บทที่ 1506 – สังหารผู้อาวุโสที่แข็งแกร่ง

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1506 – สังหารผู้อาวุโสที่แข็งแกร่ง

ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยความเร็วที่ไม่ขาดฝัน ไร้ซึ่งเสียงสะท้อนแม้กระทั่งง้าวทองทะลวงศัตรูได้ฉีกกระชากเลือดของศัตรูให้ต้องหลั่งเลือด

ความเงียบยังคงอึมครึ้ม ไม่มีใครคาดคิดว่าชิงสุ่ยจะสามารถเด็ดหัวของชายชรา ในขณะที่ผู้อาวุโสอีกสามคนกำลังรับมือกับสัตว์อสูร และกำลังจนมุมโดยการโจมตีของอสูรสยบมังกรและอสูรนรกรัตติกาล สถานการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อย จนกระทั้งอสูรสยบมังกรได้ฉีกกระชากชิ้นเนื้อบนแขนของชราคนหนึ่งจนเกือบจะสังหารพวกเขาไปได้

หลังจากที่สังหารชายชราผู้นั้นไปแรงกดดันที่ชิงสุ่ยได้รับตอนนี้ลดลงเป็นอย่างมาก เขามองไปที่ชายชราอีกคนนึง ซึ่งมันทำให้ชายชราผู้นั้นเริ่มรู้สึกเสียใจที่เริ่มต้นเรื่องนี้

ชายชราผู้นั้นเหมือนจะรับรู้ถึงจุดจบของเรื่องนี้ แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินต่อไป เขาสูดลมหายใจเขาลึกๆก่อนที่เขาจะฟาดคฆาเข้าหาชิงสุ่ย

ฝ่ามือล่องหน!!

ชายชรายังคงยืนนิ่ง แต่ไม้เท้าในมือของเขา กลับพุ่งออกไปหาชิงสุ่ยที่อยู่ห่างออไป เงาไม้เท้าสีโลหิตทอแสงเปล่งประกายผ่านคลื่นเมฆพุ่งเข้าปะทะกับชิงสุ่ยราวกับอสูรกายที่ตกจากสวรรค์

ปัง!!!

ชิงสุ่ยไม่ได้ออกคำสั่งอสูรนรกรัตติกาลให้โจมตีกลับ แต่เขาเลือกที่จะใช้หุบเขา 9 เทวาโจมตีสวนกลับไปแทน เพราะหุบเขา 9 เทวาเหมาะสมที่จะใช้ในการโจมตีมากกว่า และอย่างรวดเร็วและคล่องตัวสามารถพลิกแพลงรูปแบบได้มากขึ้นเช่นกัน

ด้วยแรงระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ หุบเขา 9 เทวากระแทกเข้ากับฝ่ามือล่องหนจนก่อให้เกิดแรงระเบิดดังสนั่น และด้วยความสามารถในการควบคุมหุบเขา 9 เทวาของชิงสุ่ย จึงทำให้เขาได้รับผลกระทบอันน้อยนิดและไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย นี่คือสิ่งที่เขาภูมิใจเป็นอย่างมาก

ชายชรารู้สึกตกใจทันทีที่เห็นชิงสุ่ยยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ฝ่ามือล่องหนของเขาคือทักษะสังหารระดับสวรรค์ แน่นอนว่าพลังของมันจะต้องอยู่เหนือกว่าการโจมตีทั้งปวง แต่กลับไม่สามารถสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วนบนร่างกายของชิงสุ่ย

อสูรอัสนีคลั่งใช้โอกาสนี้ในการโจมตีสายฟ้าของมันออกไปพุ่งเข้าหาร่างของชายชรา และดูเหมือนว่าคราวนี้ชีวิตของชายชราจะอยู่ในกำมือของสัตว์อสูร

อสูรอัสนีคลั่งร่างกายห่อหุ้มไปด้วยเถาวัลย์อสูรกระหายเลือด ซึ่งเถาวัลย์เหล่านี้จะช่วยป้องกันและสร้างบาดแผลให้กับชายชราแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดี และเถาวัลย์เหล่านี้ยังใช้โอกาสในการพุ่งออกไปเพื่อโจมตีชายชรา แต่ความสามารถของชายชราก็ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่สามารถหลบหลีกและสะท้อนพลังต่อไปได้แต่เขาก็ไม่สามารถทำลายเถาวัลย์เหล่านี้ได้

นอกเสียจาก ชิงสุ่ยจะยอมให้เขาทำลายมัน

ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งของอสูรอัสนีคลั่งยังคงเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ๆและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อมีการประสานงานการโจมตีเข้ากับชิงสุ่ยและอสูรสยบมังกร

ชายชรากำลังถูกคุกคามอย่างหนักจากการประสานการโจมตีคนทั้งสัตว์อสูรและชิงสุ่ย ถ้าหากเขาเกิดหวาดกลัวหรือพลาดพลั้ง ชีวิตของเขาก็คงจะจบสิ้น

อย่างน้อยที่สุดถ้าหากเขาสามารถหยุดสัตว์อสูรตัวนึงเอาไว้ได้ อีก 2 ตัวที่เหลือก็จะไม่ใช่ปัญหาของเขาอีกต่อไป  แต่ช่างน่าเสียดายที่ ชิงสุ่ยก็ได้คิดเรื่องเหล่านี้เอาไว้แล้วเขาจึงตั้งใจเลือกสัตว์อสูรอัสนีคลั่งและอสูรสยบมังกรที่โดดเด่นทางด้านความเร็ว ใช้ในการโจมตีชายชรา

แต่ถึงกระนั้นชายชราอีกคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี เขาสามารถปลดปล่อยพลังในการรุกคืบและตั้งรับได้อย่างเหมาะสม พวกเขาไม่กล้าเสี่ยงชีวิตและเลือกที่จะยืนเคียงคู่กัน พร้อมทั้งเดินหน้าและถอยหลังไปในทิศทางเดียวกัน

“ท่านหมอเทวดาชิงช่างน่าเกรงขามเหลือเกิน หนึ่งในพวกมันถูกกำจัดไปในเวลาอันรวดเร็วยิ่งนัก”

“หากยังเป็นเช่นนี้ ตระกูลสือจะต้องจบสิ้นอย่างแน่นอน”

“สถานการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตระกูลสือ และจะต้องจบลงด้วยน้ำมือของพวกเขาเอง”

“ตระกูลสือถึงคราวอวสาน”

“ตระกูลสือเป็นตระกูลที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนแล้วนะ พวกเขาคงไม่ยอมให้เรื่องต้องจบลงเพียงเท่านี้แน่ ข้าคิดว่าพวกเขาจะต้องเชื่อมั่นในพลังปราณของตัวเองอย่างแน่นอน”

……..

ในเมื่อศัตรูกำลังร่วมมือกัน ชิงสุ่ยจึงทำแบบเดียวกันด้วย ทุกการโจมตีของสัตว์อสูรที่ประสานงานกันอย่างลงตัว มันยิ่งทำชิงสุ่ยประหลาดใจและความเครียดของเขาก็ลดลงเรื่อยๆ

ชิงสุ่ยเฝ้ามองดูการโจมตีของสัตว์อสูรอัสนีคลั่งที่ยังคงฟาดฟันสายฟ้าออกไปอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่ามันจะเป็นการโจมตีที่ดูอ่อนแอ แต่ก็ขัดขวางการกระทำของชายชราให้พวกเขาไม่อาจเดินหน้าต่อ การโจมตียังคงโหมกระหน่ำ ซึ่งจะใช้เวลาเป็นตัวกำหนดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น

ส่วนทางด้านค่ายกลที่ ชานชาลาทั้ง 3 ได้สร้างขึ้นครอบคลุมทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังรวมถึงตรงกลางตัวของชิงสุ่ย จึงเป็นตัวบีบบังคับให้ชิงสุ่ยไม่อาจวางแผนที่ดีกว่านี้ได้ แต่เขาก็ยังคงจดจ่อกับการต่อสู้และมองหาโอกาสในการเผด็จศึก

ตูม ตูมมม!!!!

สัตว์อสูรทั้ง 2 ตัวของชิงสุ่ยถูกโจมตีจนต้องหยุดไป เช่นเดียวกับชายชราสูงสุดที่ปลดปล่อยพลังโจมตีถาโถมเข้าใส่หุบเขา 9 เทวาจนมันต้องชะงักไปเช่นกัน

ราวกับว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่ชายชราวางเอาไว้ พวกเขาได้กำจัดอุปสรรคขวางกั้นระหว่างพวกเขากลับชิงสุ่ยออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะเข้าโจมตีชิงสุ่ย ร่างกายของพวกเขาก็เปล่งประกายแสงสีแดงสว่างเรืองราง

ชิงสุ่ยรับรู้ได้ถึงคลื่นแห่งความตื่นตระหนกที่กำลังโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง

ทะเลโลหิตไหลสิ้นสุด!!

ทันใดนั้นแรงกดดันมหาศาลก็ระเบิดออก ทุกอย่างกำลังถูกความร้อนเผาผลาญ แรงกดดันที่เกิดขึ้นกำลังบีบอัดหัวใจคล้ายกับว่ามันกำลังจะระเบิดออก

ตูมมมมม!!

ชิงสุ่ยไม่อาจเข้าใจความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ ราวกับว่าตัวเขานั้นถูกกระแทกด้วยคลื่นน้ำมหาศาลที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือด ทุกอย่างกำลังแทรกซึมเข้าสู่สมองของเขา และปล่อยให้สมองของเขาหยุดชะงัก

ชิงสุ่ยกำลังต่อต้าน ถ้าหากสมองของเขาหยุดการทำงานลงท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ มันคงไม่ดีอย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันชายชราสูงสุดก็ได้ปลดปล่อยกระบวนท่า ที่เต็มไปด้วยคลื่นแห่งความบ้าคลั่งและโหดร้าย มันเป็นความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ แต่ในตอนนี้ภายในหัวสมองหรือสติปัญญาทั้งหลายของชิงสุ่ยได้ถูกขจัดออกไปหมดแล้วเพราะการช่วยเหลือของรูปภาพหยิน-หยางที่อยู่ในทะเลแห่งปัญญาของเขา

ชิงสุ่ยตะโกนเรียกอสูรอัสนีคลั่ง

คลื่นอัสนีจู่โจม!!

ทันทีที่สัตว์อสูรของเขาปลดปล่อยพลัง ชิงสุ่ยก็เลยเรียก หนอนไหมมังกรทองที่อยู่ไหนสระโลหิตแก่นแท้ออกมา และสั่งให้มันพุ่งเจาะทะลุกลางหน้าผากของชายชราสูงสุด

ด้วยระยะระหว่างชายชราสูงสุดและชิงสุ่ยที่ใกล้กันเกินไป อาจเป็นเพราะว่าพวกเขาโจมตีทั้งอสูรสยบมังกรและอสูรนรกรัตติกาล จนพวกมันไม่อาจจะมาต่อสู้ได้จึงทำให้พวกเขาคิดว่าตอนนี้พวกเขานั้นปลอดภัยจากสัตว์อสูรทั้งหลายแล้ว ในขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็รอโอกาสนี้ในการเลือกหนอนไหมมังกรทองออกมาใช้งาน

ตัวของชายชราสูงสุด ไม่แน่ใจว่าอสูรอัสนีคลั่งจะมีทักษะในการหยุดอีกหรือไม่ แต่อย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้เกรงกลัว และรู้ว่าชิงสุ่ยไม่อาจขยับได้พวกเขาจึงใช้ช่วงเวลานี้ในการลงมือ

แต่ทำไมกันชายหนุ่มผู้นี้ถึงครอบครองสิ่งของมากมายที่มีพลังอันน่าสะพรึงกลัว? ตัวของชายชรานั้นไม่รู้ว่าอะไรเจาะทะลุหัวของเขาไป แต่เขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดอันมหาศาลที่รุนแรงทวีคูณราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังกัดแทะสมองของเขาอยู่

แต่ก่อนที่อสูรอัสนีคลั่งจะปลดปล่อยพลังสายฟ้าปิดฉากออกไป ตัวของชายชราสูงสุดก็หมดสติลงเสร็จแล้ว แต่ที่ชิงสุ่ยออกคำสั่งให้อสูรอัสนีคลั่งโจมตีก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด เขากลัวว่าชายชราสูงสุดจะมีพลังมากพอที่จะต้านทานการทำลายล้างของหนอนไหมมังกรทอง แต่แล้วชิงสุ่ยก็คิดผิด

และเมื่อแผนการของเขาสำเร็จลุล่วง ชายชราสูงสุดที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาชายชราทั้งสาม ก็หมดสิทธิ์กลับมาต่อสู้อีก

บรรยากาศกลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในครั้งนี้คนที่ถูกสังหารคือผู้อาวุโสสูงสุด เสียงของเขาที่ร่วงหล่นตกกระแทกสู่พื้นดินดังชัดเจน ทุกคนทั่วอาณาบริเวณต่างก็แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหลินห่ายจะเด็กหนุ่มสังหารจนตายคามือ

หนอนไหมมังกรทองเจาะผ่านหน้าผากและกลับเข้าไปหาชิงสุ่ย เช่นเดียวกับอสูรสยบมังกรและ อสูรนรกรัตติกาล ส่วนคนอีก 2 คนที่ยังเหลือรอดต่างก็ดวงตาเบิกกว้างด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากเชื่อ

เพียงแค่ความตายของชายชราผู้นี้ก็เพียงพอจะทำให้คนที่เหลือรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ตอนนี้พวกเขาเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ พวกเขารู้ซึ้งแล้วถึงความสามารถในการต่อสู้ของชิงสุ่ย

เมื่อมองไปที่ชายชราที่เหลืออยู่ทั้งสองคน ชิงสุ่ยก็ยังคงเป็นกังวลเพราะว่าหลังจากนี้หนอนไหมมังกรทองคงไม่อาจใช้การได้อีกแล้วเพราะทั้งสองต่างรู้ถึงผลที่กระทำ หากกระทำซ้ำรอยกับชายชราสูงสุด เขาเลือกที่จะใช้มันเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลที่จะส่งผลต่อชัยชนะ

ซึ่งการกระทำของเขาก็ทำให้ชายชราที่เหลืออยู่ทั้งสองคนรู้สึกถึงผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรง

“ลงมาซะ ตระกูลสือยอมรับความพ่ายแพ้”

เสียงที่แหบพร่าดังขึ้น โทนเสียงของเขานั้นนิ่งสงบหลายอารมณ์

“น้อมรับคำสั่ง ท่านเจ้าตระกูล!!”

ชายชราที่เหลืออยู่ทั้งสองคนโค้งคำนับไปยังแหล่งกำเนิดเสียงและลอยล่องลงสู่พื้นดิน

ชิงสุ่ยไม่ได้หยุดการกระทำของพวก

“เด็กหนุ่มผู้นี้ช่างมีพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่เสียจริง แม้แต่ชายชราที่มีความสามารถเช่นเดียวกับข้าและเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ยิ่ง ยังพ่ายแพ้ให้กับเจ้า หากเจ้าต้องการอะไรจงบอกข้ามา ข้าพร้อมจะทำตามความต้องการของ” แม้ว่าเสี่ยงจะดูแก่ชราแต่กลับเต็มไปด้วยความสง่างาม

“ผู้น้อยมีบางสิ่งบางอย่างที่อยากจะถาม พอจะเป็นไปได้หรือไม่ถ้าหากพวกเราจะได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว”ชิงสุ่ยคิดเล็กน้อยขณะที่เขาเอ่ยถามโดยใช้เสียงผ่านโทรจิต

ในเมื่อตัวของเด็กหนุ่มผู้นี้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับชายชรา และคนที่สูญเสียชีวิตไปนั้นก็มีเพียงแค่หยิบมือ มันจะดีกว่าถ้าหากเขาไม่เลือกที่จะเสี่ยง แม้ว่าชิงสุ่ยจะสังหารสมาชิกบางส่วนของตระกูลสือไป แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะคำเชิญมรณะ ชายชราผู้นี้กล่าวออกมาอย่างไร้อารมณ์เช่นเคย นี่คงเป็นภาพลักษณ์ที่ชายชราตระกูลสือต้องการจะสื่อ