บทที่ 1289 เกราะหวนคืน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1289 เกราะหวนคืน

แปลโดย iPAT

ครู่ต่อมาฟางหยวนก็เปิดเปลือกตาขึ้นและทดลองท่าไม้ตายอีกครั้ง

คราวนี้น้ำในแม่น้ำหวนคืนเคลื่อนที่ไปภายใต้การบังคับของเขา

การแสดงออกของกลุ่มผู้อมตะเปลี่ยนแปลงไป

กระทั่งปีศาจอมตะเซี่ยหูยังหยุดโจมตี

แต่ในเวลาต่อมาเขาก็ตะโกนเสียงดังและส่งการโจมตีที่รุนแรงกว่าก่อนหน้าออกมา

‘มันยากมากเพราะข้าเพิ่มวิญญาณหลายประเภทเข้าไปและทำให้เกิดปัญหามากมาย ตอนนี้ข้าสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะฉบับเร่งด่วนเท่านั้น มันคือขีดจำกัดของข้า หลังจากนี้ข้าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อแก้ไขมันหรือบางทีข้าอาจต้องเพิ่มระดับความสำเร็จ’

ฟางหยวนเข้าใจความซับซ้อนของปัญหา

ขณะที่ฟางหยวนถอนหายใจ ผู้อมตะคนอื่นๆกลับเต็มไปด้วยความตกใจ

แม้พวกเขาจะไม่กล่าวออกมา แต่สายตาของพวกเขาไม่สามารถปกปิดความรู้สึกที่อยู่ภายใน

‘หลิวกวนซื่อผู้นี้…’

‘ช่างรวดเร็วนัก เขาสามารถใช้แม่น้ำหวนคืนได้จริงๆ’

‘เหลือเชื่อ เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่? เขาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร?’

‘ไม่ ไม่มีทางที่เขาจะประสบความสำเร็จ เขาจะสร้างท่าไม้ตายอมตะในเวลาสั้นๆได้อย่างไร?’

ความก้าวหน้าของฟางหยวนทำลายสามัญสำนึกของผู้อมตะเหล่านี้ลงอย่างสมบูรณ์

พวกเขาไม่เคยเห็นผู้ใดที่สามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะได้ในระยะเวลาสั้นๆและพัฒนาได้อย่างรวดเร็วจากการทดลองเช่นนี้มาก่อน

แต่ตอนนี้พวกเขากลับเห็นมันกับตาของตนเอง

ฟางหยวนดำเนินการต่อไป

ปีศาจอมตะเซี่ยหูและเหมาหลี่ชิวเพิ่มพลังการโจมตีของพวกเขาโดยไม่รู้ตัว

แต่แม่น้ำหวนคืนใหญ่โตเกินไป แม้พวกเขาจะโจมตีอย่างไม่รู้สิ้นสุด ระดับน้ำก็ยังลดลงไม่ถึงห้าในร้อยส่วน

“อีกครั้ง! ขึ้นมา!” ฟางหยวนตั้งใจมาก

คราวนี้แม่น้ำหวนคืนทั้งหมดได้รับผลกระทบ มันเหมือนมังกรวารีที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลและเริ่มยืดร่างกายทั้งหมดอย่างอิสระ

“สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?” บางคนกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว

แม่น้ำหวนคืนเริ่มโบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับมังกรวารีที่ทะยานขึ้นสู่สวรรค์

“อย่าคิดว่าจะสมหวัง!” ปีศาจอมตะเซี่ยหูตะโกนและส่งเสาน้ำแข็งพุ่งเข้าโจมตีแม่น้ำหวนคืน

แต่แม่น้ำหวนคืนยังสะท้อนการโจมตีของเขากลับไปและทำให้ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่กลายเป็นทุ่งน้ำแข็ง

มวลความเย็นทำให้หิมะตกหนักและอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว

ทั้งหมดทำให้โลกทั้งใบราวกับเปลี่ยนสี

นี่คือพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด!

ฟางหยวนรู้สึกตกใจอย่างช่วยไม่ได้

เขาได้รับการปกป้องจากแม่น้ำหวนคืนขณะที่ผู้อมตะคนอื่นๆได้รับการคุ้มครองจากผู้อมตะระดับแปดของพวกเขา

ใบหน้าของอิงอู๋เซี่ยปกคลุมไปด้วยเหงื่ออันเย็นเยียบ ราชันภูเขาม่วงตื่นขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลาสำคัญ หากไม่ใช่เพราะเขา กลุ่มของอิงอู๋เซี่ยจะไม่สามารถเอาชีวิตรอด

“เราจะออกไป” ราชันภูเขาม่วงกล่าว

“แต่…” อิงอู๋เซี่ยลังเลแต่ราชันภูเขาม่วงโบกมือสร้างวงแสงและส่งกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

นิกายเงาเป็นกลุ่มแรกที่ล่าถอย

ราชันภูเขาม่วงจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่กล่าวคำลา นั่นทำให้กลุ่มผู้อมตะทั้งหมดตกตะลึง

“ท่านสีม่วง นั่นคือร่างทารกอมตะ…” อิงอู๋เซี่ยกังวล

“อย่าห่วง ข้าอนุมานได้ว่าเขาจะไม่ตาย! เขาจะประสบความสำเร็จในการหลบหนีอย่างแน่นอน!” ราชันภูเขาม่วงกล่าวด้วยความมั่นใจ

อิงอู๋เซี่ยรู้สึกไม่อยากจะเชื่อคำกล่าวของราชันภูเขาม่วงแต่เขาไม่สามารถแสดงความสงสัยออกมา

แต่ในเวลาต่อมเขาเห็นแม่น้ำหวนคืนเริ่มส่องแสงสีฟ้า

สายตาของผู้อมตะทั้งหมดมองไปที่มัน

ฟางหยวนยืนอยู่ตรงกลาง ลมที่กรรโชกแรงทำให้เส้นผมและแขนเสื้อของเขาสะบัดตัวขึ้นสู่อากาศ

ดวงตาของเขาดูน่ากลัวขณะที่เขากล่าวเบาๆ “ขึ้นมา!”

ทันใดนั้นแม่น้ำหวนคืนก็พุ่งขึ้นสู่อากาศทำให้เกิดเสียงดังราวกับเสียงคำรามของคนนับหมื่น มันเป็นฉากที่ดูยิ่งใหญ่มาก

แสงสีฟ้าพุ่งเข้าควบรวมขณะที่แม่น้ำหวนคืนหดตัวกลายเป็นจุดเล็กๆในพริบตา

มันกลายเป็นอาภรณ์สีฟ้าอ่อนอยู่บนร่างกายของฟางหยวน!

บนพื้นผิวของมันสามารถมองเห็นน้ำไหลอย่างช้าๆ มันมีลักษณะเหมือนแม่น้ำหวนคืนก่อนหน้านี้!

ท่าไม้ตายอมตะหมื่นตัวตนรูปแบบที่สอง เกราะหวนคืน ประสบความสำเร็จ!

“เขาทำสำเร็จ!?”

“เป็นไปไม่ได้!”

“เขาใช้แม่น้ำหวนคืนสร้างท่าไม้ตายอมตะในเวลาสั้นๆได้จริงๆงั้นหรือ?”

ผู้อมตะที่เห็นสิ่งนี้อ้าปากค้าง ปีศาจอมตะเซี่ยหูจ้องมองด้วยใบหน้าดุร้าย “ข้าปฏิเสธที่จะเชื่อสิ่งนี้!”

เขาผลักฝ่ามือไปทางฟางหยวน

เสาน้ำแข็งพุ่งเข้าปะทะร่างกายของฟางหยวนแต่ถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์โดยเกราะหวนคืน

นอกจากนั้นมันยังสะท้อนการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวของปีศาจอมตะเซี่ยหูกลับไปอีกด้วย

‘สำเร็จ!’ ฟางหยวนมีความสุขมาก

แม้ท่าไม้ตายอมตะจะประสบความสำเร็จในการกระตุ้นใช้งาน แต่เขาจำเป็นต้องทดสอบมันอีกครั้ง

การโจมตีของปีศาจอมตะเซี่ยหูยืนยันว่าเกราะหวนคืนของเขาทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ!

ปีศาจอมตะเซี่ยหูหลบเสาน้ำแข็งที่สะท้อนกลับมาขณะที่การแสดงออกของเขาดูดุร้ายมากขึ้น

“ให้ข้าลอง!” เหมาหลี่ชิวตะโกน

ร่างของมันหายไปในพริบตาก่อนจะปรากฏขึ้นอีกครั้งด้านหลังฟางหยวน

กรงเล็บที่แหลมคมพุ่งเข้าโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ

“ปัง!”

ด้วยเสียงปะทะ ฟางหนยวนบินออกไปราวกับกระสุนปืนใหญ่

ฟางหยวนตกลงสู่พื้นและสร้างหลุมลึกไว้บนทุ่งน้ำแข็ง

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ฟางหยวนค่อยๆลุกขึ้นยืนในปล่องภูเขาไฟ แต่การแสดงออกของเขายังไร้อารมณ์ขณะที่ร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่เศษฝุ่นติดอยู่บนผิวของเขา

เกราะหวนคืนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่หากสังเกตอย่างใกล้ชิด คนผู้หนึ่งอาจเห็นว่าพื้นผิวของมันหดตัวลงเล็กน้อย

เหมาหลี่ชิวมองฟางหยวนก่อนจะก้มหน้ามองกรงเล็บของมัน

อุ้งเท้าขวาของมันเต็มไปด้วยเลือด!

ฟางหยวนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆแต่เหล่าหลี่ชิวกลับเป็นฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

“อา…” ผู้อมตะทั้งหมดอ้าปากค้าง

“ท่าไม้ตายชนิดใด กระทั่งเหมาหลี่ชิวยังพ่ายแพ้!”

เมื่อเห็นสิ่งนี้ แม้แต่ดวงตาของไป่เฉินเทียนยังกระตุกอย่างไม่หยุดยั้ง

“เขาทำได้จริงๆ!” ผู้อมตะดำตกใจมาก

“กระทั่งการโจมตีทางกายภาพของสัตว์อสูรแรกกำเนิดก็ยังถูกสะท้อนกลับงั้นหรือ?” ปีศาจอมตะเซี่ยหูขมวดคิ้ว

“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” อิงอู๋เซี่ยที่บินอยู่บนท้องฟ้าเห็นสิ่งนี้และรู้สึกราวกับกำลังฝันไป

เหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อาจมีกรณีที่ผู้อมตะระดับเจ็ดสามารถต่อสู้ได้อย่างเท่าเทียมกับผู้อมตะระดับแปด

ในช่วงเวลาสองสามพันปีที่ผ่านมา ฟงจิวเก้อเป็นสัตว์ประหลาดเพียงตัวเดียวที่สามารถต่อสู้กับผู้อมตะระดับแปดด้วยการบ่มเพาะระดับเจ็ด

แต่ตอนนี้หลังจากฟางหยวนประสบความสำเร็จในการสร้างท่าไม้ตายอมตะเกราะหวนคืน ฟงจิวเก้อไม่ได้ครอบครองตำแหน่งดังกล่าวเพียงลำพังอีกต่อไป

หลังจากนี้บัลลังก์จักรพรรดิจะถูกแบ่งปันให้กับผู้อื่น

และคนผู้นั้นก็คือหลิวกวนซื่อ!

“ฟงจิวเก้อจากภาคกลาง หลิวกวนซือจากภาคเหนือ…” ปู้เจิ้นซือพึมพำด้วยความมึนงง

ปีศาจอมตะเซี่ยหูเผยรอยยิ้มบาง “หนุ่มน้อย ข้าประเมินเจ้าต่ำเกินไปจริงๆ”

ตอนนี้เขาหยุดโจมตีแล้ว

แต่เหมาหลี่ชิวยังโกรธมาก “เด็กน้อย เจ้ากำลังรนหาที่ตาย เจ้ากล้าทำให้ข้าเสียหน้า!”

สัตว์อสูรแรกกำเนิดพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนด้วยความเดือดดาล

ฟางหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันและถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกบอลยาง

หลังจากโจมตีหลายสิบครั้ง ฟางหยวนยังไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่เป็นเหมาหลี่ชิวที่หอบหายใจอย่างหนักหน่วงและได้รับบาดเจ็บสาหัส

การโจมตีแต่ละครั้งสะท้อนกลับไปที่ตัวมันเอง

เหมาหลี่ชิวจ้องมองด้วยความโกรธและคิด ‘เด็กผู้นี้เหมือนเม่น มันดูเหมือนข้าทำร้ายตนเอง ตั้งแต่เมื่อใดที่ภาคเหนือมีสัตว์ประหลาดเช่นนี้!?’

เห็นเหมาหลี่ชิวยอมแพ้ ฟางหยวนหัวเราะก่อนจะบินเข้าไปหากลุ่มผู้อมตะภาคกลาง

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางเหมือนนกแตกรัง พวกเขาเร่งหลบหนีแยกย้ายกันออกไปทันที

ผู้อมตะระดับแปดของภาคกลางทั้งสองโจมตีฟางหยวน

แต่มันไร้ประโยชน์

เกราะหวนคืนสะท้อนการโจมตีทั้งหมดของพวกเขาไปที่เหมาหลี่ชิว

นี่ทำให้เหมาหลี่ชิวโกรธมาก มันพ่นแสงสีม่วงออกมาและทำลายทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว

การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นในที่สุด!

สถานกาณณ์กลายเป็นสันสนวุ่นวายด้วยการโจมตีของทั้งสามฝ่าย

นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่อิงอู๋เซี่ยมองเห็น

เป็นเพียงเวลานี้ที่เขารู้สึกขอบคุณการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของราชันภูเขาม่วง

ในเวลาเดียวกันเขาก็เข้าใจบางอย่าง หลังการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อของหลิวกวนซื่อจะแพร่กระจายไปทั่วทั้งห้าภูมิภาค มันจะทำให้โลกตื่นตระหนก ชื่อเสียงของหลิวหวนซื่อจะสามารถแข่งขันกับฟงจิวเก้อ!

สิบวันต่อมา ร่างหนึ่งเคลื่อนที่ผ่านกำแพงภูมิภาคและไปถึงทะเลตะวันออก

มันก็คือฟางหยวน

“ในที่สุดข้าก็สามารถปลดปล่อยตนเองจากสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่งตัวนั้น” ฟางหยวนถอนหายใจ

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ปีศาจอมตะเซี่ยหู กลุ่มผู้อมตะภาคกลาง และสมาชิกถ้ำสวรรค์นิรันดรต่อสู้กันอย่างดุเดือด

ฟางหยวนพยายามหลบหนีจากการต่อสู้ที่วุ่นวายแต่เหมาหลี่ชิวปฏิเสธที่จะหยุดไล่ล่าเขา

ฟางหยวนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหมาหลี่ชิวแต่หลังจากเข้าสู่กำแพงภูมิภาค เหมาหลี่ชิวก็ทำได้เพียงมองฟางหยวนจากไปเท่านั้น

มันเป็สัตว์อสูรแรกกำเนิดของภาคเหนือ มันจะถูกกดดันโดยกำแพงภูมิภาค

ด้วยวิธีนี้ฟางหยวนจึงประสบความสำเร็จในการหลบหนี

“ได้เวลากลับภาคใต้แล้ว” ฟางหยวนไม่ได้หยุดพักและบินหายไปในกลุ่มเมฆทันที