นายใช้ไม่ได้ใช่ไหม

 

 

เจียงมู่เฉินนอนหลับสบายทั้งคืน ได้พูดสิ่งที่อัดแน่นในใจออกมา เขาสบายใจเป็นบ้า เจียงมู่เฉินหรี่ตาลงเล็กน้อย บิดขี้เกียจยืดเหยียดเอวบางดิ้นขลุกอยู่ใต้ผ้าห่ม

 

 

เขาเพิ่งจะยันกายขึ้นมานั่ง แล้วเหลือบไปเห็นซือเหยี่ยนอยู่ข้างกายพอดี ทำเอาใจเกือบหล่นทีเดียว

 

 

เจียงมู่เฉินมองเขาด้วยสีหน้างงงวย “เช้าแล้วนายยังไม่ไปทำงานอีก อยู่นี่ทำอะไร”

 

 

เขาเกือบจะตกใจจนฉี่ราดแล้ว คิดว่าซือเหยี่ยนไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว ใครจะไปรู้ว่าลืมตามาจะเจอรูปปั้นหินนั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าไร้อารมณ์ไม่แม้แต่จะขยับตัว

 

 

ซือเหยี่ยนลืมตามองเขา ขอบตาค่อนข้างดำคล้ำ มองแวบเดียวเหมือนคนไม่ได้นอนหลับดีๆ มา

 

 

“เมื่อคืนนายออกไปปล้นมาหรือไง ทำไมขอบตาดำแบบนี้”

 

 

ซือเหยี่ยนได้ยินคำพูดของเขา ก็แสยะยิ้มใส่ “ของผมนี่เรียกว่าความต้องการไม่เติมเต็ม”

 

 

มีเจียงมู่เฉินนอนข้างกาย ทั้งคืนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เจ้าหมอนี่ดันชอบมากอดก่ายเขา ดึงยังไงก็ดึงไม่ออก

 

 

‘เจียงมู่เฉินเห็นเขาเป็นคนตายจริงๆ แล้วใช่ไหม’

 

 

‘โดนกอดก่ายขนาดนี้ จะไม่ให้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรแล้วนอนหลับลงได้เหรอ’

 

 

สุดท้ายเขาจนหนทางทำได้แค่ยันตัวขึ้นมานั่ง มองเจียงมู่เฉินนอนหลับสนิทแล้วขบกรามกัดฟันตัวเองทั้งคืน หลายครั้งที่อดใจไม่ได้อยากจะพุ่งเข้าไปกัดคอระบายอารมณ์

 

 

เจียงมู่เฉินชะงักงันไป อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้

 

 

ซือเหยี่ยนหางตากระตุก คิดทบทวนอย่างจริงจัง จะกัดเขาสักคำสองคำระบายไฟแค้นดีไหม

 

 

“ประธานซือ โตจนป่านนี้ ไม่รู้จักพึ่งลำแข้งตัวเองเหรอ”

 

 

เจียงมู่เฉินถากถางไปด้วย ลงจากเตียงไปด้วย เผยให้เห็นเรือนร่างสูงเพรียวเปลือยเปล่า เจียงมู่เฉินเองก็ไม่ได้รีบร้อนปกปิดอะไร ยิ่งกว่านั้นยังไม่กลัวเวลาซือเหยี่ยนอยู่ข้างกายด้วยซ้ำ

 

 

ถึงอย่างไรซือเหยี่ยนก็เห็นเขาเปลือยกายมาไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว จะให้ดูอีกครั้งไม่เห็นจะเป็นไร เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

 

เขาเดินผึ่งผายไปยังหน้าตู้เสื้อผ้าของซือเหยี่ยน เลือกเสื้อเชิ้ตตามใจออกมาหนึ่งตัว ค่อยๆ สวมเข้าไป ท่าทางการใส่เสื้อผ้าของเขาช้ามากๆ ติดกระดุมไม่เสร็จสักที

 

 

ซือเหยี่ยนเห็นท่าทางของเขา แล้วเลิกคิ้วขึ้นมาเงียบๆ “มืออ่อน?”

 

 

เจียงมู่เฉินทำไขสือลูบจมูกป้อยๆ “ตื่นเต้นต่างหาก”

 

 

เสียงเขาเพิ่งจะหยุดลง ก็สวมเสื้อเชิ้ตเสร็จเดินลงไปชั้นล่าง

 

 

ซือเหยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเขาไป หากางเกงจากในนั้นออกมา แล้วเดินตามลงไป

 

 

ที่ชั้นหนึ่ง เจียงมู่เฉินยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์ แล้วรินน้ำให้ตัวเองแก้วหนึ่ง ดื่มน้ำอย่างช้าๆ สบายๆ แก้วใสในมือขาวผ่องของเจียงมู่เฉินคาดไม่ถึงว่าภาพนี้จะสวยงามอย่างบอกไม่ถูกได้

 

 

ซือเหยี่ยนเดินลงถึงชั้นล่างก็เห็นท่าทางเงยหน้าดื่มน้ำของเจียงมู่เฉินพอดี

 

 

ยามลูกกระเดือกแสนเซ็กซี่ขยับขึ้นลงเบาๆ นาทีนั้น นึกไม่ถึงว่าซือเหยี่ยนจะกลืนน้ำลายตามโดยไม่รู้ตัว

 

 

ซือเหยี่ยนรีบเก็บอาการบนใบหน้า เจ้าปีศาจจอมยั่วนี่นะ เผยกายที แม้แต่เขาก็ใกล้จะคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว

 

 

เขายื่นกางเกงส่งให้เจียงมู่เฉิน “ใส่ให้เรียบร้อย”

 

 

เจียงมู่เฉินเลิกคิ้ว มองขาเรียวยาวของตัวเอง แล้วยิ้มเอื่อยๆ “นายช่วยฉันสิ”

 

 

มือซือเหยี่ยนที่จับกางเกงอยู่เกร็งขึ้นมา สุดท้ายก็ยังพยักหน้าจนได้ “ได้ ฉันเอง”

 

 

เขาอุ้มเจียงมู่เฉินขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์บาร์ จากนั้นค่อยๆ ใส่กางเกงให้ เจียงมู่เฉินนั่งเนือยๆ อยู่ตรงนั้น ยกขาให้อีกฝ่ายสวมกางเกงให้ตัวเองได้ตามใจ

 

 

เจียงมู่เฉินสังเกตใบหน้ามุมข้างของซือเหยี่ยนไป พลางถามอย่างจริงจัง “ซือเหยี่ยน นายคงจะไม่…ใช้ไม่ได้หรอกใช่ไหม”

 

 

ทั้งอาบน้ำ ทั้งปลุกปั่น ทั้งช่วยเขาใส่เสื้อผ้า

 

 

นี่ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป คงคุมตัวเองไม่ไหวไปนานแล้ว แต่ทุกครั้งซือเหยี่ยนกลับเป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ เจียงมู่เฉินอดจะเอ่ยปากถามไม่ได้

 

 

มือซือเหยี่ยนที่ช่วยเขาติดกระดุมหยุดชะงักไปสักพัก

 

 

เขารีบติดกระดุมอย่างรวดเร็ว มองดูใบหน้าเจ้าเล่ห์ของเจียงมู่เฉิน แล้วยกมุมปากขึ้น “ใช้ได้ไม่ได้ เดี๋ยวลองคุณก็รู้เอง”

 

 

แววตาเจียงมู่เฉินลุกวาว รีบกระโดดลงมาจากเคาน์เตอร์บาร์ “ฉันลองฝีมือทำอาหารของนายดีกว่า”

 

 

“อะไรกัน ตอนนี้แค่คิดจะลองฝีมือทำอาหารเหรอ” ซือเหยี่ยนอดจะแซวเล่นไม่ได้

 

 

เจียงมู่เฉินขบกราม “หิวจะตายอยู่แล้ว นายรับผิดชอบเลย รีบไปสิ”

 

 

เห็นเขาเริ่มจะระเบิดลง ซือเหยี่ยนถึงเพิ่งเข้าห้องครัวไปทำอาหารเช้าให้เจียงมู่เฉิน กว่าจะชิงตัวมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ยังไงก็ตามจะปล่อยให้เขาหิวตายไม่ได้

 

 

เจียงมู่เฉินยืนพิงเคาน์เตอร์บาร์จับแก้วมาเล่นไป พลางเอ่ยถาม “ทำไมนายถึงยอมตกลงกับฉัน”