ฉันมาเพื่อนอนกับนาย  

 

 

สุดท้ายซือเหยี่ยนต้องเอาผ้าขนหนูเช็ดตัวให้เขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ตกหล่นสักบริเวณ เช็ดให้สะอาดหมดจด แม้แต่เส้นผมสักเส้นก็ไม่เว้น 

 

 

“ใส่เสื้อผ้า แล้วกลับห้องไปนอน” 

 

 

เจียงมู่เฉินไม่แม้แต่จะมองเสื้อผ้า เอาแต่ยื่นมือออกไป “ไม่ใส่ อุ้มฉันออกไป” 

 

 

ซือเหยี่ยนขมับกระตุก จิตใต้สำนึกบอกให้รู้ทันทีว่าตัวเองดูท่าจะผ่านคืนนี้ไปไม่ได้ง่ายๆ แล้ว 

 

 

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด อารมณ์โกรธของคุณชายน้อยตระกูลเจียงอยู่ตรงนี้ ตอนเช้าที่โกรธจนเป็นขนาดนั้น ยังไม่รู้จะแก้เผ็ดเอาคืนเขายังไงนี่เอง 

 

 

เขาสอดแขนอุ้มเจียงมู่เฉินขึ้นมา ยามผิวกายเย็นนิดๆ สัมผัสโดนตัวเอง มือซือเหยี่ยนที่กอดเจียงมู่เฉินไว้อดจะเกร็งขึ้นมาไม่ได้ 

 

 

ไม่กล้าคิดอะไรมากไปกว่านี้ รีบอุ้มคนวางลงบนเตียง เขาดึงผ้าห่มมาปิดร่างของเจียงมู่เฉินไว้ “ดึกแล้ว รีบนอนเถอะ” 

 

 

เขาพูดจบก็เตรียมจะปิดไฟเดินออกไป 

 

 

เจียงมู่เฉินเห็นท่าทางนั้นของเขา ก็อดจะขำขึ้นมาไม่ได้ “ซือเหยี่ยน นายคงจะไม่คิดว่าที่ฉันกลับมากับนายวันนี้ ก็เพื่อมานอนกับเตียงของนายใช่ไหม” 

 

 

เจียงมู่เฉินหัวเราะมองหน้าอีกฝ่าย “ฉันมาเพื่อนอนกับนาย” 

 

 

สีหน้าซือเหยี่ยนคร่ำเคร่ง เขารู้สึกว่าไม่ช้าก็เร็วตัวเองต้องโดนคุณชายน้อยตระกูลเจียงเล่นงานจนตายเข้าสักวัน 

 

 

“แน่นอน ถ้านายไม่อยากจะนอนกับฉันก็ไม่เป็นไร จากนี้ทางใครทางมัน คำพูดวันนั้นถือว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน” 

 

 

เจียงมู่เฉินเอียงเอนพิงบนเตียง นัยน์ตาดอกท้อฉายแววจริงจังขึ้นมาทันที ดูเยือกเย็นเอาเรื่อง 

 

 

เวลาแต่ละวินาที แต่ละนาที ผ่านไปเร็วดังสายน้ำ… 

 

 

ซือเหยี่ยนถอนหายใจ เอ่ยเสียงต่ำ “รอผมก่อน ผมจะรีบไปอาบน้ำ” 

 

 

เขาทำแบบนี้ถือว่าประนีประนอมแล้ว เจียงมู่เฉินฟังออกในทันใด ใบหน้านิ่งขรึมปรากฏรอยยิ้มเบาๆ  

 

 

“ได้สิ ไม่รีบนายค่อยๆ อาบ ฉันจะรอนาย” 

 

 

หลังจากซือเหยี่ยนเข้าไปอาบน้ำ เจียงมู่เฉินก็นอนสบายๆ บนเตียงรอเขา ยื่นมือไปหยิบหนังสือบนตู้มาพลิกเปิดดูไปมา 

 

 

เขาดูผ่านๆ ตาไปรู้สึกไม่มีอะไรน่าสนใจ จึงวางกลับไปที่เดิม แล้วนอนพิงบนเตียง 

 

 

ดีที่ซือเหยี่ยนไม่ได้ปล่อยให้เขารอนานเกินไป 

 

 

ประมาณสิบนาทีกว่าๆ ซือเหยี่ยนเดินออกมาจากห้องน้ำ ร่างกายเต็มไปด้วยหยาดไอน้ำ 

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงมู่เฉินได้เห็นซือเหยี่ยนที่เพิ่งอาบน้ำออกมากับตาตัวเองจะจะ รู้สึกเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก 

 

 

ซือเหยี่ยนหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดผมที่ยังเปียกชื้นอยู่ แล้วเดินไปยังหน้าตู้เสื้อผ้าเตรียมจะใส่เสื้อผ้า เจียงมู่เฉินเห็นการกระทำของซือเหยี่ยนก็เอ่ยเตือน “ถึงยังไงอีกสักพักก็ต้องถอด ไม่จำเป็นต้องใส่แล้วมั้ง” 

 

 

มือซือเหยี่ยนที่กำลังเช็ดผมอยู่ชะงักไป สุดท้ายก็ไม่ได้หยิบแล้ว เขาหมุนตัวหันกลับไปเดินเข้าหาเจียงมู่เฉินทีละก้าวๆ 

 

 

เขานอนพิงบนเตียงตามสบาย ช่วงเอวมีมุมของผ้าห่มเกี่ยวเอาไว้ เผยให้เห็นทั้งแขนทั้งขาเปลือยเปล่าอยู่ข้างนอก เรียวขายาวคู่นี้ไขว้ซ้อนกัน 

 

 

เจียงมู่เฉินในสภาพแบบนี้ ทั่วเรือนร่างมีแรงดึงดูดร้ายแรง ถึงขั้นทำให้ซือเหยี่ยนละสายตาแม้แต่วินาทีเดียวไปไม่ได้ 

 

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงใบหน้าได้รูปที่ดูดีไม่แพ้ใคร ดวงตาเชิดขึ้นนิดๆ ดูเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม 

 

 

ซือเหยี่ยนพยายามจะประคับประคองสติสัมปชัญญะของตัวเอง เอามือดึงผ้าห่มข้างตัวเจียงมู่เฉิน แล้วแทรกตัวเข้าไป 

 

 

เขาเพิ่งจะนั่งลง เจียงมู่เฉินก็พลิกตัวตะกายขึ้นไปหาซือเหยี่ยน คนทั้งคนนั่งอยู่บนตัวของซือเหยี่ยน 

 

 

มือข้างหนึ่งยกขึ้นเกี่ยวคอของซือเหยี่ยน เขาโน้มตัวลงมาเล็กน้อยกัดริมฝีปากของซือเหยี่ยน “ซือเหยี่ยน ฉันนอนกับนายดีไหม” 

 

 

สติสัมปชัญญะในหัวสมองซือเหยี่ยนขาดลง เพียงชั่วพริบตาเขาคิดแค่จะกอดกกเจ้าปีศาจจอมยั่วยวนนี้ไว้ในอ้อมกอดด้วยแรงปรารถนาที่มี โอบรัดให้กายแนบกายจนประสานเป็นหนึ่งเดียว 

 

 

แขนเขาออกแรงเพียงนิด ดึงใบหน้างามเข้ามาประทับจูบบนริมฝีปากฉ่ำ 

 

 

คนสองคนต่างพันธนาการกันและกัน ไม่มีใครยอมใคร 

 

 

จูบครั้งนี้ จูบแห่งความปรารถนาโหยหา และอาวรณ์ใจมากล้นเกินบรรยาย 

 

 

… 

 

 

เจียงมู่เฉินหอบหายใจ เอาฝ่ามือดันซือเหยี่ยนออก “เดี๋ยวก่อน ให้ฉันหายใจหน่อย” 

 

 

ซือเหยี่ยนได้ยินเขาพูดมาแบบนี้ ในที่สุดก็หยุดการกระทำลง เส้นเลือดใหญ่บนแขนปูดขึ้นมาชัดราวกับจะระเบิดออกมา หน้าผากแกร่งเหงื่อไหลท่วม 

 

 

เขามองดูเจียงมู่เฉิน ดวงตาร้อนดั่งไฟเผาเกินจะทน