ตอนที่ 697 ความสามารถเทวะแห่งตำนาน
ที่ด้านบนลานประลองยุทธ์ ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานต่างมองกัน
โดยไม่พูดกล่าว
“เย่ว์หลาน พวกเราต้องสู้กันจริงหรือ?” ฉินหยุนใช้จิตสื่อสารส่งเสียง
ถามเชี่ยวเย่ว์หลาน
“ไม่ดีนัก หากพวกเราสู้กันจริง คิดหาผู้ชนะและผู้แพ้เป็นเรื่องยากเย็น
ยิ่งไปกว่านั้น จะเป็นการเผยกำลังแท้จริงของพวกเรา และอาจถึงขั้น
ได้รับบาดเจ็บ!” เชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงบอกความคิดของนางต่อฉิน
หยุน
“อย่างนั้นแสร้งทำเป็นสู้กัน แล้วให้ข้าแพ้!” ฉินหยุนหัวเราะกล่าว
“ไม่ได้ ข้าไม่รับไว้!” ขณะเชี่ยวเย่ว์หลานส่งเสียงสื่อสารบอกมา เจี้ยน
สือเทียนก็ตะโกน “เริ่ม!”
การศึกเริ่มขึ้น ผู้คนต่างตั้งใจรับชมบนลานประลองยุทธ์
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานไม่ได้เริ่มสู้กันในทันที
เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าว “ฉินหยุน พวกเราต่างแข็งแกร่งกันทั้งคู่ หาก
พวกเราคิดหาผู้ชนะ พวกเราย่อมต้องได้รับบาดเจ็บหนัก! นี่ถือไม่ดี
ต่อพวกเราทั้งคู่!”
ฉินหยุนตอบรับเพียงขมวดคิ้ว เขาไม่ทราบว่าเชี่ยวเย่ว์หลานคิดทำ
อะไร
“แต่นี่คืองานประลองยุทธ์ มันต้องมีผู้ชนะเป็นหนึ่งในพวกเรา และ
ต้องตัดสินผ่านการต่อสู้!” ฉินหยุนกล่าว เขาเล่นตามน้ำที่เชี่ยวเย่ว์
หลานส่งบทมา
“ถูกต้องแล้ว! แต่หากพวกเราคิดตัดสินหาผู้ชนะและผู้พ่ายแพ้ในการ
ประลอง พวกเราย่อมบาดเจ็บหนัก ทั้งยังต้องใช้พลังงานกันไปอย่าง
มหาศาล!”
“ตอนนี้พวกเราต่างได้รับต้นกำเนิดเซียนกันแล้ว กล่าวได้ว่าพวกเรา
ได้รับผลประโยชน์ก้อนโต แทบไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องเอาชัยชนะ
ในท้ายที่สุดนี้!” เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าว
หลังจากที่ผู้คนรอบด้านลานประลองยุทธ์ได้รับฟัง พวกเขาพลันสบถ
กันออกมา เพราะพวกเขาคิดอยากได้เห็นศึกระหว่างยอดฝีมือรุ่นเยาว์
ทั้งสอง แต่กระนั้นตอนนี้ เชี่ยวเย่ว์หลานกลับไม่คิดสู้
ราชันแคว้นมู่แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าเอ่ยคำ “งานประลองยุทธ์
จำเป็นต้องผ่านศึกอันดุเดือดเลือดพล่านเพื่อตัดสินผู้ชนะ หากเจ้าไม่
คิดสู้ อย่างนั้นก็ถือเป็นการไม่ให้เกียรติต่องานประลองยุทธ์!”
“แล้วอย่างไร? ข้าไม่ได้ทำผิดกฎข้อใด!” เชี่ยวเย่ว์หลานแค่นเสียง
ตอบกลับ
ผู้คนของแคว้นมังกรทะยานฟ้าต่างไม่ยินดี พวกเขากล่าวโทษว่า
เชี่ยวเย่ว์หลานกำลังลบหลู่เกียรติแห่งงานประลองยุทธ์
ฉินหยุนเอ่ยถาม “อย่างนั้นพวกเราจะหาตัวผู้ชนะเลิศในงานประลอง
นี้อย่างไร?”
เชี่ยวเย่ว์หลานหัวเราะกล่าว “เป่ ายิงฉุบ! หนึ่งครั้งตัดสินผู้ชนะและผู้
พ่ายแพ้ อย่างนี้เป็นไร?”
ฉินหยุนพอได้เห็นการตอบสนองจากกลุ่มคนของแคว้นมังกรทะยาน
ฟ้า เขายิ่งคิดว่าข้อเสนอของเชี่ยวเย่ว์หลานนี้ออกจะน่าสนุกเกินไป
แล้ว
หากพวกเขาต่อสู้กันจริง มันจะเป็นการเผยกำลังแท้จริงออกมา ทั้งยัง
จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงได้
ถึงตอนนั้น ผู้คนของแคว้นมังกรทะยานฟ้าย่อมได้เห็นพลังที่พวก
เขามีกันแน่แล้ว
“ได้ งั้นก็เอาตามนั้น!” ฉินหยุนกล่าวพร้อมเดินไป
เปา… ยิง… ฉุบ!
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานถึงกับเล่นกันจริง
เชี่ยวเย่ว์หลานออกกรรไกร ฉินหยุนออกค้อน
“ฮ่าฮ่า ข้าชนะ!” ฉินหยุนหัวเราะยินดี
“เหอะ โชคเจ้าดีไม่เลวนี่! ข้ายอมแพ้!” เชี่ยวเย่ว์หลานรักษาคำพูด
นางออกปากขอยอมแพ้
ผู้คนทั้งหมดที่นี้ต่างอึ้งกันถ้วนหน้า
ชายหนุ่มและหญิงสาวตรงหน้า ถึงขั้นตัดสินกันโดยใช้วิธีการเด็ก
เล่นเพื่อหาผู้ชนะ!
เจี้ยนหนันหู่ที่ได้ผู้อื่นช่วยพยุง ยังต้องเผยสีหน้าโง่งมตะโกนคำออก
“พวกนั้นเล่นบ้าอะไร? เร่งรีบสู้กันได้แล้ว!”
เจี้ยนรั่วหยานยังไม่คาดคิดว่าเรื่องราวจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ นางนึก
ว่าฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานจะต่อสู้กันอย่างจริงจังเสียอีก
เจี้ยนสือเทียนอึ้ง เขาประกาศ “ฉินหยุนชนะ ได้รับตำแหน่งผู้ชนะเลิศ
ของงานประลองยุทธ์!”
เชี่ยวเย่ว์หลานหันมองทางกลุ่มคนของแคว้นมังกรทะยานฟ้าพร้อม
ตะโกน “พวกเจ้ากล่าวว่าหากต้องการท้าประลอง ก็ต้องนำต้นกำเนิด
เซียนมาเป็นเดิมพัน ตอนนี้ ข้าเชี่ยวเย่ว์หลานผู้นี้ขอท้าประลอง!”
ราชันแคว้นมู่แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้าเผยยิ้ม “เป็นสตรีที่ฉลาดยิ่ง
นัก เพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด นางไม่คิดสู้กับฉินหยุน แต่เลือกที่
จะเก็บงำกำลังเอาไว้เพื่อท้าประลองต่อพวกเรา หาโอกาสชนะเพื่อ
คว้าต้นกำเนิดเซียนไป”
ฉินหยุนตะโกนขึ้น “ต้นกำเนิดเซียนของข้าเล่า? รวมถึงวิญญาณยุทธ์
ความสามารถเทวะ ข้ายังไม่ได้รับรางวัลใด!”
“ผู้คนของเขตแดนลึกล้ำจะมาถึงในอีกไม่ช้า ข้าคือผู้ที่จะส่งมอบ
วิญญาณยุทธ์และวิชายุทธ์สวรรค์!” ราชันแคว้นเยี่ยก้าวเดินขึ้นสู่ลาน
ประลองยุทธ์ด้วยสีหน้าไม่ยินดี
เชี่ยวเย่ว์หลานได้รับตำรา ฉินหยุนได้รับไข่มุกสะกดวิญญาณ
“ความสามารถเทวะนี้คืออะไร? หลังข้าผสานรวมกับมันแล้วจะใช้ได้
เลยหรือ?” ฉินหยุนมองไข่มุกพร้อมเอ่ยถาม
“เจ้าจำเป็นต้องให้อาจารย์ขัดเกลาวิญญาณช่วยเหลือผสานวิญญาณ
ยุทธ์ความสามารถเทวะ! ข้าเพียงแนะนำให้แก่เจ้าได้คนหนึ่ง แต่เจ้า
ต้องจ่ายหนึ่งหมื่นล้านเหรียญม่วงเพื่อให้เขาช่วยขัดเกลาให้!” ราชัน
แคว้นเยี่ยกล่าวคำ
ฉินหยุนสามารถใช้วิญญาณยุทธ์ตะวันทมิฬกลืนกินโดยตรง ดังนั้น
เขาไม่จำเป็นต้องใช้อาจารย์ขัดเกลาวิญญาณแต่อย่างใด กระทั่งว่า
จำเป็น ตัวเขาเองก็เป็นอาจารย์ขัดเกลาวิญญาณอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่
จำเป็นต้องไปหาผู้อื่นให้ช่วยเหลือแต่อย่างใด
“อย่างนั้นนี่คือความสามารถเทวะอันใด?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างนึก
สงสัย
“ความสามารถเทวะแม่น้ำ มันจะช่วยเจ้าควบแน่นมวลน้ำมหาศาล!”
ราชันแคว้นเยี่ยกล่าว
เสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ฝูงชนต่างระเบิดเสียงหัวเราะกันออกมา
“เป็นความสามารถเทวะที่ไร้ค่านัก นี่มันแตกต่างอันใดกับวิญญาณ
ยุทธ์น้ำทั่วไป? คิดเรียกน้ำก็ได้น้ำเหมือนกัน!”
“ย่อมแตกต่าง ฉินหยุนไม่มีวิญญาณยุทธ์น้ำ กระนั้นเขาได้รับความ
สามารถเทวะแม่น้ำ ทำให้เขาสามารถควบแน่นน้ำขึ้นเมื่อใดก็ได้ที่
ต้องการ!”
“จริงด้วย เมื่อใดภายหน้าเขาคิดอาบน้ำ เช่นนั้นก็มีน้ำพกพาไปทุกที่
ทั้งยังมีอัคคีเพลิง ต้มน้ำร้อนอาบได้พอดี!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า… สีหน้าเมื่อครู่คาดหวังไว้สูงนัก กระนั้นตอนนี้กลับกลาย
เป็นผิดหวังแล้ว!”
“ตำหนักจารึกเทวะต้องจงใจส่งมอบความสามารถเทวะเศษเดนให้
เป็นแน่ เหอะ ผู้ใดใช้ให้เขามีเรื่องกับตำหนักจารึกเทวะกัน!”
ฉินหยุนรับฟังเสียงหัวเราะเย้ยหยันของผู้คน เขารู้สึกไม่ยินดี
ราชันแคว้นเยี่ยยังดูภาคภูมิในสิ่งที่เพิ่งส่งมอบ เขายิ้มกล่าว “ฉินหยุน
เจ้าไม่อาจกล่าวโทษข้าในเรื่องนี้ ข้ามีเพียงแต่ความสามารถเทวะนี้!”
ฉินหยุนเก็บความสามารถเทวะแม่น้ำกลับไป เขาได้แต่เชื่อว่าทุก
ความสามารถเทวะต้องมีประโยชน์ใช้งาน ไม่อย่างนั้นแล้ว พวกมัน
จะไม่มีทางถูกเรียกขานเป็นความสามารถเทวะ
ทันใดนี้เอง ชายวัยกลางคนในชุดขาวสองคนพลันปรากฏลงจาก
ฟากฟ้า
“คนของเขตแดนลึกล้ำมาถึงแล้ว! เป็นครึ่งเซียนวัยกลางคน!” คนผู้
หนึ่งอุทานดังขึ้น
ครึ่งเซียนทั้งหลายต่างเป็นผู้ชรา ดังนั้นครึ่งเซียนวัยกลางคนย่อมหมาย
ถึงยังเยาว์วัย พวกเขาผ่านการเลื่อนระดับมาได้ตั้งแต่ยังอายุไม่มาก
ถัดจากนี้คือพิธีส่งมอบต้นกำเนิดเซียน
เปาเฉิงโฉ่ว แม่เฒ่าหยุนเหยาแห่งเกาะจันทราปีศาจ และราชันแคว้น
เยี่ยแห่งตำหนักจารึกเทวะ พวกเขาต่างได้รับบอลสีขาวขนาดครึ่งตัว
คน พวกมันเปรียบดังหินสีขาว และไม่มีออร่าใดเผยออกมาแม้เพียง
นิด
พวกมันเหล่านี้คือต้นกำเนิดเซียนที่ถูกผนึกไว้!
หลังได้รับมา และผ่านการค้นหาสถานที่เหมาะสม จึงค่อยนำพวก
มันไปคลายผนึกเพื่อให้ปลดปล่อยพลังงานเซียน
ได้เห็นเรื่องราวนี้ ทำเอาขั้วอำนาจทั้งหลายเกิดความริษยากันขึ้นมา
ครึ่งเซียนจากเขตแดนลึกล้ำเพียงอธิบายเรื่องราวจำนวนหนึ่งต่อราชัน
แคว้นเยี่ย จากนั้นจึงเดินทางกลับ
ครึ่งเซียนตระกูลหลงแห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า รวมถึงราชันแคว้นมู่
จากตำหนักจารึกเทวะ พวกเขาต่างมองที่ต้นกำเนิดเซียนอย่างละโมบ
แม้พวกเขาได้รับมาหนึ่ง กระนั้นที่รู้สึกคือยังไม่พอ
หลายผู้คนต่างผิดหวัง เพราะฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานหาได้สู้ต่อ
กัน
กระนั้นถัดจากนี้ จะเป็นเชี่ยวเย่ว์หลานและฉินหยุนเดิมพันต่อสู้กับ
คนของแคว้นมังกรทะยานฟ้า!
แคว้นมังกรทะยานฟ้ามองเหยียดต่อแคว้นมหาดวงดาวเสมอมา พวก
เขามักทำตัวเป็นผู้ที่แข็งแกร่งกว่าแคว้นมหาดวงดาว
ตอนนี้ จะเป็นการตัดสินกันระหว่างแคว้นมหาดวงดาวและแคว้น
มังกรทะยานฟ้า!
เปาเฉิงโฉ่วยอมให้ฉินหยุนไปเดิมพัน เพราะเขามั่นใจในกำลังของ
ฉินหยุนอย่างยิ่ง
แม่เฒ่าหยุนเหยาแห่งเกาะจันทราปีศาจเองก็ทราบดีว่าเชี่ยวเย่ว์หลาน
แข็งแกร่งเพียงใด นางจึงเห็นด้วย
ผู้คนของแคว้นมังกรทะยานฟ้าต่างได้เห็นว่าฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์
หลานไม่อ่อนด้อย กระนั้นก็ยังคิด ว่าศิษย์ของตนสามารถเอาชนะ
ฉินหยุนและเชี่ยวเย่ว์หลานได้!
เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าว “ข้าสู้ก่อน ผู้ใดคิดสู้กับข้า!”
ราชันแคว้นมู่เผยยิ้ม “ศิษย์ข้าจะสู้กับเจ้าเอง!”
การเดิมพันโดยใช้ต้นกำเนิดเซียน แม่เฒ่าหยุนเหยาแหละราชันแคว้น
มู่ย่อมต้องระแวดระวังกันทุกฝีเก้า พวกเขาต่างเชิญเจี้ยนสือเทียนมา
เป็นคนกลาง
หรือก็คือ พวกเขาต่างให้เจี้ยนสือเทียนถือครองต้นกำเนิดเซียนเอาไว้
วิธีนี้ พวกเขาจะได้ไม่ต้องกังวลว่าอีกฝ่ายจะกลับคืนคำพูด
ฉินหยุนเดินลงจากลานประลองยุทธ์ กลับมาที่ข้างกายเจี้ยนรั่วหยาน
ชายหนุ่มจากตำหนักจารึกเทวะถอดชุดคลุมตัวนอก เสื้อตัวในเป็นสี
ดำแดง ใบหน้าหล่อเหลานั้นเผยรอยยิ้มอหังการโฉดชั่ว
“ข้าคือศิษย์ของท่านราชันแคว้นมู่แห่งตำหนักจารึกเทวะจากแคว้น
มังกรทะยานฟ้า ปันหยุนหั่ว”
“โอ้” เชี่ยวเย่ว์หลานรับคำเสียงเย็น
“แม่นางเชี่ยวเย่ว์หลาน แม้เจ้าปิดบังครึ่งใบหน้า ข้าก็ยังได้เห็นว่าเจ้า
มีรูปโฉมเลิศล้ำ เจ้าพอจะปลดผ้าคลุมหน้าออกให้ข้าได้เห็นรูปลักษณ์
อันแท้จริงได้หรือไม่?” ปันหยุนหั่วเผยเสียงหัวเราะ
“ไม่!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบ
“เอาอย่างนี้เป็นไร? หากข้าเอาชนะเจ้าได้ แต่งงานกับข้าดีหรือไม่?”
ปันหยุนหั่วยังคงกล่าวต่อ
“เจ้าไม่เหมาะแม้เป็นรองเท้าข้าด้วยซ้ำ กระนั้นยังคิดตบแต่งกับข้า
หรือ?” เชี่ยวเย่ว์หลานแค่นเสียงตอบกลับ
ฉินหยุนแทบคิดอยากขึ้นไปตบตีปันหยุนหั่วสักคราหนึ่ง กระนั้น
เขาทราบดีว่าเชี่ยวเย่ว์หลานต้องสั่งสอนบทเรียนหนักหนาแก่อีกฝ่าย
อย่างแน่นอน
“หากเจ้าตกลง ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าในการประลองนี้ หากไม่แล้ว…
ข้าจะสังหารเจ้าทิ้งเสีย!” ปันหยุนหั่วกราดเกรี้ยวเผยจิตสังหารวูบใน
ดวงตา
“เดิมข้าไม่คิดสังหารเจ้า แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว ให้ข้าได้สังหารเจ้า
ก็แล้วกัน!” น้ำเสียงเย็นเยือกของเชี่ยวเย่ว์หลานเสียดแทงถึงกระดูก
ผู้คนต่างรู้สึกหนาวเย็นจนถึงสันหลัง
ผู้คนต่างต้องหายใจสูดเอาอากาศเย็นเยือกเข้าปอด
ก่อนหน้านี้ เชี่ยวเย่ว์หลานและเจี้ยนรั่วหยานยังพูดคุยหัวเราะต่อกัน
กระนั้นเวลานี้นางกลับเป็นนางมารผู้มีจิตสังหารเป็นล้นพ้น
“ดี ดี วิเศษนัก อย่างนั้น ข้าก็ไม่ขอเมตตาใดต่อเจ้าที่เป็นเพศตรงข้าม!”
ปันหยุนหั่วกล่าวคำจบ ดวงตาเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน
ฉินหยุนพอได้เห็นดวงตาสีน้ำเงิน เขาต้องอุทานภายใน
หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “เสี่ยวหยุน นั่นคือความสามารถเทวะในตำนาน
คิดรับมือถือเป็นเรื่องยากยิ่ง! นอกจากนี้แล้ว ความสามารถเทวะนั่น
ยังสามารถปล่อยออกมาผ่านดวงตา!”
“เชี่ยวเย่ว์หลานจะรับมือได้หรือไม่?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล
“เย่ว์หลานเคยเป็นเซียนในชาติภพก่อน เจ้าอย่าได้ห่วงนางไป” หลิง
หยุนเอ๋อกล่าว
เชี่ยวเย่ว์หลานมองที่ดวงตาสีน้ำเงินสุกสว่างของปันหยุนหั่ว สีหน้า
ของนางหนักอึ้งขึ้นมาบ้าง
ราชันแคว้นเยี่ยเอ่ยคำตื่นตะลึง “นี่เป็นความสามารถเทวะของวิญญาณ
ยุทธ์ในตำนาน มันสามารถทำให้ดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ปลด
ปล่อยความสามารถเทวะแปลกประหลาดออกมาผ่านดวงตาได้!”
เปาเฉิงโฉ่วกล่าวเสียงลุ่มลึก “แม่นางเชี่ยวเย่ว์หลานต้องเผชิญหน้าคู่
ต่อสู้ไม่ธรรมดาเข้าเสียแล้ว!”
เชี่ยวเย่ว์หลานและปันหยุนหั่ว หลังจากผ่านการตระเตรียมบนลาน
ประลอง เจี้ยนสือเทียนพร้อมประกาศแล้ว
เจี้ยนสือเทียนเปิดม่านพลังพร้อมตะโกน “เริ่มได้!”
ศึกเดิมพันโดยต้นกำเนิดเซียน เวลานี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว
ทว่าแต่แรกเริ่ม เชี่ยวเย่ว์หลานหาได้เคลื่อนไหวใด
มีแต่ปันหยุนหั่วที่เผยยิ้มอหังการ “เชี่ยวเย่ว์หลาน ถอดผ้าคลุมหน้า
ออกให้แก่ข้า!”
เชี่ยวเย่ว์หลานยื่นมือปลดผ้าคลุมหน้าของนางออก เผยซึ่งใบหน้า
งดงามเป็นที่หนึ่งในใต้หล้าของนาง
“เป็นโฉมงามที่หาได้ยากยิ่งนัก ฮ่าฮ่าฮ่า!” ปันหยุนหั่วเผยดวงตาเป็น
ประกายด้วยแสงสีน้ำเงิน เขาหัวเราะอหังการกล่าวคำ “สาวงามเอ๋ย
เจ้าตกเป็นของข้าแล้ว!”
“เด็กดี เร่งรีบเข้ามาจูบข้าได้แล้ว!” ปันหยุนหั่วตะโกนดัง
เชี่ยวเย่ว์หลานเดินออกไปเชื่องช้า
ที่เบื้องล่าง ฉินหยุนรับชมอย่างร้อนรน เขาคิดอยากใช้ความสามารถ
เทวะทะลุทะลวงบุกขึ้นไปด้วยซ้ำ
ราชันแคว้นมู่เผยยิ้ม ราวกับเขาได้รับต้นกำเนิดเซียนมาไว้ในมือเป็น
ที่เรียบร้อยแล้ว
เชี่ยวเย่ว์หลานเดินเข้าไป มือขาวนวลของนางพลันแปรเปลี่ยนเป็น
กรงเล็บมังกร ใช้งานกรงเล็บมังกรดังกระบี่คมกล้า สับฟันเข้าที่ลำคอ
ของปันหยุนหั่ว!
ฟึ่บ!
ปันหยุนหั่วถูกบั่นเศียรที่ลำคอโดยกรงเล็บมังกรคมกล้า ศีรษะนั้น
กลิ้งร่วงหล่นกับพื้น เชี่ยวเย่ว์หลานใช้เท้าของนางเตะหัวนั้นกระเด็น
จนกระทบขอบม่านพลังของลานประลองยุทธ์