ในวันที่สาม ชูฮันได้รับเหรียญล่มสลาย 50,000 เหรียญจากหลูอี๋ ปืนไรเฟิล 50 กระบอกและกระสุนอีก 500,000 นัด ทั้ง 300 คนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าต่างเสียใจที่พวกเขาตามหาภารกิจลับไม่สำเร็จ ความรู้สึกของทุกคนดิ่งลึกเต็มไปด้วยความผิดหวัง

 

ชูฮันส่ายหัวและไม่พูดอะไรกับคนพวกนี้ แต่มันก็เป็นเรื่องตลกเหมือนกัน การฝึกนั้นหนักมากซะจนคนพวกนี้หลอนไปหมดแล้ว

 

หลังจากพ้นบรรยากาศที่น่าอึดอัดอันยาวนานจากคนในค่ายเจียนอี๋มาได้ ชูฮันก็กวาดตามองทุกคนที่ต่างมีสีหน้าย่ำแย่และไม่มีความสุขกันเลยในตอนที่กินมื้อกลางวันกัน ชูฮันจึงกระแอมคอและพูดขึ้น “เรามีปืนไรเฟิล 50 กระบอก”

 

ทั้งสามร้อยที่ยืนรวมตัวกันอยู่จ้องมาที่ชูฮันด้วยสายตาอึ้ง

 

นี่ท่านชูฮันโกรธมากขนาดที่จะให้พวกเขาโดนยิงเท่ากับจำนวนปืนเลยเหรอ?

 

“เพราะงั้นตอนนี้เราสามารถตั้งทีมยิงปืนขึ้นได้แล้ว” ชูฮันเปิดตัวทีมยิงปืนขึ้น ความจริงแล้วชูฮันอยากจะตั้งทีมนี้ขึ้นมาก่อนทีมอื่นด้วยซ้ำ แต่เป็นเพราะหิมะถล่มที่ทำให้อาวุธส่วนใหญ่หายไป เพราะงั้นชูฮันจึงยังไม่ได้เอาเรื่องทีมยิงปืนไปใส่ไว้ในหมายกำหนดการณ์เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้อาวุธมา และตอนนี้ทั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็มีเฉินช่าวเย่คนเดียวที่เป็นนักยิงปืนของกองทัพ ซึ่งมันไม่เพียงพอสำหรับการรับมือกับศัตรูในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นลูกผสม ซอมบี้หรือมนุษย์ด้วยกัน ทีมยิงปืนจำเป็นจะต้องมีขึ้น!

 

ทหารสามร้อยคนเป็นกลุ่มแรกและสำคัญที่สุด ในครั้งแรกที่ได้ยินคำพูดของชูฮันทุกคนยังคงนิ่งอึ้ง แต่แล้วเมื่อได้สติทุกคนก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที

 

“ทีมยิงปืน!”

 

“ผม ผม ผม ผมอยากจะเข้าร่วมครับ!”

 

“ผมก็อยากเข้าร่วมครับ ผมเคยจับปืนมาแล้วแต่ยังไม่เคยจับปืนไรเฟิลมาก่อนเลยครับ!”

 

ชูฮันยิ้มและมองไปที่กลุ่มทหารที่กำลังมีท่าทีตื่นเต้น “ทุกคนต้องแสดงพละกำลังแขนของตัวเองออกมา และผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นก่อน จากนั้นฉันจะเลือกคนเข้าทีมยิงปืนเอง”

 

เมื่อพูดเสร็จ ชูฮันก็หันไปมองเฉินช่าวเย่ “พลโทเฉินช่าวเย่”

 

“ครับ หัวหน้า” แววตาของเฉินช่าวเย่เป็นประกายอย่างตื่นเต้น

 

ชูฮันเองก็มีแววตาตื่นเต้นเช่นกัน “ฉันขอสั่งให้นายเป็นกัปตันของทีมยิงปืน และการฝึกฝนทีมยิงปืนก็จะเป็นหน้าที่ของนายเช่นกัน!”

 

“ครับท่าน!” เฉินช่าวเย่ตอบรับเสียงดังด้วยความดีใจ

 

ทีมยิงปืนถูกคัดเลือกหลังจากการคัดกรองอย่างถี่ถ้วนแล้วจนเหลือจำนวนเพียง 20 คนเท่านั้น แต่ในการที่จะทำให้ปืนไรเฟิล 50 กระบอกได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า ชูฮันจึงเลือกคนมาเพิ่มให้ครบ 50 คนให้เฉินช่าวเย่นำไปฝึกฝนเอง แน่นอนว่าทั้ง 50 คนที่ได้เข้าร่วมในทีมยิงปืนไม่ใช่ว่าจะได้รับการฝึกปกติน้อยลง พวกเขาต้องฝึกฝนทั้งในทีมยิงปืน และฝึกฝนปกติร่วมกับทุกคนตามเดิมอย่างไม่มีข้อยกเว้น

 

การฝึกฝนของกองทัพเขี้ยวหมาป่ามักเข้มงวดและเหนือขีดจำกัดเสมอ! แต่การจัดสรรใช้งานปืนไรเฟิล 50 กระบอก ทำให้การบริโภคกระสุนนั้นมีขนาดมาก โดยเฉพาะหลังจากฝึกฝนในวันแรก กระสุนลดลงอย่างรวดเร็วถึง 20,000 นัด ถือว่าการใช้งานต่อหนึ่งคนนั้นหลายร้อยนัดเลยทีเดียว ซึ่งด้วยอัตรานี้แล้วมันคงใช้เวลาไม่นานกว่ากระสุน 500,000 นัดจะหมดลง

 

อย่างไรก็ตาม ชูฮันดูจะไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับเรื่องนี้เท่าไหร่ การใช้งานจำนวนมากนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในขั้นแรกของการฝึกฝน ไม่ใช่ทุกคนจะเป็นเหมือนกับเฉินช่าวเย่ ถ้าต้องการเร่งเทคนิคในการยิงปืนขึ้นเร็วๆมันก็จำเป็นต้องใช้วิธีการนี้ การฝึกยิงบ่อยๆจะเป็นการยกระดับการยิงของพวกเขา

 

สมาชิกในทีมยิงปืนตกใจอย่างมากกับจำนวนกระสุนที่ลดลงอย่างฮวบฮาบโดยไม่รู้ตัว แต่ความตื่นเต้นของพวกเขาก็ไม่ได้ลดน้อยลง ใครๆก็รู้ถึงความสามารถอันเลื่องลือของเฉินช่าวเย่กันทั้งนั้นและการได้เรียนรู้เทคนิคกับเฉินช่าวเย่ที่มีพรสวรรค์ด้านนี้โดยตรง มันน่าเหลือเชือ!

 

ในที่สุดหลังจากผ่านไปห้าวันสำหรับการฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงของทีมยิงปืน พวกเขาก็ได้เห็นร่องรอยของความก้าวหน้า ทั้ง 50 คนสามารถใช้กระสุนจำนวนน้อยสร้างความสำเร็จได้แล้ว ชูฮันเองก็พาพวกเขาไปรอบๆเพื่อฝึกปรือฝีมือเหมือนกัน แม้ว่าพวกเขาจะเจอฝูงซอมบี้แค่กว่าพันตัวและมีซอมบี้ระยะ 2 อยู่แค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นคนพวกนี้ก็ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว พวกเขาใช้กระสุนไปแค่ 5,000 นัดก็สามารถจัดการฝูงซอมบี้ทั้งฝูงนี้ได้

 

ทุกคนได้รับคำชมจากชูฮันและเฉินช่าวเย่

 

ในเวลานี้การฝึกฝนเป็นระยะสามเดือนได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว กลุ่มทหารเริ่มเปลี่ยนเส้นทางมุ่งตรงมุ่งหน้าตรงเข้าสู่เมืองอันลู ทุกคนยิ่งกว่าตื่นเต้น พวกเขาต่างเคยได้ยินถึงค่ายเขี้ยวหมาป่าของพลเอกชูฮันกันทั้งนั้น ถึงแม้มันจะพึ่งก่อตั้งและยังไม่มีอะไรเลย แต่มันก็เป็นสถานที่และความรู้สึกเป็นเจ้าของของท่านชูฮัน มันคือบ้านของพวกเขา!

 

ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็จะได้กลับบ้าน แล้วพวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?

 

ในเป็นป่าลึก อากาศในโลกาวินาศเริ่มค่อยๆอุ่นขึ้นในปลายเดือนมีนาคม แม้มันจะยังมีหิมะชั้นบางๆให้เห็นอยู่ที่พื้น แต่มันก็ไม่เป็นน้ำแข็งและหิมะหนาเป็นชั้นเหมือนเดิมอีก พืชพันธุ์มากมายที่ล้มตายในหน้าหนาวในโลกาวินาศเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมามีชีวิตอีกครั้ง

 

สมาชิกของกองทัพเขี้ยวหมาป่าต่างตื่นเต้นที่กำลังจะได้เข้าสู่เมืองอันและไปถึงจุดหมายปลายทางของพวกเขาในไม่ช้า!

 

กลุ่มเหล่าทหารผ่านศึกที่ฝึกฝนมาเป็นระยะเวลาสามเดือนเต็มนั้นเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย เมื่อนึกถึงวันที่พวกเขาเริ่มต้นการฝึกฝนพิเศษนี่แล้ว มันช่างน่าทึ่ง!

 

พวกเขาฆ่าซอมบี้ไปได้กี่ตัว? กี่เมืองที่พวกเขาบุกเข้าไปไล่ฆ่าซอมบี้? ถ้าบอกไปคงไม่มีใครเชื่อพวกเขาอย่างแน่นอน!

 

ชูฮันยิ้มและมองไปที่กลุ่มคนตรงหน้าที่กำลังนั่งอย่างสบายใจและไม่มีท่าทางเกรงกลัวการพูดคุยกับเขา ทุกคนมีท่าทีสบายๆเมื่ออยู่กับผู้บังคับบัญชาเวลาอยู่ในสนามรบคำสั่งของชูฮันเป็นที่หนึ่ง ทุกคนต้องทำตามกฏระเบียบ แต่นอกสนามรบทุกคนคือเพื่อนที่เชื่อใจกัน

 

นี่เป็นความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บังคับบัญชา และคาดว่าน่าจะเป็นกองกำลังแรกของจีนที่มีความสัมพันธ์แบบนี้

 

ท่ามกลางบรรยากาศอันกลมกลืนและดีงาม ทุกคนกำลังพูดคุยกันเรื่องได้กลับไปที่ค่ายซึ่งคือบ้านของพวกเรา ทันใดนั้นมันก็มีร่างของคนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและพุ่งเข้าหน้าไปหาชูฮันอย่างรวดเร็ว

 

“ท่านพลเอก!” เหล่ยเซอหอบหายใจหนัก เขาดูตื่นตระหนกอย่างมาก “ค้นพบกองกำลังศัตรูครับ!”

 

“อะไรน่ะ?” ชูฮันตกใจ ทันใดนั้นพลังผันผวนของชูฮันก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ฝูงชมพลันปิดปากเงียบสนิทอย่างไม่กล้าส่งเสียงใดๆ ทุกคนวางอาหารที่กินไปเพียงแค่ครึ่งเดียวลง สีหน้าช็อคขณะมองไปทางด้านหลังของเหล่ยเซอ

 

กองกำลังศัตรู ศัตรูไหน ซอมบี้ ลูกผสม หรือมนุษย์?

 

ตลอดระยะเวลาสามเดือนของการฝึกฝน พวกเขามักไปเคาะประตูบ้านคนอื่นก่อนทั้งนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายมาโจมตีพวกเขาก่อน เกิดอะไรขึ้นกัน? ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าเมืองอันลู จู่ๆก็เกิดเรื่องขึ้นตรงหน้าทางเมืองอันลู เป็นไปได้ยังไงที่จะมีกองกำลังศัตรู?

 

เหลือเชื่อ!

 

“เอาน้ำให้เขา” เสียงของชูฮันเต็มไปด้วยความมั่นคงและหนักแน่น แสดงให้เห็นถึงการรับรู้ถึงสถานการณ์ของผู้บังคับบัญชา “เอาน้ำให้เหล่ยเซอดื่มและให้เขาได้พักก่อน แล้วค่อยรายงานรายละเอียด ทุกคนรีบเก็บกวาดพื้นที่และกำจัดร่องรอยของเราให้หมด เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้!”