บทที่ 184 อย่าบีบให้ฉันต้องโมโห

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

ไฟในห้องรับแขกนั้นปิดอยู่ เธอเองก็ไม่ได้จะเปิดอยู่แล้ว เพราะถึงอย่างไรคุยเสร็จเธอก็จะกลับห้อง ไม่จำเป็นจะต้องเปิดไฟอีก

แสงจันทร์ส่องเข้ามาตรงหน้าต่างบานยาว เป็นคืนที่สว่างไสว เธอค่อยๆเดินเข้าไป

รอจนกระทั่งจะเดินถึงกระจกบานยาวนั้น บังเอิญเห็นเงาของร่างสูงนั้นก็ตกใจขึ้นมา โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือร่วงลงไปที่พื้น

“ตกใจขนาดนี้เลยหรอคุณ?”

เสียงดังขึ้น ออกัสก็โน้มตัวลงแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือที่หล่นอยู่ที่พื้นขึ้นมา

ทางปลายสายนั้น นาโนได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้น ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที แม้แต่เสียงก็อดที่จะดังตามขึ้นมาไม่ได้

“เชอร์รีน? ฉันได้ยินเสียงผู้ชาย! รีบบอกฉันมาเลยว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร! ดึกดื่นขนาดนี้แล้ว ไม่คิดว่าพวกเธอหญิงโสดชายโสดจะมาอยู่ในห้องเดียวกันแบบนี้ เดี๋ยวอีกซักพักหนึ่งฟืนที่คุอยู่นี้ลุกไหม้ขึ้นมาแล้ว? แต่ฉันคาดหวังให้สามารถลุกไหม้ขึ้นมาได้จริงๆ ที่ดินของเธอนี้ก็ควรจะมีผู้ชายมาใช้งานได้แล้ว ผู้หญิงก็ยังต้องมีผู้ชายมาหล่อเลี้ยงให้กระชุ่มกระชวยสิถึงจะถูก เธอกับไอ้ออกัสนั่นแยกกันมาสี่ปีแล้วนะ ไม่หาผู้ชายมาทำให้หัวใจของเธอกระชุ่มกระชวย ฉันนี่ร้อนใจแทนเธอไปหมดแล้วนะ ในที่สุดก็มีผู้ชายแล้ว ดูแล้วเธอจะต้องเปิดหูเปิดตาได้แล้วนะ หวังว่าความรักครั้งที่สองของเธอจะสดใส เปล่งประกาย…..”

ได้ยินคำพูดนั้นแล้ว ออกัสก็รู้สึกดีใจขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งปะปนกับความโมโหอีกด้วย พลางเอ่ยพูดขึ้นกับทางปลายสายนั้นช้าๆ : “ผู้ชายคนนั้นก็คือผม….”

“ทำไมเสียงฟังดูคุ้นๆจัง คุณเป็นใครน่ะ?”

“ไอ้ออกัส…..”เขาเอ่ยขึ้น

ได้ยินแล้วนั้น นาโนก็รู้สึกอึ้งไปอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าพึมพำด่าว่าอะไรออกมา จากนั้นก็วางสายไปเลยทันที

เชอร์รีนขมวดคิ้วขึ้น ไม่พอใจกับพฤติกรรมที่เขารับโทรศัพท์มือถือของเธอเองแบบนั้น ยื่นมือออกมา พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา : “เอามา โทรศัพท์มือถือของฉัน!”

เขาเลิกคิ้วขึ้น ออกัสกลับไม่ได้เอาโทรศัพท์มือถือส่งคืนเธอ แต่เอนหลังลงอย่างสบายๆ นิ้วเรียวกดโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็ว กดเบอร์โทรศัพท์มือถือของตัวเองลงไป

ในรายชื่อผู้ติดต่อ เธอจะบันทึกเบอร์ของเขาเอาไว้ว่าอะไร เขาก็รู้อยากจะรู้อยู่จริงๆ

แต่รอจนผลลัพธ์ออกมาแล้วนั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของออกัสกลับไม่สามารถควบคุมความมืดมนเอาไว้ได้เลย

เธอ ไม่ได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของเขาเอาไว้ในรายชื่อผู้ติดต่อเลยเสียด้วยซ้ำ ในรายชื่อนั้นหาหมายเลขของเขาไม่เจอเลย

และเมื่อดูบันทึกการโทร หาเจอเป็นแค่เบอร์โทร ไม่มีหมายเหตุเลยแม้แต่นิเดียว แต่กลับเป็นเพียงแค่เบอร์โทรเท่านั้น แค่นี้เท่านั้น

ใบหน้ามืดมนขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วของเขานั้นก็กดลงดูต่อ จากนั้นก็เห็นองค์ชาย เลอแปง อยู่ในบันทึกการโทร…..

เหอะ องค์ชาย เลอแปง จุ๊ๆๆ เป็นคำเรียกที่ดูสนิทสนมมากขนาดนั้น…..

ตอนที่เขายังคงเลื่อนดูต่อไปนั้น แขนของเชอร์รีนก็ยื่นมาแย่งโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือเขาไป

เงยหน้าขึ้น ดวงตาของออกัสนั้นมืดมนเหมือนกับน้ำวนที่หมุนวนไม่หยุด เหมือนกับแทบจะกลืนกินตัวเธอเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น

เธอไม่ได้สนใจเขา เชอร์รีนก้มหน้าลงเล็กน้อย แล้วอ่านข้อความ ที่เพิ่งจะถูกส่งมาเมื่อครู่นี้สามข้อความ ล้วนแต่เป็นยู่ยี่เป็นคนส่งมาให้เธอทั้งสิ้น

–ผับโซ่สวาท พรุ่งนี้ฉันจะรอเธออยู่ที่นี่ เธอจะต้องมานะ!

–ไม่อนุญาตให้เธอแสร้งทำเป็นไม่เห็นข้อความฉันด้วย แล้วก็ไม่อนุญาตให้หาข้ออ้างว่ายุ่งด้วย ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่เมืองs!

–เชอร์รีน ทำยังไงดี ฉันรู้สึกแย่มากเลย ต้องการใครซักคนมาอยู่เป็นเพื่อน!

เห็นสถานการณ์แล้ว คิ้วของเธอนั้นก็อดที่จะขมวดขึ้นมาไม่ได้ ยู่ยี่เป็นอะไรไปอีกแล้ว? หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นหรือ?

เธอก้มหน้าลง เผยให้เห็นลำคอที่ขาวเนียนและสวยงามนั่น ประกอบกับที่เธอใส่เสื้อสายเดี่ยว หัวไหล่กลมๆที่ละเอียดอ่อนและขาวเนียนดูน่าหลงใหล ขาขาวเรียว เอวบาง

ภายใต้ความมืดมิดในช่วงเวลากลางคืน ความขาวสะอาดอ่อนช้อยของเธอนี้ก็ยิ่งเห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ดวงตาคู่นั้นของเขายิ่งลึกซึ้ง ช่วงหน้าท้องแน่นไปหมด ความร้อนแผ่ขยาย แผดเผาขึ้นมา

มือใหญ่ยื่นไปแล้วเชยคางของเธอขึ้นมา แต่ละคำที่เอ่ยออกไปนั้นล้วนแต่แหบพร่าเป็นอย่างมาก : “คุณกำลังยั่วผมอยู่ใช่ไหม?”

ยั่ว? เธอบ้าไปแล้วใช่ไหม?

ยกมือขึ้น เชอร์รีนปัดมือเขาออกไปอย่างไร้ความปราณี พลางยิ้มเยาะ : “ออกัส ตาข้างไหนของคุณที่มองว่าฉันกำลังยั่วคุณอยู่หรอคะ?”

“ตาทั้งสองข้างนี่เห็นหมดแล้ว……”

เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ดวงตามองไปยังสีขาวบนร่างของเธอ และสายเดี่ยวที่คอเสื้อลดต่ำลง

มองตามสายตาของเขา เวลานี้เชอร์รีนถึงได้นึกขึ้นได้ว่าตัวเองยังใส่เสื้อสายเดี่ยวอยู่ เธอมองเขาอย่างเยือกเย็น : “ออกัส คุณมองตรงไหน?”

โดยไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา ออกัสยื่นแขนแข็งแรงออกไป แล้วโอบกอดเธอเอาไว้ จากนั้นฝ่ามือใหญ่ของเขาก็ลูบไล้อยู่ตรงเอวของเธอ แล้วเลื่อนลง….

ร่างของเธอดิ้นขึ้นมาอย่างแรง ทั้งมือและเท้าของเธอขยับขึ้นเตะ ส่งเสียงรอดไรฟันออกมา : “ปล่อย!ออกัส!”

“ไม่ปล่อย…..”สองคำหลุดออกมาจากริมฝีปากบาง เขาจับแขนของเธอเอาไว้ หลังจากนั้น ก็กดร่างของเธอเอาไว้กับหน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ทางด้านหลัง ก้มตัวลง หน้าอกที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กเสียดสีกับเธอเบาๆ : “คุณเชอร์รีน บางครั้งผู้หญิงก็จำเป็นต้องการผู้ชายมาหล่อเลี้ยงให้กระชุ่มกระชวยบ้างนะ นาโนพูดถูก…..”

เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนาโนเมื่อครู่นี้ ทำให้ความโมโหในใจของออกัสนั้นดับลงไปหมดแล้ว มีเพียงแค่ความรู้สึกดีใจที่แผ่ออกไปทั้งในร่างกายและจิตใจเพียงเท่านั้น

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ? ออกัสฉันขอเตือนคุณเอาไว้นะ ก่อนที่ฝ่ามือของฉันจะฟาดลงบนใบหน้าของคุณ คุณรีบปล่อยฉันซะ!”เธอกัดฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มือกำลังดิ้นเพื่อถอนตัวออกมาจากมือเขา

“ผ่านการหล่อเลี้ยงให้กระชุ่มกระชวยจากผู้ชายแล้ว ใบหน้าของผู้หญิงก็จะมีราศีขึ้นมาแบบหนึ่ง อีกทั้งจะอ่อนโยนมากด้วย คุณดูสิว่านี่คุณอารมณ์ฉุนเฉียวขนาดไหน จำเป็นต้องได้ผู้ชายมาหล่อเลี้ยงให้กระชุมกระชวยอย่างล้ำลึกจริงๆ…..”

เชอร์รีนถลึงตาใส่เขา ความอดทนค่อยๆหายไป : “ปล่อย!”

“ไม่ ตอนนี้ควรจะปิดปากลง…..”

ดวงตาของเขาหนักแน่นขึ้น และกระชับขึ้นมาทันใด หลังจากนั้นก็ก้มตัวลง เพื่อประทับจูบลงไป

เชอร์รีนเอียงศีรษะหลบไป แต่กลับไม่เป็นแบบที่หวังเอาไว้ มือซ้ายของเขาเอื้อมมาจากทางด้านหลังล็อคศีรษะของเธอเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถขยับได้

รอจนเขาดูดลิ้นของเธอเอาไว้แล้วนั้นถึงได้ปล่อย เชอร์รีนอาศัยช่วงเวลานั้นกัดริมฝีปากของเขาไป จนกระทั่งกลิ่นคาวเลือดนั้นกระจายไปทั่วปาก เธอก็ยังไม่ยอมปล่อย

เสียงอู้อี้ ออกัสหายใจหอบ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด สบตากับดวงตาที่โปร่งใสและเย็นชาคู่นั้นของเธอ แววตาของเขาก็พาหัวใจสั่นไหวไปด้วย ในที่สุดถึงได้ปล่อยการตรึงเธอเอาไว้

หยุดลงในตอนนี้ สำหรับผู้ชายแล้วเป็นความทรมานแบบหนึ่ง และสำหรับผู้ชายที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางเพศมาสี่ปี ก็ยิ่งเป็นมากกว่าโทษประหารชีวิตเสียอีก

จูบนี้ไม่เพียงแต่ไม่ได้ทำให้ความรุ่มร้อนในใจกระจายไปเพียงเท่านั้น แต่กลับยังทำให้ไฟที่อยู่ในใจนั้นลุกโชนขึ้นมาอีกด้วย

ไม่มีคนที่สามารถปล่อยความทุกข์แบบนี้ของเขาออกมาได้ มีเพียงเธอ เธอเพียงคนเดียวเท่านั้น…..

ยกมือขึ้นมา มือขวาของเชอร์รีนจะฟาดมือลงไปบนใบหน้าของเขา เพียงแต่ยังไม่สัมผัสโดน ก็ถูกมือใหญ่ของออกัสจับเอาไว้ได้ : “อารมณ์ยิ่งฉุนเฉียวง่าย ถ้าหากไม่ทำให้ชุ่มชื่นขึ้น จะต้องยิ่งแห้งแน่ๆ ไม่มีการบำรุงร่างกาย…..”

หน้าอกขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง เธอค่อยๆปรับการหายใจตัวเองให้เป็นปกติ หลังจากนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาทีละคำทีละประโยค

“ออกัส ตอนนี้ฉันกับคุณสงบศึกต่อกัน ก็เพราะยื่นข้อตกลงสันติภาพที่เสนอไป เพราะฉะนั้นอย่าบีบให้ฉันต้องทำอะไรที่รุนแรงเกินไป แล้วก็ถ้าหากคุณกระหายจนทนไม่ได้แบบนั้นจริงๆก็ไปหาผู้หญิงข้างนอก รอให้ระบายอารมณ์ให้เสร็จก่อนแล้วค่อยมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าฉัน เพราะถึงยังไง ผู้หญิงทั้งเมืองsที่อยากจะขึ้นเตียงกับคุณชายใหญ่ออกัสก็มีนับไม่ถ้วนอยู่แล้วนี่!”