ตอนที่ 1526

Monster Paradise

หลังส่งการแจ้งเตือนอนุญาตให้มอนสเตอร์เป็นอิสระ ในที่สุดหลินฮวงก็เริ่มจดจ่อกับตัวเอง

 

รางวัลที่เขาได้รับจากการเดินทางนี้ถือว่ามากสุดในชีวิตเขาแล้ว

 

ไม่ใช่แค่ว่าเขาได้เลื่อนจากเทพแท้จริงขั้นหนึ่งเป็นเทพแท้จริงขั้นหก แต่รางวัลที่เขาได้รับจากนครหลวงเทพกับเคียวแห่งความตายยังสูงล้ำ

 

“1สมบัติมีดบินพลังจิตระดับเทพสวรรค์ชั้นนำ 13 สมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูง 41 สมบัติเทพสวรรค์ขั้นกลาง และ87 สมบัติเทพสวรรค์ขั้นต้น…ข้าสามารถแลกของเหล่านี้กับศพเทพสวรรค์กว่า 400 เป็นทรัพยากรอื่นได้”

 

“แต้ม 194610 แต้มมีค่าเท่ากับเหรียญทองแดนลับ…ตามอำนาจซื้อของเหรียญทองแดนลับ สมบัติเทพสวรรค์ขั้นสูงจะมีราคาประมาณหมื่นเหรียญทอง ข้าสามารถแลกของเหล่านี้กับทรัพยากรดีๆมากมายได้”

 

หลินฮวงนับรางวัลเขา จากนั้นก็พบว่านอกจากมรดกพลังจิตระดับกึ่งจ้าวเทวะและชิ้นส่วนเขตแดนเทพระดับกึ่งจ้าวเทวะ ของที่เหลือไร้ประโยชน์ต่อเขา เขาทำได้แค่ใช่พวกมันแลกทรัพยากรอื่น

 

เขาสนใจในมรดกพลังจิตระดับกึ่งจ้าวเทวะมาก

 

เขาบ่มเพาะไร้รอยต่อจนถึงระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งคือระดับสิบ ตอนนี้มันสามารถบ่มเพาะได้เองโดยไม่ต้องให้เขาริเริ่มกระบวนการ จำนวนของด้ายพลังจิตเขาเพิ่มขึ้นเองที่ 1000 เส้นต่อชั่วโฒง

 

เท่าที่เขากังวล มรดกพลังจิตระดับกึ่งจ้าวเทวะมาหาเขาได้ในเวลาเหมาะเจาะมาก

 

ขณะที่เขาแช่จิตสำนึกลงในมรดก จิตสำนึกของเขาก็ปรากฏในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว

 

เขางุนงงตอนแรกแต่ในไม่ช้าก็ตระหนักว่าดาวนับไม่ถ้วนตรงหน้าเขากำลังขยับแบบแปลกๆ

 

วิถีการเคลื่อนไหวของดาวดูเหมือนจะถูกควบคุมโดยมนุษย์ ผู้กำลังใช้ดาวเพื่อโจมตีสัตว์อสูรตัวยักษ์ทีละดวง…

 

หลินฮวงดำดิ่งไปกับฉากแสนพิศดารนี้

 

จิตสำนึกของเขากลับเขาร่างหลังผ่านไปนาน แต่เขากลับไม่สามารถสงบสติตัวเองลงได้

 

“พลังจิตสามารถใช้แบบนั้นได้ด้วย?!”

 

ในภาพความทรงจำ หลินฮวงได้เห็นกึ่งจ้าวเทวะผู้นี้กำลังควบคุมอาวุธพลังจิตด้วยวพลังจิตและเปลี่ยนพวกมันเป็นดวงดาวก่อนโจมตี

 

การโจมตีโดยตรงนี้ไม่ใช่วิชาธรรมดา แต่เขาได้ปลดปล่อยลักษณะทั้งหมดของดวงดาว  เปลี่ยนพวกมันเป็นรูปแบบต่างๆ

 

เขาได้ใส่การตรัสรู้ธาตุไฟลงในอาวุธพลังจิต เปลี่ยนพวกมันเป็นดาว จากนั้นก็ดึงทุกอย่างด้วยพลังจิต และก่อให้เกิดกลุ่มก้อนอุกกาบาตที่แผดเผาทุกอย่าง

 

เขายังผสานการตรัสรู้ธาตุมืด และพลังลำดับกลืนกินเข้าไปในอาวุธพลังจิต เปลี่ยนพวกมันเป็นหลุมดำแสนน่ากลัว อีกครั้ง เขาใช้พลังจิตเพื่อสร้างค่ายกลกลืนกิน กลืนทุกอย่างเข้าไป

สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้หลินฮวง

 

ในระดับหนึ่ง อาวุธเซียนจะยิ่งเหมาะกับการหลบหลีกระดับสูงเช่นนี้

 

ไม่เหมือนสมบัติเทพสวรรค์ที่เป็นได้แค่วัตถุเสมือน อาวุธเซียนพลังจิตของหลินฮวงสามารถสร้างให้เป็นของจับต้องได้จากจินตนาการ เนื่องจากไม่ใช่วัตถุเสมือน มันจึงมีผลกระทบมากกว่า

 

อาวุธเซียนระดับสามมีพลังพอจะปรากฏเป็นวัตถุจริงในสวรรค์ รวมถึงดาวและหลุมดำ

 

นอกจากนั้น อาวุธเซียนยังเทียบเท่ากับอวัยวะของร่างกาย มันสามารถแปลงพลังงานกฏ พลังลำดับเทพได้ 100% โดยไม่ขาดหาย นั่นทรงพลังกว่าสมบัติกฏเทพและสมบัติเทพสวรรค์มาก

 

เขาต้องยอมรับว่ามรดกชิ้นนี้ได้เปิดประตูใหม่ให้เขา

 

บางทีมันอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนส่วนใหญ่ที่จะได้รับมรดกนี้เพื่อเรียนสิ่งที่อยู่ข้างใน แต่หลินฮวงมีรากฐานมั่นคงอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนด้ายพลังจิต ความหนาแน่น หรือการควบคุม เขาสามารถทำได้

 

เขาสามารถคาดเดาได้ว่าการใช้มรดกนี้เป็นรากฐานในอนาคต เขาจะพบวิธีใช้พลังจิตมากขึ้น

 

นอกจากวิธีใหม่ในการใช้พลังจิต ยังมีวิธีสร้างภาพจิตเทวะในมรดก

 

มีทั้งหมด 108 ภาพจำแลงด้วยอักขระที่ซับซ้อนมาก

 

อักขระแต่ละตัวมีผลเสริมสร้างและปรับแต่งจิตเทวะ

 

เมื่อภาพจำแลงถูกสร้างสำเร็จ ผนึกเทวะจะรวมเข้าด้วยกัน และจิตเทวะของคนจะได้รับการเสริมพลัง

 

ตามบันทึกในมรดก ถ้ามีคนสามารถสร้างภาพทั้งหมด 108 ภาพได้ พลังของจิตเทวะพวกเขาจะไปถึงระดับจ้าวเทวะทันที

 

หลินฮวงแค่ดูวิธีสร้างภาพคร่าวๆ และโดยไม่ลังเล เขาปรับกระแสเวลาในวังจอมเทพให้เร็วกว่าโลกภายนอกพันเท่า จากนั้นก็ปิดประตูบ่มเพาะ

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วในวังจอมเทพ

 

การจำแลงภาพของหลินฮวงประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงแรก เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการสร้างสิบภาพแรก

 

จากภาพ 11-20 เวลาที่เขาใช้ในการสร้างจะนานขึ้น โดยรวมแล้ว เขาใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง

 

เขาใช้เวลาทั้งหมดอย่างน้อย 15 ชั่วโมงกับภาพ 21-30

 

ต่อมา เขาใช้เวลาเกือบสัปดาห์กับภาพที่ 31-40

 

เขาใช้เวลากว่าสองเดือนกับภาพ 41-50

 

หลังจากนั้น เขาก็ใช้เวลากว่า 600 วันกับภาพที่ 51-60

 

จากนั้นเขาก็ใช้เวลาอย่างน้อย 17 ปี กับภาพที่ 61-70..

 

เวลาในโลกภายนอกผ่านไปเกือบสัปดาห์

 

แต่ทว่า หลินฮวงยังไม่หยุด เขาจำแลงภาพต่อไปเรื่อยๆ…

ไป่กับเถิงหรานได้ออกจากรังไหมเร็วกว่าปกติ ประสบความสำเร็จในการเลื่อนเป็นเทพสูงสุดแล้ว

 

หลินฮวงไม่มีเวลาไปตรวจสอบข้อมูลการ์ดของทั้งคู่ เขาส่งทั้งคู่ออกวังจอมเทพไปทันทีระหว่างพัก

 

จากนั้นทั้งคู่ก็จับกลุ่มกันและเริ่มออกเดินทางไปหาทรัพยากร

ขณะที่หลินฮวงอยู่ท่ามกลางการปิดประตูบ่มเพาะ เหตุการณ์ใหญ่ได้เกิดขึ้นในเผ่าเนฟิลิก

 

เหตุการณ์ที่เป็นปัญหาคือเจ้าหญิงน้อยไคลี่ได้ยกระดับชีวิตเป็นจิตวิญญาณแท้จริงหลังปิดประตูบ่มเพาะกว่าเดือน กลายเป็นโปรตอสจิตวิญญาณแท้จริงตนแรกในยุคนี้

 

เจ้าแดงเองก็ออกจากการปิดประตูบ่มเพาะเช่นกัน ประสบความสำเร็จในการเป็นเทพสูงสุด

 

แต่ทว่า ข่าวการยกระดับของไคลี่ไม่กระจายออกไป มีแค่ชนชั้นสูงของเผ่าเนฟิลิกไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

 

พวกเขาแค่บอกกับสาธารณะว่าเจ้าหญิงน้อยไคลี่ได้กลายเป็นเทพสวรรค์ระหว่างปิดประตูบ่มเพาะ

 

แม้กระทั่งสมาชิกเผ่าเนฟิลิกก็ยังไม่รู้เรื่องนี้

 

ความก้าวหน้าของไคลี่เป็นข่าวที่เหมือนระเบิดสำหรับเบื้องบนของเผ่าเนฟิลิก

 

พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีใครจากเผ่าเนฟิลิกสามารถประสบความสำเร็จเช่นนี้ได้ เพราะไม่มีใครมีคุณสมบัติและศักยภาพที่จะเลื่อนเป็นสิ่งมีชีวิตระดับจิตวิญญาณแท้จริง

 

ถึงแม้ไคลี่จะแสดงศักยภาพโดดเด่นแต่แรก แต่ในสายตาเผ่าเนฟิลิก นางยังห่างไกลจากการเป็นจิตวิญญาณแท้จริง

 

ดังนัั้น นางจึงโดนปฏิบัติเหมือนเบี้ยไว้ใช้แต่งงานมาตลอด

 

แต่ทว่า ไคลี่กลับใช้การกระทำเพื่อตบหน้าทุกคน

 

ความก้าวหน้าของนางทำให้สถานะของนางในเผ่าเนฟิลิกทะยานขึ้นสู่จุดสูงสุดในพริบตา

 

ก่อนหน้านี้ นางถูกปฏิบัติเหมือนเจ้าหญิงน้อยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้ ในสายตาชนชั้นสูงของเผ่าเนฟิลิก นางได้กลายเป็นราชินีที่ทุกคนเต็มใจมอบความจงรักภักดีให้…