บทที่ 306 สถานะถูกเปิดโปง

The king of War

ถ้าสมาคมบูโดเป็นองค์กรที่ถูกต้องแห่งหนึ่ง บางทีเขาคงไม่สนใจ แต่ว่าสำหรับเรื่องราวที่เขารู้มา ทั้งหมดของสมาคมบูโดเป็นด้านไม่ดี

ก่อนหน้านี้ เขาสงสัยมาโดยตลอด เสนอการค้าสาวงามมาให้ตระกูลเว่ย ก็คือผู้มีอิทธิพลยิ่งใหญ่มากกลุ่มหนึ่ง

ปัจจุบันนี้ โดยพื้นฐานเขาแน่ใจว่าคือสมาคมบูโด ที่เสนอสาวงามให้ตระกูลที่เหมือนกับตระกูลเว่ยนี้อีกมากมาย

“ปึง!”

ในเวลานี้ หนิวกึงเซิงขยับเท้าทันใด ชั่วพริบตาเดียวพุ่งไปทางหยางเฉิน

แสงหนาวเหน็บปรากฏขึ้นกะทันหัน โจมตีมายังคอของหยางเฉินโดยตรง

หยางเฉินขมวดคิ้ว กระทืบเท้าลงอย่างแรง ร่างกายวาร์ปหาย มีดที่คมกริบแวววาวด้ามหนึ่งเข้ามาใกล้กระทั่งกำลังจะตกลงที่ศีรษะของหยางเฉิน

เมื่อสักครู่ถ้าหยางเฉินช้าไปก้าวหนึ่ง เกรงว่าคงโดนฟันศีรษะขาดเข้าจริงๆ

“หือ?”

การโจมตีทีเดียวถึงตายของตนเองถูกหยางเฉินหลบทัน หนิวกึงเซิงทำหน้าตกใจและสงสัย

“ในเมื่อแกวอนหาที่ตาย งั้นฉันจะทำให้สมหวังเอง!”

เสียงของหยางเฉินเต็มไปด้วยแรงอาฆาตแค้นแล้ว สำหรับคนที่อยากฆ่าตนเอง แต่ไหนแต่ไรเขาไม่เคยมีใจเมตตาใจอ่อนให้

ทันใดนั้นเอง มีแรงอาฆาตแค้นยิ่งใหญ่ที่ปะทะหน้าเข้ามาส่วนหนึ่ง ระเบิดมาจากบนตัวของหยางเฉิน

ชั่วพริบตานี้ หนิวกึงเซิงเพียงรู้สึกว่าตนเองถูกดวงตาแดงเลือดของสัตว์ป่าดุร้ายตัวหนึ่งจ้องไว้ ไม่มีทางหนีพ้น

“ไม่ได้การ ถอย!”

หลังจากหนิวกึงเซิงสำนึกได้ถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของหยางเฉิน ชั่วขณะนั้นสีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ เคลื่อนไหวว่องไว รีบถอยหลังไปทันที

“แกถอยได้เหรอ?”

หนิวกึงเซิงพึ่งถอยออกไม่กี่ก้าว เสียงหนึ่งที่เต็มไปด้วยจิตอาฆาตดังขึ้นที่ด้านหลังเขาฉับพลัน

วินาทีนี้ หนิวกึงเซิงรู้สึกขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัวแล้ว

เดิมทีเขาไม่สังเกตเห็นว่าหยางเฉินที่เมื่อสักครู่ยังอยู่ด้านหน้าเขา มาปรากฏตัวที่ด้านหลังของตนเองตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดมาก มือข้างที่กุมมีดไว้แน่นนั้น ชั่วขณะหนึ่งกวัดแกว่งไปทางด้านหลัง

“ป้าบ!”

หยางเฉินคว้าบนข้อมือของหนิวกึงเซิงไว้ทีหนึ่ง พละกำลังที่มหาศาล ทำให้หนิวกึงเซิงไม่มีแรงต้านทานสักนิดเดียว

“แก……แกเป็นใครกันแน่?” ทั่วทั้งจิ่วโจว ไม่มีผู้แข็งแกร่งที่อายุน้อยขนาดแกโดยเด็ดขาด!”

ในลูกตาของหนิวกึงเซิงเต็มไปด้วยอาการตื่นตกใจ ถามเสียงดัง

หยางเฉินไม่ได้ตอบกลับ ชั่วขณะนั้นมืออีกข้างกุมหมัดแน่น ต่อยออกไปบนหน้าอกของหนิวกึงเซิง

“ปึก!”

เสียงดังสนั่นทีหนึ่ง หนิวกึงเซิงเหมือนว่าวที่สายขาด ชั่วพริบตาเดียวโดนเหวี่ยงกระเด็น

“ตึง!”

ตามมาด้วยเสียงดังลั่นอีกทีหนึ่ง หนิวกึงเซิงร่วงลงพื้นอย่างรุนแรง

ส่วนบนหน้าอกเขา ส่วนที่พึ่งโดนหยางเฉินต่อยลงไป เวลานี้ยุบลงไปเป็นหลุมลึก

“เฮือก!”

หนิวกึงเซิงกลั้นเลือดไว้มาโดยตลอด ในที่สุดไม่มีทางอดกลั้นไหว พ่นออกมาโดยตรงแล้ว พลังชีวิตภายในร่างกายสูญหายอย่างรวดเร็ว

“แก……แกเป็นใครกันแน่?”

ในใจหนิวกึงเซิงเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม ยังมีความรู้สึกเสียใจแบบเข้มข้นด้วย

หมัดเมื่อสักครู่ของหยางเฉินนั้น ทำลายอวัยวะสำคัญภายในของเขาถึงที่สุด เดิมทีเขาอยู่ต่อไม่รอดแล้ว

“จิ่วโจวที่กว้างใหญ่ แกผู้แข็งแกร่งอายุน้อยขนาดนี้ ไม่ใช่พวกที่ไร้ชื่อเสียงเด็ดขาด!”

หนิวกึงเซิงกัดฟันพูดขึ้น ทันใดนั้นในลูกตาของเขาตกใจเต็มที่ “ฉัน……ฉันรู้แล้ว นายอยู่ชายแดนเหนือ……”

“เฮือก!”

เขายังไม่ทันพูดจบ แสงเย็นเฉียบโผล่ขึ้นเส้นหนึ่ง และปรากฏรอยเล็กๆ เส้นหนึ่งบนคอแล้ว

หนิวกึงเซิงไม่มีทางพูดออกมาได้สักคำอีกต่อไป ดวงตาถลึงกลมโต

ไม่นานรอยเล็กบนคอของเขาค่อยๆ ขยายออก เลือดสดปริมาณมากไหลออกมา

ตั้งแต่หนิวกึงเซิงจู่โจมหยางเฉินด้วยตนเอง จนกระทั่งหนิวกึงเซิงถูกฆ่า ทุกอย่างใช้เวลาเพียงพริบตาเดียว

เว่ยเฉิงโจวที่มองเห็นทุกอย่างนี้ด้วยตาตนเอง เวลานี้หน้าอึ้งทึ่งเต็มที่ นั่งก้นกระแทกพื้นแล้ว พูดจาแบบไม่อยากเชื่อ “ไม่ ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้! คุณหนิวอยู่ที่สมาคมบูโด เป็นหัวหน้า ของสาขามณฑลเจียงผิง ทั้งสาขา นอกจากหัวหน้าสาขาแล้ว คือเขาแกร่งที่สุด เขาจะโดนฆ่าได้อย่างไรกัน?”

ส่วนหยางเฉิน เวลานี้สีหน้าอึมครึมถึงขีดสุดแล้ว

เมื่อสักครู่ ก่อนหน้าที่หนิวกึงเซิงตายอยากพูดอะไร เขารู้ชัดเจนดี!

อย่างไรเสียเขานึกไม่ถึงว่าหนิวกึงเซิงจะสามารถคาดเดาสถานะของตนเองได้

หรือนี่หมายความว่าถ้าเกิดข่าวที่หนิวกึงเซิงถูกเขาฆ่าแพร่ออกไป สมาคมบูโดจะสามารถคาดเดาสถานะของเขาได้?

แน่นอนว่าทุกอย่างนี้เป็นเพียงการคาดการณ์ของตนเอง

ต่อให้สมาคมบูโดสามารถเดาได้ว่าตนเองเกี่ยวข้องกับชายแดนเหนือจริง แต่คงนึกไม่ถึงโดยเด็ดขาดว่าเขาคือจอมพลของชายแดนเหนือ

ที่จิ่วโจวมีสี่ชายแดนใหญ่ตะวันออกตะวันตกเหนือและใต้ แต่ละชายแดนล้วนมีจอมพลหนึ่งคน แต่ว่าสถานะของแต่ละคนล้วนเป็นความลับสุดยอด

เวลานี้ หน้าเว่ยเฉิงโจวคือความตื่นตระหนกเต็มที่ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

นอกจากรู้สึกหวาดกลัวต่อความสามารถยิ่งใหญ่ของหยางเฉินที่เปิดเผยออกมาแล้ว ยังเพราะการตายของหนิวกึงเซิงอีกด้วย

“แก……แกฆ่าคุณหนิวแล้ว แกรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? แกกล้าฆ่าเขา สมาคมบูโดจะต้องไม่ปล่อยแกไปแน่นอน!”

ทันใดนั้นเว่ยเฉิงโจวตะคอกอย่างโมโหใส่หยางเฉิน

หยางเฉินขมวดคิ้วแน่น พูดเสียงเย็นชา “ต่อให้สมาคมบูโดไม่ปล่อยฉันไป คิดว่าจะปล่อยตระกูลเว่ยหรือไง?”

หยางเฉินฆ่าหนิวกึงเซิง มีเพียงเว่ยเฉิงโจวและเว่ยหู่ที่มองเห็นด้วยตนเอง สำหรับบอดี้การ์ดตระกูลเว่ย เวลานี้ต่างรอคอยอยู่ข้างนอกหมด เดิมทีไม่กล้าเหยียบเข้ามาในคฤหาสน์สักก้าว

สำหรับพวกเขานั้น หยางเฉินกล้าเข้าในคฤหาสน์ คงตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน

ดังนั้นพูดได้ว่าขอเพียงสามารถจัดการเว่ยเฉิงโจวและเว่ยหู่แล้ว ข่าวที่หนิวกึงเซิงถูกหยางเฉินฆ่าทิ้ง ย่อมสามารถปิดซ่อนได้

แต่ถ้าหยางเฉินฆ่าเว่ยเฉิงโจวและเว่ยหู่แล้ว สมาคมบูโดต้องตรวจสอบมาถึงตัวเขาแน่นอน

เขาไม่กลัวสมาคมบูโด แต่กลับไม่ยอมให้ถูกพวกเขาคาดเดาความสัมพันธ์ของตนเองกับชายแดนเหนือได้

“ถึงแม้สมาคมบูโดอยากตามทวงความรับผิดชอบของพวกเขา แกก็หนีไม่รอด!” เว่ยเฉิงโจวพูดแบบฝืนแกล้งเป็นนิ่งสงบ

หยางเฉินพูดแบบหน้าตาไร้อารมณ์ “แกลองคิดดูแม้แต่เขาฉันยังฆ่าทิ้งได้ง่ายดาย ต่อให้เป็นหัวหน้าสาขาแกร่งที่สุดของสาขามณฑลเจียงผิงมาแล้ว จะสามารถทำอะไรฉันได้? ฆ่าทิ้งงั้นเหรอ!”

คำพูดของหยางเฉินเผด็จการไร้ที่เปรียบ ทำให้เว่ยเฉิงโจวอกสั่นขวัญแขวนพักหนึ่ง

นึกถึงฉากที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ใจเขายังหวาดผวาอยู่ เหมือนแบบที่หยางเฉินพูดมาจริงๆ ผู้แข็งแกร่งอันดับสองของสมาคมบูโดที่สาขามณฑลเจียงผิงอยู่ต่อหน้าเขา ยังถูกตีทีเดียวราบคาบ ต่อให้หัวหน้าสาขามาด้วยตนเอง แล้วจะเป็นอย่างไร?

เว่ยเฉิงโจวสับสนอย่างยิ่ง ยังเป็นครั้งแรกที่เขาเจอปัญหาแก้ยากเช่นนี้

เว่ยหู่ที่เมื่อสักครู่ถูกหยางเฉินตบทีเดียวจนลอยเข้าคฤหาสน์มา เวลานี้ตกใจกลัวถึงสุดขีด เพราะความกลัว จึงกำลังสั่นเทาไปทั้งตัว

สีหน้าสองพ่อลูกที่เปลี่ยนแปลงๆผ หยางเฉินมองเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด

สีหน้าเขาเรียบนิ่ง ทันใดนั้นเดินไปยังเว่ยเฉิงโจว กระทั่งเดินมาถึงตรงหน้าเว่ยเฉิงโจว ถึงหยุดฝีเท้าลง ก่อนจะเอ่ยปากพูดอย่างเย็นชา “ฉันกับตระกูลเว่ย เดิมไม่มีความแค้นกัน เป็นลูกชายแกลักพาตัวแม่ยายฉันไป ทำให้ฉันต้องมาหาถึงที่”

คำพูดของหยางเฉินทำให้เว่ยเฉิงโจวหน้าดูงงงัน “แกว่าอะไรนะ? ลูกชายฉันลักพาตัวแม่ยายของแกไป? ทำไมฉันไม่รู้?”

มองท่าทางที่เว่ยเฉิงโจวตกใจ ไม่เหมือนเสแสร้ง หยางเฉินยักคิ้วปลายงอนขึ้น หรี่ตาบอก “ลูกชายแกเว่ยเสียง ลักพาตัวแม่ยายฉันไป โดยเฉพาะข่มขู่หล่อนให้ไลฟ์สด ใส่ร้ายภาพลักษณ์ของฉัน ทำให้กิจการในสังกัดของฉัน ราคาในตลาดตกฮวบ เสียหายหนัก! นึกไม่ถึงว่าแกไม่รู้?”

“ไลฟ์สดที่แกพูดถึง คือคลิปวิดีโอไลฟ์สดติดอันดับร้อนแรงนั้น ที่เป็นข่าวพาดหัวใหญ่ตอนเช้า?”

เว่ยเฉิงโจวรีบถามทันที

เขามีนิสัยอ่านข่าวเป็นประจำ ดังนั้นสำหรับเรื่องคลิปวิดีโอที่โจวยู่ชุ่ยถ่ายทอดสด เขารู้ดีมาก

เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าโจวยู่ชุ่ยคือแม่ยายของหยางเฉิน

“ดูแล้วเจ้าบ้านเว่ยรู้เรื่องนี้” หยางเฉินพูดจาอย่างเย็นชา