ตอนที่ 698 คืนชีพ
ศีรษะของปันหยุนหั่วถูกบั่นออกกระเด็น เชี่ยวเย่ว์หลานมีกำลังเลิศ
ล้ำจนส่งผลให้ผู้คนร้องอุทานตื่นตระหนก
กระนั้น ขณะเชี่ยวเย่ว์หลานคิดใช้ฝ่ามือโจมตีที่ร่างปันหยุนหั่ว ร่างที่
ไร้ศีรษะกลับเคลื่อนไหวรวดเร็วไปถึงตรงที่ศีรษะกลิ้งอยู่
เขาเร่งรีบเก็บศีรษะตนเองขึ้น จากนั้นจึงหลบเลี่ยงบอลพลังงานที่
เชี่ยวเย่ว์หลานใช้โจมตีเข้าใส่
ศีรษะของปันหยุนหั่วถูกบั่นออก กระนั้นร่างกายกลับยังขยับได้
และศีรษะนั้นสามารถกลับคืนสู่ร่าง
เชี่ยวเย่ว์หลานเองก็ไม่คาดคิด ว่าร่างของปันหยุนหั่วจะประหลาดได้
เพียงนี้!
ความสามารถการฟื้นฟูระดับนี้ชวนตื่นตะลึง หัวและคอสามารถ
เชื่อมต่อกันได้โดยไร้ซึ่งแผลเป็นใด
“แม่สาวงาม กำลังของเจ้าช่างยอดเยี่ยม เป็นข้าชื่นชอบสตรีเช่นเจ้า
นัก จงมาเป็นผู้หญิงของข้าเสีย!” ปันหยุนหั่วหัวเราะโฉดชั่ว ดวงตา
สีน้ำเงินพลันทอแสงวูบ
เชี่ยวเย่ว์หลานทะยานร่างด้วยโทสะ กระนั้นที่ครึ่งทางพลันต้องหยุด
พร้อมเผยใบหน้าที่หวาดกลัว
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ปันหยุนหั่วหัวเราะดังก้าวเดิน ขณะคิดโจมตี เขาจึงได้
เห็นร่างเชี่ยวเย่ว์หลานหายวับกับตา
ในพริบตา เชี่ยวเย่ว์หลานทั้งสองได้ปรากฏบนลานประลอง เป็นร่าง
มายาแฝดที่นางปล่อยออกมา
เชี่ยวเย่ว์หลานตัวจริงกลับกลายเป็นโปร่งแสงและหลบซ่อนในลาน
ประลองยุทธ์
“นี่สมควรเป็นความสามารถเทวะกระมัง? ความสามารถเทวะร่าง
แฝด? แต่ดูเหมือนเจ้ายังไม่ทันได้เชี่ยวชาญมันเท่าใดนัก!” ปันหยุน
หั่วเร่งรีบพุ่งทะยานใส่ร่างหนึ่งพร้อมใช้ฝ่ามือโจมตี
พลังโจมตีครานี้เหนือล้ำ เมื่อมันปะทะออก ร่างแฝดมายาของเชี่ยว
เย่ว์หลานจึงกระจายหาย
ร่างแฝดมายาอีกหนึ่งปรากฏตัวที่ด้านหลังปันหยุนหั่ว ใช้ฝ่ามือโจมตี
ที่ศีรษะอีกฝ่าย พลังโจมตีครั้งนี้ชวนสะพรึง ส่งผลให้ศีรษะนั้นต้อง
แตกแยกออก!
ทว่า ศีรษะที่ปริแตกแยกออกกลับสามารถฟื้นฟูได้ในทันที
ปันหยุนหั่นหันกลับ โจมตีต่อเนื่องด้วยฝ่ามือ สลายร่างแฝดมายา
ของเชี่ยวเย่ว์หลานจนเลือนหาย
ผู้คนที่ก่อนหน้านี้พ่ายแพ้ต่อเชี่ยวเย่ว์หลาน ครานี้ต่างอึ้งทึ่งและชื่น
ชมต่อกำลังของปันหยุนหั่ว
ไม่เพียงแต่เชี่ยวชาญความสามารถเทวะพลังจิตอันเลิศล้ำ เขายังมี
ความสามารถฟื้นฟูที่แกร่งกล้า
นี่ถือเป็นตัวตนไร้เทียมทานแล้ว!
กระนั้น ปันหยุนหั่วก็ยังได้เพียงแค่อันดับสองของงานประลองยุทธ์
แห่งแคว้นมังกรทะยานฟ้า!
อย่างนั้นแล้วอันดับที่หนึ่งอย่างหลงเย่ว์เล่า? นางจะแข็งแกร่งได้
เพียงใด!
“เย่ว์หลานเป็นอะไรไป?” ฉินหยุนเผยอาการร้อนรน
“นางถูกโจมตีด้วยความสามารถเทวะพลังจิตที่แปลกประหลาด
ส่วนเป็นการโจมตีใดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “มัน
เป็นพลังที่สามารถควบคุมจิตใจผู้อื่นได้!”
เชี่ยวเย่ว์หลานที่โปร่งแสง ฉับพลันปรากฏตัวเบื้องหลังปันหยุนหั่ว
ตู้ม!
ทันทีที่นางปรากฏ ฝ่ามือจึงโจมตีออกรวดเร็ว การโจมตีนี้ปะทะลงที่
แผ่นหลังของปันหยุนหั่วจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น
หลังจากที่แผ่นหลังของปันหยุนหั่วถูกโจมตีด้วยพลังรุนแรง หน้าอก
นั้นจึงระเบิดออกด้วยพลังดังกล่าว เกิดเป็นรูขนาดใหญ่มีเลือดไหล
เจิ่งนอง หัวใจของเขากระเด็นไกลออกไปเพราะแรงระเบิด
ที่ชวนให้ตื่นตะลึง คือกระดูกของปันหยุนหั่วยังอยู่ดี และพลังงาน
โลหิตสีแดงฉานได้ทะลักออก เกิดขึ้นเป็นเนื้อเติบโตพร้อมเลือด ทำ
การรักษาอาการบาดเจ็บจนหายดีอย่างรวดเร็ว
ความสามารถในการฟื้นฟูอันเลิศล้ำเพียงนี้ ทำเอาครึ่งเซียนทั้งหลาย
ที่นี่ต้องสะท้านภายใน
ฉินหยุนรู้สึกว่าแม้กระทั่งตนยังไม่อาจเทียบ “พลังการฟื้นฟูระดับนี้
น่าทึ่งเกินไปแล้ว!”
ปันหยุนหั่วหันกลับ สายตาลุกโชนส่องสว่าง เผยหมอกแสงสีน้ำเงิน
อ่อนจางเข้าปกคลุมทั้งลานประลองยุทธ์
และชั่วขณะนี้ สีหน้าของเชี่ยวเย่ว์หลานพลันแปรเปลี่ยน!
หวาดกลัว โศกเศร้า โกรธเกรี้ยว และอีกหลายอย่างได้ปรากฏที่ใบหน้า
ของนาง
นางคล้ายถูกแทรกแซงจนเกิดเจ็บปวดขึ้นมา
ถึงตอนนี้เอง ปันหยุนหั่วพลันโหมบุกโจมตี ฝ่ามือปะทะเข้าที่ศีรษะ
ของเชี่ยวเย่ว์หลาน
เชี่ยวเย่ว์หลานคำรามเบา หมอกพลังงานสีขาวเย็นเยือกปรากฏจาก
ร่างของนาง ทำการสะกดข่มปันหยุนหั่วจนหวาดกลัวก้าวถอยไป
หลายก้าว
ผู้อื่นไม่ทราบ แต่ฉินหยุนทราบดีว่าเชี่ยวเย่ว์หลานมีพลังจิตแกร่งกล้า
เพียงใด แม้นางถูกแทรกแซงอย่างรุนแรง ก็ยังได้เห็นว่านางสามารถ
แทรกแซงกลับ ทางด้านปันหยุนหั่นกล่าวได้ว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า
กันเท่าใดนัก
เชี่ยวเย่ว์หลานบีบบังคับให้ปันหยุนหั่วต้องถอย สีหน้าของนางค่อยดี
ขึ้นมาก ร่องรอยความเยือกเย็นฟื้นกลับคืน เห็นได้ชัดว่าพลังจิตที่
แทรกแซงไม่เพียงทำนางเสียสมาธิ มันยังนำพามาซึ่งความเจ็บปวด
ปันหยุนหั่วเองก็ตื่นตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเชี่ยวเย่ว์หลานจะสามารถ
ต้านทานตนเองได้นานเพียงนี้
“เจ้าไม่อาจสังหารข้า และก็ไม่อาจเอาชนะข้า!” ปันหยุนหั่วหัวเราะ
เสียงดัง ดวงตานั้นทอแสงวูบสีน้ำเงินอีกครั้งหนึ่ง ยิงเอาลำแสงสอง
สายเข้าใส่เชี่ยวเย่ว์หลาน
เชี่ยวเย่ว์หลานปลดปล่อยหมอกสีดำ ต้านรับลำแสงสีน้ำเงินทั้งสอง
ไว้ จากนั้นร่างกายนางจึงกลับคืนสภาพโปร่งแสง พร้อมพุ่งเข้าหา
ปันหยุนหั่ว
ปันหยุนหั่วสัมผัสได้ถึงเชี่ยวเย่ว์หลานที่เข้ามาใกล้ กระนั้นเวลาให้
หลบเลี่ยงไม่มี เขาจึงได้แต่ต้องปล่อยหมอกพลังงานสีน้ำเงินออกมา
ต้านรับ
เชี่ยวเย่ว์หลานเคลื่อนผ่านข้างกายปันหยุนหั่ว พร้อมคว้าหัวใจอีก
ฝ่ายเอาไว้
กระนั้นนี่ไม่อาจทำร้ายปันหยุนหั่ว เพราะเขามีพลังฟื้นฟูอันเลิศล้ำ
เพียงอึดใจหัวใจใหม่ก็ถูกสร้างขึ้นแทนที่
เชี่ยวเย่ว์หลานที่สัมผัสหมอกสีน้ำเงิน ใบหน้างดงามของนางจึงเผย
ความโศกศัลย์ เรื่องนี้ทำเอาฉินหยุนปวดใจ เขาไม่ทราบว่าเหตุใด
เชี่ยวเย่ว์หลานจึงเผยความเศร้าเช่นนั้นออกมา
ปันหยุนหั่วใช้โอกาสที่พบเห็น เร่งรีบโจมตีด้วยฝ่ามือจากระยะไกล
ตู้ม! ครืน!
บอลสีน้ำเงินโจมตีปะทะ มันอัดแน่นเอาไว้ด้วยพลังงานพร้อมเข้า
ปกคลุมเชี่ยวเย่ว์หลาน ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดพร้อมสายฟ้าอสนีบาต
ร่ายรำ
ขณะปันหยุนหั่วรู้สึกเป็นฝ่ายเหนือกว่าอยู่ภายใน คลื่นอากาศเย็น
เยือกพลันโจมตีเข้าใส่
บอลพลังงานที่ปกคลุมร่างเชี่ยวเย่ว์หลาน กลับกลายเป็นกระจายตัว
ออกไร้ร่องรอยใดหลงเหลือ ร่างเชี่ยวเย่ว์หลานทะลักล้นออกซึ่งแสง
สีขาวอันศักด์ิสิทธ์ิบริสุทธ์ิ นำมาพร้อมอากาศเย็นเยือกเข้าคุกคาม
เชี่ยวเย่ว์หลานเผยความโกรธเกรี้ยว เสื้อผ้าของนางได้รับความเสียหาย
ระดับหนึ่ง ที่ใบหน้ายังได้รับบาดเจ็บ เส้นผมยุ่งเหยิงเพราะการต่อสู้
นางร่ายรำผ่านอากาศพร้อมสายลมเย็นเยือกส่งร่างทะยานออก
ปันหยุนหั่วรับรู้ได้ เขาเผยสีหน้าหนักอึ้งพร้อมเร่งรีบถอยหนี
เชี่ยวเย่ว์หลานบาดเจ็บ เลือดไหลจากมุมปาก ชัดเจนว่าอาการบาดเจ็บ
นี้ไม่ใช่เล็กน้อย
“หยุนหั่ว เป็นอะไร? โจมตีนางสิ!” ราชันแคว้นมู่เร่งร้อนตะโกน
ที่บนลานประลองยุทธ์ ปันหยุนหั่วเป็นเพียงผู้เดียวที่สัมผัสได้ถึงออร่า
ชวนสะพรึงของเชี่ยวเย่ว์หลาน เขาไม่กล้าบุ่มบ่ามโจมตี
“เชี่ยวเย่ว์หลาน หยุดมือที่ตรงนี้ ถือว่าเสมอกัน!” ปันหยุนหั่วเร่งร้อน
ตะโกน
คำกล่าวของเขาทำเอาผู้อื่นตื่นตะลึง
ผู้คนล้วนได้เห็นว่าปันหยุนหั่วเป็นฝ่ายมีเปรียบ เขาสะกดเชี่ยวเย่ว์
หลานเอาไว้ได้ทุกทาง
กระนั้น ปันหยุนหั่วกลับเลือกไม่สู้ต่อ แต่เลือกที่จะยอมเสมอกับ
เชี่ยวเย่ว์
เชี่ยวเย่ว์หลานเผยเสียงเย็น “ได้ พวกเราถือว่าเสมอ!”
ปันหยุนหั่นกล่าวกับเจี้ยนสือเทียน “ผู้อาวุโสรบกวนปิดม่านพลัง
เชี่ยวเย่ว์หลานและข้าเสมอกัน!”
ราชันแคว้นมู่ขมวดคิ้วเอ่ยถาม “หยุนหั่ว เจ้าเอาชนะนางไม่ได้จริง
หรือ?”
ปันหยุนหั่วกล่าวตามตรง “ข้าเอาชนะนางได้ แต่นั่นหมายถึงข้าพิการ!”
“อย่างนั้นก็ให้จบที่เสมอ!” ราชันแคว้นมู่เข้าใจปันหยุนหั่ว เขาไม่ยอม
เสี่ยงให้เรื่องราวดำเนินถึงขั้นนั้น
หลังม่านพลังปิดลง เจี้ยนสือเทียนจึงส่งคืนต้นกำเนิดเซียนทั้งสองแก่
ราชันแคว้นมู่และแม่เฒ่าหยุนเหยา
ฉินหยุนส่งเสียงถามต่อเชี่ยวเย่ว์หลาน “เย่ว์หลาน ชายคนนี้แข็งแกร่ง
มากหรือ?”
“ไม่ใช่แข็งแกร่งอะไรมาก แต่เป็นเขาจับจุดอ่อนข้าได้! ข้าเอาชนะเขา
ได้หากทุ่มสุดตัว แต่นั่นหมายถึงข้าได้รับบาดเจ็บหนัก ดังนั้นเสมอ
ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!” เชี่ยวเย่ว์หลานตอบกลับ “เสี่ยวหยุน
เจ้าเอาชนะมันได้!”
เชี่ยวเย่ว์หลานเพิ่งส่งเสียงผ่านจิตสื่อสารไปยังฉินหยุนจบ นางจึงได้
เห็นปันหยุนหั่วและราชันแคว้นมู่เดินเข้ามา
“ฉินหยุน ข้าคิดท้าประลองต่อเจ้า เดิมพันเป็นต้นกำเนิดเซียน เจ้า
กล้ารับไว้หรือไม่?” ปันหยุนหั่วรู้สึกว่าฉินหยุนสมควรรับมือได้ง่าย
กว่าเชี่ยวเย่ว์หลาน ครั้งนี้เขามั่นใจยิ่งนัก
“ข้าคืออันดับหนึ่งแห่งงานประลองยุทธ์แคว้นมหาดวงดาว เชี่ยวเย่ว์
หลานเป็นอันดับสอง! เจ้าเอาชนะอันดับสองยังไม่ได้ อย่างนั้นเอา
อะไรมามั่นใจว่าชนะข้าได้?” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“เจ้าหาได้สู้กับนางไม่ เพียงแต่เอาชนะมาได้โดยโชคผ่านการเป่ายิง
ฉุบ!” ปันหยุนหั่วแค่นเสียงกล่าวคำ “ในความเห็นข้า พวกเจ้าทั้งสาม
หาได้ทัดเทียมเชี่ยวเย่ว์หลานไม่!”
“ในเมื่อปรามาสต่อข้าเพียงนี้ เช่นนั้นก็สู้!”
ฉินหยุนคิดอยากสั่งสอนบทเรียนแก่ปันหยุนหั่วอย่างแท้จริง เป็นอีก
ฝ่ายคิดคุกคามต่อภรรยาของเขาบนลานประลองยุทธ์!
หลงเฉียวเฟิงและเจี้ยนรั่วหยานต่างได้เห็นจิตสังหารพร้อมความ
พิโรธในดวงตาฉินหยุน
นั่นก็เพราะปันหยุนหั่วกล่าววาจาเหล่านั้นต่อเชี่ยวเย่ว์หลานบนลาน
ประลองยุทธ์ มันถือเป็นการกระตุ้นโทสะฉินหยุนได้อย่างดีเยี่ยม
นอกจากนี้แล้ว ปันหยุนหั่วยังทำร้ายเชี่ยวเย่ว์หลานจนบาดเจ็บ!
เหมือนดังก่อนหน้า เปาเฉิงโฉ่วและราชันแคว้นมู่ต่างส่งมอบต้น
กำเนิดเซียน ให้เจี้ยนสือเทียนเป็นผู้ถือครองไว้ชั่วคราว
จากนั้น ฉินหยุนและปันหยุนหั่วจึงเดินขึ้นบนลานประลองยุทธ์
“เจ้าเพิ่งสู้กับเชี่ยวเย่ว์หลานไป คิดพักก่อนหรือไม่? เพราะเมื่อถูกข้า
ลงมือสังหารจะได้ไม่มีอะไรติดค้างภายในใจ!” ฉินหยุนมองทางปัน
หยุนหั่วพร้อมเผยอาการเดียดฉันท์
ปันหยุนหั่วหัวเราะดังกล่าวคำ “ฉินหยุน ข้าเคยรับชมเจ้าต่อสู้มาก่อน
ตัวเจ้าก็แค่งั้นงั้น! ที่แข็งแกร่งของเจ้าก็เป็นวิชายุทธ์โทเทมและร่าง
ลึกล้ำที่ดีเลิศ แต่แล้วมันก็แค่นั้นหรือไม่ใช่?”
“เจ้าพูดกล่าวเหมือนชนะแน่นอนแล้ว รอสักประเดี๋ยว ข้าจะให้เจ้า
ได้สัมผัสถึงพลังข้า! แน่นอนว่า ที่เจ้าจะได้รับรู้ ก็ต้องแลกมาด้วย
ชีวิต!” ฉินหยุนไม่หวาดเกรงปันหยุนหั่วแม้แต่น้อย
ปันหยุนหั่วมองทางเชี่ยวเย่ว์หลานที่ยืนด้านล่างลานประลองยุทธ์
เขายิ้มกล่าว “โฉมงาม ตราบเท่าที่ข้าชนะฉินหยุนได้ เจ้ายินดีแต่งกับ
ข้าหรือไม่?”
“เลิกฝันเฟื่อง!”
เชี่ยวเย่ว์หลานตอบคำเสียงเย็น ใบหน้านั้นเผยร่องรอยความโกรธ
ออกมา “อย่าได้คิดว่าเป็นเพราะพวกเราเสมอแล้วตัวเจ้าจะยิ่งใหญ่ใต้
หล้า ข้าเพียงคร้านจะสู้กับเจ้าต่อ!”
ปันหยุนหั่วหัวเราะดัง “เจ้าพ่ายแพ้ฉินหยุนด้วยการเป่ายิงฉุบ จะบอก
ข้าว่าเจ้าเชื่อหรือว่าฉินหยุนแข็งแกร่งกว่าตนเอง? ในความเห็นข้า
เจ้าแข็งแกร่งกว่าฉินหยุนเป็นไหน!”
“เชี่ยวเย่ว์หลาน จงรอรับชมให้ดี ข้าจะนำศพฉินหยุนไปเฉือนหั่นให้
เจ้าดูเป็นรางวัล!”
เชี่ยวเย่ว์หลานมองทางฉินหยุนและกล่าว “ฉินหยุน ตราบเท่าที่เจ้า
สังหารปันหยุนหั่ว ข้าจะมอบจูบแรกให้ ทั้งยังจะติดตามเจ้ากลับ
นครเซียนยุทธภัณฑ์อยู่ร่วมด้วยสักเดือนหนึ่ง!”
เรื่องราวนี้ทำเอาผู้ได้รับฟังต่างต้องเบิกดวงตาออกกว้างแทบถลนตื่น
ตะลึง รางวัลเช่นนี้เย้ายวนเกินไปแล้ว
ปันหยุนหั่วกราดเกรี้ยวจนแทบสะดุ้ง เพราะเชี่ยวเย่ว์หลานไม่เคยให้
โอกาสเช่นนี้แก่เขา
เชี่ยวเย่ว์หลานกล่าวย้ำ “ฉินหยุน ข้าเป็นคนรักษาคำพูด! จริงด้วย เจี้ยน
รั่วหยานถือว่าแต่งงานกับข้าแล้ว ตราบเท่าที่เจ้าจัดการปันหยุนหั่ว
ได้ ข้าจะพานางร่วมทางไปหาเจ้าด้วย!”
ฉินหยุนคิ้วกระตุก เขารับรู้ถึงจิตสังหารที่มาจากทั่วทิศ สายตาเหล่านี้
โหดเหี้ยมดุร้าย ส่วนใหญ่เป็นของบรรดาศิษย์จากตำหนักเซียนดาบ
แล้ว