ถ้าน้ำใสเกินไปก็ไม่มีปลาอาศัยอยู่ คนเลวทรามถึงขั้นสุดย่อมไร้ศัตรู! (อย่าตั้งขอเรียกร้องไว้สูงเกินไป)
ถึงแม้เฉินหวั่นชิงจะเป็นประธานปฏิบัติงานของบริษัทตระกูลเฉิน อุปสรรคปัญหาที่เคยเจอมาก็ไม่ใช่น้อย
แต่ ส่วนมากที่พบปะติดต่องานกับเธอล้วนเป็นบุคคลในวงสังคมระดับสูง จะหน้าด้านไร้ยางอายแบบเย่เทียนที่ไหนกัน?
“มาสิ! ย่ำยีฉันสิ! อย่าได้เกรงใจเด็ดขาด!”
สำหรับคำพูดไม่รู้จักอายอย่างมากพวกนี้ของเย่เทียน เฉินหวั่นชิงโมโหจนสั่นเทาไปทั้งตัว ยื่นนิ้วออกมาชี้ไปยังเย่เทียน “นายรีบไสหัวออกไปเลยนะ ถ้าเข้ามาอีก เชื่อรึเปล่าว่าฉันฆ่านายแน่!”
“ที่รัก ไม่เอาสิ! เธอคิดว่าฉันยังไม่กระตือรือร้นพอใช่ไหม?”
“มาๆๆ เธออย่าเพิ่งร้อนใจ นี่ฉันจะรีบทำให้เธอดูหน่อยว่าอะไรเรียกว่าความสามารถของลูกผู้ชาย!”
ระหว่างพูดจา มือข้างหนึ่งของเย่เทียนวางไว้บนผ้าเช็ดตัวตรงเอว ทำท่าทางจะดึงออกทุกเมื่อ
เฉินหวั่นชิงเห็นแบบนี้ ตกใจจนในใจเต้นรัว ถอยหลังไปสองก้าวโดยจิตใต้สำนึก
“นาย นายอย่าทำมั่วซั่วนะ! ถ้าให้ฉันเห็นของน่าเกลียดนั้นเข้า ฉันจะเอากรรไกรมาตัดมันทันที!”
หญิงสาวกระหืดกระหอบ เย่เทียนกลับได้ใจใหญ่ ไม่ได้เก็บคำขู่ของหญิงสาวมาใส่ใจแม้แต่น้อย ยิ้มกริ่มบอกว่า “ที่รัก เธออย่าเขินอายขนาดนี้สิ!”
“ดูท่าทางเธอตอนนี้ ต้องไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ นี่ฉันจะให้เธอได้รับรู้หน่อยว่าอะไรเรียกว่าผู้ชายที่เข้มแข็ง ทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงที่แท้จริง”
“ว้าย!”
ตาเห็นว่าเย่เทียนดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวลงมา เฉินหวั่นชิงตกใจจนกังวลทำอะไรไม่ถูก ทิ้งแก้วเหล้าในมือลง ปิดดวงตาทั้งคู่ไว้แน่น
“ที่รัก เธอทำอะไรน่ะ? เธออย่าปิดหน้าไว้สิ!”
ข้างหูมีคำพูดปลุกปั่นจิตใจคนอื่นนั้นของเย่เทียนดังขึ้นอีกครั้ง เฉินหวั่นชิงราวกับคิดเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวน่าสะอิดสะเอียนที่สุดอะไรเข้า ในท้องรู้สึกปั่นป่วนมากครู่หนึ่ง หลุดปากด่าทอขึ้นมา
“นายมันอันธพาล! สารเลว! พวกไร้ยางอาย! ใครอยากมองของน่าเกลียดนั้นของนาย รีบพันผ้าเช็ดตัวขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลย!”
ที่น่าเสียดายคือ เฉินหวั่นชิงเป็นคนได้รับการศึกษาระดับสูงมา แม้แต่คำด่าคนอื่นแทบจะสามารถพูดได้ว่าน้อยจนน่าสงสาร
แต่ ดูจากการที่หญิงสาวร้องคำรามอย่างโกรธเคืองนี้ เย่เทียนก็เป็นนักโทษที่ชั่วร้ายไม่อาจอภัยให้ได้ที่สุดบนโลกเลยทีเดียว ทำให้เธอรำคาญถึงขีดสุดแล้ว
พิจารณาถึงตรงนี้ เฉินหวั่นชิงที่เดือดดาลหลับตาสนิทอยู่ อาศัยความทรงจำในหัวสมองต่อยเข้าไปยังเย่เทียนหมัดหนึ่ง
เย่เทียนตกใจแล้ว รับมือของเฉินหวั่นชิงไว้มั่นคงด้วยการตอบสนองฉับไว ทันใดนั้นออกแรงดึงมาทางอ้อมอก ร่างกายอ่อนนุ่มของคุณหนูใหญ่เฉินนั้นล้มลงไปยังอ้อมอกของเย่เทียนในชั่วพริบตาเดียว
ตึง!
เฉินหวั่นชิงหลับตาสนิทเพียงรู้สึกว่าชนเข้ากับของแข็งอย่างหนึ่ง ตามมาด้วยกลิ่นหอมสดชื่นของครีมอาบน้ำลอยเข้าจมูก ทำให้ชั่วขณะนั้นหญิงสาวรับรู้ว่าตนเองกระโจนเข้าในอ้อมอกของเย่เทียนแล้ว
การเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันแบบนี้ทำให้เฉินหวั่นชิงทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว กลัวว่าเย่เทียนจะฉวยโอกาสทำเรื่องเกินเลยออกมา
ภายใต้ความวิตกกังวล เธอยังสนใจปิดตาไว้ที่ไหน มืออีกข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ตบเข้าไปอย่างร้อนแรงทีหนึ่ง
“เชี่ย! ที่รักเธอจำเป็นต้องโกรธขนาดนี้ด้วยเหรอ?”
เย่เทียนสะดุ้งตกใจ ระหว่างทั้งสองคนอยู่ใกล้กันแค่คืบเดียว เวลานี้หญิงสาวว่องไวรวดเร็ว หากโดนเข้าจริงนั่นไม่ใช่ถูกตบจนหน้าบวมเป่งหรอกเหรอ?
ตามองเห็นว่าเฉินหวั่นชิงเดือดดาลจริง เย่เทียนจึงไม่กล้าเล่นต่อไปอีกแล้ว ขยับเท้านิดหน่อย ร่างกายถอยหลังออกไปฉับไว
พอโจมตีไม่โดน เฉินหวั่นชิงมองตามไปทางด้านหน้า กลับเห็นเย่เทียนยืนอยู่ไม่ไกลนักอย่างสมาธิแน่วแน่พอดี
หญิงสาวแอบชำเลืองมองลงไปโดยจิตใต้สำนึก มีของน่าเกลียดอะไรที่ไหนกัน ที่เอวของเย่เทียน สวมกางเกงขาสั้นสบายๆ ไว้ตัวหนึ่ง!
“นาย นายหลอกฉัน?”
ในใจเฉินหวั่นชิงเกิดความอับอายและโมโหที่โดนหลอกลวงขึ้นมาในชั่วขณะหนึ่ง ดวงตาที่แหลมคมมีดวงไฟลุกไหม้นิดๆ ท่วงท่านั้นเหมือนอยากจะจับเย่เทียนมาถลกหนังกินทั้งเป็นให้รู้แล้วรู้รอด
“ที่รัก ฉันจะหลอกเธอได้ยังไง? เป็นเพราะฉันยังใส่กางเกงขาสั้นไว้ถึงทำให้เธอรู้สึกผิดหวังเหรอ?”
“งั้นเธอบอกก็ได้นี่! เธอบอกออกมาแล้วฉันจะคิดดูว่าจะให้เธอดูรึเปล่า”
“แน่นอน เธอต้องทำใจเตรียมพร้อมให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้นฉันกลัวเธอจะตกใจจนเป็นลมไป”
เย่เทียนพูดแนะนำอย่างไร้ยางอาย นัยน์ตาดำมืดเต็มไปด้วยความหยอกล้อ
เฉินหวั่นชิงโมโหตนสั่นเทาทั้งตัว โกรธแค้นจนเหมือนลูกหมาป่าที่หิวโหยตัวหนึ่ง
“เย่เทียน นายไปตายเดี๋ยวนี้!”
ระหว่างที่พูด เฉินหวั่นชิงขยับเท้าติดกัน รองเท้าส้นแหลมที่ยาวเก้าเซนติเมตรก็ถีบไปยังตำแหน่งสำคัญของเย่เทียนอย่างรุนแรง
เย่เทียนรู้สึกตื่นตกใจมาก นี่ถ้าถีบโดนเข้าจริงแล้ว งั้นความสุขทางเพศที่เหลือก็บอกลาก่อนไปได้เลย
คิดไปคิดมา เย่เทียนรีบหลบออกไปทันที ตะโกนบอกเสียงดัง “ที่รัก ฉันไม่ใช่แค่ล้อเธอเล่นเท่านั้นเองเหรอ เธอต้องลงมือโหดขนาดนี้ มาทำลายความสุขครึ่งหลังในชีวิตของพวกเราเลยเหรอ?”
“ใครอยากมีความสุขกับนายในชีวิตครึ่งหลังกัน!”
“พวกเราเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกัน นอกจากเธอแล้วยังมีใครได้อีก?”
เย่เทียนหัวเราะชอบใจตะโกนบอกไป ไม่มีความหมายเกรงกลัวสักนิด
เฉินหวั่นชิงโกรธจนจะระเบิดอารมณ์ออกมา กัดฟันแน่นและวิ่งเข้าไปอีกสองสามก้าวทันใด ต่อยเข้าไปทางเย่เทียนหมัดหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง
เพียงแต่ เย่เทียนที่คาดเดาได้ล่วงหน้าจะให้เธอสมหวังได้ที่ไหน ชั่วขณะที่หญิงสาวยกมือ เย่เทียนก็ควบคุมข้อมือของเธอไว้แน่นหนา
กลิ่นหอมกระโจนเข้าจมูกมา เย่เทียนเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้มบอกว่า “ที่รัก กลิ่นบนตัวเธอหอมดีจริง”
“เชอะ!”
เฉินหวั่นชิงทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจทีหนึ่ง เดิมทีไม่ประนีประนอม ยกเท้าขวาขึ้นโจมตีตำแหน่งสำคัญของเย่เทียนอีกรอบ
ลูกตาเย่เทียนหดตัวเล็กน้อย เท้าทั้งคู่รีบหนีบเข้าด้านในไว้แน่น
หมับ!
เย่เทียนหนีบขาของหญิงสาวไว้อย่างมั่นคง
แต่ เฉินหวั่นชิงยังคงไม่ยอมแพ้ กัดฟันดิ้นรนสุดชีวิต
ภายใต้การต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายควบคุมร่างกายไม่อยู่ ลื่นหน่อยหนึ่งก็สูญเสียสมดุลแล้ว คงไว้ซึ่งท่วงท่าที่ประหลาดแล้วล้มลงไปด้านข้างกันทั้งคู่
ตึง!
เสียงดังสนั่นทีหนึ่ง ทั้งสองต่างล้มลงบนพื้น ที่เกินความคาดหมายของเย่เทียนคือ เฉินหวั่นชิงร้องไห้ออกมาในทันใด
“เป็นอะไรแล้ว? เจ็บตัวแล้วรึเปล่า? เจ็บตรงไหนกัน? ให้ฉันดูหน่อย”
เย่เทียนตกตะลึงถึงที่สุด รีบปล่อยหญิงสาวออก นั่งยองอยู่ด้านหน้าเธอแบบไม่ดื้อแล้วปลอบโยนขึ้นมา
ไม่ว่าชาติที่แล้วหรือว่าชาตินี้ เขายินยอมประสบพบเจอกับการสู้รบที่มีอันตรายสารพัด แต่ไม่ยอมเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่ร้องไห้ การเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา
“ฮือๆ……”
ตอนที่น้ำตาไหลบ่า ชั่วขณะนั้นเฉินหวั่นชิงก็ไม่ควบคุมไว้อีก โอบเย่เทียนไว้แน่นส่งเสียงร้องไห้ดังๆ ออกมา
“ที่รัก ที่รัก ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันเห็นว่าความสัมพันธ์ของพวกเราตึงเครียด ฉันเลยอยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเราผ่อนคลายหน่อยเท่านั้นเอง”
หลังจากผ่านอาการมึนงงครั้งแรกมา เย่เทียนจึงตอบสนองเข้ามา ปรับตำแหน่งสักหน่อยให้หญิงสาวพิงแบบสบายขึ้น แตะหลังของเธอเบาๆ ปลอบใจขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่านายไม่รู้ว่าวันนี้ฉันเจออะไรมาบ้าง”
“โดนลูกพี่ลูกน้องที่ตัวเองรักและเอ็นดูที่สุดหักหลัง และเจออุบัติเหตุในลิฟต์ที่อันตรายมากด้วย ราคาหุ้นของบริษัทตระกูลเฉินก็ตกฮวบอย่างหนัก”
เฉินหวั่นชิงผลักเย่เทียนออกทันใด ยกหมัดขึ้นสูงภายใต้ความงุนงงของเย่เทียน สะอึกสะอื้นพลางทุบตีลงไปอย่างบ้าคลั่ง
“ทำไม! ทำไมแม้แต่กลับถึงบ้านนายยังจะรังแกฉันอีก!”