ผมส่งตัวผมให้คุณ 

 

 

รออีกไม่กี่นาที ซือเหยี่ยนก็โน้มตัวลงอยากจะจูบเจียงมู่เฉินอีกครั้ง เจียงมู่เฉินรีบใช้มือผลักเขาออก “ฉันยังพักไม่พอ” 

 

 

เสียงซือเหยี่ยนเจือความแหบ “พักพอแล้ว” 

 

 

เขาพูดจบอยากจะจูบอีกรอบ เจียงมู่เฉินเห็นการกระทำของเขา ก็ฉวยโอกาสตอนซือเหยี่ยนเตรียมจะจูบเขา ดันตัวเขาออก เพิ่มระยะห่างของทั้งสองคนมากขึ้น 

 

 

“คุณชายอย่างฉันบอกแล้วไง ไม่พอก็คือไม่พอ” เจียงมู่เฉินทำหน้าเย็นชา ไม่มีท่าทางอารมณ์เร่าร้อนเมื่อครู่เลยสักนิด 

 

 

เขาเชิดตาขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทางอวดดีออกมาอย่างไม่คาดคิด 

 

 

ซือเหยี่ยนปรับลมหายใจระงับสติอารมณ์ เขาเห็นท่าทีของเจียงมู่เฉินแบบนี้ก็เข้าใจในทันใด เขายกมือขึ้นกุมขมับอย่างเสียไม่ได้ แล้วเอ่ย “คุณจงใจสินะ” 

 

 

เจียงมู่เฉินยิ้มร่า “ชัดเจนมากเลยเหรอ” 

 

 

ซือเหยี่ยนยกยิ้มมุมปากขึ้น 

 

 

เจียงมู่เฉินใช้มือเพียงข้างหนึ่งจับคางของซือเหยี่ยนเชิดขึ้น แล้วเข้าไปพูดใกล้ๆ “นายคิดว่าคุณชายอย่างฉันหลอกง่ายขนาดนั้นเชียว? ซือเหยี่ยน ในเมื่อนายรับปากยอมตกลงคบกับฉันแล้ว ยังจะมีหน้ามาคบกับคนอื่นลับหลังฉันตอนเราคบกันอีกนะ… 

 

 

…นายเห็นฉันเจียงมู่เฉินแค่คบกันเล่นๆ หรือไง” 

 

 

เขาเชิดคางอีกฝ่ายขึ้นเบาๆ การกระทำอ่อนโยน แต่คำพูดหนักแน่นไม่เกรงใจใคร 

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นนัยน์ตาแข็งกระด้างของเขา แล้วยกมุมปากขึ้นมาทันที 

 

 

เดิมเจียงมู่เฉินคิดว่าตามนิสัยไม่เห็นหัวใครหัวสูงของซือเหยี่ยนแล้ว โดนตัวเองแกล้งขนาดนี้ต้องโมโหจนระเบิดลงแน่ๆ 

 

 

แต่รอมาตั้งนานก็ไม่เห็นซือเหยี่ยนโกรธ ตรงกันข้ามกลับยังทำหน้าระรื่นอยู่ได้ 

 

 

“นายยิ้มอะไร” เจียงมู่เฉินอดจะเตะใส่เขาไม่ได้ 

 

 

ซือเหยี่ยนยื่นมือไปคว้าข้อเท้าเขาเอาไว้ ออกแรงเพียงนิดดึงอีกฝ่ายเข้ามาหา คนที่เมื่อครู่หนีจากอ้อมอกลับมาอยู่ในอ้อมกอดอีกจนได้ 

 

 

ซือเหยี่ยนใช้ฟันงับเข้าที่คางของเจียงมู่เฉิน ยิ้มแล้วเอ่ย “ได้ ผมรับปากคุณจะไม่ไปคบกับคนอื่น” 

 

 

คำพูดนี้ในหูเจียงมู่เฉินมีเพียงความรู้สึกพูดแบบขอไปทีเท่านั้น ไม่ได้จริงใจอะไร เขาถลึงตามองซือเหยี่ยน “นายอย่าคิดมาเล่นละครตบตาฉันยังไงก็ได้นะ” 

 

 

ซือเหยี่ยนกัดเขาเข้าอีกครั้ง “ผมไม่เคยเล่นละครตบตาคุณเลย” 

 

 

“โคตรพ่อง เลิกกัดฉันได้แล้ว” เจียงมู่เฉินเอามือป้องคางตัวเอง “ถ้ามีรอยขึ้นมา ซือเหยี่ยน ฉันกับนายได้เห็นดีกันแน่” 

 

 

ซือเหยี่ยนขำกับท่าทางเย่อหยิ่งนั้นจริงๆ ไม่ให้กัดคาง งั้นเขาเปลี่ยนที่กัดก็ได้ ด้วยเหตุนี้ซือเหยี่ยนจึงย้ายสนามรบไปที่ติ่งหูแทน 

 

 

“นายอย่าคิดว่าแบบนี้แล้วจะสอบปากคำนายไม่ได้นะ” เจียงมู่เฉินยังจำเรื่องเมื่อตอนเช้าได้ไม่ลืม 

 

 

ซือเหยี่ยนกัดใบหูเขาไป พลางอธิบายไป “ระหว่างผมกับเธอไปมาหาสู่กันเปิดเผย ไม่มีอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น” 

 

 

“นายอยู่กับฉันยังรู้ว่าต้องเตรียมของขวัญรุ่นลิมิเต็ดให้เธออีก” เจียงมู่เฉินถลึงตาใส่เขาอีก “แล้วทำไมฉันถึงไม่เห็นนายเตรียมของขวัญรุ่นลิมิเต็ดอะไรให้ฉันเลย” 

 

 

ซือเหยี่ยนหัวเราะเบาๆ เขาเข้าใกล้ไปกัดริมฝีปากของเจียงมู่เฉิน “ผมส่งตัวผมให้คุณ ลิมิเต็ดยิ่งกว่าของรุ่นลิมิเต็ดอีก ทั่วโลกมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น” 

 

 

เจียงมู่เฉินอารมณ์ขึ้นจนยกเท้าเตรียมจะถีบ แต่ยังไม่ทันได้ยกก็โดนซือเหยี่ยนคว้าไว้ได้ก่อน 

 

 

“เฉินเฉิน คุณบอกเองว่าจะนอนกับผมไม่ใช่เหรอ” เสียงซือเหยี่ยนเจือความเซ็กซี่ แม้แต่ดวงตาดำขลับคู่นั้นยังดำดิ่งหยั่งลึกลงไปอีก 

 

 

เจียงมู่เฉินแสยะยิ้ม เขาเอามือป้องริมฝีปากที่ซือเหยี่ยนใช้มือลูบอยู่ พูดเน้นคำต่อคำ “นอนกับน้องสาวนายสิ” พูดจบ เท้าอีกข้างก็ถีบเข้าไป 

 

 

ซือเหยี่ยนผู้ไม่ได้ทันระวัง โดนเจียงมู่เฉินถีบไปลงด้านข้าง มองเจียงมู่เฉินเอาผ้าห่มห่อตัวนอนลงไปด้วยความงุนงง 

 

 

“อยากทำไม่ใช่เหรอ” ซือเหยี่ยนชักจะน้อยใจบ้างแล้ว 

 

 

เจียงมู่เฉินทำเสียงเย็นแสดงความไม่พอใจ ไม่แม้แต่จะมองเขาสักนิด “นายทำเองเถอะ เรื่องนี้คุณชายไม่ขอยุ่งด้วย” 

 

 

เห็นอีกฝ่ายหันหลังพูดด้วยแบบนี้ ซือเหยี่ยนกุมขมับอย่างเสียไม่ได้ ก้มหน้ามองน้องชายผู้น่าสงสาร ดันแข็งขันคึกคักขึ้นมาผิดปกติ เขาทำได้แค่เพียงว่าง่ายยอมลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ พูดคุยเรื่องความรู้สึกกับน้องชายของตัวเองเท่านั้น