ตอนที่ 694 รอบสี่คนสุดท้าย
“ข้าใช้อุบายใดอย่างนั้นหรือ? นั่นไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องทราบ หากคิด
กล่าวโทษ จงไปโทษพวกมันที่อหังการอวดดีด้วยฝีมือเท่าโคลนตม!”
ฉินหยุนมองทางตูเทียนตี้พร้อมตอบคำอย่างไม่ยี่หระใด
ตูเทียนตี้ยิ่งโกรธจัด เขาหันไปกล่าวกับราชันแคว้นเยี่ยข้างกาย
“เหล่าเยี่ย ฉินหยุนผู้นี้ต้องโกงเป็นแน่แล้ว เร่งรีบถอนมันออกจาก
การแข่งขันเสีย!”
ราชันแคว้นเยี่ยตอนนี้ได้เป็นราชันแคว้น เขาย่อมได้รับต้นกำเนิด
เซียนอย่างแน่นอนด้วย ด้วยเหตุนี้ แม้ฉินหยุนแข็งแกร่งหรือไม่ ก็
ไม่ใช่เรื่องที่เขาคิดเข้าแทรกแซงอีก นั่นก็เพราะเป็นเจี้ยนสือเทียน
และเปาเฉิงโฉ่วที่สนับสนุนให้เขาขึ้นเป็นราชันแห่งแคว้น
“เรื่องนี้ พวกเราไม่อาจหาหลักฐานมาบ่งชี้ ไม่ดีนักที่จะคิดแทรกแซง!”
ราชันแคว้นเยี่ยกล่าวด้วยสีหน้ากระดาก “เจ้าเองก็เห็น เปาเฉิงโฉ่ว
และเจี้ยนสือเทียนออกหน้าปกป้องฉินหยุนไม่ใช่น้อย”
ตูเทียนตี้คิดอยากลงไปบดขยี้ฉินหยุนจนถึงแก่ความตาย กระนั้นเขา
ก็ไม่อาจทำ จึงได้แต่ต้องคำรามเสียงดังสนั่นฟากฟ้า
ครึ่งเซียนจากหุบเขาเซียนโอสถเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เขาคิดว่าหุบเขา
เซียนโอสถสมควรต้องร่วมมือกับตำหนักโทเทม เพื่อข้าปะทะกับ
นครเซียนยุทธภัณฑ์ในภายหน้าแล้ว
มีแต่วิธีนี้จึงค่อยมีโอกาสทำลายนครเซียนยุทธภัณฑ์ และจับตัวฉิน
หยุนมาเพื่อล้างแค้น
แน่นอนว่าพวกเขาได้เพียงแต่คิด บุกโจมตีนครเซียนยุทธภัณฑ์เป็น
เรื่องง่ายแต่ไม่อาจทำได้ เนื่องด้วยภายในนั้นมีเซียนที่แข็งแกร่ง
ปกครอง
ศึกรอบที่สอง เป็นเจี้ยนหนันหู่และร่างเซียนของวิมานเซียนปีศาจ
“ข้าขอกลับไปพักก่อน เริ่มจับสลากรอบที่สองแล้วฝากเรียกข้าด้วย
ขอรับ!” ฉินหยุนบอกต่อเปาเฉิงโฉ่วพร้อมเร่งรีบจากไปลำพัง
ขณะเดินออกมา เขาได้ผ่านกลุ่มคนจากแคว้นมังกรทะยานฟ้า เขาใช้
พลังจิตเพ่งเล็งไปยังบุคคลสวมใส่หน้ากาก พร้อมกล่าวทักทาย
บุคคลสวมใส่หน้ากากยังคงไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว เพียงยืนนิ่งรับชม
การประลอง
ฉินหยุนอดไม่ได้ที่จะเกิดความสับสนภายใน ทั้งเขาและเชี่ยวเย่ว์
หลานต่างเชื่อ ว่าบุคคลสวมหน้ากากนามหลงเย่ว์คือเชี่ยวเย่ว์เหม่ย
กระนั้น ตอนนี้เขาเพียงใช้พลังจิตส่งเสียงสื่อสารออกไป ทว่าก็ถูก
ปฏิเสธกลับมา
“หรือจะไม่ใช่เชี่ยวเย่ว์เหม่ย? แล้วจะเป็นผู้ใดได้กัน?” ภายในใจฉิน
หยุนอัดแน่นด้วยความสงสัย เขาออกจากลานกว้างเพื่อกลับไปพักฟื้น
ฉินหยุนเมื่อออกไป ยังคงมีศึกประลองอีกเจ็ดคู่ที่ต้องดำเนิน
ศึกครั้งนี้ของเจี้ยนหนันหู่ไม่ง่าย ศิษย์ของวิมานเซียนปีศาจแข็งแกร่ง
เลิศล้ำ
สุดท้ายแล้ว แม้เจี้ยนหนันหู่เอาชนะมาได้ เขาก็ต้องแลกมาด้วยอาการ
บาดเจ็บระดับหนึ่ง หลังต่อสู้จบ เขาจึงเร่งรีบกลับไปพักฟื้นอาการ
รอบถัดจากนั้น เป็นเจี้ยนรั่วหยานเอาชนะศิษย์ของสำนักหมื่นดวงดาว
อย่างง่ายดาย
คู่ต่อสู้ของเชี่ยวเย่ว์หลานมาจากหุบเขาเซียนโอสถ เพียงไม่นานหลัง
การต่อสู้เริ่มต้น ศิษย์ผู้นั้นจึงสิ้นสภาพเพราะนางลงมือหนัก นี่ทำเอา
หุบเขาเซียนโอสถปวดหัวใจ ทั้งยังโกรธแค้น กระนั้นก็ไม่กล้ายั่วยุ
ต่อเกาะจันทราปีศาจ
ศึกประลองทั้งแปดนัดจบสิ้น ฟ้าก็มืดแล้ว
เช้าวันพรุ่งนี้ จึงค่อยเริ่มการประลองรอบถัดไป
เช้าตรู่วันถัดมา ฉินหยุนที่มีกำลังเต็มเปี่ยมจึงตื่นแต่เช้า
ที่ภายในแก่นเต๋าตะวันทมิฬของเขา มันมีทั้งโลหิตเซียนและโลหิต
อสูรผนึกเอาไว้ เขายังไม่ได้เริ่มขัดเกลาพวกมันแต่อย่างใด
เพราะคิดดูดกลืนจนหมดสิ้นต้องใช้เวลาถึงระดับหนึ่ง
ช่วงเวลาหลายวันจากนี้ เขาเพียงต้องการสู้ในงานประลองยุทธ์ ย่อม
ไม่มีเวลาสำหรับให้ขัดเกลาพวกมัน
เจี้ยนรั่วหยานและฉินหยุนตามเปาเฉิงโฉ่ว หลงเฉียวเฟิง และศิษย์
ผู้อื่นไปยังลานกว้างแต่เช้าเพื่อรอคอย
เมื่อมาถึงที่ลานกว้าง ฉินหยุนและเจี้ยนรั่วหยานจึงเดินขึ้นบนลาน
ประลอง คว้าเอาไข่มุกตัดสินคู่ต่อสู้
ศิษย์ผู้ซึ่งผ่านเข้ารอบทั้งแปดคนมีฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์หลาน เจี้ยนรั่ว
หยาน เจี้ยนหนันหู่ ถัดจากนั้นจึงเป็นศิษย์ของวิมานเซียนปีศาจ
ตำหนักจารึกเทวะ นครจันทราอัคคี และตำหนักเซียนดาบ
ด้วยฉินหยุนกำกับการ เชี่ยวเย่ว์หลานจึงได้สู้กับศิษย์ของวิมานเซียน
ปีศาจ เจี้ยนรั่วหยานปะทะกับศิษย์หญิงของนครจันทราอัคคี เจี้ยน
หนันหู่ปะทะกับศิษย์ของตำหนักจารึกเทวะ
สำหรับฉินหยุน เขาเลือกศิษย์ของตำหนักเซียนดาบเป็นคู่ต่อสู้
ฉินหยุนและเจี้ยนหนันหู่ไม่พบกันในรอบนี้ ทำเอาหลายคนต่างรู้สึก
ผิดหวัง
ทุกคนต่างคิด ว่าเรื่องบังเอิญครั้งใหญ่ต้องบังเกิด เพราะฉินหยุนและ
ผู้อื่นที่แข็งแกร่งย่อมต้องเกิดการปะทะกันในศึกรอบนี้
เชี่ยวเย่ว์หลานต่อสู้กับศิษย์ร่างเซียนของวิมานเซียนปีศาจ
ความสัมพันธ์ระหว่างวิมานเซียนปีศาจและเกาะจันทราปีศาจดีเสมอ
มา แต่ด้วยพบเจอกันที่นี่ พวกนางก็หาได้คิดยั้งมือต่อกันแต่อย่างใดไม่
เป็นเชี่ยวเย่ว์หลานด้วยซ้ำที่ขอให้ฉินหยุนจัดแจง ให้นางได้ประลอง
กับร่างเซียนของวิมานเซียนปีศาจ
บางทีอาจเป็นนางต้องการให้วิมานเซียนปีศาจได้ทราบ ว่าแม้เกาะ
จันทราปีศาจไม่ใช่สำนักเซียน ศิษย์ของพวกนางก็หาได้อ่อนด้อยไป
กว่าสำนักเซียนไม่
กำลังของเชี่ยวเย่ว์หลานย่อมเหนือล้ำ ภายในสิบกระบวนท่า นางจึง
เอาชัยจากศิษย์ของวิมานเซียนปีศาจไปได้
พลังอันเลิศล้ำระดับนี้ของนาง ทำเอาราชันแคว้นมู่จากแคว้นมังกร
ทะยานฟ้ายังรู้สึกว่ายากจะทำใจเชื่อลงได้
ผู้คนล้วนได้เห็น ว่าเชี่ยวเย่ว์หลานยังออมกำลังแท้จริงไว้อีกมาก!
เจี้ยนหนันหู่ปะทะกับร่างเซียนของวิมานเซียนปีศาจมาก่อนหน้า เขา
ทราบดีว่าศิษย์ของวิมานเซียนปีศาจแข็งแกร่งเพียงใด กระนั้นตอนนี้
อีกคนหนึ่งที่สมควรทัดเทียมกัน กลับพ่ายแพ้ต่อเชี่ยวเย่ว์หลานภายใน
สิบกระบวนท่า!
เรื่องนี้ยิ่งทำให้เจี้ยนหนันหู่เกิดอาการตื่นตะลึงที่ภายใน เขารู้สึก ว่า
เชี่ยวเย่ว์หลานสมควรเป็นคู่ต่อสู้สุดท้ายที่แข็งแกร่งเลิศล้ำที่สุดแล้ว
ศึกรอบที่สอง เป็นเจี้ยนหนันหู่และร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะ
ก่อนหน้านี้ เจี้ยนหนันหู่ได้สังหารร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะ
ไปคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ ครั้งนี้เขาจึงได้รับชัยชนะมาโดยง่ายดาย
เจี้ยนหนันหู่เวลานี้ครอบครองทั้งร่างเซียน และก้าวขึ้นเป็นขอบเขต
วรยุทธ์วิญญาณระดับกลาง พละกำลังของเขาย่อมเลิศล้ำชวนสะพรึง
ร่างเซียนของตำหนักจารึกเทวะแม้แข็งแกร่ง ก็ยังต้องพ่ายแพ้ไป
ภายในสิบกระบวนท่า
“เศษเดนเช่นนี้จากตำหนักจารึกเทวะเหตุใดรอดชีวิตมาได้จนถึง
ตอนนี้กัน?” เจี้ยนหนันหู่ก้าวเดินลงจากลานประลองพร้อมกล่าว
อย่างเดียดฉันท์
ก่อนหน้านี้เขาได้ปะทะกับร่างเซียนของวิมานเซียนปีศาจ นั่น
ต่างหากจึงเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง
ถัดจากนี้เป็นศึกของเจี้ยนรั่วหยานปะทะกับศิษย์หญิงของนครจันทรา
อัคคี
นี่คือศึกระหว่างสองโฉมงาม ทำเอาศิษย์ชายหลายคนต่างผิวปาก
หยอกล้อกันไม่ขาด
หลังการศึกเริ่มขึ้น เจี้ยนรั่วหยานและศิษย์ของนครจันทราอัคคี ทำ
เอาบรรดาศิษย์ชายต้องเกิดความสะพรึงภายในหัวใจ เพราะสตรีทั้ง
สองนี้แข็งแกร่งจนเกินไป!
ต้องทราบว่าเจี้ยนรั่วหยานก่อนหน้านี้เอาชนะร่างเซียนของตำหนัก
เซียนดาบมาได้อย่างง่ายดาย!
พละกำลังระดับนี้ เรียกได้ว่าแข็งแกร่งอย่างยิ่งแล้ว
ฉินหยุนรับชมอยู่ที่เบื้องล่าง คิ้วนั้นขมวดกล่าวคำ “สตรีผู้นี้จากนคร
จันทราอัคคีแข็งแกร่งไม่น้อย!”
“อีกฝ่ายครอบครองร่างอัคคีลึกล้ำ ดังนั้นนางย่อมแข็งแกร่ง!” หลิง
หยุนเอ๋อกล่าว “เจี้ยนรั่วหยานแม้ตึงมือแต่ก็ยังเอาชนะนางได้!”
สำหรับเจี้ยนรั่วหยาน ศึกครั้งนี้ดุเดือด ทางด้านคู่ต่อสู้เองก็ไม่ใช่
รับมือนางได้ง่าย
ที่บนลานประลอง พลังงานดาบและคลื่นพลังอัคคีปะทะต่อกัน เกิดขึ้น
เป็นเสียงปะทะดังต่อเนื่องเป็นชุดสร้างความตื่นตะลึง
สุดท้ายแล้ว สตรีจากนครจันทราอัคคีถูกจ้วงแทงหลายครั้งครา และ
นางยังใช้พลังไปมากไม่ใช่น้อย จึงไม่มีทางเลือก มีแต่ต้องประกาศ
ขอยอมแพ้
เจี้ยนรั่วหยานที่ชนะ นางยิ่งวางใจและผ่อนคลาย เพราะเป้าหมาย
ของนางอย่างการก้าวขึ้นเป็นสี่อันดับแรกได้สำเร็จแล้ว!
ท่ามกลางสี่อันดับแรก มีเชี่ยวเย่ว์หลาน เจี้ยนหนันหู่ และเจี้ยนรั่ว
หยาน บุคคลสุดท้ายยังไม่ถูกตัดสิน
ฉินหยุนและศิษย์ของตำหนักเซียนดาบต่างเดินขึ้นบนลานประลอง
“เจี้ยนลี่เทียนแห่งตำหนักเซียนดาบ เป็นร่างเซียนเช่นผู้อื่น รายงาน
กล่าวว่าเขาแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเจี้ยนหนันหู่!”
“อายุของเขาค่อนข้างมากกว่าเจี้ยนหนันหู่ และยังเข้าร่วมตำหนัก
เซียนดาบก่อน”
“หากเจี้ยนลี่เทียนเอาชนะฉินหยุนได้ เช่นนั้นจะกลายเป็นศิษย์ตระกูล
เจี้ยนถึงสามคนได้เข้ารอบสี่คนสุดท้าย!”
“ศิษย์ตระกูลเจี้ยนช่างเลิศล้ำเกินไปแล้ว!”
ผู้คนต่างรู้สึก ว่าภายในแคว้นมหาดวงดาว ขั้วอำนาจฝ่ายตระกูลเจี้ยน
คือผู้แข็งแกร่งที่สุด
ตระกูลเจี้ยนและผู้คนของตำหนักเซียนดาบ เวลานี้ต่างเกิดความรู้สึก
ภาคภูมิ
ผิวของเจี้ยนลี่เทียนค่อนข้างไปทางน้ำตาล ร่างนั้นสูงและกำยำ สีหน้า
ขึงขัง สวมใส่ชุดสีเทา ไว้หนวดเคราเต็มที่ ดูไปคล้ายนักดาบพเนจร
ผู้หนึ่ง
หลังจากที่เดินขึ้นบนลานประลอง เขาจึงเผยยิ้มอ่อนให้แก่ฉินหยุน
และกล่าว “อาหู่คิดอยากเอาชนะเจ้าในงานประลองยุทธ์! พวกเรา
เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ให้ข้าปล่อยเจ้าเข้ารอบสี่คนสุดท้ายโดยง่าย
เป็นไร?”
“อย่าได้กล่าวถึงการทิ้งขว้างศึกเช่นนี้ เพราะหากเจ้าทิ้งขว้าง จะ
กลายเป็นชัยชนะอันง่ายดายต่อข้าเกินไปแล้ว!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“พี่เทียนเลิกพูดจาหยอกล้อได้แล้ว! หากท่านเอาชนะเขาได้ เช่นนั้น
เมื่อใดข้าเอาชนะท่าน เท่ากับเอาชนะสองคนในคราวเดียวกัน ฮ่าฮ่า
ฮ่า!” เจี้ยนหนันหู่หัวเราะกล่าว “หากฉินหยุนพ่ายแพ้ เช่นนั้นเอาชนะ
ผู้ที่มีชัยเหนือฉินหยุน จึงเป็นหลักฐานความแข็งแกร่งของข้า!”
“อาหู่ เจ้าหนูจอมอวดดี ไว้ศึกถัดจากนี้ข้าจะสอนบทเรียนแก่เจ้าเอง!”
เจี้ยนลี่เทียนยิ้มอ่อนกล่าวคำพร้อมโบกมือ เขาเรียกเอาดาบหนัก
โปร่งแสงดังผลึกแก้วออกมา
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินหยุนได้เห็นดาบต้นกำเนิดเช่นนี้ ทั้งตัวของมัน
เป็นผลึกแก้ว สะท้อนแสงและโปร่งแสง บริสุทธ์ิและงดงาม
ฉินหยุนจึงปล่อยกรงเล็บราชสีห์สวรรค์ออกมา สิ่งนี้นับว่าเป็นอาวุธ
ของเขาอย่างหนึ่ง
หลายคนที่นี่ต่างรับชมกันอย่างตื่นเต้น เพราะนี่คือศึกปะทะระหว่าง
ผู้แข็งแกร่ง!
“เริ่ม!” เจี้ยนสือเทียนตะโกน เขาเองก็ค่อนข้างคาดหวังต่อศึกนี้เช่นกัน
เจี้ยนลี่เทียนและฉินหยุนพุ่งเข้าปะทะแทบพร้อมกัน
ฉินหยุนที่พุ่งทะยาน เขาใช้งานเสียงคำรามราชสีห์สวรรค์ คลื่นเสียง
นำพามาพร้อมคลื่นพลังรุนแรง เป็นผลให้เจี้ยนลี่เทียนต้องเชื่องช้าลง
กระนั้น เจี้ยนลี่เทียนก็ยังสามารถบุกฝ่าคลื่นเสียง นอกจากนี้แล้ว ยัง
คล้ายไม่ได้ผลข้างเคียงใด และพุ่งทะยานเข้าหาฉินหยุน
ฉินหยุนไม่หลบเลี่ยง กลับกัน เขายืดมือออกด้วยความเร็วแสง คว้า
จับดาบใหญ่ผลึกแก้วนั้นเอาไว้ กรงเล็บราชสีห์สวรรค์ได้ปลดปล่อย
วิชาวายุสังหารฟาดฟันเข้าใส่เจี้ยนลี่เทียน
เจี้ยนลี่เทียนไม่คาดคิด เขาไม่นึกว่าฉินหยุนจะบุ่มบ่ามได้เพียงนี้ ถึง
ขั้นคว้าดาบของตนเองไว้โดยไม่ห่วงใยชีวิต เป็นผลให้เขาไร้ซึ่ง
ทางเลือกจนต้องยอมถอย เพราะหากไม่ทำเช่นนี้ เขาจะถูกไล่ต้อน
ด้วยวิชาวายุสังหารเสียแทน
ดาบต้นกำเนิดของเจี้ยนลี่เทียนเลือนหายจากมือของฉินหยุนกลับคืน
สู่ร่างเจ้าของ
กระนั้น ฉินหยุนก็ยังเป็นฝ่ายถือครองความได้เปรียบ กรงเล็บราชสีห์
สวรรค์กวัดแกว่ง ผสานรวมเข้ากับเสียงคำรามราชสีห์สวรรค์ โหม
บุกไล่ต้อนโจมตีใส่เจี้ยนลี่เทียน
ฉินหยุนงานก้าวเท้าเก้าสมบูรณ์ ความเร็วเลิศล้ำ เคล็ดวิชาอันตระการ
ตาของเขาทำเอาครึ่งเซียนหลายคนต้องอุทานชื่นชมกันไม่ขาด
เจี้ยนลี่เทียนถูกฉินหยุนรุกไล่ถึงเพียงนี้ ทำให้เขาไม่มีแม้เวลาได้หายใจ
ทำได้แต่ต้องใช้พลังเต๋าอันแข็งแกร่งเข้าต้านรับและหลบเลี่ยง
“ฉินหยุนกำลังจะเอาชนะพี่เทียนได้!” เจี้ยนหนันหู่หัวเราะดังกล่าวคำ
เจี้ยนลี่เทียนกัดฟันแน่น คำรามร้องเสียงดัง คิดปลดปล่อยพลังรุนแรง
ที่สุดออกมา กระนั้นเวลานี้ กลับมีแรงโน้มถ่วงรุนแรงสะกดลง
เจี้ยนลี่เทียนถูกบดทับด้วยแรงโน้มถ่วงมหาศาลอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตึง! ตึง! ตึง!
ฉินหยุนใช้ขาเตะ ก้าวดาราเร้นลับระเบิดพลังออกในพริบตา เจี้ยนลี่
เทียนถูกส่งร่างกระเด็นจนปะทะเข้ากับม่านพลัง
ถัดจากนั้น ฉินหยุนจึงเร่งรีบใช้สามฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ซ้ำการโจมตี
ใส่เจี้ยนลี่เทียน
“ข้ายอมแพ้!” เจี้ยนลี่เทียนทราบดี ว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะยิ่ง
บาดเจ็บหนักมากขึ้น
เจี้ยนหนันหู่ยิ้มกล่าว “มีแต่ต่อสู้ด้วยตนเองท่านจึงค่อยทราบฉินหยุน
เป็นผู้แข็งแกร่งแปลกประหลาดเพียงใด พี่เทียน ท่านคงได้ทราบแล้ว
กระมัง? ก่อนหน้า เป็นท่านเยาะเย้ยที่ข้าพ่ายแพ้ต่อฉินหยุนถึงสอง
ครั้งครา ตอนนี้ร่างเซียนขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงเช่นท่าน ก็
ยังพ่ายแพ้ต่อฉินหยุน!”
เจี้ยนลี่เทียนลุกขึ้นยืนเชื่องช้าคิ้วขมวดกล่าวคำ “ร่างกายฉินหยุนแปลก
ประหลาด มันแทบไม่อ่อนด้อยไปกว่าร่างเซียน ถือเป็นเรื่องแปลก
เกินไป!”
เจี้ยนสือเทียนกล่าว “นั่นก็เพราะร่างเซียนเช่นพวกเจ้าไม่เคยขุดเอา
ศักยภาพอันสูงสุดของตนเองออกมา ไม่เคยพยายามที่จะก้าวไปแตะ
ถึงขีดสุดของร่างเซียน ด้วยเหตุนี้ เมื่อใดพบเจอร่างลึกล้ำที่สามารถ
แสดงศักยภาพอันเต็มที่ออกมาได้ จึงปรากฏความแตกต่างออกมา
เช่นนี้!”
เวลานี้ รอบสี่คนสุดท้ายตัดสินผู้เข้าร่วมแล้ว เป็นเชี่ยวเย่ว์หลาน
เจี้ยนหนันหู่ เจี้ยนรั่วหยาน และฉินหยุน!