ตอนที่ 1558 ดาบนั้นคืนสนอง (1)
กู่ซินเยียนเดินตามจวินอู๋เสียไปอย่างไร้จุดหมายในสำนักธาราเมฆ ทั้งสองเดินไปสักพัก จวินอู๋เสียก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรเลย ทำให้กู่ซินเยียนกระวนกระวายใจเล็กน้อย
ต้องบอกว่า การที่จวินอู๋เชิญนางออกมาแบบนี้ มันก็เกินความคาดหมายของนางแล้ว นางเห็นสถานการณ์ที่จวินอู๋ต้องเผชิญและรู้ว่าแผนของหลินเฮ่าอวี่ได้ผล แต่จวินอู๋ก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอออกมาเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ตอนที่เขาโดนแกล้งทุกวัน จวินอู๋ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่แยแสสิ่งใดเลย
ความเฉยเมยเย็นชาของจวินอู๋เสียทำให้กู่ซินเยียนผิดหวังอย่างมาก นางยอมเงียบปล่อยให้หลินเฮ่าอวี่ก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี้ จุดประสงค์ของนางก็คือการดึงจวินอู๋ให้มาเข้าร่วมกับวิหารมารโลหิต แต่นางก็ยังไม่เบรรลุผลอย่างที่คิดไว้
จนกระทั่งวันนี้……
กู่ซินเยียนมองด้านหลังอันเย็นชาของจวินอู๋เสียที่อาบแสงพระอาทิตย์ตกดิน สีหน้าของนางค่อนข้างสับสน นางพยายามอย่างยิ่งที่จะคงรอยยิ้มสดใสเอาไว้
ในเรื่องหน้าตา จวินอู๋ก็แค่น่ามองเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าในวิหารมารโลหิตมีหนุ่มหล่ออยู่มากขนาดไหนเลย แค่ในสำนักธาราเมฆอย่างเดียว ก็มีเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาอยู่ไม่น้อย แต่ไม่รู้ทำไม กู่ซินเยียนจึงรู้สึกว่าจวินอู๋ที่อยู่ภายใต้แสงตะวันยามเย็นนั้นดูดีกว่าที่นางจำได้
“จวินอู๋ เจ้าอยากพูดอะไรกับข้างั้นหรือ?” กู่ซินเยียนเก็บความคิดที่ลอยไปไกลกลับมา นางทนไม่ไหวจนต้องถามออกมาในที่สุด
นางอยากรู้มากว่าทำไมวันนี้จวินอู๋ถึงมาหานาง เป็นเพราะเขาทนโดนคนพวกนั้นกลั่นแกล้งไม่ไหวแล้ว ก็เลยจะขอให้นางช่วยงั้นหรือ?
จวินอู๋เสียหยุดเดินและหันหน้าเล็กน้อยเพื่อมองกู่ซินเยียน
“เจ้าอยู่สาขาภูติประจำตัวใช่ไหม?” จวินอู๋เสียถาม
กู่ซินเยียนชะงักไปนิดนึง ไม่เข้าใจว่าทำไมจวินอู๋เสียถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมา นางอึ้งอยู่พักหนึ่งก็พยักหน้า
“ใช่”
พลังวิญญาณของกู่ซินเยียนก็ไม่เลว แต่ในงานชุมนุมเทพยุทธ์นางเข้าร่วมการแข่งภูติประจำตัว ภูติประจำตัวของนางเป็นประเภทอาวุธ และเป็นชนิดหายากที่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ มันเป็นแส้ยาว แต่สามารถเปลี่ยนเป็นดาบคู่ในระหว่างการต่อสู้ซึ่งหายากมาก
ภูติอาวุธแปรผันพบเจอได้ยากมากในอาณาจักรกลาง ต่อให้กู่ซินเยียนไม่ใช่คุณหนูของวิหารมารโลหิต แค่ภูติประจำตัวของนางก็ทำให้นางมีค่ามากแล้ว นี่คือที่มาของความมั่นใจในตัวเองของนาง
แต่……
จวินอู๋ถามเรื่องนั้นทำไม?
นี่มันแตกต่างจากที่นางคิดเอาไว้
“เจ้าแสดงให้ข้าดูได้ไหม?” จวินอู๋เสียถามต่อ
แววตาของกู่ซินเยียนเต็มไปด้วยความสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆจวินอู๋เสียก็แสดงความสนใจภูติประจำตัวของนาง แต่เนื่องจากนางยังหวังว่าจะสามารถดึงจวินอู๋เสียเข้าสู่วิหารมารโลหิตได้ เรื่องเล็กน้อยอย่างการแสดงภูติประจำตัวให้ดูนั้นย่อมเป็นสิ่งที่นางไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว
กู่ซินเยียนเรียกภูติประจำตัวของนางออกมาอย่างรวดเร็วราวกับอยากแสดงให้จวินอู๋เสียเห็นพลังของภูติประจำตัวของนาง ทันใดนั้น แส้สีเงินยาวก็ปรากฏขึ้นที่มือของกู่ซินเยียน มันมีรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนแส้ทรงกลมอื่นๆ ความยาวของแส้เหมือนขอบใบมีด รูปร่างแบน ปลายสองด้านบางละเอียดเหมือนปีกจั๊กจั่น ไม่ต่างจากใบมีดของจริงเลย
แทนที่จะบอกว่ามันคือแส้ จวินอู๋เสียรู้สึกว่ามันเหมือนดาบอ่อนที่ยาวเหลือเชื่อซะมากกว่า
“ใช้ให้ดูหน่อย” จวินอู๋เสียพูด
เป็นครั้งแรกที่กู่ซินเยียนเห็นคนเอ่ยปากขอนางอย่างเป็นธรรมชาติเช่นนี้ แต่นางก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจเช่นกัน แส้สีเงินอันงดงามในมือนางสะบัดออกไป ทำให้เกิดเส้นแสงสีเงินแวววาวสายหนึ่ง ความอ่อนของแส้ยาวนั้นดีกว่าดาบอ่อนของจริงมาก