอย่างมิดชิด นางสั่งให้ไป๋ฉินกับเย่ว์ลั่วนำชุดมาให้นางผลัดเปลี่ยน

 

 

พรึ่บ! ไป๋ฉินถลกชายกางเกงของซูหลีขึ้น ทว่ากลับถูกบาดแผลที่ค่อนข้างจะร้ายแรงของซูหลีทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก

 

 

“คุณชาย!” ยามอยู่บนพื้นหิมะเมื่อครู่ ซูหลีดูเหมือนจะเดินขาเป๋ไปบ้าง ไป๋ฉินคิดไม่ถึงว่าซูหลีจะมีบาดแผลเป็นทางยาวขนาดนี้

 

 

ขาขวาของซูหลี บริเวณตั้งแต่หัวเข่าจนถึงต้นขามีรอยบาดแผลเป็นแนวยาวพาดผ่าน เป็นรอยโลหิตที่ลึกเป็นอย่างมาก! อีกทั้งในเวลานี้มีโลหิตสดไหลออกมาไม่หยุด

 

 

ทว่าไป๋ฉินเหลือบตาชำเลืองมองนาง บนใบหน้าของนางกลับไม่แสดงความเจ็บปวดใดๆ ออกมา ในทางกลับกันคิ้วของนางผูกกันเป็นปม ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

“ให้ข้าทำเถิด” เย่ว์ลั่วเห็นบาดแผลนี้แล้วก็รู้สึกตกใจเช่นกัน เมื่อเห็นไป๋ฉินอ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถูก นางจึงรับยารักษาบาดแผลทองคำในมือของไป๋ฉินมา และใส่ยาให้กับซูหลีอย่างพิถีพิถัน

 

 

“โอ๊ย!” เมื่อผงยากระจายลงบนขาของซูหลี นางก็หดขาอย่างอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ทั้งร่างก็ฟื้นคืนสติกลับมา

 

 

“หกล้มรุนแรงถึงเพียงนี้เลยหรือ?” นางหลุบตาลง เมื่อมองเห็นบาดเจ็บที่เป็นแนวยาวนี้ก็อดตกใจไม่ได้

 

 

ไป๋ฉินถึงกับพูดไม่ออก…

 

 

ทั้งหมดเมื่อครู่ไม่ใช่เพราะซูหลีไม่ตกใจ แต่เป็นเพราะจิตใจของนางนั้นกำลังล่องลอย จนไม่ได้สังเกตเห็นขาของตัวเองต่างหาก!

 

 

“ใช่เจ้าค่ะ คุณชาย ต่อไปหากท่านทิ้งพวกเราไว้ข้างหลังเช่นวันนี้ นี่ถ้าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นอีกจะทำอย่างไรกันเจ้าคะ!” ใบหน้าของไป๋ฉินเป็นกังวล จากนั้นเอ่ยกับซูหลีอย่างอดไม่ได้

 

 

ซูหลีขมวดคิ้วมองไปที่บาดแผลปราดหนึ่ง ทว่ากลับไม่พูดแย้งอะไรออกมา

 

 

“ยังดีที่ไม่ได้แช่อยู่ในพื้นหิมะนานเกินไป รอบาดแผลนี้ตกสะเก็ดก็ค่อยใช้ยาสร้างผิวหนังที่เหลือครึ่งขวดในห้องคุณชายนั้น ก็คงจะไม่เหลือแผลเป็นเอาไว้ใช่หรือไม่” เย่ว์ลั่วเห็นดังนั้น จึงรีบพูดปลอบใจ

 

 

นางจัดการกับบาดแผลของซูหลีเสร็จ นางก็ปล่อยชายกางเกงลงมา

 

 

“คุณชายซู ซื่อจื่อให้บ่าวมาหาขอรับ ซื่อจื่อให้บ่าวมาถามท่านว่า ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จหรือยังขอรับ ในบ้านพักเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว ให้ท่านรีบเข้าไปขอรับ” ขณะที่ภายในรถม้ายังอยู่ในความเงียบ จู่ๆ ก็มีเสียงของเด็กรับใช้คนหนึ่งดังขึ้น

 

 

ซูหลีได้ยินเสียงก็รู้ทันทีว่า นี่เป็นเสียงของจู๋ซย่าคนรับใช้ข้างกายของฉินมู่ปิง

 

 

“เจ้าไปบอกซื่อจื่อเถิด ข้ากำลังไปเดี๋ยวนี้”

 

 

“ขอรับ” จู๋ซย่าขานรับจากด้านนอก ซูหลีได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ หายไป จึงหมุนศีรษะกลับมาและมองไปที่ขาตนเองอย่างกลัดกลุ้มปราดหนึ่ง

 

 

บาดแผลนี้ คาดว่าวันนี้นางจะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจไม่ได้เสียแล้ว